Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ทางโลก กับ ทางธรรม เดินทางใดก่อน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
นัทธี จริโมภาส
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ส.ค. 2005
ตอบ: 21

ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2005, 11:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรียนญาติธรรม ทุกท่านครับ ผมขอเรียนถามธรรมครับ เราควร ปฏิบัติสิ่งใด ก่อนหลังช่วง อายุ 15 ถึงช่วงอายุ 20ปี เราควร บรรพชา-อุปสมบท ก่อน เพื่อนำหลักธรรม คำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้ามาใช้ ในการ ปฏิบัติร่วมกับผู้อื่น หรือ เราควรศึกษาทางโลก ให้มีความมั่นคง สร้างเกาะกำบัง ให้แก่ลูกหลาน เวลา กับความ อยากได้ อยากมี อยาก เป็น อย่างใดมาเร็ว และ ไป เร็ว กว่ากันครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2005, 12:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลองศึกษาจากตัวอย่างของบุคคลในสมัยพุทธกาลดูก็แล้วกันนะครับ

ครั้งหนึ่ง พระศาสดา และพระอานนท์ เสด็จผ่านพื้นที่แห่งหนึ่ง พระองค์เห็นกองคาราวานของเศรษฐีหนุ่มผู้หนึ่ง ตั้งรกรากเตรียมค้าขายครั้งใหญ่ ณ หมู่บ้านแถวนี้ หน้าตาของเศรษฐียิ้มแย้มแจ่มใส เขากำลังจะมีรายได้อย่างงาม จากการค้าขายครั้งนี้

พระศาสดา ทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์ เห็นอาการเช่นนี้ ก็รู้ว่า พระศาสดาทรงมีเรื่องบางอย่าง จึงทูลถาม พระศาสดาตรัสว่า นักธุรกิจหนุ่มผู้นี้ กำลังจะดีใจว่า จะได้ทรัพย์ก้อนใหญ่ เขาไม่รู้เลยว่า อีก 7 วัน เขาจะต้องเสียชีวิต โดยไม่ได้สั่งสมบุญกุศลไว้เลย

พระอานนท์ทูลถามว่า ข้าพระองค์ไปบอกเขาได้ไหมพระเจ้าข้า พระศาสดา อนุญาติ

พอพระอานนท์ไปบอก เศรษฐีหนุ่มผู้นั้นตามคำพระศาสดา เศรษฐีหนุ่มได้ฟังแล้ว ก็เชื่อ จึงตั้งใจค้าขายไปด้วย สั่งสมบุญไปด้วย นิมนต์พระศาสดา พร้อมพระภิกษุฉันภัตตาหารตลอด 7 วัน พอวันที่ 7 เขาเกิดเป็นโรคปัจจุบันทันด่วน (ที่แพทย์สมัยใหม่มักจะเรียกว่า หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน) ตายทันที แบบไม่มีสัญญาณล่วงหน้า (ยกเว้นผู้มีญาน จะเห็นสัญญานนั้น) แต่เขาก็ได้ไปบังเกิดในโลกสวรรค์

ข้อคิดที่ผมได้จากเรื่องนี้ ชีวิตมนุษย์ประมาทไม่ได้ เมื่อมีโอกาสควรสั่งสมบุญทั้งทาน ศีล และภาวนา โดยเฉพาะถ้าได้บวช ก็ไม่ควรพลาดโอกาสครับ
 
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 ส.ค. 2005, 1:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมเคยอ่านบทความของท่านหนึ่งในเวป รู้สึกว่าเปรียบเทียบได้ดีระหว่างโลกและธรรม ข้อเขียนของบุคคลนั้นเปรียบธรรมเหมือนน้ำ ส่วนทางโลกหมายถึงน้ำมัน ชีวิตคนมีแต่น้ำจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความสงบแต่อาจไม่สบายนัก ถ้ามีแต่น้ำมันอย่างเดียวคงอยู่ไม่ได้แน่

ในชีวิตของแต่ละคน คงต้องตัดสินใจเองว่าจะมีxxxส่วนระหว่างน้ำกับน้ำมันอย่างละกี่เปอร์เซ็นต์ ต้องการความสะดวกสบาย กับความสุขสงบร่มเย็นอย่างไหนมากกว่ากัน หน้าที่ความรับผิดชอบต่อครอบครัวของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน ระดับการปล่อยวางของจิตใจแต่ละบุคคลก็ไม่เท่ากัน

ทำใจให้สงบ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด บางทีทางที่เหมาะสมที่สุดก็จะปรากฏให้เราเห็นได้เอง
 
คนจร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2005, 1:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าเปรียบเหมือนน้ำ

ก็ต้องเปรียบเหมือนสายน้ำ ทางโลกเป็นการลอยตามกระแสน้ำ ทางธรรมเป็นการสวนกระแสโลก

กระแสโลกคืออะไร การปล่อยใจไปตามรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เรียกว่ากระแสโลก

กระแสธรรม คือการทวนกระแสโลกไม่ไหลตามกระแสโลก

แล้วตกลงจะเลือกอย่างไหนดีละ
 
ขาแจมในตำนาน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ส.ค. 2005, 10:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดีใจจัง พี่นัท จรมา จนได้



ธรรมมาจาก โลก พิจารณา โลก ก็ เจอ ธรรม



ปล . อยากบอกว่า ถ้าคาดหวังก็อย่า เพิ่งไป พิจารณา ปฏิบัติ ไปก่อน ปรับพื้นก่อนดีกว่า

อนุโมทนา คับ ^^
 
Street Dog
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ส.ค. 2005, 7:06 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกวันนี้ก็ยังงมหาจุดสมดุลระหว่างน้ำกับน้ำมันอยู่ครับ มันไม่ง่าย แต่รุ่นพี่ๆเค้าสอนไว้ว่า xxxน้องเอ๊ย!ไม่มีอะไร ยากเกินความพยายาม เค้าสอนกันไว้ว่า ทุกคนมีสิทธิ์รู้ธรรมเห็นธรรมเข้าถึงธรรมได้เท่ากัน มีโอกาสเท่ากัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ คนเราอย่างเก่งก็ยืนถอดกางเกงได้ทีละขา เท่ากัน ไม่มีใครในโลกนี้ที่ยืนถอดกางเกงได้ทีละสองขา



การฝึกหัดปฏิบัติธรรมในโลกมายา เหมือนกับ ไปเดินจงกรมภาวนาอยู่ซอยพัฒนพงษ์ถนนสีลมตอนกลางคืน คือบรรยากาศมันไม่อวย ชาววัดเรียกว่าที่ไม่สับปายะ แต่ครุอาจารย์ท่านสอนไว้ว่า การปฏิบัติธรรม อย่าเกี่ยงวันเวลา สถานที่ ดินฟ้าอากาศ จึงเป็นเรื่องน่าท้าทาย ทำได้ก็ภูมิใจ หมั่นปฏิบัติไปพลางศึกษาไปพลาง ตำราหาง่าย มีพระไตรปิฏกออนไลน์ มีหนังสือธรรมะครูบาอาจารย์แจกฟรี ฯลฯ เพื่อนๆส่งไปให้อ่านถึงบ้านไม่คิดตังค์อีกต่างหาก คิดว่าตำราแจกฟรีนี่ขลังเป็นพิเศษ รู้สึกเหมือนธรรมะจากใจครูอาจารย์ผู้ให้ ส่งถึงเราโดยตรง ไม่ผ่านคนกลางร้านหนังสือ จึงประทับใจทุกครั้งที่ได้รับ ผมเคยอ่านข้อธรรมจากหลายๆแหล่ง แนวเซนก็เคยผ่านตา บางคำสอนเซนดนใจอย่างเรง มีคำกล่าวของอาจารย์เซนท่านได้กล่าวข้อความอังกฤษนี้ไว้ ได้อ่านผ่านตาจาก หนังสืออะไร จำไม่ได้แล้ว

"Learning Zen is a phenomenon of gold and dung. Before you understand it, its like gold; after you understand it, its like dung."

- Zen master-



แอบแปลไว้ในใจอย่างขลุกขลักได้ว่า "การเรียนเซนนั้นเหมือนปรากฎการ ทองคำกับขี้วัว(ขี้สัตว์ฯลฯ)ก่อนที่จะเข้าใจเซนได้ เราประเมินค่าไว้เป็นทอง ควรค่าแก่การไขว่คว้า น่าศึกษาปฏิบัติ แต่พอคลิ๊ก แล้ว อ๋อ!เซนสอนว่า อะไรๆก้แค่นั้นเอง สรรเสริญเทิดชู หรือ วิพากวิจารณ์ทางบวกหรือลบ จะทองคำหรือเพ็ชรมีราคาสูง ความจริงมีค่าเท่ากะขี้วัว ดีดีนี่เอง " เป็นข้อคิดที่ลึกซึ้งทีเดียว ลองพยายามแปลดู ทุกวัน บางวันเข้าใจเป็นเรื่องโลกธรรมแปด บางวันเห็นเป็นไตรลักษณ์ จะตีความได้ไม่เหมือนกันสักวันเลย ไม่รู้ว่า มันซึ้งลึกเข้าไปเรื่อยๆ หรือว่า ยิ่งแปล ยิ่งงงกันไปใหญ่ ประมาณว่า ยิ่งเรียนยิ่งหลง ยิ่งพยายามแปลยิ่งงง- แต่ไม่โทษใครนะ โทษตัวเองที่"ปัญญายังไม่แข็งแรง" ตรงนี้คืออุปสรรคทำให้ยังฝ่าฟันไปได้ไม่ถึงไหน









 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง