Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 รู้ หรือ ไม่รู้ บาปกว่ากัน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 7:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วันนี้มีคำถาม มาถามเพื่อนๆ สมาชิกครับ

มีคนทำผิด สองคน ได้ไปฆ่า คนตาย คนนึง รู้ว่า ฆ่าคน เป็นบาป อีกคน ไม่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาป

ถามว่า คนสองคนนี้ เมื่อฆ่าคนแล้ว ใครบาปกว่ากัน สงสัย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 7:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

และทำไมคนที่บาปมากกว่า จึงบาปมากกว่า มีเหตุผลอะไร
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86

ตอบตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 8:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



บาปที่ถามหา ชั่งด้วยอะไร





 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
tanawat30
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256

ตอบตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 8:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดูก่อนคุณ new ผู้เจริญ กรรมมีเหตุจากความเจตนา ดังนั้นผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่ผู้รู้ที่จะผิดมาก หรือผิดน้อยขึ้นอยู่กับเจตนา เช่นคนฆ่าคนเป็นหารเพื่อความอยู่นอด จะบาปน้อยกว่าคนฆ่าคนเพื่อเป็นการแข่งขันทางกีฬา และคนจะบาปมากที่สุดเมื่อฆ่าผู้อื่นด้วยความอาฆาตมาตรร้าย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 8:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใช่ครับ เจตนา เป็นสำคัญ แต่ทั้งสองก็มีเจตนาฆ่าเหมือนกัน นะครับ มีเจตนาเหมือนกัน อีกคนรู้ว่าฆ่าเป็นบาป อีกคนไม่รู้ว่าฆ่าแล้วเป็นบาป แต่เจตนาฆ่ายังคงเหมือนกันนะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 8:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณธะนะวัติให้เหตุผลได้ดีนะ ตรงประโยคนี้น่ะครับ

ผิดน้อยขึ้นอยู่กับเจตนา เช่นคนฆ่าคนเป็นหารเพื่อความอยู่นอด จะบาปน้อยกว่าคนฆ่าคนเพื่อเป็นการแข่งขันทางกีฬา และคนจะบาปมากที่สุดเมื่อฆ่าผู้อื่นด้วยความอาฆาตมาตรร้าย

เพราะว่าเจตนานั้นสำคัญ

แต่ที่ผมถามนั้น ทั้งสองมีคน มีเจตนาฆ่าเหมือนกัน อยากให้ตายเหมือนกัน ด้วยเหตุผลที่เท่ากัน

แต่ คนนึงรู้ว่าฆ่าแล้วเป็นบาป อีกคน ไม่รู้ว่าฆ่าไปแล้วเป็นบาป
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86

ตอบตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 8:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่านเปาฯ จะแบ่งให้ใครไปอยู่ขุมไหนล่ะ

แล้วอย่างผู้มีอาชีพเป็นเพชฌฆาตประหารนักโทษ จะว่าอย่างไร เจ๋ง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 08 ธ.ค.2005, 8:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อืมน่าคิดครับ ผู้มีอาชีพเป็นเพชฌฆาตประหารนักโทษ ก็อย่างที่ผมบอก ฆ่าเหมือนกัน ถ้าเกิดมีเพชฌฆาตสองคน (เหตุผลเหมือนกัน) เจตนาเหมือนกัน คนนึงรู้ อีก คนไม่รู้

ประเด็นสำคัญ อยู่ที่รู้ว่าบาป กะไม่รู้ ว่าบาป เพราะเจตนา ฆ่าเหมือนกัน เหตุผลเดียวกัน เป็นเพชฌฆาตเหมือนกัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปิงปองม.ราม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 12:49 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมคิดว่าคนที่ไม่รู้นั้นบาปมากกว่าเปรียบเทียบได้ว่า ชายคนหนึ่งไม่รู้ว่าไฟร้อนเวลาเขาจับไฟเขาก็จะจับอย่างเต็มที่ไม่มีการระมัดระวัง ส่วนชายอีกคนหนึ่งรู้ว่าไฟเป็นสิ่งที่ร้อนจะไหม้มือเขา เวลาจับก็จะใช้ความระมัดระวัง คนที่ฆ่าคนโดยที่รู้ว่าเป็นบาปเขาก็อาจจะฆ่าโดยไม่ทำให้ผู้ถูกฆ่าได้รับความเจ็บปวดเช่นฉีดยาพิษที่ทำให้เขาหมดสติและตายไปเอง ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาปนั้นเขาอาจจะทำด้วยความสนุกสนานสะใจและอาจจะทำให้ผู้ถูกฆ่าได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส นอกจากนี้เขามีแนวโน้มที่จะฆ่าคนไปเรื่อยๆ เนื่องจากความไม่รู้ ส่วนคนที่ฆ่าโดยที่รู้ว่าเป็นบาปก็จะฆ่าเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
 
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 7:43 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณธะนะวัติ ครับ คุณเห็นด้วยกะ คุณ ปิงปอง ม.ราม หรือ เปล่าครับ คุณปิงปอง ม.รามให้เหตุผลไว้ดีเลยนะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
tanawat
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 8:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความเห็นที่ 9 ผู้เจริญ

ไม่เห็นด้วยครับ ผิดหลักคำสอนในพุทธศาสนา เพราะคนจะดีจะชั่วอยู่ที่เจตนาของตนเป็นหลัก หลักการนี้ใช้ได้กับศีลทุกข้อ มิเช่นนั้นคนจะรับกรรมอันเป็นบาปได้อย่างไรกัน อีกทั้งถ้าเป็นเช่นนี้จริง ถ้าใช้สำหรับการฆ่าคนแล้ว ถือว่าเป็นการบาปที่สุดอีก เพราะคนที่ตายไม่รู้ก่อนที่จะตายว่าเราฆ่าเขา เช่นการเอายาพิษให้กิน นัยของการทำผิดศีลไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับธรรมชาติในเรื่องอื่นได้ มันเหมือนกับเรากำลังเปรียบเทียบ เรื่องของโต๊ะ กับรถยนต์ เอาของสองสวิ่งนี้มาเปรียบเทียบกันได้หรือไม่ ถ้าได้จะเปรียบเทียบอย่างไร
 
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 8:53 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าอย่างนั้น การไม่รู้ บาปน้อยกว่า ที่คุณธะนะวัติว่า งั้นผมก็ไม่ต้องรู้ว่าฆ่าคน เป็นบาป ดีกว่าน่ะซิครับ ไม่ต้องรู้ว่าทำแบบนี้ผิดศีลเป็นบาป ใช่ไหม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
tanawat30
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256

ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 9:12 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดูก่อนความเห็นที่ 11 ผู้เจริญ

ในทางทฤษฎีและในทางปฏิบัติเป็นเช่นนั้นจริง แต่ในทางโลกที่มนุษย์ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานับเป็นพันๆ ปี การฆ่าผู้อื่นเป็นที่ยอมรับว่าไม่ดีสืบทอดกันมาอยู่แล้ว หรือมนุษย์เองต้องคิดเองได้อยู่แล้วว่าดีหรือไม่ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านทรงสอนเอาไว้ และเป็นสิ่งที่อยู่เหนือตำราใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถ้าคนอ่านตำรามาก แต่คิดหาเหตุและผลที่มาของคำสอนนั้น ว่ามีที่มาอย่าไร แล้วจะไปอย่างไร ไปอย่างไร เช่นปฏิบัติตามคำสอนนี้ดีหรือไม่ ปฏิบัติแล้วได้ผลตามนั้นจริงหรือเปล่า ตำรานั้นไม่ถือว่าเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษา อันนี้ผมพูดในนัยของพุทธศาสนานะครับ ว่าแล้ว แต่งต่ออีกเรื่องดีกว่า
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
๛ วรากร ๛
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 9:56 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความเห็น คุณ ปิงปอง ม.ราม ถูกต้องนะครับ

ผู้ที่ไม่รู้บาป ยอมได้รับผลแห่งบาปมากกว่า ทั้งๆที่บาปเท่ากัน

เพราะผู้ที่รู้เขาย่อมระวังในการทำบาป

แต่การฆ่า คนตาย โดย คนนึง รู้ว่า ฆ่าคน เป็นบาป อีกคน ไม่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาป

บาปทั้งคู่ครับ คือหนักเท่ากัน

เหมือนคุณปิงปองบอก

หินมันร้อน หากเรารู้ว่ามันร้อนเราจะรีบจับแล้วปล่อย แต่หากเราไม่รู้เราจะจับมันและกำมันแน่นเลย (อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าจับแล้วรู้ว่าร้อนทำไม่รีบว่าง) ก็เพราะเขาคิดว่ามันไม่ร้อนหลอกจับเต็มเลย

อย่าลืมนะครับ ว่าหินนะร้อนเท่ากัน คนจับต้องผิวบางเท่ากัน มีกำลังเท่ากัน

จริงแล้วเรื่องของผลของบาปกรรมเป็นเรื่องไม่ควรคิดเพราะมันคิดไม่ได้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลของบาปกรรม

ส่วนมาก การสอนของเกือบทุกศาสนาก็จะเริ่มสอนให้รักษาศีลก่อน เพราะศีลเป็นการละเว้นการทำบาป และสอนให้รู้ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำดีได้ไปสวรรค์ ทำชั่วไปนรก

ทำไมต้องสอนเรื่องเหล่านี้ก่อนก็เพราะว่า เราไม่มีกำลังพอที่จะรับเหมือนพระบางรูป

เพียงแค่พระพุทธเจ้าพูด เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน ก็บรรลุธรรมเลย

แต่บางคนต้องค่อยๆเป็นค่อยไป สอนแบบก้าวกระโดดไม่ได้

แต่เมื่อใดเราถึงนิพพาน เราก็จะไม่มีความแตกต่างกันเลยในการปฏิบัติ เพื่อถึงนิพพาน
 
tanawat30
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256

ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 10:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดูก่อนความคิดเห็นที่ 13 ผู้เจริญ

ถ้าผู้ที่ไม่รู้ผลแห่งการทำบาปได้รับบาปกรรมมากกว่า คนที่รู้การทำบาปเช่นนั้นจริง มันย่อมขัดกับหลักการที่บอกว่า ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด เวลาขึ้นศาล โษของการฆ่าคนตายโดยเจตนา ยังมีโทษน้อยกว่าการฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา

แล้วคนที่รู้ว่าการทำสิ่งนั้นว่าเป็นบาปแล้วยังทำบาปทั้งๆ ที่รู้ เช่นการข่มขืนกระทำชำเรา การดื่มสุรา คนก็รู้ว่าไม่ดี แต่ไม่เห็นคนเลิกดื่มกัน

ทุกศาสนา สอนให้คนรักษาศีล การทำดีได้ขึ้นสวรรค์ ทำชั่วลงนรกจริงครับ แต่ต้องบอกว่ามาจากเจตนาของผู้ปฏิบัติด้วย เช่นศาสนาอิสลามบอกว่า เจตนาคือตัวกรรม ศาสนาพุทธบอกว่า กรรมเป็นเครื่องแสดงเจตนา

ส่วนเรื่องกำลังได้แก่ พละ 5 ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา นั้น ถ้าใครมีสิ่งนี้อยู่ในตนก็มีกำลังทั้งนั้น เพราะพระกับฆราวาส มีรูปร่างทางกายภาพเหมือนกัน จึงไม่ควรแยกพระกับฆราวาสออกจากกัน ซึ่งผิดหลักพุทธศาสนาในเรื่องของความเป็นธรรม หรือหลักการเสมอภาค

ผู้ถึงนิพพานแล้ว จึงรู้และเข้าใจความเป็นอยู่ของสภาวะนิพพานที่ตนมี ไม่ว่าจะปฏิบัติอย่างไรก็ตาม บทความของคุณวรากร ทำให้ผมได้อีกบทนะครับ วันนี้ขอ 5 บทเลย เดี๋ยวไปธุระก่อนค่อยกลับมาแต่ง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
๛ วรากร ๛
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 10:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนบางคนฆ่าคนตายโดยเจตนา ก็ดี ไม่เจตนาก็ดี การพิจารณาของแต่ละที่ในโลกก็ไม่เหมือนกัน เอามาอ้างไม่ได้ครับ

สำหรับเรื่อง มีคนทำผิด สองคน ได้ไปฆ่า คนตาย คนนึง รู้ว่า ฆ่าคน เป็นบาป อีกคน ไม่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาป

ตอบ บาปทั้งคู่ครับ เพราะมีเจตนาทั้งคู่ แต่ผลแห่งบาปส่งผลต่อ คนที่ไม่รู้ว่าบาปมากกว่าครับ

ไม่รู้ว่าทำแล้วบาป กับ ทำโดยไม่เจตนา คนละเรื่องครับทุกท่าน
 
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86

ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 11:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เอามาตราฐานโลกไปตัดสินทางธรรมไม่ได้หรอก

เหมือนจะพยายามสนเชือกฟางเข้ารูเข็ม ทำได้งัยล่ะ

...........................................................................................................


หืออ ... มาทีเดียว 5 บทเลยล๋อ ใครอ่านก็เตรียมมึนเลยคับท่านผู้ชม

คุณวรากรต้องรับผิดชอบๆๆๆๆๆๆ ..... ล้อเล่นนะคะ ยิ้ม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เฟ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 12:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราว่าที่ คุณวรากรบอกว่าบาปเท่ากันน่ะถูกแล้ว จะฆ่ามด ฆ่าคน ก็บาปเท่ากันหมดทั้งนั้น แต่จะได้รับผลกรรมต่างกันไป

คำพูดแต่ละคนฟังดูก็น่าจะมีความหมายไปทางเดียวกันนี่นา เลยไม่รู้จาให้ความเห็นเพิ่มว่ายังงัย มองดูนกกระดาษที่พับตัวหนึ่งประนีตสวยงาม อีกตัวยับยู่ยี่บิดเบียว แต่แท้จริงก็ไม่ใช่นก เป็นกระดาษต่างหาก
 
new
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532

ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 6:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขำ ขำ ยิ้มเห็นฟัน

คุณบัวเบลอ พูดผมขำคุณบัวเบลอพูดอะครับ มาทีเดียว 5 บทเลยเหรอ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เฮ้อ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ธ.ค.2005, 10:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บังเอิญคนที่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาป แกเป็นพระ และแกบันดาลโทสะต้องฆ่า เมื่อแกเป็นพระและรู้ผิดชอบชั่วดีแล้วไปฆ่าคน บาปของแกถึงขั้นปาราชิกทีเดียว ส่วนอีกคนเป็นคนเป็นคนธรรมดาจึงบาปน้อยกว่า
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง