Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พระพุทธศาสนา สรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
Ae
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 26 เม.ย. 2005
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2005, 9:43 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พระพุทธศาสนาสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ



พระพุทธเจ้าทรงประสงค์จะช่วยมนุษย์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจความจริงตามธรรมชาติว่าทุกสิ่งเมื่อเกิดขึ้นก็ต้องดับไปเป็นตามธรรมชาติ ร่างกายของเราก็ไม่เที่ยงเกิดขึ้นมามีร่างกาย มีจิต (ใจ) เกิดมาก็ต้องมีทุกข์ (ถ้าไม่เกิดก็ไม่ต้องทุกข์) แม้จริงร่างกายนี้มิใช่ของเรามิใช่ตัวตนของเรา (ไม่มีตัวตน) เพราะถ้าเป็นเราจริงก็คงไม่เจ็บป่วย ไม่ปวดเมื่อย ๆ ร่างกายนี้เป็น ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟมาประชุมกัน (รวมกันชั่วคราว) แล้วธาตุรู้ (จิตหรือวิญญาณ) เข้าอยู่อาศัยฯ ถ้าผู้มีสติปัญญาดีก็เข้าใจได้ถ้าสติปัญญายังน้อยก็จะไม่เข้าใจ จึงแนะนำให้สร้างปัญญาให้มากก่อนแนะนำให้ทำสมาธิหรือทำใจให้สงบเมื่อพิจารณาความจริงจะเข้าใจ

การทำใจให้สงบคือการหยุดคิด ซึ่งปรกติ “จิต” จะเป็นตัวกระตุ้นให้สมองคิด ๆ ๆ ๆ ตลอดเวลา ถ้าหากคิดมากไปสมองก็จะเพลีย ล้า เกิดความเครียดได้ หรืออาจจะถึงขั้นวิกลจริตได้ เราจึงควรต้องหยุดคิดบ้าง

การหยุดคิดก็โดยให้จิตทำงานอื่นหรือไม่อยู่ที่สมอง เช่น

อาจจะให้จิตนับเลขสั้น ๆ เช่น 1-10 (เรานึกนับเลขคือจิตนับ) หรืออาจจะให้จิตท่องคำสั้น ๆ เช่น พุทโธ (เราท่องคือจิตท่อง) หรืออาจจะให้จิตไปอยู่ที่ท้อง หรืออก หรือสะดือ (เรานึกถึงท้องจิตก็ไปอยู่ที่ท้อง) หรือดีที่สุดพระพุทธเจ้าทรงสอนให้จิตไปอยู่ที่ลมหายใจ คอยรู้ลมหายใจ เข้า-ออก ให้ชัดเจน (ถ้าสูดลมเข้า – ผ่อนออกจะ “ รู้ ” ลมได้ง่าย) ซึ่งทุกคนสามารถรู้ได้ตลอดเวลา ทั้งเวลาเดิน นั่ง นอน โดยเลือกเอาตามสะดวก

การที่มนุษย์เกิดความรู้สึก นึก คิด จำ เกิดอารมณ์ ก็เพราะจิตนั่นเอง เราพิจารณาร่างกายคือจิตพิจารณา และจิตก็ “ รู้-เข้าใจเอง ” เราสามารถทำจิตให้สงบได้ทั้งเวลาเดิน นั่ง นอน โดยเลือกเอาตามสะดวก เด็กอายุน้อยทำได้ง่ายมาก ถ้าหากจิต (วิญญาณ) มาจากที่ดีเช่น เทวดา หรือคนที่ไม่ทำผิดศีล 5 ก็ทำได้ง่าย ถ้าจิต (วิญญาณ) มาจากที่ไม่ดีเช่น จากสัตว์หรือเปรตก็ทำได้ยาก ถ้าทุกคนรู้วิธีและทำใจให้สงบบ่อย ๆ จะมีสติที่ดีและสมาธิที่ดี เมื่อใกล้ตายก่อนจิตจะออกจากร่างก็จะได้นึกถึงแต่เรื่อวดี นึกถึงบุญที่ได้ทำไว้จะได้ไปเกิดดี

สรุปว่าพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของ “ จิต ” มิใช่วัตถุ ดังนั้นจึงควรที่ทุกคนควรจะรู้วิธีทำใจให้สงบง่าย ๆ อย่างน้อยก็เพื่อแก้เครียด ช่วยให้หลับง่าย ใจเย็น สมองดี สุขภาพดี ฯ ถ้าเสนอภาพขณะแนะนำเด็กหรือกลุ่มคนให้ทำใจให้สงบง่าย ๆ ทาง TV คนทั่วไปที่ยังไม่รู้ก็จะได้รู้ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง



พระอาภาธโร

วัดทองกลาง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
มาดู
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2005, 4:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาค่ะ....
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง