ถามว่าพ่อแม่ตายแล้วก็ไปทำบุญที่วัดทุกวันพ่อแม่จะได้รับไหม?

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 9:01 am

นี้คือของที่ให้ในวันเผาศพ

มีคนเคยถามว่าพ่อแม่ตายไปแล้ว ลูกสาวอยากกลัวพ่อแม่จะได้รับความยากในปรโลก ก็เลยเข้าวัดทำบุญทุกวันโดยไม่ได้ขาด เรียกว่าเป็นประจำเลย ถามว่าพ่อแม่ที่ไปแล้วนั้นจะได้รับส่วนบุญที่ลูกทำอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไร?
เอาแบบมีเหตุและผลด้วยนะจะ ฮิฮิฮิ

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 4:09 pm

wfhcojq8iได้แน่ๆครับ
ผมเห็นมาแล้วว จากฟื้น

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 9:33 pm

พระพุทธองค์กล่าวว่า ผู้รับจะต้องอยู่ในฐานะที่รับได้
ในรณีที่ทำบุญนี้ ถ้าเป็นทานจำพวกสังฆทานก็เป็นวัตถุทาน ผู้ที่จะได้รับมีแต่ในฐานะ เปรตเท่านั้น ส่วนเทวดา ท่านมีของทิพย์อยู่แล้วท่านก็ได้แต่อนุโมทนาได้กับเรา ส่วนถ้าเป็น นรกภูมิก็ไม่ได้รับเลย

แต่การปฏิบัตด้วยการนั่งสมาธิให้มีกำลังจิตกล้า แล้วกำหนดจิตให้เป็นเมตตา แล้วแผ่ออกไป ไม่ว่าพ่อ แม่ สัตว์นรก เปรต เทวดา ย่อมรับได้หมด
มีผลทำให้จิตที่ร้อนรุ่ม ได้เย็นลงในบัดนั้น ส่วนผู้ที่ดีอยู่แล้วก็ยิ่งดียิ่งๆขึ้นไป ก็ปฎิบัตให้ดีเถิด

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 9:40 pm

เรื่องการอุทิศส่วนบุญนี้

มักจะเกิดความสงสัยว่า ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วจะได้รับส่วนบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ ถ้าได้รับ ได้รับอย่างไร ความสงสัยในเรื่องนี้มีมานานแล้ว

สมัยพุทธกาล ชาณุสโสณิพราหมณ์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า

ช. พระโคดมผู้เจริญ พวกพราหมณ์ย่อมให้ทานด้วยเชื่อว่าทานนี้ย่อมสำเร็จแก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ขอญาติที่ล่วงลับไปแล้วจงบริโภคทานนี้ ทานนั้นย่อมสำเร็จแก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้วหรือ ญาติที่ล่วงลับไปแล้วเหล่านั้น ย่อมได้บริโภคทานนั้นหรือ

พ. ดูก่อนพราหมณ์ ทานนั้นย่อมสำเร็จในฐานะ ย่อมไม่สำเร็จในอฐานะ (ทานย่อมมีโอกาสสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง)

ช. ฐานะเป็นไฉน อฐานะเป็นไฉน (โอกาสที่สำเร็จเป็นไฉน ไม่สำเร็จเป็นไฉน)

พ. บุคคลที่ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด (ยุให้เขาแตกกัน) พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ อยากได้ของ ผู้อื่นในทางไม่ชอบ ปองร้ายผู้อื่น เห็นผิด เมื่อเขาตายย่อมไปเกิดในนรก เลี้ยงอัตภาพด้วยอาหารของสัตว์นรก นี้เป็นอฐานะที่ทานย่อมไม่สำเร็จ

หากเขาไม่เกิดในนรก แต่เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน เลี้ยงอัตภาพด้วยอาหารของสัตว์ดิรัจฉาน นี้ก็เป็นอฐานะที่ทานย่อมไม่สำเร็จ

บุคคลผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ไม่อยากได้ของผู้อื่นในทางไม่ชอบ ไม่ปองร้ายผู้อื่น เห็นชอบ เมื่อเขาตายย่อมไปเกิดเป็นมนุษย์ เลี้ยงอัตภาพด้วยอาหารของมนุษย์ นี้เป็น อฐานะที่ทานย่อมไม่สำเร็จ

หากเขาไม่เกิดเป็นมนุษย์ แต่เกิดเป็นเทวดา เลี้ยงอัตภาพด้วยอาหารของเทวดา นี้ก็เป็นอฐานะที่ทานย่อมไม่สำเร็จ
บุคคลที่กระทำบาปกรรม มีการฆ่าสัตว์ เป็นต้น เมื่อตายไปย่อมเกิดเป็นเปรต เลี้ยงอัตภาพด้วยอาหารของเปรต หรือว่าญาติมิตรของเขาอุทิศปัตติทานมัยจากมนุษยโลกนี้ไปให้ เขาย่อมเลี้ยงอัตภาพ ด้วยปัตติทานมัยนั้น นี้แลเป็นฐานะที่ทานย่อมสำเร็จ

ช. ถ้าญาติที่ล่วงลับไปแล้วไม่เข้าถึงฐานะนั้น (เปรต) ใครเล่าจะบริโภคทานนั้น

พ. ญาติที่ล่วงลับไปแล้วเหล่าอื่นของทายก (ผู้ให้) ที่เข้าถึงฐานะนั้นมีอยู่ ญาติเหล่านั้นย่อมบริโภคทานนั้น

ช. ถ้าญาติที่ล่วงลับไปแล้วไม่เข้าถึงฐานะนั้น และญาติที่ล่วงลับ ไปแล้วเหล่าอื่นของทายกก็ไม่เข้าถึงฐานะนั้น ใครเล่าจะบริโภคทานนั้น

พ. มิใช่โอกาสที่จะมีได้ที่ฐานะนั้นจะพึงว่างจากญาติที่ล่วงลับไปแล้วโดยกาลช้านานเช่นนี้ อีกประการหนึ่ง แม้ทายกก็เป็นผู้ไม่ไร้ผล

ช. พระโคดมผู้เจริญย่อมตรัสกำหนดแม้ในอฐานะหรือ

พ. ดูก่อนพราหมณ์ เรากล่าวกำหนดแม้ในอฐานะ

ข้อที่บุคคลเป็นผู้กระทำบาปกรรม มีการฆ่าสัตว์เป็นต้น เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นช้างบ้าง ม้าบ้าง โคบ้าง สุนัขบ้าง ด้วยกรรมนั้น ส่วนข้อที่บุคคลนั้นเป็นผู้ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก และเครื่องประทีป แก่สมณพราหมณ์ ผู้นั้นย่อมได้ข้าว น้ำ มาลา และเครื่องอลังการต่างๆ ในกำเนิดเหล่านั้น

ข้อที่บุคคลเว้นขาดจากบาปกรรม มีการฆ่าสัตว์เป็นต้น เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นมนุษย์หรือเทวดาด้วยกรรมนั้น และข้อที่บุคคลนั้นเป็นผู้ให้ทานแก่สมณพราหมณ์ ผู้นั้นย่อมได้เบญจกามคุณ อันเป็นของมนุษย์หรือของทิพย์ ในมนุษยโลกหรือเทวโลกนั้น ด้วยกรรมนั้น

ดูก่อนพราหมณ์ แม้ทายกก็เป็นผู้ไม่ไร้ผล

ในลัทธิพราหมณ์มีความเชื่อถือกันว่า ทานที่ถวายเพื่ออุทิศให้ผู้ที่ ล่วงลับไปแล้ว ทายกผู้ให้ย่อมไม่ได้รับผลทาน ดังนั้นชาณุสโสณิพราหมณ์ จึงกล่าวอุทานด้วยความดีใจว่า พระโคดมผู้เจริญ ข้อที่แม้ทายกก็เป็นผู้ไม่ไร้ผลนี้ เป็นของควรเพื่อให้ทานโดยแท้ จากนั้นก็แสดงตนเป็นอุบาสก ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต

(ชาณุสโสณิสูตรและอรรถกถา ๒๔/๑๖๖ (พระไตรปิฎก เล่ม ๒๔ ข้อ ๑๖๖)

ลองอ่านละเอียดในนี้ครับ

http://www.dhammajak.net/book/sara/sara01.php สาธุ

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 10:06 pm

โอว คุณฌาน สาธุๆ

ขอลองสรุปภาษาไทยเป้นภาษาไทยอีกรอบดูนะคับ
ผิดถูกแก้ไขกันด้วย

- ทานที่ทำไป มีแต่เปรตเท่านั้น ที่จะอยู่ในฐานะรับได้
- ถ้าทานที่ทำไปแล้ว ผู้รับไม่ได้เป้นเปรต
ญาติคนอื่นๆที่เป็นเปรตก็จะได้รับ

- ยังไงเสีย ก้ย่อมมีญาติคนอื่นๆที่เป็นเปรต
เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีญาติเป็นเปรต (เราทุกคนมีญาติเป็นเปรต)
ทานที่ทำไปย่อมมีผู้รับ
อีกประการหนึ่งคือ ผู้ทำทานเองก็เป็นผู้ได้รับผล

- ถ้าเราทำทานแก่สมณพราหมน์อย่างไรไป
เช่น ที่พัก อาหาร เครื่องหอม
ถ้าเราไปเกิดเป็นช้าง ม้า วัว ควาย
เราก็จะเป้น ช้าง ม้า วัว ควาย ที่ได้รับที่พัก อาหาร เครื่องหอม ที่เคยทำไป

แต่ถ้าได้ไปเกิดเป็นคน หรือเทวดา
จะได้รับ .."เบญจกามคุณ"

ถ้าเป็นคนก้จะได้รับเบญจกามคุณในแบบของคน
ถ้าเป้นเทวดาก็จะได้รับเบญจกามคุณแบบของเทวดา
(อะไรอะ เบญจกามคุณ - กามคุณ 5 ฟังดูน่าครอบครองจริง)

ตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2008, 10:18 pm

สอดคล้องกับบทแปลของคาถากรวดน้ำที่ว่า

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค
ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนฺติ สาครํ
เอวเมว อิโต ทินฺนํ เปตานํ อุปกปฺปติ ฯ

น้ำตกลงบนที่ดอน ย่อมไหลไปสู่ที่ลุ่ม ฉันใด
ทานที่ทายกให้ไปจากมนุษยโลกนี้ ย่อมสำเร็จผลแก่ฝูงเปรตฉันนั้นเหมือนกัน.

(คามินธรรม- เป็นฝูงเลยนะญาติเรา)

ห้วงน้ำเต็มแล้ว ย่อมยังสาครให้เต็มฉันใด
ทานที่ทายกให้ไปจากมนุษยโลกนี้
ย่อมสำเร็จผลแก่ฝูงเปรตฉันนั้น เหมือนกัน.

- ทาน
- ที่ทายก
-ให้ไปจากโลกมนุษย์นี้
-ย่อมสำเร็จแต่ฝูงเปรต

ตอบเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 11:23 am

ที่ทุกท่านได้ให้ความกระจ่างแจ้ง
ดีแจดีมากคำตอบของท่าน ฌาณ-คามินธรรม จะขอ
เอาไปลงไว้ที่ www.supasok.com ด้วยนะ
เพื่อว่าสมาชิกมาเข้าที่นั้นไม่ได้ที่นี้
จะได้อ่านเห็นเป็นธรรมทานอีกทาง
นะสิบอกให้ ฮิฮิฮิ

ปล.ท่านสมาชิกอย่าพิมพ์ให้สุดแถวนะ
มันจะผิดกับไปดูก็ได้ ท่านใดพิมพ์จนสุดแถว
มักจะผิดเด้อสิบอกให้ ฮิฮิฮิ

ตอบเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 11:51 am

สาธุกับท่านฌาณ และท่านคามินครับ... ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 12:36 pm

มีหลักการด้วยแฮะท่านฌาณ ทุกทีเห็นชู 2 นิ้วอย่างเงี๊ยะ สู้ สู้

สาธุครับ ได้แก่ฝูงเปรตนั่นเองหนอ

ตอบเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 8:19 pm

คุณ"tanaphomcinta"ครับ

ผมตอบคุณแบบเห็นของจริงมานับครั้งไม่ถ้วนดีกว่า กำทำบุญของคุณให้พ่อแม่เขา
ได้รับแน่นอน 1 ล้าน% ในปรโลกอาศัยก็เพียงผลบุญเท่านั้น ไม่มีผลบุญก็อยู่อย่างลำบาก

ตอบเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 9:45 pm

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า:

คุณ"tanaphomcinta"ครับ

ผมตอบคุณแบบเห็นของจริงมานับครั้งไม่ถ้วนดีกว่า กำทำบุญของคุณ
ให้พ่อแม่เขาได้รับแน่นอน 1 ล้าน% ในปรโลกอาศัยก็เพียงผลบุญ
เท่านั้น ไม่มีผลบุญก็อยู่อย่างลำบาก

แฮ่ๆๆ อย่างว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยท่าน ก่อนอื่นต้องขออภัย
ก่อนนะ ช่วยบอกหน่อยนะว่าไปเห็นของมาจากไหน หรือ
ท่านเคยตายแล้วพื้นเหมือนท่าน พล.อ สะเนาะ จินตรัตน์
ที่ตายแล้วพื้นอยู่ถึงสองสามครั้งจึงตามจริงเท่าทุกวันนี้

อย่างนั้นหรือ ถ้าใช้ช่วยเล่าเรื่องที่ได้พบเห็นมาให้ฟังหน่อย
หรือเหมือนโกเดี่ยมที่อยู่นครศรีธรรมราช นั้นตายไป 7 วันจึง
พื้นขึ้นมา พอตาไปก็เจอทายกเอี่ยมที่ตายไปแล้ว 10 ปี มีของ
กินวางเต็มหน้าอยู่ โกเดี่ยม ก็ขอกินน้ำกับทายกเอี่ยมเพราะเป็น
คนรู้จักกัน แต่กินไม่ได้เพราะโกเดี่ยมไม่ได้ทำบุญไว้จะจับขันน้ำ
ก็ร้อนจะจับส้มเขียวหวานก็ร้อน เอาแค่ย่อๆเท่านี้ก่อนเดี่ยวมีต่อแน่
จะคอยดูคำตอบก่อนนะ ฮิฮิฮิ

ตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2008, 10:16 am

%ถูกต้องครับได้มาจากไหนครับ ผมก็เคยเรียนมาแบบนี้ด้วย

ตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2008, 10:19 am