Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สมาธิภาวนาสามารถช่วยรักษาโรคได้หรือไม่ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
tanawat30
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256

ตอบตอบเมื่อ: 22 พ.ย.2005, 9:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในทางปฏิบัติแล้ว คนที่ปฏิบัติสมาธิเพียงผิวเผินก็คิดได้เพียงว่าการปฏิบัติสมาธิเพื่อทำให้จิตสงบเท่านั้น แต่ว่าจะสงบได้จริงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง บางคนก็เข้าข้างตนเองว่าจิตสงบแล้วก็มี ปกติของการทำสมาธิทำให้เลือดลมเดินดี การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นกำลังใจทำให้สามารถบรรเทาอาการขอโรคบางอย่าง เช่น ปวดหัว ไมเกรน ฯลฯ ได้บ้าง แต่ถ้าเราเข้าใจว่าพุทธศาสนาเป็นเรื่องของกรรมนิยม ก็จะพบว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาชดใช้กรรม ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราทั้งปวงไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ก็ตาม ล้วนแล้วแต่เกิดจากกรรมของเราทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกรรมที่เกิดจากการกระทำของเราเอง หรือเป็นกรรมที่เราไปให้คำมั่นสัญญาว่าจะเอากรรมของผู้อื่นมาเป็นของตน หรือเรียกอีกอย่างว่าการสะเดาะเคราะห์ อย่างที่พระบางแห่งชอบรับสะเดาะเคระห์จากเรา เมื่อเราหายแสดงว่าท่านรับแทนเรา พอท่านรับไปมาก ๆ กรรมนั้นก็ไปแสดงที่ท่าน ทำให้บั้นปลายชีวิตพระที่รับสะเดาะเคระห์จึงอาพาธก่อนมรณะเสมอ



ดังนั้นในทางพุทธศาสนาซึ่งเป็นกรรมนิยม ให้เรานำกำลังสมาธิที่บริสุทธิ์จากการล้างอนุสัย ล้างสันดานที่ไม่ดีจนหมดสิ้นไปในแต่ละรอบ ซึ่งหมายถึงจิตที่บริสุทธิ์แต่ละรอบไปแผ่เมตตา นำกหุศลที่บริสุทธิ์นั้นไปอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวร โดยตามดั้งเดิมที่ปฏิบัติกันมา แต่ถึงจะเป็นแบบของผมที่อุทิศให้กับสรรพจิตสรรพชีวิตก็ไม่ต่างกัน เพราะผู้มีสิทธิ์จะรับบุญกุศลจากเราเป็นลำดับต้น ๆ คือเจ้ากรรมนายเวรของเรา ดังนั้นเมื่อเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้เราแล้ว ต้นเหตุแห่งโรคก็คือกรรมก็หายไปด้วย แล้วรักษาได้ทุกโรคจริง ๆ คนเป็นเอดส์ เป็นลูคิวเมียร์ มะเร็ง ก็ยังอุตส่าห์ค่อย ๆ บรรเทาจากโรคและหายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ๆ ซ่งตอนแรกผมเองก็แทบไม่เชื่อเหมือนกันว่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นไปแล้วผมก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมสงสัย เพียงแต่มนุษย์ปุถุชนจะเชื่อเรื่องพวกนี้ยาก แต่กลับเอาวิธีปฏิบัติสมาธิเป็นทางเลือกในวิธีการรักษาแทน คือพูดง่ายน ๆ ว่าถ้าการแพทย์แผนปัจจุบันรักษาไม่ได้แล้ว จึงใช้การแพทย์แบบทางเลือกแทน ก็จะกลายเป็นอย่างนั้นไป



ผมเชื่อว่า ถ้าเราปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างถูกต้องและมีความเชื่อมั่นศรัทธาในการปฏิบัติจะทำให้เราไม่ต้องพบกับโรคร้าย ภัยพิบัติธรรมชาติ หรือการก่อการร้ายต่าง ๆ นา ๆ อย่างที่เรากำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้หรอกครับ
 

_________________
ไม่มีเรื่องส่วนตัวนะครับ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 23 พ.ย.2005, 1:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีคุณtanawat30



เรื่องสมุฏฐานของโรคนี้ ในทางพุทธศาสนาเราได้แสดงไว้ถึง 4 สมุฏฐานคือ



1. โรคอันเกิดมาจากกรรมเป็นสมุฏฐาน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากอำนาจของกรรมที่ทำมาแต่ชาติปางก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเบียดเบียนสัตว์ การทรมานสัตว์ก็ดี เป็นผลส่งมาทั้งสิ้น ก็ต้องแก้ด้วยอำนาจของกุศลกรรมคือ ด้วยอำนาจของบุญกุศลที่เราบำเพ็ญกัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก ด้วยอานุภาพของกุศลเจตนาหรืออำนาจของกุศลกรรมที่แต่ละบุคคลได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติ เป็นปัจจัยทำให้ได้บรรลุผลสำเร็จและก็สามารถที่จะยังความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากโรคาพยาธินี้หายไปได้เหมือนกัน



2. เกิดจากจิต เป็นโรคที่เกิดมาจากอำนาจจิตเป็นสมุฏฐาน เพราะจิตแปรปรวนไม่คงที่ หวั่นไหวไปตามอารมณ์ต่างๆ ก็เป็นเหตุให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้นมาได้ เราเรียกโรคประเภทนี้ว่าโรคจิตก็มีอยู่ ซึงบางอย่างเกิดมาจากระบบประสาทไม่ดีบ้าง ซึ่งความจริงก็เกิดมาจากจิตนั่นเอง ก็ต้องแก้ไขกันที่จิต



3. เกิดจากอุตุ โรคบางอย่างก็เกิดมาจากอำนาจของอุตุ เพราะอำนาจของอุตุแปรปรวน จึงเป็นเหตุทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนขึ้น ทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน ไม่ค่อยสบายบ่อยๆอยู่อย่างนั้นตลอด ก็ต้องแก้ไขกันที่อุตุ



4. เกิดจากอาหาร โรคบางอย่างก็เกิดมาจากอาหาร เพราะอาหารเป็นพิษ ที่เราบริโภคเข้าไปทุกๆวันนั้นแหละ ก็เป็นเหตุทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ก็ต้องแก้ไขกันที่อาหาร



แม้ว่าเราจะพยายามพิชิตต่อโรคภัยไข้เจ็บอย่างไรก็ตาม จะเป็นแผนปัจจุบันหรือด้วยอานุภาพแห่งการบำเพ็ญปฏิบัติจนถึงที่สุดก็ตาม แต่ก็ยังไม่ปรากฎว่ามนุษย์จะชนะต่อความตาย เป็นความทุกข์อย่างหนึ่งที่ฝังอยู่ในชีวิตของสัตว์โลกที่อุบัติขึ้นมา พร้อมๆกับกรรมที่แต่ละเผ่าพันธ์ทำมาไม่เหมือนกัน ป้องกันโรคได้ แต่ป้องกันกรรมไม่ได้



เจริญในธรรม



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
tanawat30
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256

ตอบตอบเมื่อ: 23 พ.ย.2005, 11:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระเจ้าจอร์จ ได้ Idea เขียนบทความอีกแล้วเรา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง