ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
19 เม.ย.2005, 9:01 pm |
  |
สองขาหยั่งรากลึก ปฐพี
หลับลืมละชั่วดี โลภหลง
สองมือคลายคล้ายโง้ง โค้งวง
หลังตรงตั้งจิตมั่น อภิวันท์...จันทรา
ปล่อยกายใจใฝ่อิสระ ละคลาย
เคลื่อนกายาย่างกราย แช่มช้า
ปล่อยพริ้วไหวอ่อนนอก ในหนัก
พยัคฆ์ปักษาอาชาจัก สถิตย์ไท้...ร่ายรำ
..........
นอกไหวในหยุดนิ่ง ยิ่งสติ
รู้ตัวพร้อมหลอมทวิ ผลิผสาน
นอกในร่วมรวมพลัง สั่งปราณ
ดั่งสวรรค์บรรณาการ สยบมาร...นอกใน
รำร่าย...ไหว้พระจันทร์ ฉันท์มิตร
ไท้จี๋ฉวนชวนจิต สร้างสรร
ท่วงท่าครรลองคล้อง แสงจันทร์
รวมหนึ่งถึงเท่าทัน ปล่อยวาง ว่าง...เต็ม
พระจันทร์ยิ้ม.....28/09/2004-18:58 |
|
|
|
   |
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
19 เม.ย.2005, 9:05 pm |
  |
ส่งรู้สึกฝ่ามือ สองแขน
วาดลวดลายย้ายแดน ย่างเยื้อง
ลมขยับปรับปราณแล่น รอบท่า ฝ่ามือ
สลัดซัดอัดอวลเปลื้อง ล่องริ้ว พริ้วลม
..........
รู้สัมผัสก้าวย่าง พสุธา
ตามรอยสุริยันจันทรา ทั่วพื้น
วาดยันต์ต่างตามขา กรายย่าง ปฐพี
รำร่ายคล้ายแส้ฟื้น หวดฟาด อาชา
มณี ปัทมะ ตารา
ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ
คุรุผู้เมตตาธรรม...พระจันทร์ยิ้ม...คุรุแห่งมณี
29/09/2004-01:04 |
|
|
|
   |
 |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
06 ส.ค. 2006, 1:36 pm |
  |
|
    |
 |
นันทนา
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
08 ก.ย. 2006, 3:16 am |
  |
บังเอิญหลงผ่านมาค่ะ
เพราะจังเลยค่ะ
อยากจะออกไปรำไหว้พระจันทร์ตอนนี้เลยเชียว |
|
|
|
|
 |
พระจันทร์ยิ้ม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.ย. 2006, 12:34 am |
  |
Lover's Moon...
There's a lover's moon tonight
As I look back over my shoulder
All the stars are shining bright
Just like the nights when I used to hold her
She's out there somewhere
under the lover's moon
Lover's moon won't you shine on me
And answer with a memory
I wish I may, I wish I might
Have one last chance to hold her tight
Waiting, I know she's waiting
I know she waits for me
under the lover's moon
There's a lover's moon tonight
Shining down on heaven this world
So many souls all get it's light
But for me there is just one girl
And she's waiting, I know she's waiting
I know she waits for me under the lover's moon
Under the lover's moon
ค่ำคืนนี้มีจันทร์ที่ฉันรัก
แจ่มประจักษ์หมู่ดาวสกาวใส
ให้ใจหวนชวนคิดถึงหนึ่งดวงใจ
เคยโอบไล้ใต้แสงจันทร์ฉันเคียงเธอ
จันทร์นวลผ่องส่องแสงมาหาข้าเถิด
ส่องบรรเจิดเกิดความหวังดังปราถนา
ได้เคียงเธอได้เพ้อรักสักอีกครา
ดั่งจันทราคู่ดารายามราตรี
เธอเฝ้ารออยู่แห่งใดใต้แสงจันทร์
อยากให้รู้ในใจฉันมีเธอเสมอ
ฝากแสงจันทร์ส่องใจฉันสู่ใจเธอ
ว่า รักเธอ รอเธอ Under the lovers moon
Under the lovers moon... |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.ย. 2006, 2:50 pm |
  |
คืนราตรีจันทร์นวลชวนพินิจ
ว้าเหว่จิตยิ่งคิดยิ่งใจหาย
ส่งจิตออกตามไปฟุ้งกระจาย
ฟ้อนระเริง รำร่าย...ไหว้พระจันทร์
กราบขอบพระคุณครับ  |
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.ย. 2006, 10:24 pm |
  |
แดร์อีสมูนแดร์อีสซึ่งความรัก
ไอลุคชัดซึ้งตรงจิตรู้สึกมั้ย
หมู่ดวงดาวอีสชายนิ่งอยู่ไม่ไกล
จัสท์ไลท์เดอะไนท์เช่นนั้นก็เช่นเดิม
เลิฟเวอร์สมูนเช่นไหนก็เช่นนั้น
เมมเมอรี่ฉันบันทึกไว้ล้วนสร้างเสริม
ยูวิสใดสมปรารถนาพาต่อเติม
เลิฟยูเพิ่มออนลี่วันไม่ผันแปร
ไอเว็ทติ้งฟอร์ยูรู้ตรงจิต
ใกล้แนบชิดดวงเดียวกระแสแท้
ฝากเดอะมูนส่องใจให้ดวงแด
ไอทราบแน่ยูเว็ทติ้งUnder the lovers moon
ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรม...ท่านพระจันทร์ยิ้ม...คุรุแห่งมณี
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
seven11
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 ก.ย. 2006, 12:12 am |
  |
คืนจันทร์เสี้ยวเปรี้ยวจิต It's so shine
It's just like your smile, i like you
ถึงมิได้พูดคุยแต่อยากให้รู้
Wishing you happiness all night long
I'm waiting for you รู้ตรงจิต
ไม่ได้คิดไกลเกินเพลินให้หลง
เพียงแค่รู้ว่าฉันนั้นยังคง
ขอเธอจง Keep your mind สบายเทอญ
กราบขอบพระคุณครับ  |
|
|
|
|
 |
พระจันทร์ยิ้ม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 ก.ย. 2006, 1:05 pm |
  |
ดวงจันทร์ ก็ดวงเดิม
ดวงดาว ก็เหมือนเดิม
ราตรีนี้ ก็เช่นกัน
ดวงใจฉัน ยังเหมือนเดิม
เหมือนเดิม ยิ่งกว่าดวงจันทร์ ยิ่งกว่าดวงดาวใดๆ
......
หากเพียงราตรีใด ดวงใจฉันดับสลายไป
ดวงจันทร์ ก็ยังดวงเดิม
ดวงดาว ก็คงเหมือนเดิม
บางสิ่งนั้น...จึงจักคงอยู่เหมือนเดิมชั่วนิรันดร์กาล
เหมือนเดิม ยิ่งกว่าดวงจันทร์ ดวงดาว และดวงใจดวงใดๆ
...... |
|
|
|
|
 |
seven11
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 ก.ย. 2006, 3:07 pm |
  |
กาลเวลานำพาซึ่งทุกสิ่ง
ไม่หยุดนิ่งเคลื่อนไหวเกิดและดับ
ตะวันลับจันทราขึ้นหมุนเวียนกลับ
เปลี่ยนสลับไปอย่างนี้ทุกวันคืน
ปล่อยจันทราให้เป็นดั่งเช่นนั้น
จะแปรผันหรือยังคง ดำรงอยู่
มิครอบครองมิทำลายให้ดับสูญ
มิอาดูรในจิต ครามองจันทร์
กราบขอบพระคุณครับ |
|
|
|
|
 |
พระจันทร์ยิ้ม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2006, 1:40 am |
  |
คืนนี้ ...ไร้จันทร์ ไร้ดาว ไร้ใจ
เหม่อมอง ล่องลอย เรื่อยไป
ฟ้าหม่น หม่นหมอง ใจใคร
โหยไห้ โหยหา หนทาง
จากมา จากบ้าน แสนไกล
จากนี้ ไม่นาน จากไป
พานพบ พลัดพราก เวียนว่าย
อสงไขย อนันต์กาล นิรันดร
สายลม โลมไล้ ใบไผ่
ปลดปลง ปลิดปลิว พริ้วไหว
ร่วงแล้ว ร่วงเล่า ใจหาย
เดียวดาย คล้ายเฝ้า เงาจันทร์
หลับตา หลับใจ ข่มใจ
รำร่าย ลำนำ ธรรมไสว
จันทร์เจ้า ใจเจ้า หนใด
ขอไหว้ สักการะ บูชา
ส่องแสง แห่งจันทร์ ขจัดไล่
เมฆหมอก มัวหมอง หลับใหล
เงียบเหงา ซึมเซา หายไป
สดใส ใจสุข ทุกผู้นาม |
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2006, 3:32 pm |
  |
เพียงรู้สึกไร้ตัวตนไปรู้สึก
เพียงระลึกธรรมชาติมิมีสอง
เพียงหนทางห่างไกลตามครรลอง
เพียงธาตุพ้องก็รู้ได้จิตดวงเดียว
ธรรมะสวัสดีค่ะ
ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรม...ท่านพระจันทร์ยิ้ม...คุรุแห่งมณี
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
พระจันทร์ยิ้ม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 ก.ย. 2006, 11:41 pm |
  |
ห้วงราตรีหนึ่งแห่งกาลเวลา...
ผีเสื้อน้อยกระพือปีกโผบิน...โบยบิน
ทิวไผ่ไหวโยนโอนเอน
ลมเย็นพัดโชยมาแผ่ว...แผ่ว
สายน้ำไหลคดเคี้ยวหลบภูผา
ชายชรานั่งตกปลาถือคันเบ็ดรอคอย...รอคอย
เสียงฟ้าฝนลอยแว่วแว่วมาตามลม
สว่างวาบสายฟ้าฟาด คำราม...ครืน
ทันใด..คันเบ็ดไม้ไผ่ใยไม่อยู่คู่ชายชรา
สว่างวับ ตวัดควับสองครา..โค้งดาบวงพระจันทร์...วงพระจันทร์
ไร้คันเบ็ด ไร้ชายชรานั่งตกปลา ย่อมไร้ปลา
ชายชราใยไม่นั่งตกปลา...ตกคน
ครืน..ครืน..ครืน...
สายฝนหล่นเป็นสายประปราย...โปรยปราย
สายน้ำยิ่งเชี่ยวไหลไร้จุดหมายปลายทาง
เหม่อมองหนทางข้างหน้าพร่างพราย...พร่าใจ
พายุยังโหมกระหน่ำ ในใจกลับอ้างว้างเดียวดาย
เจ้าอยู่แห่งใด...แห่งใด |
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
23 ก.ย. 2006, 3:19 pm |
  |
ลองพิศดูก็รู้อยู่ตรงจิต
มิใช่คิดเพียงอารมณ์รู้สึกได้
เป็นปกติธรรมชาติไร้เดียวดาย
อยู่ที่ไหนจิตเธอนั้นคือฉันเอง
เพียงเหม่อมองก็เผลอไปข้างหน้า
เพียงย้อนมาสติชัดไร้คว้างเคว้ง
ตรงพร่าใจช่างเดียวดายธรรมบรรเลง
คือบทเพลงดูตรงจิต ณ ปัจจุบัน
ดูอ่อนโยน นิ่มนวล พริ้วปลิวไหว
กระเพื่อมในลมหายใจทรวงอกนั้น
รู้เบาๆก็คลายกลายตื่นพลัน
เบิกบานครั้นเธอพบฉัน ณ กลางใจ
ธรรมะสวัสดีค่ะ
ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรม...ท่านพระจันทร์ยิ้ม...คุรุแห่งมณี
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
seven11
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 ก.ย. 2006, 11:56 pm |
  |
|
|
 |
พระจันทร์ยิ้ม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
25 ก.ย. 2006, 4:32 pm |
  |
โรงเตี๊ยม... ณ สุดขอบทางช้างเผือก
ภายนอกดูโดดเดี่ยว หลังคาและผนังไม้บางส่วนก็ดูทรุดโทรมและผุพังไปตามกาลเวลา
แต่กลับกลมกลืนกับทิวป่าไผ่ที่รายล้อม และแสงจันทร์ที่ไร้ดวงจันทร์ในยามนี้
ประตูทางเข้ายังมีร่องรอยแห่งการเข้าออกอย่างโชกโชน
หนทางข้างหน้าทอดยาวไป คงยังอีกไกลพอๆ กับความสับสนวุ่นวาย
ช่างมองไม่เห็นจุดหมายปลายทางเสียเหลือเกิน...อย่างน้อยก็ในห้วงเวลานี้
พายุฝนคงจะเริ่มเหนื่อยอ่อน เหลือเพียงเม็ดฝนยังร่วงหล่นมาเป็นริ้วๆ
ร่างกายที่เปียกปอนถือโอกาสนำพาความคิดและดาบวงพระจันทร์คู่กายเข้ามายังโรงเตี๊ยม
ก่อนที่มันจะยิ่งสับสนและสั่งการอะไรไปมากกว่านี้
ภายในกลับแตกต่างสิ้นดี ส่วางไสวราวกับจะประชดประชันแสงจันทร์ภายนอก
ผู้คนหลากหลายอารมณ์ ระเบียงชั้นบนประดับประดาไปด้วยผ้าไหมและโคมไฟหลากสี
โต๊ะนั่งไม้เนื้อแข็งถูกแกะสลักลวดลายมังกรและหงส์ด้วยช่างไม้ฝีมือดี
ดอกไม้นานาพรรณในในแจกันเนื้อดีถูกจัดวางไว้ทุกโต๊ะ
ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล เย้ายวนใจ จนแม่นางในชุดบางพริ้วต่างอดคิดอิจฉาไม่ได้
ข้ามิได้ชื่นชอบสุราดอก เพียงแต่ชอบบรรยากาศในการร่ำสุรามากกว่า
พูดได้ดี พูดได้ดี เชิญดื่มอีกจอก.. แต่ข้าว่าท่านชอบแม่นางชุดแดงนั่นมากกว่ากระมัง..
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...
บุรุษที่มิชื่นชอบความงามของอิสตรี ย่อมมีเพียงบุรุษพิการตาบอดเท่านั้น...
เชิญดื่ม..ดื่มแด่สหายผู้รู้ใจ
สายลมยามราตรีพัดโชยผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง แล้วผ่านเลยไปยังบุรุษหนึ่งนั่งดื่มสุราอยู่ผู้เดียว
ร่างนั้นโงนเงนไปมา บ่นงึมงำ ราวกับกำลังต่อรองกับแรงโน้มถ่วงของโลกอยู่
สายลมแรกมิทันโชยสุดสาย พลันมีสายลมกระโชกรุนแรงตามมาอีกระลอก พร้อมกับใบไผ่สามสี่ใบ
สายลมที่สองยังมิทันพัดสุดสายเช่นกัน ใบไผ่กลับแยกออกเป็นหลายส่วน พริ้วกระจายร่วงลงพื้น
สิ่งหนึ่งกระทบแสงจันทร์วาบ แล้วพลันกระทบอีกสิ่งหนึ่งดังทึบ....
ฝนหยุดแล้วเหลือเพียงหยดหยาดฝนที่ทยอยหยดลงมาจากหลังคา..นอกหน้าต่างบานนั้น
ใยหยดฝนจึงไม่ใสสะอาด ใยสีขุ่นข้นคล้ายสีโลหิตสดๆ ของมนุษย์
คงมีบางสิ่งสงบแน่นิ่ง ท่ามกลางแสงจันทร์อยู่บนหลังคาเป็นแน่...
ใยยังมีผู้มิชื่นชอบการร่ำสุรา กลับชื่นชอบความตาย.... เจ้าคงรู้ดีกว่าข้าซินะ
เพราะเจ้ามิชอบการร่ำสุรา ชื่นชอบรสชาติของความตายเช่นกัน.... ต่างกันที่เจ้าไม่มีวันตาย
ข้าอยากรู้นัก ขณะที่เจ้าบินไปในอากาศ เพื่อลิ้มรสมัน เจ้าจะรู้สึกต่างกับข้าในยามนี้สักเพียงใด
ยามไร้สติเช่นนี้ สัญชาติญาณกลับยิ่งแจ่มชัด หรือเป็นเพราะข้าคิดถึงนางมากเกินไป
บุรุษโงนเงนผู้นั้นบ่นงึมงัมอีก พลางลูบไล้แผงห่อผ้าขนาดฝ่ามือที่วางอยู่ข้างไหสุรา
เสียงเตร็ง..เต็ง ...แว่วมา แม่นางผู้หนึ่งกำลังปลดปล่อยมันออกมาจากกู่เจิ้งคู่กาย
ราวกับ..ใช่..ราวกับเพื่อลิ้มรสจริตของผู้คนในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ทุกๆ คน...เช่นกัน
น้องชาย...ขอหมั่นโถวสองลูก ผัดผักเจจานนึง......แล้ว..ช่วยเรียกแม่นางชุดแดงมาหาข้าด้วยนะ
|
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
26 ก.ย. 2006, 12:11 am |
  |
มาแล้วท่าน อาหารที่ท่านปรารถนา โรงเตี๊ยมแห่งนี้ดูโดดเดี่ยวมาช้านาน แต่ก็ยินดีต้อนรับสายลม แสงแดด แสงจันทร์ หมู่มวลดอกไม้ เหล่าวิหค พร้อมฝูงผีเสื้อนานาพันธุ์ สงบ สันโดษ อิสระตามธรรมชาติ ไร้ความทะยานอยากทั้งปวง
ปลดความเหนื่อยล้า สลัดพายุร้ายสยบสิ้นเมื่อย่างกรายเข้ามา ในมือข้าไม่มีอาวุธใดๆ มีเพียงปลายนิ้วที่พรมพริ้วดีดสบัดลงกู่เจิ้งคู่กาย หยดอันไม่บริสุทธิ์สาดกระเส็นไว้เพียงภายนอก ล้วนย่างกรายเข้าสู่ประตูทางเดินแห่งนี้มิได้เลย ทว่า...ใครเล่า...สักกี่คน...จะยอมละทิ้งทั้งสิ้นทั้งปวง เพื่อย่างกรายเข้าสู่ประตูโรงเตี้ยมแห่งนี้
แม่นางเหม่งซุ้งกล่าวพลาง ขยับปลายนิ้วพริ้วสู่สายพิณ โอ๊ะโอวว....พิณตั้งไว้ข้างกู่เจิ้งก็เลยดีดพิณให้ฟังก่อน...อือม...เพราะมาก...เสนาะเสียดแทงโสตประสาทซะเหลือเกิน...แม่นางเหม่งซุ้ง
 |
|
|
|
   |
 |
พระจันทร์ยิ้ม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ย. 2006, 1:36 pm |
  |
....ที่แท้เป็นแม่นางเหม่งซุ้งจริงๆ !!!!!!!
มิทันสิ้นเสียงพิณ
หมั่นโถวกับผัดผักเจก็อันตรธานไป
บังเกิดเสียงฟ้าวอย่างแผ่วเบา ราวกับเสียงดาบ...
บัดนี้เหลือเพียงจานเปล่าสองจานบนโต๊ะ..และโต๊ะนั่งที่ไร้ผู้นั่ง
"นี่ๆ เจ้าน้องชาย ไหนบอกว่ามีท่านชายใดเรียกข้า หือ....." แม่นางชุดแดงตวาดใส่
............... |
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ย. 2006, 2:52 pm |
  |
เหอๆ....ที่แท้ท่านปี่แป่นั่นเองนะหรือ.....เชิญท่านๆ.....เหอๆ....เชิญพักผ่อนตามสบายท่าน
โรงเตี้ยมอาจไม่หะรูหะราอย่างในเมืองนะท่าน....เหอๆ
บัดเดี๋ยวอาหารอันเลอเลิศจะจัดให้ท่านตามที่ท่านปรารถนา....เหอๆ
สถานที่อาจผุพังไปตามกาลเวลา สรรพสิ่งใดในโลกนี้ล้วนอนิจจัง....เหอๆ
แต่ความเป็นเหม่งซุ้งของข้า ก็ปรารถนาเพียงแค่สดับฟังเสียงธรรมชาติ
เสียงน้ำในลำห้วยดุจพระกำลังแสดงธรรม
เขาเงื้อมง้ำคือ องค์พระที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง.....ดังที่ท่านซูตงโพกล่าวไว้
สัจธรรม สามารถรับรู้ได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสายน้ำในลำธารหรือภูเขาที่สูงตระหง่าน
เห็นธรรมดาแห่งธรรมชาติ สัจธรรมก็คลิ๊กพลิกฝ่ามือ
พิณหรือกู่เจิ้งจากนิ้วนางใด ก็หาเทียบความไพเราะได้ไม่
เชิญท่านปี่แป่สดับสัจธรรม ไปพร้อมกับข้าผู้มีนามว่า เหม่งซุ้ง....บัดนี้....เชิด...เหอๆ...
 |
|
|
|
   |
 |
seven11
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 ต.ค.2006, 11:29 pm |
  |
|
|
 |
|