ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
poivang
บัวตูม
เข้าร่วม: 18 มิ.ย. 2005
ตอบ: 224
|
ตอบเมื่อ:
21 มิ.ย.2005, 2:28 pm |
|
แม่ไก่ฟังธรรม
โดย พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ)
จากหนังสือธรรมะของ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙) ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ท่านนำออกมาจากพระไตรปิฏกอีกทีหนึ่ง และชี้ให้เห็นว่าผู้ที่เจริญสมถกรรมฐาน จนได้ฌานไปเกิดอยู่ในพรหมโลกแล้ว เมื่อหมดบุญก็สามารถกลับมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานได้อีก
มีเรื่องเล่าไว้ว่า ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่ากกุสันธะ มีแม่ไก่ตัวหนึ่งอยู่ในที่ใกล้อาสนะศาลา แม่ไก่ตัวนั้นได้ฟังเสียงประกาศธรรมของภิกษุ ผู้เป็นนักปฏิบัติธรรมรูปหนึ่ง กำลังสาธยายเรื่องวิปัสสนากรรมฐานอยู่ ขณะนั้นเอง เหยี่ยวตัวหนึ่งบินมาโฉบเอาแม่ไก่ไปกินเสีย พอแม่ไก่ตัวนี้ตายไปในขณะที่ฟังธรรมอยู่ จึงได้เกิดมาเป็นพระราชธิดานามว่า อุพพรี และได้ออกบวชในสำนักของปริพาชิกาทั้งหลาย
วันหนึ่งนางได้เข้าไปสู่ในเว็จกุฎี (ห้องส้วม) ทอดพระเนตรเห็นหมู่หนอนแล้วได้เจริญสมถกรรมฐานโดยเอาหนอนเป็นอารมณ์ เรียกว่า ปุฬุวกสัญญา ได้บรรลุปฐมฌาน เพราะสามารถฝึกสมาธิจนได้ฌาน
ตายจากชาตินั้นจึงได้ไปเกิดในพรหมโลก อยู่บนนั้นเสียนาน ตายแล้วมาเกิดในตระกูลเศรษฐี จากนั้นก็ตายไปเกิดเป็นลูกนางสุกรในกรุงราชคฤห์ ซึ่งเป็นกาลแห่งพระพุทธเจ้าของเรานี้ พระบรมศาสดาได้ทอดพระเนตรเห็นลูกนางสุกรตัวนั้น จึงทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์เถระจึงได้ทูลถาม พระพุทธองค์จึงได้ตรัสตอบข้อความนั้นทั้งหมด (คือเล่าตั้งแต่แม่ไก่มาถึงลูกนางสุกร) ภิกษุทั้งหลายมีพระอานนท์เป็นประมุขได้สดับเรื่องนั้นแล้ว ต่างพากันสังเวชสลดใจเป็นอันมาก
พระศาสดายังความสังเวชสลดใจให้เกิดแก่ภิกษุเหล่านั้นแล้ว จึงประกาศโทษแห่งราคะตัณหา ทั้งๆ ที่ประทับยืนอยู่ในระหว่างถนนนั่นเอง ท่านตรัสเป็นพระคาถาแปลเป็นใจความว่า ต้นไม้เมื่อรากไม่มีอันตราย ยังมั่นคง ถึงจะถูกบุคคลตัดแล้ว รากก็ยังขึ้นได้อีก แม้ฉันใดทุกข์นี้ก็ฉันนั้น
คือเมื่อตัณหานิสัยอันบุคคลยังขจัดไม่ได้แล้ว ย่อมเกิดขึ้นได้อยู่ร่ำไปเหมือนกันอย่างนั้นหมู่สัตว์เกิดตัณหาผู้ทำความดิ้นรนล้อมไว้แล้ว ย่อมกระเสือกกระสนเหมือนกระต่าย ที่นายพรานดักได้แล้วนั้น เพราะเหตุนั้นผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร หวังธรรมเป็นที่สำรอกกิเลสแก่ตนพึงบรรเทา พึงกำจัด พึงนำออก พึงละตัณหา ผู้กระทำการดิ้นรนนั้นเสียด้วยญาน มีโสดาปัตติมรรคญาน เป็นต้นดังนี้
ฝ่ายลูกนางสุกรตัวนั้น ตายจากชาตินั้นแล้วได้ไปเกิด ในราชตระกูลในสุวรรณภูมิ ไปเกิดในกรุงพาราณสี เกิดในเรือนพ่อค้าม้าที่ท่าสุปปารกะเกิดในเรือนของกฎุมพีชื่อสุมนะ ในเภกกันตคาม มีชื่อว่าสุมนา ต่อมาบิดาย้ายไปสู่แคว้นทีฆวาปีอยู่ในหมู่บ้านชื่อมหามุนีคาม อำมาตย์ของพระเจ้าทุฏฐคามณี นามว่า ลกุณฏอติมพระไปที่หมู่บ้านนั้นด้วยกิจบางอย่าง เห็นนางสุมนาแล้วเกิดรักใคร่ จึงทำการมงคลให้อย่างใหญ่โต และได้พานางไปสูบ้านมหาปุณณคาม
ครั้งนั้นพระมหาอตุลเถระเที่ยวไปบิณฑบาตในบ้านนั้น ยืนอยู่ที่ประตูเรือนของนาง เห็นนางแล้วจึงกล่าวกับภิกษุทั้งหลายว่า
ผู้มีอายุทั้งหลายลูกนางสุกรถึงความเป็นภรรยาของอำมาตย์ชื่อลกุณฏอติมพระแล้ว โอ.....น่าอัศจรรย์จริง
นางสุมนาเมื่อได้ฟังคำของพระเถระแล้ว สามารถระลึกชาติในอดีตได้ทันทีและเกิดความสลดสังเวชใจเป็นอย่างยิ่ง อ้อนวอนสามีขอบวชในสำนักพระเถรีผู้ประกอบด้วยพละ๕ ด้วอิสริยยศชั้นสูงได้ฟังกถาพรรณนามหาสติปัฏฐานสูตรในติสสมหาวิหาร ได้สำเร็จโสดาปัตติผล
ภายหลังเมื่อพระเจ้าทุฏฐคามณีทรงปราบทมิฬได้แล้ว พระนางสุมนาเถรีได้เดินทางไปสู่บ้านเภกกันตคามซึ่งเป็นที่อยู่ของมารดาบิดา ขณะอยู่ในบ้านนั้นได้ฟังอาสีวิสูปมสูตรในกัลลกมหาวิหาร จนบรรลุพระอรหันต์ในวันปรินิพพาน นางอันพวกภิกษุณีได้ถามแล้วได้เล่าประวัติทั้งอย่างละเอียดแก่ภิกษุณีสงฆ์ แล้วสนทนากับพระมหาติสสเถระ ผู้กล่าวบทแห่งธรรม ผู้มีปกติอยู่ในมณฑลาราม ณ ท่ามกลางภิกษุสงฆ์ผู้ประชุมกันแล้วกล่าวว่า
ในกาลก่อน ข้าพเจ้าตายจากมนุษย์แล้วเกิดเป็นแม่ไก่ ถูกเหยี่ยวตัดศีรษะในอัตตภาพนั้น ได้ไปเกิดในกรุงราชคฤห์ แล้วออกบวชในสำนักของปริพาชิกาทั้งหลายเจริญสมถกรรมฐานได้บรรลุปฐมฌาน ตายไปแล้วบังเกิดในพรหมโลก แล้วมาเกิดในตระกูลเศรษฐี ตายจากนั้นแล้วไปเกิดเป็นสุกร แล้วไปเกิดในสุวรรณภูมิ.....ตายจากนั้นไปเกิดที่บ้านเภกันตคาม ข้าพเจ้าได้เกิดถึง ๑๒ อัตตภาพ อันสูงๆ ต่ำๆ ด้วยประการฉะนี้ บัดนี้ ข้าพเจ้าได้เกิดในอัตตภาพอันอุกฤษฏ์ ขอให้ท่านทั้งหลายแม้ทั้งหมดจงยังธรรมที่เป็นกุศลทั้งหลายให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด
ดังนี้ได้ยังบริษัท ๔ ให้สังเวชสลดใจ แล้วปรินิพพาน
>> จบ >>
ประวัติและปฏิปทา
พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=19975
รวมคำสอน พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=49279 |
|
|
|
|
|
หนอน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 มิ.ย.2005, 10:33 am |
|
|
|
|
poivang
บัวตูม
เข้าร่วม: 18 มิ.ย. 2005
ตอบ: 224
|
ตอบเมื่อ:
28 มิ.ย.2005, 3:55 pm |
|
|
|
|
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
06 ก.ค.2005, 9:19 pm |
|
สาธุๆๆ ที่นำมาให้อ่านนะครับ |
|
|
|
|
|
พีม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ก.ค.2005, 10:26 am |
|
|
|
|
phong
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
12 ก.ค.2005, 6:48 pm |
|
ลึกซึ้งมาก |
|
|
|
|
|
poivang
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
19 ก.ค.2005, 9:33 am |
|
.....ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านค่ะ ขอบคุณนะค่ะสำหรับท่านผู้ชม |
|
|
|
|
|
นายพงษ์ศักดิ์ ลาวนันท์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 2:42 pm |
|
|
|
|
krai001
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 2:46 pm |
|
|
|
|
poivang
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.ย. 2005, 5:57 pm |
|
|
|
|
พงษ์ศักดิ์ ลาวนันท์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.ย. 2005, 2:58 pm |
|
|
|
|
คิกขุ.....จัง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 ต.ค.2005, 6:31 pm |
|
ดีมาก |
|
|
|
|
|
poivang
บัวตูม
เข้าร่วม: 18 มิ.ย. 2005
ตอบ: 224
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ย.2005, 10:16 am |
|
|
|
|
t
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 พ.ย.2005, 5:48 pm |
|
|
|
|
ผู้น้อย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
11 ก.ย. 2006, 4:26 pm |
|
เจริญในธรรม อนุโมทนาค่ะ |
|
|
|
|
|
เตียบ่อกี้
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2006, 8:34 pm |
|
เอ่อคือ อยากรู้ว่าตรงกับพุทธศาสนข้อไหน |
|
|
|
|
|
โอม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
17 ธ.ค.2006, 10:58 pm |
|
ตรงกับหลักธรรมทางพุทธศาสนา ข้อความไม่ประมาท
คือไม่ประมาทในชีวิต ไม่คิดว่าตัวเองยังยังมีวัยหนุ่มสาวอยู่ แล้วไม่สนใจฟังธรรม หรือนำธรรมะมาใช้ในชีวิต เมื่อความตายมาถึงในขณะที่ยังหนุ่มสาวอยู่ ทำให้ชีวิตสูญเปล่าจากประโยชน์เพราะมัวแต่ประมาทในวัย ความสนุกสนาน เพลิดเพลินไปตามกระแสของวัตถุนั้นเอง
|
|
|
|
|
|
sac
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
11 เม.ย.2007, 3:13 pm |
|
ร่วมสาธุด้วยคนครับ |
|
|
|
|
|
โอ๋
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 เม.ย.2007, 11:37 am |
|
โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ |
|
|
|
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ค.2007, 10:06 am |
|
ดีมากเลยครับขอบคุณนะครับ |
|
|
|
|
|
|