TU
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589
|
ตอบเมื่อ:
11 ก.ย. 2008, 12:48 pm |
  |
เมื่อกษัตริย์โบดวง ทรงชักนำ “ในหลวง” ให้เปลี่ยนศาสนา
หนังสือพระราชอารมณ์ขัน
ค้นคว้าและเรียบเรียงนำเสนอด้วยความจงรักภักดี
ผู้เขียน วิลาศ มณีวัต
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชอารมณ์ขัน (humor) และพระราชปฎิภาณเชิงขันที่ฝรั่งเรียกว่า wit ถ้าถามว่า wit เป็นอย่างไร คงจะต้องตอบว่า เครื่องปรุง wit นั้น ต้องมี
อารมณ์ขัน ๑ ส่วน
ปฏิภาณ ๒ ส่วน
ความฉลาดหลักแหลม ๑ ส่วน
นำมาคลุกเคล้ากันเข้า เติมเปรี้ยวเค็มตามชอบ ก็จะได้เป็น wit ออกมา ใช้พริกขี้หนูโรยหน้าเสียหน่อยก็จะดียิ่ง
พูดถึง เรื่อง wit ของพระองค์ ก็ทำให้นึกถึง กษัตริย์โบดวง (H.M. King Baudouin) แห่งประเทศเบลเยี่ยม ได้ทรงเล่าถึงกษัตริย์ต่างแดนพระองค์นี้ให้ พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ ฟัง
เรื่องมีอยู่ว่ากษัตริย์โบดวงได้เสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยพระบรมราชินี ระหว่างที่ประทับอยู่ในพระนครในฐานะเป็นราชอาคันตุกะนั้น ได้ทรงชักนำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เปลี่ยนศาสนาไปนับถือศาสนาคริสต์อย่างพระองค์อยู่หลายครั้ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรัสถามถึงเหตุผลที่ทรงชักชวน กษัตริย์พระองค์นั้นกราบทูลว่า พระองค์ทรงมีความรักใคร่ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรามาก ไม่อยากจะพลัดพรากเหินห่างจากกันเลย แต่จะเป็นเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงนับถือศาสนาคริสต์ด้วยกันเท่านั้น เพราะศาสนาคริสต์สอนว่าคริสต์ศาสนิกชนเมื่อสิ้นชีพแล้วจะได้ไปอยู่ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้ปฏิเสธคำทูลโดยตรง แต่ทรงมีพระราชดำรัสตอบว่า พระพุทธศาสนาก็เชิดชูสัจจะ คือ ความจริง สอนให้ผู้นับถือเข้าถึงความจริง และสัจจะคือความจริงนั้นย่อมมีสภาพเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผู้ปฏิบัติถูกทางแล้วย่อมจะเข้าถึงได้ ดังนั้น ถ้าคำสอนแห่งศาสนาคริสต์เป็นสัจธรรม และพระผู้เป็นเจ้ามีจริง แม้พระองค์นับถือพระพุทธศาสนาก็คงจะเข้าถึงเป็นแน่ แม้ว่าจะมีผู้อื่นคั่นอยู่ระหว่างพระองค์กับพระผู้เป็นเจ้าก็คงจะมีคนเดียว คือ องค์กษัตริย์ผู้ทรงชักชวนพระองค์เท่านั้น
พระราชดำรัสนี้เป็นที่พอพระราชหฤทัยของพระราชอาคันตุกะมาก จนถึงสนพระราชหฤทัยที่จะทรงศึกษาคำสอนแห่งพระพุทธศาสนา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดหนังสือพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษ ส่งไปถวายในโอกาสต่อมา
ท่านมหาปิ่น (พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์) บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่อง “แปลก และน่าทึ่ง ในพระปรีชาสามารถเป็นมาก....ผมเล่าความจากกระแสพระราชดำรัสตรัสเล่าตามที่จำได้”
การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราได้ทรงโต้ตอบกษัตริย์โบดวงดังกล่าวข้างต้นนั้น แสดงให้เห็นถึง wit ของพระองค์ได้อย่างแจ่มชัดที่สุด ทั้งยังแสดงว่าทรงเข้าพระราชหฤทัยในศาสนาทั้งสอง คือ พุทธและคริสต์ อย่างลึกซึ้งถ่องแท้
การเสด็จฯ เยือนราชอาณาจักรเบลเยี่ยมอย่างเป็นทางการ
ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของกษัตริย์โบดวงเป็นเวลา ๓ วัน
เริ่มเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๐๓ ณ ศาลาเทศบาล กรุงบรัสเซลส์
ทั้ง ๒ พระองค์ทรงได้รับการต้อนรับจากทางการเทศบาล
Their Majesties attended a reception at the Brussels City Hall
on 4 October 1960, when they began a three-day state visit
to Belgium at the invitation of H.M. King Baudouin.
ที่มา : http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=19867 |
|
_________________ ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา |
|