"ธรรมจารินี" เปิดโอกาสเด็กสาวชุบตัว-ชุบใจ

ตอบเมื่อ: 26 เม.ย.2005, 1:17 pm

"ธรรมจารินี"

เปิดโอกาสเด็กสาวชุบตัว-ชุบใจ

"การเป็นผู้ให้ ทำให้เรามีโอกาสดีกว่า ถ้าการให้นั้นมีพื้นฐานมาจากความเมตตา ให้อภัยและอดทน" นักบวชหญิง วัย 60 ยืนยันความเชื่อมั่น ในหนทางของการปฏิบัติธรรมของท่านผ่านกิจกรรมทางสังคมมากมาย ที่พิสูจน์ได้จากการทำงานที่ยาวนานต่อเนื่อง นับได้กว่า 40 ปี

"แม่ชีประทิน ขวัญอ่อน" จากเด็กสาวชนบท เรียนจบประถมต้นจากโรงเรียนใกล้บ้าน มีอาชีพเป็นช่างเย็บผ้า เมื่อประสบกับปัญหาสุขภาพที่ไม่อาจรักษาได้ จึงต้องเข้ามาบวชตามความเชื่อของบิดา ในเวลานั้นปัญหาของผู้หญิงที่คิดจะบวช คือการหาสถานที่บวช แต่ในที่สุดท่านได้บวชที่วัดสนามพราหมณ์ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี พ.ศ.2506 การบวชของท่านที่มีกำหนดเพียงสามวัน กลับกลายมาเป็นการบวชตลอดมา เนื่องจากความซาบซึ้งในหลักธรรม นับตั้งแต่พรรษาแรก

ตัวท่านเองเรียนจบระดับปริญญาโท ที่ประเทศอินเดีย ในปี พ.ศ.2519 ทำให้ท่านตระหนักในปัญหาของแม่ชีไทยที่ด้อยโอกาส โดยเฉพาะด้านการศึกษา เพราะตนเองประสบปัญหามาก่อน จึงต้องการกลับมาเพื่อช่วยเหลือแม่ชีไทยต่อไป จึงได้ร่วมผลักดันให้เกิดสถาบันแม่ชีไทยขึ้น ในปี พ.ศ.2512

เมื่อเริ่มทำงานท่านพบว่า ยังมีกลุ่มสตรีอื่นๆ ที่เป็นผู้ด้อยโอกาสและสมควรที่จะได้รับการป้องกันแก้ไขปัญหา เพราะสภาพสังคมปัจจุบันมุ่งไปสู่ความเสื่อม เนื่องจากกระแสการพัฒนาด้านวัตถุที่ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเยาวชนไทยขาดหลักยึดเหนี่ยวด้านจิตใจ แม้กระทั่งสถาบันครอบครัวที่เคยอบอุ่นร่มเย็น เป็นที่พึ่งพิงทั้งร่างกายและจิตใจก็อ่อนแอลงไป ส่งผลให้เยาวชนที่ไร้เดียงสาต้องตกเป็นเหยื่อของกระแสสังคมที่เอารัดเอาเปรียบ กลายเป็นผู้อ่อนแอ มีปัญหาและเป็นผู้ก่อปัญหาเป็นลูกโซ่สืบต่อกันไป

ดังนั้น ใน พ.ศ.2533 ท่านได้ทำโครงการ "ธรรมจารินีวิทยา" เพื่อให้การศึกษาแก่เยาวสตรี อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี โดยใช้หลักสูตรของการศึกษานอกโรงเรียนควบคู่ไปกับการสอนวิชาพุทธศาสนา เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นมีหนทางในการใช้ชีวิต แม้ไม่เป็นนักบวชก็ตาม งานด้านการศึกษาสำหรับเยาวสตรีที่เกิดขึ้นที่สถาบันแม่ชี สาขาอำเภอปากท่อ แห่งนี้นับว่าเป็นโรงเรียนสตรีแห่งแรกของเมืองไทย ที่ดำเนินงานโดยคณะแม่ชีไทย รับนักเรียนจากทั่วประเทศ มาอาศัยอยู่ประจำ เพื่อให้ได้เรียนวิชาทางโลกและทางธรรมควบคู่ไปพร้อมกัน พร้อมทั้งฝึกอบรมในการใช้วิถีชีวิตแบบเรียบง่าย และฝึกการทำสมาธิเบื้องต้นเพื่อพัฒนาจิตในท่ามกลางยุคแห่งกระแสโลกาภิวัตน์ควบคู่กับการฝึกอบรมวิชาชีพด้านต่างๆ เพื่อการพึ่งพาตนเองในการที่จะออกไปสู่สังคมต่อไป

ต่อมาในปี พ.ศ.2546 ได้ขอจัดตั้งเป็น โรงเรียนธรรมจารินีวิทยา โรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์ เปิดรับนักเรียนที่จบ ป.6 ที่อยู่ในภาวะยากลำบากประสบปัญหาทางครอบครัว เช่นครอบครัวแตกแยก เป็นเด็กกำพร้า หรือครอบครัวมีฐานยากจน เข้ามาเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ส่วนมัธยมปลาย ยังคงเรียนในระบบการศึกษานอกโรงเรียนเช่นเดิม

โรงเรียนธรรมจารินีวิทยา ถือได้ว่าเป็นโรงเรียนประจำสตรีวิถีพุทธ แห่งแรกที่ดำเนินการโดยคณะแม่ชีไทย เพื่อให้การอบรมบ่มเพาะเยาวสตรีให้เป็นคนดีของสังคม โดยมิได้เก็บค่าเล่าเรียนแต่อย่างใด เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางด้านการศึกษาสำหรับเด็กหญิงที่ขาดโอกาส ให้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งโลกและทางธรรม เพราะการให้การศึกษาคือ พัฒนาคนอย่างยั่งยืน และเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาสังคมด้านต่างๆ ที่กำลังทวีความรุนแรงในส่วนของเยาวสตรี

ในสถานที่กว้างใหญ่เกือบร้อยไร่ ที่เคยเป็นแผ่นดินว่างเปล่า ปัจจุบันร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีอาคารเรียน เรือนพัก สถานที่ปฏิบัติธรรม และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ล้วนเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของนักบวชสตรีท่านนี้

"เมื่อก่อนที่นี่เวลาฤดูฝนเป็นที่น้ำท่วมขัง แต่พอฤดูแล้งก็แห้งผาก ไม่มีต้นไม้ชนิดไหนเติบโตได้ พอแม่มาอยู่ก็เริ่มถมที่ทีละนิดๆ พอได้สร้างอาคารหลังแรก และการก่อสร้างทั้งหมดที่เห็นก็ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะไม่มีเงินมาก่อสร้าง ไม่มีใครมาทำบุญกับแม่ชีเป็นกอบเป็นกำ เงินที่เขามาบริจาคให้สร้างก็มักจะเป็นเงินแม่ชีด้วยกันที่บอกบุญต่อๆ กันไป"

สถานที่แห่งนี้มีกุลสตรีที่ผ่านการฝึกอบรม และออกไปอยู่ในโลกข้างนอกแล้ว นับได้เกือบพันคน

การเป็นผู้ให้ อย่างบริสุทธิ์ใจ คือปูชนียบุคคลที่ควรค่าแก่การยกย่อง และที่เหนืออื่นใด เมื่อมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดจะรับรู้ได้ถึงกระแสเมตตาที่ส่งผ่านออกมาจากดวงตาและท่าทีที่อ่อนโยน แม้อายุจะล่วงเลยมาถึงปัจฉิมวัย แต่ท่านยังคงเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวในการทำงาน

"เมื่อเราทำงานร่วมกับคนอื่น เราต้องคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นด้วย ต้องคิดว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย ต้องมีความเมตตา ต้องให้อภัย ต้องอดทนต่อกันและกัน เพราะทั้งเราและเขายังไม่เป็นผู้ที่หลุดพ้น การให้อภัยทำให้จิตใจของเราสงบเย็น คนอื่นก็รู้สึกได้ด้วย สิ่งเหล่านี้คือความจำเป็นในการอยู่ร่วมกัน"

สำหรับผู้ที่ต้องการเห็นบุตรหลานของท่านมาเข้ารับการฝึกอบรมบ่มเพาะคุณธรรม พร้อมทั้งพัฒนาจิตใจ ใช้ชีวิตศึกษาเล่าเรียนในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากอบายมุขทั้งหลาย อยู่ใกล้พุทธศาสนา ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง รู้เท่าทันตนเองและสังคม ภายใต้การดูแลของท่านแม่ชีประทิน ขวัญอ่อน ซึ่งในขณะนี้กำลังเปิดรับสมัครเยาวสตรีที่ต้องการศึกษาวิชาทางโลกควบคู่กับทางธรรม หรือเยาวสตรีที่อยู่ในภาวะยากลำบากขาดโอกาสทางการศึกษา สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดโดยตรงได้ที่

สถาบันแม่ชีไทยสาขา

อ.ปากท่อ ต.ปากท่อ จ.ราชบุรี 70140

โทร. 0-3228-1058, 0-9744-8665

ที่มา : นสพ.มติชน หน้า 31 วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 9907