Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ทำอย่างไรที่จะให้เพื่อนหันมาสนใจธรรมะ
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
Supanikar
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 11:43 am
ดิฉันอายุ 30 แล้วชอบอ่านหนังสือธรรมะมีเวลาก็ไปทำบุญที่วัด อ่านหนังสือธรรมะทำให้จิตใจสงบขึ้นมาก เพื่อนร่วมงานรวมทั้งหัวหน้างานเองมักหาว่าดิฉันทำตัวแก่ เคยชวนเพื่อนหันมาอ่านหนังสือธรรมะด้วยกันแต่เขากลับปฎิเสฐแล้วบอกว่าเป็นเรื่องไกลตัว ทุกคนคิดว่าดิฉันเป็นคนที่ไม่รักความก้าวหน้า เพราะดิฉันไม่จบปริญญา เงินเดือนน้อยก็ไม่เดือดร้อนเพราะกินอยู่อย่างง่ายๆ ไม่ฟุ่มเฟือยแต่ก็มีความสุข ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเพื่อนๆถึงไม่ค่อยชอบศึกษาธรรมะกัน พวกเขาคิดว่าถ้าพวกเขามีเงิน มีรถขับ แลัวก็มีเงินเดือนและตำแหน่งหน้าที่ดีๆนั่นคือความสุขของพวกเขา แต่สำหรับดิฉันแล้วมันไม่ใช่เลย ดิฉันจะทำอย่างไรดีคะที่จะให้คนรอบข้างเขาหันมาทำความดีกัน ใครที่มีคำแนะนำช่วยบอกทีเถอะค่ะ
วรากร
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 12:20 pm
การที่จะทำให้ใครสักคนมาสนใจธรรมะนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะมันเป็นปัจจัตตัง แปลว่าเป็นเรื่องเฉพาะคน
หากเราต้องการจริง ก็ต้องอาศัยเวลาและความอดทน การสอนธรรมะนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ไม่ใช่ว่าอ่านหนังสือมากคือมีธรรมะมาก มันเป็นคนละเรื่อง คนที่จะสอนธรรมะได้ต้องรู้และเขาใจในคนที่เราจะสอนด้วย ว่าเขาควรศึกษาธรรมะแบบใดถึงจะเหมาะกับเขา
ผู้สอน สอนเป็นรู้ในสิ่งที่สอน ผู้ถูกสอนก็รู้ว่าสอนอะไร
ก่อนอื่นเราต้องโปรดตัวเราเองก่อน แล้วค่อยไปโปรดคนอื่น เมื่อเราเข้าใจธรรมะแท้จริงแล้ว เมื่อเขาสงสัยในธรรมใด เราก็สามารถที่จะอธิบายให้เขาเข้าใจได้โดยง่าย หากเรายังไม่รู้เลยแล้วเขาจะมาเชื่อตามเราได้อย่างไร แถมยังเป็นเหตุให้เขาดูถูกพระธรรมคำสอนโดยไม่เจตนาก็มี
ธรรมเป็นเรื่องใกล้ตัว หายใจเข้า หายใจออก ก็ธรรมะแล้ว ก็ธรรมชาติงัย
ตราบใดเรายังตัองอาศัยโลกแห่งสมมุติ ก็ต้องเข้าใจมัน แต่เมื่อใดโลกแห่งความจริงปรากฏ (นิพพาน) ก็จะไม่มีอะไรให้แตกต่างไป
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 12:53 pm
กราบสวัสดีSupanikar
ในทางศาสนาถือว่าเมตตาเป็นหลักธรรมที่สำคัญ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสังคมมนุษย์ไหนๆก็ตาม จะทำอะไรก็ต้องประกอบด้วยเมตตา ไม่ว่าเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม อีกทั้งความประพฤติให้อยู่ในกรอบของศีล ประการสุดท้ายความเห็นต้องเสมอกัน
เรื่องเมตตานี่ ต้องทั้งต่อหน้าและลับหลัง ตัวเราสำคัญที่สุดไม่ต้องไปมองคนอื่น หากเราประพฤติไม่ดีแล้ว ตนเองก็เป็นทุกข์เองไม่ใช่ใคร ความเห็นเสมอกันก็เช่นเดียวกันหมายถึงมีสัมมาทิฏฐิความเห็นชอบเหมือนกัน ก็จะเป็นการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ในสังคมที่เราอยู่นั้นๆ
พิสูจน์ตนเอง ว่าการศึกษาธรรมะพร้อมลงมือปฏิบัติให้เข้าใจในแก่นแท้ของศาสนานั้นเป็นทรัพย์แสนประเสริฐเหนือกว่าทรัพย์สินเงินทอง ความสุขแบบโลกๆแทบจะเปรียบเทียบกันไม่ได้ เป็นทรัพย์ที่หาค่าประมาณมิได้ ปฏิบัติให้ทราบถึงผลที่แท้จริงจะช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้เช่นกัน
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา
PR
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 12:56 pm
ชวนเพื่อนไปฟังบรรยายนี้สิคะ รับรองติดใจธรรมะแน่นอนค่ะ
ขอเชิญร่วมกิจกรรม ฟังการบรรยายพิเศษ
หัวข้อ การบริหารชีวิต
โดย ดร. สนอง วรอุไร
ขอเชิญร่วมกิจกรรม ฟังการบรรยายพิเศษ
หัวข้อ การบริหารชีวิต
โดย ดร. สนอง วรอุไร
วันที่ 7 ธันวาคม 2548 เวลา 13.00 - 16.00 น.
ณ หอประชุมธรรมศาสตร์ (หอเล็ก) ท่าพระจันทร์
**ไม่เสียค่าใช้จ่าย**
กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้าผ่าน website :
www.amarinpocketbook.com
หรือ โทร . 02- 422-9999 ต่อ 4141 ถึง 7
"ทำชีวิตให้ได้ดี และมีสุข"
โดย ดร. สนอง วรอุไร
เราสามารถกำหนดสเป็คให้กับชีวิตได้
ไม่ว่าจะเป็นคู่ครอง ลูก เพื่อน งาน หรือการเลือกเกิด
ขอเพียงแค่สร้างเหตุให้ตรงกับสิ่งที่เราปรารถนา
แป้ง
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2005, 7:03 pm
การที่คนคนหนึ่งจะมาทำอะไรเกี่ยวกับธรรมะขึ้นอยู่กับพื้นฐานของจิตใจของแต่ละบุคคลหรือคนคนนั้นมากกว่า เพราะการจะบังคับให้เค้าปฏิบัติธรรมต้องพร้อมทางกายและใจและน่าจะพูดได้ว่าวาสนาธรรมของแต่ละคนมากกว่า /ถ้าหากใครไม่มีวาสนาธรรมคงไม่เข้าถึงพุทธศาสนาได้แน่นอนพวกเราเป็นคนที่จะดีได้นั้นก็จริงแต่จะมีสักกี่คนที่จะรักษาความดีให้คงทนถาวรตลอดจนไปวาระสุดท้ายหรือว่าไม่จริง/ไม่มีใครหนีการกระทำหรือหนีกรรมของตัวเองหลุดพ้นได้ต่างหาก/เพียงแต่ถ้าหากเราไปบังคับเค้ามันก็ไม่ต่างจากการที่เราไปยะยั้นขะยอให้เค้าไม่ทำเพราะด้วยใจน๊ะ
tanawat30
บัวบาน
เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
ตอบเมื่อ: 30 พ.ย.2005, 8:43 pm
ดูก่อนมนุษย์ผู้เจริญ
คนที่เราสามารถชักชวนให้เขาสนใจธรรมมะให้ส่องกระจกแล้วก็ชวนคนที่มีภาพอยู่ในกระจกนั่นแหล่ะบอกให้เขาสนใจธรรมมะมาก ๆ เมื่อชวนคนนั้นได้แล้ว ก็ทำคนที่เราเห็นในกระจกนั้น เข้าใจว่าธรรมมะคืออะไร
คนที่คิดว่าการสนใจธรรมมะแล้วได้เพียงความสงบของจิตใจเพียงอย่างเดียว เหมือนคนที่ไปกินข้าวมันไก่แล้วตักกินแต่น้ำจิ้ม เพราะนัยของธรรมมะให้เราได้มากกว่าความสงบหลายร้อยหลายพันเท่านัก
อย่างแรกถ้าทำให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมได้ ถ้าเราต้องตายตามกรรมนั้นเราก็ไม่ต้องตายตามกรรมนั้นอีกเพราะเจ้ากรรมนายเวรที่จะทำให้เราต้องตายตามกรรมนั้นอโหสิกรรมให้เราแล้ว ไม่บาดเจ็บสาหัส ชีวิตครอบครัวเป็นสุข นี่เป็นเรื่องจริงจากผู้ที่ปฏิบัติสมาธิภาวนากับผม เพียงไม่กี่เดือนทุกอย่างที่เลวร้ายในครอบครัวของบางคนกลับแปรเปลี่ยนในวิถีทางที่ดีขึ้นจนเจ้าตัวสามารถเปรียบเทียบระหว่างปัจจุบันกับเมื่อครึ่งปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเรารู้ซึ้งอย่างถ่องแท้แล้วว่าธรรมมะให้อะไรเรา เราไม่ต้องไปชวนคนอื่นให้มาปฏิบัติธรรมกับเราเลย คนอื่นจะมาหาเราและเรียกร้องะรรมมะจากเราเอง ถ้าคนรอบข้างที่อยู่ใกล้ชิดเราเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th