Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คาถาตัดกรรมนี้มีจริงเหรอคะ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
หน้าใหม่หัดทำบุญ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ย.2005, 7:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คาถาตัดกรรมนี้มีจริงเหรอคะ ดูแล้วเหมือนกับการขอร้องเจ้ากรรมนายเวร อย่างนั้นทำบุญอุทุศส่วนกุศลให้จะเป็นการดีกว่ารึป่าวคะ





(นะโม 3 จบ) “ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ขะมามิ ภันเต “



หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์พระพุทธ พระธรรม

พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กายวาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุญาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐานคำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม เทอญ …

 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ย.2005, 8:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีคุณหน้าใหม่หัดทำบุญ



คาถาสารพัดคาถาก็คงมี มิเช่นนั้น คุณก็คงเอามาโพสไม่ได้ แต่มนุษย์มัวมานั่งท่องแต่คาถามันก็ถอนกรรม ตัดกรรมมิได้ดอกหนา ยิ่งกรรมที่ก่อขึ้นจะด้วยความจงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์พระพุทธ พระธรรม

พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ หรือแม้แต่ชีวิตสัตว์ผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา คาถาเหล่านี้หากมิได้ลงมือฝึกปฏิบัติธรรมแล้ว ก็หาได้มีประโยชน์อย่างใด ก็แค่ท่องแค่บ่นแค่จำไปวันๆ



แม้จะท่องบ่นสาธยายคาถาสักกี่ร้อยคาบพันคาบก็ไม่เกิดความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น หากมิได้ลงมือปฏิบัติ คนที่จะได้รับผลสำเร็จจากการปฏิบัติธรรม ต้องอาศัยความเพียร ความตั้งมั่นอย่างแท้จริง ซึ่งไม่จำเป็นต้องอาศัยคาถาอาคมแต่อย่างใด พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่าสภาวะธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น



แม้แต่คาถาอาคมก็ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น แม้แต่เครื่องลางของขลังก็ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ไม่ควรถือผีสางเทวดาอะไรต่างๆสาระพัด ซึ่งเราจะเห็นได้ทั่วไปในสังคมชาวพุทธ พี่ไทยเราก็นับถือหมดแหละ อะไรโผล่แปลกๆหน่อยพี่ไทยก็เฮไปตามประสาพี่ไทย นี่ก็นับได้ว่าพี่ไทยเรานับถือศาสนากันเพียงแต่ลมปาก



เจริญในธรรม



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
phoebus
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ย.2005, 10:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คาถาที่คุณหน้าใหม่หัดทำบุญ โพสมานั้น เท่าที่ทราบไม่ใช่คาถาตัดกรรม แต่เป็นบทใช้สำหรับ ขอขมาพระรัตนตรัย เมื่อใดก่อนจะเริ่มสวดมนต์ ควรจะมีการอาราธนาบทนี้เพื่อขอขมาพระรัตนตรัยก่อน เพราะเราไม่มีทางทราบได้เลยว่าในอดีตเราเคยล่วงเกินอะไรไว้



เรื่องการตัดกรรม ถ้ามองตามหลักแห่งความเป็นจริง กรรมนั้นตัดกันไม่ได้ แต่น่าจะมีการอนุโลมให้ผ่อนหนักเป็นเบาได้



กรรมคือการกระทำ กรรมเก่า คือการกระทำในอดีตที่จบไปแล้ว ทำอย่างใดก็สมควรได้รับอย่างนั้น

กรรมปัจจุบัน คือ การกระทำในปัจจุบัน ไม่สมควรมาหักล้างกันได้ แต่สามารถให้อภัยโทษให้ลดหย่อนได้ ขึ้นอยู่กับคู่กรณี ถ้าเขายินยอม (คู่กรณีในที่นี้ หมายถึงเจ้ากรรมนายเวร)



มันก็เหมือนความเป็นจริงแห่งชีวิตในโลกปัจจุบันนี้ ถ้าคุณทำผิดกฏหมาย คุณก็ต้องรับโทษ อาจจะติดคุก แต่ถ้าคุณสำนึกผิด คุณสารภาพ และปฏิบัติตนให้ถูกกฎ เมื่ออยู่ในคุก คุณก็จะได้รับการอภัยโทษ ระยะเวลาการโดนลงโทษ ก็สั้นลง



ถ้ามองที่มาแห่งเหตุ และ ผล มันคือ ความจริง



ถ้าคุณได้อ่านประวัติพระพุทธองค์ คุณน่าจะทราบว่า แม้แต่พระพุทธองค์ ก่อนดับขันธ์ปรินิพาน พระองค์ ก็ยังต้องชดใช้กรรมในช่วงขณะหนึ่ง นั้นคือพระองค์ทรงพระประชวร แต่พระองค์ทรงกระหายน้ำมาก จึงขอให้พระอานนไปตักน้ำมาดื่ม แต่เมื่อพระอานนไปตักน้ำที่ลำธาร น้ำนั้นกลายเป็นน้ำขุ่นสีแดง สกปรก พระอานน ก็ไม่กล้าตักน้ำนั้นมาถวาย เดินกลับมาทูลให้ทรงทราบว่าน้ำสกปรก แต่พระพุทธองค์ ทรงบอกให้ตักมาเถิด พระอานน ทรงเดินไปถึง 3 ครั้ง ก็เป็นน้ำขุ่นตลอด แต่ในที่สุดครั้งสุดท้ายน้ำกลายเป็นน้ำใส จึงได้ตักมาถวายพระพุทธองค์เพื่อดับกระหายได้ เพราะฉะนั้น ขนาดพระพุทธองค์ ยังทรงต้องชดใช้กรรมในอดีต แล้วเราล่ะเป็นใคร ที่จะไปตัดกรรมได้



อย่างที่เล่า กรรมคงตัดกันไม่ได้ แต่น่าจะลดหย่อนโทษให้เบาลงได้ ก็คือ น่าจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ ดังนั้น หมั่นทำความดี ปฏิบัติดี ก็ดีที่สุดแล้ว



แล้วแต่จะพิจารณาเทอญ ,,,,
 
วรากร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ย.2005, 12:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คาถาตัดกรรมนี้มีจริงเหรอคะ

ตอบ มี

เมื่อเข้าสุ่นิพพานก็จะเจอ
 
b_smooka
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2005, 2:08 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=dhammajak&No=3321
 
tanawat30
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256

ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2005, 8:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คาถาตัดกรรม มีจริงครับ ทำง่าย ๆ ครับ ทำให้ตัวเราปราศจากความโลภ ความโกรธ ความริษยาและเห็นแก่ตัว ฯลฯ และสิ่งที่ไม่ดีให้หมดสิ้นไปจากตัวเราอย่างถาวรก่อนซิครับ แล้วใช้กำลังสมาธิที่บริสุทธิ์ยิ่ง เท่านี้เจ้ากรรมนายเวรก็พร้อมอโหสิกรรมให้เราแล้วล่ะครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง