Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 บ่วงชีวิตคู่ของมนุษย์ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โจ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 ก.ค.2005, 2:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมอยากทราบน่ะคับว่า คนเราเกิดมา ต้องแต่งงานมีครอบครัวไหมคับ



คือผมไม่อยากแต่งน่ะคับผม ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีภาระรับผิดชอบ แต่ผมเชื่อเสมอว่า การแต่งงาน ทำให้เกิดห่วงต่อไปเรื่อยๆๆๆๆๆ น่ะคับ



เลยอยากหลีกเลี่ยงเรื่องนี้



ฟังพระบางท่าน ท่านก็กล่าวว่า การทำหน้าที่ของฆราวาส คือการครองเรือนให้ดี พอแก่แล้วมาปฏิบัติธรรมก็ยังไม่สาย



พ่อแม่ผมก็อยากให้ผมแต่ง ท่านกล่าวว่า ถ้าผมไม่หาแฟนภายในอายุ 25 ท่านจะหาและจัดแต่งให้



ท่านจะให้ผมบวชก็ต่อเมื่อผมมีแฟนแล้วเท่านั้น



ผมไม่เห็นมันจะมีความสุขตรงไหนเลยคับ การแต่งงานเนี่ย หรือการมีชีวิตคู่



เรียนถามพี่ๆ ที่รู้มากกว่าผมว่า ที่ผมคิดแบบนี้ เพราะผมยังไม่มีคู่ เลยยังไม่เห็นสุขและคุณค่าที่เกิดจากการมีคู่



หรือ ความคิดที่ไม่อยากจะมีคู่ของผม มันถูกต้องอยู่แล้วคับ

อันไหนมีคุณค่ามากกว่ากันคับ



พี่ๆ ช่วยผมหน่อยนะคับ ผมอยากเดินทางที่ถูกต้องคับ

ตอนนี้ผมยังมีทางเลือก ช่วยชี้ทางให้ผมเดินเถอะคับ

 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ค.2005, 1:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณโจ



ไม่จำเป็นหรอกว่า ทุกคนเกิดมาจะต้องแต่งงานมีครอบครัว ไม่อยากแต่งก็ไม่อยากแต่ง ไม่เห็นต้องไปวุ่นวายกับมัน จะให้บวชต่อเมื่อมีแฟนแล้วก็ไม่จำเป็น ไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องมี บวชหรือไม่ก็ศึกษาและปฏิบัติธรรมได้ ให้เข้าใจลึกซึ้งในชีวิตฆราวาสนี่แหละ บารมีจะได้บวชจริงๆ จะได้ไม่ไปทำกรรมในผ้าเหลือง



ไม่อยากแต่ง ไม่อยากมีครอบครัว ไม่อยากมีชีวิตคู่ ก็ไม่เห็นต้องไปวุ่นวายกับคำถาม คำตอบมันอยู่ที่ตัวคุณว่า ไม่อยาก ก็เท่านั้น พิสูจน์ตัวเองด้วยการปฏิบัติธรรม ตั้งใจให้แน่วแน่ ชีวิตที่เหลืออยู่อีกมากก็จะเป็นชีวิตที่ไม่ต้องเป็นทุกข์จนเกินไป ยังทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านและสังคมได้มากมาย



ไม่ใช่อยู่แบบหนักแผ่นดิน ยังไม่ได้บวชก็สามารถประกอบหน้าที่การงานทุกอย่างทุกขั้นตอนโดยธรรม เพราะธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ ด้วยสุขภาพจิตที่ดีเลิศ จึงเป็นลูกที่ดี เป็นสามีภรรยาที่ดี เป็นพ่อแม่ที่ดี เป็นทหารที่ดี เป็นตำรวจที่ดี เป็นครูที่ดี เป็นหมอที่ดี เป็นข้าราชการที่ดี เป็นหัวหน้าที่ดี เป็นลูกน้องที่ดี เป็นพลเมืองที่ดี เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายที่ดีฯลฯ



จงอยู่อย่างผู้มีความรู้ ความสว่าง จงตื่นและเบิกบาน มีความสงบเย็นผุดขึ้นในจิตใจเป็นอัตโนมัติ ไม่มีวันหมดสิ้น จิตเป็นสุขอยู่ด้วยปัญญา และสมาธิ คำพูดและการกระทำทางกายจึงจะสะอาดเป็นปกติเป็นนิจศีล นำมาซึ่งความสุข สงบเย็นแก่สังคมตั้งแต่เล็กที่สุดคือครอบครัว จนใหญ่สุดคือประเทศชาติ อยู่อย่างผู้รู้ทิศทาง ย่อมได้กำไรชีวิตมหาศาล



"หยุด" คิดนึกปรุงแต่งเรื่องในอดีต ปัจจุบัน อนาคต วางจิตให้เป็นกลาง ให้ผ่องแผ้วโปร่งเบาอยู่ตามธรรมชาติ หนทางแม้จะไกลแสนไกล แต่หากหันสู่ทิศทางที่ถูกต้องและออกก้าวเดินแล้ว จุดหมายปลายทางก็ย่อมใกล้เข้าไปทุกขณะย่างก้าว



ธรรมะสวัสดี



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
อลงกรณ์
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 13 ก.ค. 2005
ตอบ: 6

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ค.2005, 9:46 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณคิดเหมือนผมตอนยังไม่มีแฟนเลย แต่พอมีแล้วมันต้องใช้กำลังใจอย่างที่สุดที่จะไปในเส้นทางของการบวช
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โจ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ค.2005, 11:13 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พี่เมล็ดบัวครับ งั้นถ้าต้องใช้กำลังใจสูงสุด คือยากมากเหรอคับ ที่จะต้องจากแฟนไปบวช งั้นอย่ามีเลยดีกว่าหรือไม่ยังไงคับ
 
ล็อต
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 07 พ.ค. 2005
ตอบ: 10

ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.ค.2005, 8:16 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณครับสำหรับคุณปุ๋ย ที่ตอบให้ลึกชึ้งมากเลยครับ

ขอบคุณครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
เดือนแจ่ม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.ค.2005, 11:00 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์
 
แอนนี่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ย. 2005, 3:55 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนเราหนี คำว่า สายสัญญาไม่พ้นหรอกค่ะ ไม่ว่าใครก็ตาม สายสัญญาคือ กรรมของแต่ละคนเช่นเรายังมีกรรมกับคนนี้อยู่ ต่อให้ปฏิบัติธรรมอย่างไรก้อหนีไม่พ้นเว้นแต่ท่านค้นพบนิพพานจึงพ้นค่ะ หาคำตอบนะว่า สายสัญญาคืออะไร แล้วจะเข้าใจค่ะ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ย. 2005, 8:57 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สายสัญญาคืออะไรค่ะ คุณแอนนี่ กรุณาอธิบายให้กระจ่างด้วยค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง