Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การขลิบหนังปลายอวัยวะเพศชาย : ความสำคัญทางการแพทย์และศาสนา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เอเมน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 04 มิ.ย.2005, 12:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การขลิบหนังปลายอวัยวะเพศชาย : ความสำคัญทางการแพทย์และศาสนา





โดย : บรรจง บินกาซัน





การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะพิเศษหรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในคำว่า “เข้าสุหนัต” หรือที่ศัพท์ภาษามลายูท้องถิ่นใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราเรียกว่า “มาโซะยาวี” นั้นเป็นกระบวนการผ่าตัดในทางด้านการแพทย์อย่างหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันมายาวนานแล้วเพราะมันเป็นที่ปฏิบัติกันอย่างกว้างขวางในฐานะที่เป็นพิธีกรรมทางศาสนาอย่างหนึ่งตั้งแต่สมัยโบราณ ถึงแม้ที่มาของมันจะไม่เป็นที่รู้กัน แต่หลักฐานเก่าแก่ที่สุดของการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายสามารถย้อนหลังไปได้ถึงสมัยอียิปต์ประมาณ 2,300 ปีก่อนคริสตกาล เดิมทีฟาโรห์ได้ใช้การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายเพื่อเป็นเครื่องหมายของพวกทาส เมื่อพวกโรมันเข้ามายึดครองอียิปต์เมื่อ 30 ปีก่อนคริสตกาล การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศให้แก่เด็กหนุ่มก็แพร่ไปทั่วโลก หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มันก็เป็นที่ปฏิบัติกันแทบจะเป็นของสากลในตะวันตก





อย่างไรก็ตาม ในอเมริกาเหนือปัจจุบัน ประมาณกันว่า 85% ของเด็กเกิดใหม่ได้ถูกขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ในยุโรปมีแค่เพียง 10% แต่ในเอเซียและอาฟริกามีแค่เพียง 5% เท่านั้น ส่วนในหมู่ชนที่มิใช่ยิวของยุโรป สแกนดิเนเวียและอเมริกาใต้นั้นมีการปฏิบัติน้อยมาก ทีนี้ขอให้เรามาดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับขลิบหนังปลายอวัยวะเพศและประโยชน์ทางด้านการแพทย์ของมันดูบ้าง





ความสำคัญทางด้านพิธีกรรม





การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายเป็นที่ปฏิบัติกันอย่างกว้างขวางในหมู่ชนเผ่าที่ถือผีสางเทวดาในอาฟริกา หมู่เกาะมาเลย์ นิวกินี ออสเตรเลียและเกาะแปซิฟิก กลุ่มคนพื้นเมืองบางกลุ่มในอเมริกาใต้และอเมริกากลางก็มีพิธีการทำผ่าตัดอวัยวะเพศบางอย่างแก่เพศชายและเพศหญิงเช่นกัน





ในชนบางเผ่าการขลิบหนังปลายอวัยวะเพศมักจะเป็นพิธีกรรมที่ทำกับเด็กที่ก้าวเข้าสู่วัยหนุ่ม บางครั้ง ความเจ็บปวดในการตัดหนังปลายอวัยวะเพศนี้ได้ถูกใช้เป็นเครื่องเซ่นแก่ภูตผีปีศาจ ขณะเดียวกัน การตัดหนังปลายอวัยวะเพศก็เป็นสิ่งยืนยันถึงความพร้อมในการแต่งงานและความเป็นผู้ใหญ่และเป็นสิ่งยืนยันว่าบุคคลผู้นั้นสามารถทนความเจ็บปวดได้ นอกจากนี้แล้วการตัดหนังปลายอวัยวะเพศชายยังเป็นสิ่งที่แยกวัฒนธรรมของคนกลุ่มหนึ่งออกจากกลุ่มคนที่ไม่ได้ทำเช่นนั้นด้วย





ในหมู่ชาวอียิปต์โบราณ โดยทั่วไปแล้ว เด็กผู้ชายจะถูกตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศระหว่างอายุ 6-12 ขวบ การผ่าตัดในวัยแรกรุ่นนี้เป็นตัวแทนถึงการเริ่มต้นเข้าสู่ความเป็นผู้ชาย





พิธีกรรมทางศาสนา





ประเพณีและกฎหมายของพวกยิวเกี่ยวกับการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศนั้นมาจากคัมภีร์ไบเบิล คัมภีร์ตัลมูดและจารีตของยิวซึ่งถ่ายทอดกันมาจากชนรุ่นหนึ่งมายังชนอีกรุ่นหนึ่ง





ในประเพณีทางศาสนาของชาวยิว





การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของทารกเพศชายถือเป็นสิ่งจำเป็นในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญากับพระเจ้า ตามกฎหมายของพวกเลวี ทารกเพศชายชาวยิวทุกคนจะต้องได้รับการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศในวันที่ 8 หลังจากการเกิด คำบัญชาแรกของคัมภีร์สำคัญห้าฉบับก็คือเด็กผู้ชายทุกคนจะต้องตัดหนังหุ้มปลายองคชาต (ดูฉบับปฐมกาล 17:10-14) และการปฏิบัติตามพิธีกรรมนี้ถือว่าเป็นความสำคัญทางศาสนา





ตามคัมภีร์ไบเบิล การตัดหนังหุ้มปลายองคชาตเป็นคำบัญชาแรกที่พระเจ้ามีต่ออับราฮัมและเป็นศูนย์กลางของศาสนายูดาย อับราฮัมบิดาของชาวยิวรับใช้พระผู้เป็นเจ้าด้วยความซื่อสัตย์มาเป็นเวลาหลายปี แต่ท่านก็เพิ่งจะมาขลิบหนังปลายองคชาตของท่านตามคำบัญชาของพระเจ้าในตอนที่ท่านอายุได้ 99 ปี (ดูฉบับปฐมกาล 17:1)





ในพันธสัญญาเก่าฉบับปฐมกาล 17:10-11 ก็ได้มีการเขียนไว้ว่า : “นี่เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งเจ้าจะต้องรักษาระหว่างเรากับเจ้าและเชื้อสายของเจ้าที่จะสืบมา คือผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าสุหนัต เจ้าจงเข้าสุหนัตหนังหุ้มปลายองคชาติของเจ้า นี่จะเป็นการหมายสำคัญของพันธสัญญาระหว่างเรากับเจ้า” พันธสัญญาเก่าได้เอ่ยถึงคำว่า “บริส” (ในภาษาฮิบรูหมายถึงพันธสัญญา) ถึง 13 ครั้งด้วยกันเกี่ยวกับการเข้าสุหนัต





หน้าที่ในการเข้าสุหนัตให้เด็กชาวยิวนั้นตกอยู่ที่พ่อ ในกรณีที่พ่อไม่อยู่หรือไม่สามารถจัดการทำพิธีเข้าสุหนัตได้ หน้าที่ก็จะตกเป็นของสังคมและชาวยิวทุกคนจำเป็นต้องทำสุหนัต





ผู้ทำหน้าที่เข้าสุหนัตถูกเรียกว่า “โมเฮล”ซึ่งเป็นผู้ผ่าตัดที่มีความชำนาญเป็นพิเศษในการทำสุหนัต หลังจากทำพิธีกรรมแล้ว โมเฮลจะตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของทารกพร้อมกับตั้งชื่อและอวยพรให้ คนที่จะเป็นโมเฮลได้นั้นจะต้องเป็นผู้เกรงกลัวพระเจ้า ต้องเป็นยิวผู้ปฏิบัติตามคัมภีร์และได้รับการฝึกอบรมในทางด้านกฎหมายของยิวและทางการแพทย์





สำหรับพวกยิว การนำทารกไปขลิบหนังปลายอวัยวะเพศโดยศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลนั้นยังถือว่าไม่เป็นสมบูรณ์ตามความต้องการของพิธีการเข้าสุหนัตแบบยิว เพราะยังจะต้องมีพิธีกรรมทางศาสนาอีก





ลักษณะของธรรมชาติแห่งอิสลาม





ในหมู่ชาวอาหรับ การเข้าสุหนัตมีมาก่อนที่จะมีอิสลามเกิดขึ้น (ค.ศ.570) ในหมู่ชาวอาหรับและชาวเอธิโอเปียนนั้น การเข้าสุหนัตจะทำหลังจากการเกิดได้ไม่นานหรือบางทีสองสามปีหลังการเกิด อบูฮุร็อยเราะฮรายงานว่าท่านศาสนทูตของอัลลอฮฺได้กล่าวว่า “อิบรอฮีมทำสุหนัตตนเองหลังจากที่ท่านอายุได้ 80 ปี”





อิสลามต้องการให้ชายมุสลิมขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเพื่อที่จะส่งเสริมความสะอาด ท่านศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวว่า : “มีการกระทำห้าสิ่งที่ใกล้เคียงกับฟิตเราะฮฺ (สามัญสำนึก) หรือห้าสิ่งที่เป็นการกระทำตามฟิตเราะฮฺ นั่นคือ การเข้าสุหนัต การโกนขนอวัยวะเพศ การตัดเล็บ การถอนขนรักแร้และการขลิบหนวด”





นักวิชาการหลายคนกล่าวการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น นักวิชาการสำนักชาฟีอีถือว่าการเข้าสุหนัตควรจะทำในวันที่เจ็ดหลังจากที่เด็กเกิด แต่อัช-เชากานีกล่าวว่า “ไม่มีสิ่งใดที่ระบุไว้อย่างชัดเจนถึงเรื่องเวลา”





การเข้าสุหนัตได้หายไปจากประเพณีของชาวพุทธ ชาวฮินดูและลัทธิขงจื๊อ นอกจากนั้นแล้ว คริสตจักรเองก็ไม่มีหลักการที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชาวคริสเตียนไม่จำเป็นต้องเข้าสุหนัตได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลฉบับกิจการของอัครทูตบทที่ 15 ปัจจุบัน มีแต่คริสตจักรอบิสสิเนียเท่านั้นในบรรดาองค์การคริสตจักรที่ยอมรับการเข้าสุหนัตว่าเป็นพิธีกรรมทางศาสนา





การทำสุหนัตทางด้านการแพทย์





นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 พลเมืองที่พูดภาษาอังกฤษจำนวนมากได้หันมาทำสุหนัตกันด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ในประเทศตะวันตก ได้มีการขลิบหนังปลายองคชาติอย่างกว้างขวางเนื่องมาจากเหตุผลทางด้านความสะอาด ในโรงพยาบาลหลายแห่งจะตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศให้แก่เด็กเกิดใหม่เป็นประจำเว้นแต่จะไม่ได้รับคำยินยอมจากผู้ปกครองเด็ก ในทางการแพทย์สมัยใหม่ การตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของผู้ชายถือเป็นการผ่าตัดเล็กที่กระทำให้เด็กเพื่อความสะอาด จากทัศนทางด้านการแพทย์ การเข้าสุหนัตก็คือการตัดหนังหุ้มปลายองชาติออกเพื่อให้หนังหุ้มอวัยวะเพศหดหายเข้าไปข้างหลังหัวองคชาต ในตอนเกิด เด็กๆจะมีหนังที่หุ้มปลายองคชาติอยู่ แต่เมื่อหนังตรงปลายถูกตัด หัวขององคชาตก็จะถูกเปิดออกซึ่งจะทำให้สิ่งสกปรกไม่สามารถเข้าไปหมักหมมส่งกลิ่นเหม็นอยู่ที่ปลายองคชาติและอาจก่อให้เกิดเชื้อโรคได้





แพทย์ในศตวรรษที่ 19 ได้แนะนำให้ตัดหนังหุ้มปลายองคชาตเพื่อการป้องกันโรคภัยต่างๆ เช่นโรคฮิสทีเรีย การแพร่เชื้อกามโรค เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว ยังได้มีการยกหลักฐานมาอ้างอีกว่าคนที่เข้าสุหนัตจะมีอัตราการเป็นมะเร็งทางอวัยวะเพศต่ำมาก





การศึกษาวิจัยเมื่อเร็วๆนี้พบว่าการตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศให้แก่ลูกของตนเองนั้นมีผลดีทางการแพทย์บางอย่าง เช่น โอกาสที่จะติดโรคทางเดินปัสสาวะน้อยมาก เด็กที่ไม่ได้ตัดหนังหุ้มหลายองคชาติจะมีโอกาสไตอักเสบเป็น 10 เท่าของเด็กที่ตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตั้งแต่ตอนเป็นทารก แม้แต่การตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศในตอนเป็นผู้ใหญ่ก็ยังป้องกันโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ สำหรับไตแล้ว การติดเชื้อเป็นอันตรายที่สุดในสามเดือนแรกซึ่งในระหว่างนี้ผู้ป่วยมักจะต้องไปโรงพยาบาลและอาจจะมีผลติดเชื้อรุนแรงอย่างอื่นติดตามมา การทำงานของไตและการหลั่งฮอร์โมนผิดปกติสามารถเกิดขึ้นกับการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะได้ นอกจากนี้แล้ว การติดเชื้อแบคทีเรียจากสิ่งสกปรกที่หมักหมมอยู่ภายใต้หนังหุ้มปลายองคชาตก็อาจนำไปสู่การติดเชื้อของไตได้เช่นกัน





ผู้ชายที่เข้าสุหนัตแทบจะไม่เป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศเลย การติดเชื้อที่หนังหุ้มปลายองคชาตสามารถเกิดขึ้นกับผู้ชายที่ไม่เข้าสุหนัตในอายุเท่าใดก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นในตอนอายุ 2-5 ปี ซึ่งเป็นวัยที่หนังหุ้มปลายองคชาติยังแยกไม่หมด ดังนั้นจึงไม่สามารถถลกให้เปิดออกได้เต็มที่เพื่อทำความสะอาด นอกจากนั้นแล้วเด็กเองก็ไม่สามารถทำความสะอาดให้ตัวเองได้และในที่สุดก็จะต้องไปตัดเอาในตอนหลังซึ่งเสียค่าใช้จ่ายแพง ด้วยเหตุนี้ การทำสุหนัตให้แก่เด็กตั้งแต่เกิดมาจึงทำให้สามารถรักษาความสะอาดได้ตลอดชีวิต





การศึกษายังแสดงให้เห็นว่าคนที่ตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศมีอัตราเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศน้อยมาก ส่วนผู้ชายที่ไม่ตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศนั้นจะมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าเพราะในระหว่างการมีความสัมพันธ์ทางเพศนั้น หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศสามารถถลอกหรือเป็นแผลเล็กๆที่ทำให้เชื้อไวรัสเข้าไปในบาดแผลนั้นได้ เป็นที่คาดกันว่าหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศอาจจปล่อยให้ไว้รัสและเชื้อโรคอื่นๆสามารถอยู่รอดได้ยาวนานกว่าที่อยู่ข้างนอกและมีเวลามากกว่าที่จะเข้าไปในร่างกาย เมื่อเร็วๆนี้มีการพบว่าเซลล์บางอย่างในหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศสามารถที่จะดักไวรัสเอชไอวีและทำให้เกิดการติดเชื้อได้





ความจริงแล้ว การตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากในประเทศยากจนที่มีโรคระบาดและไม่สามารถจัดมาตรฐานสุขอนามัยทางการแพทย์ได้ การตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานทางเพศลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด ในทางตรงข้าม จากหลักฐานที่ถูกตีพิมพ์แสดงให้เห็นว่าคนที่ตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศสามารถมีกิจกรรมทางเพศได้หลากหลายและผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่ตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเพราะเหตุผลเรื่องความสะอาดและสุขอนามัย


http://www.thaimuslimshop.com/news/index.php?category=4&id=367

 
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 04 มิ.ย.2005, 10:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรียนคุณอาเมน



ผมต้องลบกระทู้ที่คุณโพสในลักษณะเนื้อหาแบบนี้

ถ้าคุณจะโพสกระทู้นั้น กรุณาโพสกระทู้ที่มีเนื้อหา

หลักคำสั่งสอนทางศาสนาอิสลาม ที่ส่งเสริมทำให้คนทำความดี ละความชั่ว นะครับ



...



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง