Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อยากทราบการเผยแผ่พุทธศาสนาในอังกฤษค่ะ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
หมูอ้วน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 พ.ค.2005, 8:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใครพอจะทราบช่วยเล่าประวัติการเผยแผ่ ด้วยนะคะจะเอาไปทำรายงานวิชาพระพุทธศาสนาค่ะ
 
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 22 พ.ค.2005, 12:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ที่พอได้นะครับ


http://watmai.atspace.com/england.htm





พระพุทธศาสนาในประเทศอังกฤษ



พระพุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้าสู่ประเทศอังกฤษ เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๙๓ โดยนายสเปนเซอร์ อาร์คี ได้พิมพ์หนังสือศาสนจักรแห่งยูรพาทิศ ออกเผยแพร่ แต่ไม่มีผู้สนใจมากนัก จนกระทั่ง เซอร์เอ็ดวิน อาร์โนลด์ ได้เขียนหนังสือ ประทีปแห่งเอเซียขึ้น และได้พิมพ์เผยแพร่ใน พ.ศ. ๒๔๒๒ ก็ได้รับความสนใจจากชาวอังกฤษอย่างกว้างขวาง ทำให้ชาวอังกฤษเริ่มหันมาเลื่อมใส่ศรัทธษในพระพุทธศาสนามากขึ้น พ.ศ. ๒๔๒๔ ศาสตรจารย์ ที ดับเบิลยู ริส เดวิดส์ ได้จัดตั้ง สมาคมบาลปกรณ์ ขึ้น โดยมีวัตถุประสงฆ์เพื่อจัดพิมพ์พระไตรปิฎกเป็นภาษาอังกฤษออกเผยแพร่



ใน พ.ศ. ๒๔๕๐ มีการจัดตั้งพุทธสมาคมแห่งเกรตบริเตนและไอร์แลนด์ขึ้นในกรุงลอนดอน พร้อมกับพิมพ์วารสาร พุทธศาสตร์ปริทัศน์ ออกเผยแพร่นอกจากนี้ได้มีการจัดตั้งวิหารทางพระพุทธศาสนาขึ้นหลายแห่งในประเทศอังกฤษ เช่น พุทธวิหารลอนดอน ของประเทศศรีลังกา วัดไทย ของมูลนิธิสงฆ์อังกฤษที่ถนนอัมสตรีท กรุงลอนดอน และวัดพุทธประทีปของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน เป็นต้น

พระพุทธศาสนาในประเทศอังกฤษในปัจจุบัน



ในปัจจุบัน มีชาวอังกฤษหันมานับถือพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากรายงานในวารสารทางสายกลางของพุทธสมาคมลอนดอน ระบุว่า มีสมมาคมองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาจัดตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษประมาณ ๓๐ แห่ง เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหมู่ชนชาวอังกฤษ จึงก่าวได้ว่า พระพุทธศาสนาในประเทศอังกฤษค่อยๆ เป็นปึกแผ่นมั่นคงและก้าวหน้าไปโดยลำดับ



นอกจากนี้ประเทศอังกฤษยังมีความสัมพันธ์กับชาวพุทธในประเทศไทยโดยประธานสังฆสมาคม แห่งประเทศอังกฤษ ได้ทำหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอนขอเชิญผู้แทนสงฆ์ไทยพร้อมด้วยอธิบดีกรมการศาสนาเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและจัดหลักสูตรการศึกษาธรรม ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๗ กรมการศาสนาจึงได้ส่งคณะธรรมทูตออกเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ และต่อมาได้มีการสร้างวัดไทย และตั้งมูลนิธิพุทธศาสนาขึ้น ณ กรุงลอนดอน วัดไทยวัดแรกคือ วัดพุทธปทีป มีพระสงฆ์ไทยอยู่จำพรรษา และประกอบศาสนกิจ มีชาวพุทธที่เป็นทั้งชาวไทย และชาติอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศอังกฤษ มาประกอบกิจกรรมที่วัดไทยอยู่เสมอ เป็นจำนวนมาก ต่อมาก็มีวัดไทยตั้งขึ้นีกหลายวัด





..........



-วัดไทย ในอังกฤษ
http://www.watthaiuk.com



- วัดไทย ในต่างประเทศ
http://www.phrathai.net/web/web.php?Grp=watabroad
http://webindex.sanook.com/social_and_people/religion/bhuda/temple



แนะนำเว็บค้นหาข้อมูล
http://www.google.com





........

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แอน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2005, 6:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

น่าจะมีเนื้อหามากๆ
 
แอน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 07 มิ.ย.2005, 3:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แล้วมีวัดไทยในจีนบ้างไหมค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้า
 
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 07 มิ.ย.2005, 3:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

- จะหารูปพระพุทธรูปและวัดไทยในประเทศจีนจะหาได้ที่เว็บไหน ?



เท่าที่หามาได้จาก


http://watmai.atspace.com/china.htm



.............................

พุทธศาสนาในประเทศจีน



พระพุทธศาสนาได้เข้ามาในประเทศจีนดังได้ประกฎในหลักฐาน เมื่อประมาณพุทธศักราช ๖๐๘ ในสมัยของพระจักรพรรดิเม่งเต้แห่งราชวงค์ฮั่น พระได้จัดส่งคณะทูต ๑๘ คน ไปสืบพระพุทธศาสนาในอินเดีย คณะทูตชุดนี้ได้เดินทางกลับประเทศจีนพร้อมด้วยพระภิกษุ ๒ รูป คือ พระกาศยปมาตังคะ และพระธรรมรักษ์รวมทั้งคัมภีร์ของพระพุทธศาสนาอีกส่วนหนึ่งด้วย เมื่อพระเถระ ๒ รูป พร้อมด้วยคณะทูตมาถึงนครโลยางททพระเจ้าฮั่นเม่งเต้ ได้ทรงสั่งให้สร้างวัดเพื่อเป็นที่อยู่ของพระทั้ง ๒ รูป นั้นซึ่งมีชื่อว่า วัดแป๊ะเบ๊ยี่ แปลเป็นไทยว่า วัดม้าขาวเพื่อเป็นอนุสรณืแก่ม้าตัวที่บรรทุกพระคำภีร์ทางพระพุทธศาสนากับพระเถระทั้งสอง หลังจากนั้นพระปาศยมาตังตะ กับพระธรรมรักษ์ได้แปลคำภีร์พระพุทธศาสนาเป็นภาษาจีนเล่นแรก



ในสมัยราชวงศ์ฮั่น แม้ว่าพระพุทธศาสนาจะเป็นที่เลื่อมใสแต่ก็ยังจำกัดอยู่ในวงแคบคือ ในหมู่ข้าราชการและชนชั้นสูงแห่งราชสำนักเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวเมือง เพราะชาวจีนส่วนใหญ่ยังคงนับถือลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋า จนกระทั่งโม่งจื๊อ นักปราชญ์ผู้มีความสามารถยิ่งได้แสดงหลักธรรมของพระพุทธศาสนาให้ชาวเมืองได้เห็นถึงความจริงแท้อันลึกซึ้งของพระพุทธศาสนาเหนือกว่าลัทธิเดิม กับอาศัยความประพฤติอันบริสุทธิ์ของพระสงฆ์เป็นเครื่องจูงใจให้ชาวจีนเกิดศรัทธาเลื่อมใส จนทำให้ชาวเมืองหันมานับถือพระพุทธศาสนามากกว่าลัทธิศาสนาอื่นๆ พระพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ จนกระทั่งราชวงศ์ถัง (พ.ศ. ๑๑๖๑ - ๑๔๕๐) พระพุทธศาสนาก็เจริญสูงสุด เพราะได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าจักรพรรดิตลอดจนนักปราชญ์ราชบัณฑิตต่างๆโดยมีการสร้างวัดขึ้นหลายแห่ง และมีการแปลพระสูตรจากภาษาบาลีเป็นภาษาจีนมากมายพระพุทธศาสนาเริ่มเสื่อมลงเมื่อพระเจ้าบู๊จงขึ้นปกครองประเทศ เพราะพระเจ้าบู๊จงทรงเลื่อมใสในลัทธิเต๋า พระองค์ได้ทำลายพระพุทธศาสนา เช่น ให้ภิกษุภิกษุณีลาสิกขาบท ยึดวัด ทำลายพระพุทธรูป เผาคัมภีร์ เป็นต้น พระพุทธศาสนาไม่ได้รับการอุปถัมภ์จากราชสำนัก ก็เริ่มเสื่อมลงตั้งแต่บัดนั้น



พระพุทธศาสนาในประเทศจีนปัจจุบัน

ใน พ.ศ. ๒๔๕๕ ประเทศจีนได้เปลี่ยน ชื่อ ประเทศเป็นสาธารณรัฐจีน รัฐบาลไม่ได้สนับสนุนในพระพุทธศาสนา แต่สนับสนุนแนวความคิดของลัทธิมาร์กซิสต์ ซึ่งลัทธิดังกล่าว ได้โจมตีพระพุทธศาสนาตลอดมา และมีการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระพุทธศาสนามากขึ้นโดยเอาวัดไปใช้เป็นสถานที่ราชการอื่นๆ สถานการณ์ของพระพุทธศาสนาจึงยังไม่ดีขึ้น



ในพ.ศ. ๒๔๖๕ พระสงฆ์ชาวจีนรูปหนึ่ง ชื่อว่า พระอาจารย์ไท้สู ได้ช่วยกู้ฐานะของพระพุทธศาสนาไว้บางส่วนคือ ท่านได้ทำการปฏิรูปพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง แม้จะมีกำลังน้อย เริ่มด้วยการตั้งวิทยาลัยสงฆ์ขึ้นที่ วูซัน เอ้หมิง เสฉวน และ หลิ่งนาน เพื่อฝึกผู้นำทางพระพุทธศาสนาให้มีความรู้ทางพระธรรมวินัยและวิชาการทางโ,กสมัยใหม่ และนำมาเผยแผ่เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม จนผู้คนเลื่อมใสมากขึ้น จึงตั้งพุทธสมาคมแห่งประเทศจีนขึ้น



ใน พ.ศ. ๒๔๗๒ ความพยายามของพระอาจารย์ไท้สู ทำให้ประชาชนและรัฐบาลเข้าใจในพระพุทธศาสนาดีขึ้น ทางราชการได้ออกคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์สินของวัดห้ามนำไปใช้ในกิจการอื่น



ใน พ.ศ. ๒๔๗๓ สาธารณรัฐจีนมีพระภิกษุและภิกษุณีรวม ๗๓๘,๐๐๐ รูป มีวัดทั้งสิ้น ๒๖๗,๐๐๐ วัด ซึ่งนับว่าพระพุทธศาสนาเจริญในประเทศจีนพอสมควร



ใน พ.ศ. ๒๔๙๒ สาธารณรัฐจีนได้เปลี่ยนชื่อประเทศอีกครั้งหนึ่ง เป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน ปกครองด้วยลัทธฺคอมมิวนิสต์ ลัทธิคอมมิวนิสต์นี้มีคำสอนที่ขัดแย้งกับพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก พระพุทธศานาจึงไม่อาจอยู่ได้ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ในระยะแรกพรรคคอมมิวนิสต์เป็นว่าพระพุทธศาสนายังมีอิทธิพลอยู่ในจิตใจของประชาชนจึงไม่ใช้ความรุนแรง



ใน พ.ศ. ๒๔๙๔ รัฐบาลได้ออกกฎหมาย เพิกถอนสิทธฺวัดในการยึดครองที่ดิน ซึ่งเป็นการบีบให้พระสงฆ์ต้องลาสิกขาบทโดยทางอ้อม พระภิกษุที่ยังไม่ลาสิกขาก็ต้องไปประกอบอาชีพเอง เช่น ทำไร่ ทำนา เป็นต้น ทั้งที่ยังครองเพศเป็นภิกษุอยู่ และในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของสาธษรณรัฐประชาชนจีน



ใน พ.ศ.๒๕๐๙ - ๒๕๑๒ ได้มีเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากคือ รัฐบาลได้ยึดวัดเป็นของราชการ ห้ามประกอบศาสนกิจต่างๆ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาถือเป็นความผิดกฎหมาย พระภิกษุถูกบังคับให้ลาสิกขา พระคัมภีร์ต่างๆ ถูกเผา พระพุทธรูปและวัดถูกทำลายไปเป็นอันมาก จากเหตุการณ์นี้ทำให้พระพุทธศาสนา เกือบสูญสิ้นไปจากประเทศจีนเลยทีเดียว เมื่อประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน เหมา เจ๋อ ตุง ได้ถึงแก่อสัญกรรม



ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ รัฐบาลชุดใหม่ของจีนก็คลายความเข้มงวดลงบ้างและให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาของประชาชนมากขึ้น



ในปัจจุบันได้มีการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาลัทธิมหายานขึ้นใหม่ ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังให้การสนับสนุนจัดตั้งพุทธสมาคมแห่งประเทศจีน และสภาการศึกษาพระพุทธศาสนาแห่งประเทศจีนขึ้นในกรุงปักกิ่งอีกด้วย เพื่อเป็นศูนย์กลางการติดต่อเผยแผ่พระพุทธศาสนากับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปัจจุบันนี้ชาวจีนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาคู่ไปกับลัทธิขงจื้อ และเต๋า.





..... จบ .....



แหล่งหาข้อมูล และสอบถาม

-http://www.google.com

-http://www.dhammajak.net/directory/?c=2

-http://www.worldbuddhism.net/webboard/webboard.php?Category=wbbs

-http://www.dhammathai.org/buddhism/buddhismhistory.php

-http://www.dhammathai.org/webboard/webboard.php



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง