มีภาพมหัศจรรย์เมื่อไปทำบุญที่พระพุทธบาทน้ำทิพย์ สกลนคร

ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 9:11 am

เมื่อวันที่ 26 ได้มีโอกาสไปร่วมทำบุญนมัสการรอยพระพุทธบาทซึ่งคณะคุณแม่แดงได้เดินทางไปนมัสการ ผมได้เก็บภาพมาให้ชมด้วยครับเป็นภาพที่ชาวคณะกำลังทำความสะอาดรอยพระพุทธบาท และขออธิฐานจิตขอให้เห็นพุทธานุภาพจึงได้กดชัตเตอร์ ก็ได้ภาพมาให้ชมกันนี่แหละครับ

ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 9:16 am

ภาพรอยพระพุทธบาทครับ ชัดเจนและสมบูรณ์มาก แต่มีคนใจร้ายได้มาทุบทำลายบริเวณที่เป็นกงจักร์บริเวณกลางพระบาท แต่คนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้วนะครับ

ผู้เยี่ยมชม

.....

....

ผู้เยี่ยมชม

เอาอีกแล้ว อภินิหารย์อีกแล้ว คนไทยกะเรื่องเหล่านี้เมือไรจะพ้นสะที่

ภูเก็ตก็มี ถ่ายรูปติดผีติดสางไร พยามจะขายรูปบ้าง

สร้างความแตกตื่นให้คนแห่กันไปบ้าง

ผู้เยี่ยมชม

เรื่องภาพถ่ายแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ทราบว่าจริงหรือไม่จริง แต่ภาพที่ผมเห็นในอินเตอร์เน็ต ดูราวกับว่า ผู้ถ่ายมีเจตนาโฟกัสไปที่ภาพ(ตามที่ผมคิดคนเดียว)คนข้างหลัง ภาพคุณหมอพรทิพย์ข้างหน้าเลยเบลอ ต้องขอเรียนไว้ก่อนว่า เป็นความคิดของผมคนเดียวและไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ร้าย หรือ โน้มน้าวชี้นำให้ผู้อื่นมาเชื่อตามผมนะครับ(มีประโยคเหล่านี้เพราะระวังเรื่องกฏหมาย) ผมคิดว่า ภาพข้างหลังนั้นมีอยู่แล้วและมีการโฟกัสไปที่คนข้างหลังหรือสิ่งของที่อยู่ข้างหลัง แต่เป็นภาพแต่งหรือไม่ผมไม่ทราบ และเป็นภาพจริงหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบอีก(จึงให้ได้แต่ความคิดเห็น)

ภาพรอยพระพุทธบาทครับ ชัดเจนและสมบูรณ์มาก แต่มีคนใจร้ายได้มาทุบทำลายบริเวณที่เป็นกงจักร์บริเวณกลางพระบาท แต่คนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้วนะครับ

ผมเห็นด้วยครับรอยพระพุทธบาทชัดเจนและสมบูรณ์มาก และคนที่มาทุบทำลายบริเวณกงจักร์ก็นิสัยแย่มาก ทุบแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ยังทำได้ลงคอ

ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 1:14 pm

เรื่องภาพที่ถ่ายมานี้ ได้ถ่ายจากกล้องดิจิตอล และก็เอามาลงในคอมครับ ไม่ได้มีการตกแต่งอย่างใดเลย ที่นำมาลงไว้นั้นไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น เพียงแต่อยากให้ผู้ที่ใฝ่ธรรม ได้เห็นได้ชมพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นบรมครูของพวกเรา แม้พระองค์ท่านได้ดับขันธ์ปรินิพพานไปนานแล้ว ก็ยังฝากรอยพระพุทธบาทหรือสัญญลักษณ์ของพระองค์ท่านไว้ให้พุทธศานิกชนรุ่นหลังได้สักการะบูชาเพื่อมีจิตระลึกถึงในพุทธคุณ ธรรมคุณและสังฆคุณ เสมือนหนึ่งได้อยู่ใกล้พระพุทธองค์ และที่นำมาลงไว้ในเว็ปนี้ก็ไม่มีเจตนาที่จะให้ยึดติดกับความมหัศจรรย์ หรือความประหลาดอะไร แต่อยากให้เราท่านทั้งหลายได้มีจิตเป็นพุทธานุสติ เป็นที่ตั้ง เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้วเท่านั้นครับ หากสิ่งที่ผมได้ทำลงไปแล้วนั้นเป็นการปรามาส ในพระรัตนตรัยก็ขอให้ผมได้รับโทษแต่เพียงผู้เดียว และขอให้ทุกท่านได้อภัยผมซึ่งมีอวิชาปิดกั้นนี้ด้วยเถิดครับ

ผู้เยี่ยมชม

ภาพถ่ายของคุณ thamma02 ผมทราบครับว่าไม่ใช่ภาพตกแต่ง และผมอยากให้เกิดความมหัศจรรย์ขึ้นจริงๆด้วยซ้ำ เพราะ เป็น บุญ เป็น กุศล เป็นสิ่งที่มีเหตุผลหากจะมีดวงวิญญาณใดมาอนุโมทนากับการทำกุศลนั้น

แต่ภาพถ่ายที่ภูเก็ต ผมไม่เข้าใจว่าจะมีวิญญาณเคียดแค้นมาจากไหนที่จะมองผู้ถ่ายเช่นนั้น เพราะสิ่งที่เขาประสบคือภัยธรรมชาติ เขาย่อมรู้ดีในเมื่อเขาไม่ได้ตายคนเดียว แถมยังมาตามคุณหมอพรทิพย์ซึ่งเขาลงไปช่วยด้วยเจตนาอันเป็นกุศลอีก ถ้าถ่ายติดภาพวิญญาณจริงๆ วิญญาณน่าจะอยู่ในสภาพที่ สับสน งุนงงมากกว่า หากจะบอกว่าก่อนตายมีอารมณ์โกรธด้วยเรื่องอะไรก็ตามทำให้อารมณ์นั้นนำไปเกิดเป็นโอปปาติกะที่มีความเคียดแค้นก็ไม่น่าจะตามคุณหมอพรทิพย์ น่าจะไปตามพวกอมเงินบริจาคมากกว่า

ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 3:56 pm

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 4:05 pm

ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญกับคุณ รักแม่ ด้วยนะครับที่เข้าใจในเจตนาของผม แต่เรื่องภาพที่ภูเก็ตนั้นผม ไม่ทราบว่าคุณเห็นจากที่ใหน หากมีภาพกรุณาโพสต์เข้ามาให้ชมสักหน่อยซิครับ เผื่อว่าผมจะได้พิจารณาด้วยคน ผมรู้สึกชื่นชอบในอัธยาศัยของคุณ หากมีเรื่องงานบุญที่ใหนบอกผมด้วยนะครับ ยินดีร่วมบุญกับคุณครับ

ผู้เยี่ยมชม

พิจารณาก่อนแล้วจึง คิด ทำ พูด (มีสติ) เป็นธรรมที่ช่วยแก้ปัญหาได้หลายอย่างนะครับ

ผู้เยี่ยมชม

หาตั้งแต่เย็นยังไม่เจอเลยครับ พรุ่งนี้ค่อยมาหาต่อแล้วกัน ตอนนั้นไปเปิดดูเพราะไปค้นข้อมูลเรื่องคุณไสย กลัวมาก ใช้คีย์เวิร์ด คุณไสย ไสยศาสตร์ คาถาป้องกันคุณไสย ไปเจอในเว็บที่ค้นด้วยคีย์เวิร์ดไสยศาสตร์ แต่ไม่ได้จำชื่อเว็บ จะเรียกว่าบังเอิญก็ได้ครับที่ไปเจอ เจอก็เปิดดู เดี๋ยวพรุ่งนี้มาหาให้ต่อนะครับ

ผมได้มาเจอกับทุกๆคนในเว็บนี้(แม้แค่ทางตัวหนังสือก็เถอะ) ก็ถือว่ามีบุญร่วมกันมาก่อนแล้วล่ะครับ

แล้วพรุ่งนี้จะหาดูอีกทีนะครับ

ผู้เยี่ยมชม

เห็นด้วยกับคุณ lert นะคะ คนเราหากจะคิด หรือทำ หรือพูด ควรมีสติ แต่ก็ไม่มีเจตนาให้ร้ายใครนะคะ และขอโมทนาบุญกับคุณ thamma02 ที่ได้นำภาพดี ๆ มาฝาก และแนะนำมาในกระทู้ ว่าไม่ให้ยึดติดสิ่งมหัศจรรย์ อันนี้ตรงกับคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเลยคะ ว่าไม่ให้ยึดติดกับนิมิตที่ได้ เพราะจะทำให้จิตติดอยู่กับภาพนั้น ที่คุณ thamma02 ได้เตือนสติมาในความคิดเห็นที่ 5 ดิฉันเห็นด้วยค่ะ และขอโมทนาบุญที่คุณได้บำเพ็ญมาแล้วนะคะ

ผู้เยี่ยมชม

ลืมไปอีกเรื่อง หากว่าคุณ thamma02 มีข่าวงานบุญก็โพสต์มาให้ดิฉันได้ทราบบ้างนะคะ จะขอร่วมทำบุญด้วยค่ะ และขอให้คุณบำเพ็ญบุญของคุณต่อไป อย่าได้หวั่นเกรงต่อสิ่งใด ๆ ดังคำที่คุณโพสต์ไว้ที่ว่า บุคคลที่ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลกฉะนั้นจงคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดานะคะ โมทนา สาธุ

ผู้เยี่ยมชม

เห็นด้วยกับคุณ ราชาวดี ครับ

อนุโมทนากับคุณ thamma02 ด้วยคนครับ

ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 11:37 pm

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้าใจ หากมีงานบุญแล้วผมจะบอกให้นะครับ จะได้ร่วมบุญกันครับ ขออนุโมทนาบุญกุศลในครั้งนี้ด้วยนะครับ

ผู้เยี่ยมชม

ต้องขออภัยทุกๆท่านด้วยนะครับ สิ่งที่ผมกล่าว(ทางตัวหนังสือ) คือ สัญญาที่จดจำมาจากการที่

ได้มานั่งดูและวิจารณ์กับเพื่อนๆในกลุ่มเพียงไม่กี่คนทางโทรศัพท์ ไม่สมควรนำมากล่าวใน

ที่สาธารณะเช่นเว็บบอร์ด(หมายถึงภาพถ่ายที่ภูเก็ต) แม้จริงๆจะบอกว่าไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่จากข้อเขียนก็คล้ายกับลักษณะของการชี้นำให้คนอื่นจับผิดรูปภาพนั้นและคล้อยตาม

ซึ่งเกินขอบเขตที่ผมควรจะกล่าวในเว็บบอร์ดของการสนทนาธรรมแห่งนี้และอาจสร้างความขัดแย้งได้ง่าย ซึ่งไม่มีประโยชน์เลยที่จะนำมากล่าว ผมเองก็เคยชอกช้ำกับการที่พูดเรื่องคุณไสยแล้วมีคน(ในสังคมภายนอก)หัวเราะมาแล้วสดๆร้อนๆ ผมเข้าใจดี ขอบคุณทุกท่านที่ให้สตินะครับ ต่อไปจะระวังจิตให้มากกว่านี้ แต่ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ผมด้อยปัญญาในทางธรรมและพยายามเสาะหาอยู่ และด้วยจริตของผมตั้งแต่เกิดก็เป็นสิ่งที่ทำให้การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองยากพอสมควร คราวหลังอาจจะมีอะไรที่หลุดมาบ้าง แม้เราได้ระวังแล้ว รบกวนทุกท่านเตือนแบบเอ่ยชื่อได้เลยนะครับ ผมไม่ถือโกรธ เพราะยิ่งโกรธก็ยิ่งทุกข์ ผมเลือกการพิจารณาจิตใจของตัวเองครับ(แม้จะยากสำหรับผม)

สำหรับคุณ thamma02 อย่าดูรูปเลยนะครับ จะเป็นการเน้นย้ำเปล่าๆว่าผมนำมายืนยันในสิ่งที่ผมเคยล่วงเกินผู้เผยแพร่รูปนั้นด้วยวาจา

วจีกรรมใดๆที่ผมได้เอ่ยออกไปผมขออภัยและขออโหสิกรรมด้วยนะครับ

ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองทุกท่านด้วยครับ

ตอบเมื่อ: 31 มี.ค.2005, 9:31 pm

คุณ รักแม่ครับ

คุณเป็นคนดีมากครับ แต่คุณไม่ต้องกังวลหรอกครับ ไม่มีใครผิดใครถูกหรอกครับ เพียงแต่คิดกันไปคนละอย่างเท่านั้น ไม่มีใครสามารถปิดกั้นความคิดของบุคคลได้หรอกครับ ทุกคนมีอิสระในความคิด สามารถคิดไปได้หลายแง่หลายมุม หรือยาวไกลไม่มีขอบเขต ผมชื่นชมคุณมากครับที่แสดงออกในความคิดที่เป็นของตัวเอง เพราะในบางครั้งเราก็ไม่สมควรคิดว่าความคิดของคนอื่นถูกต้องเสมอไป เราจะต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง และคิดอย่างชาญฉลาด หรือในสิ่งใดที่ไม่แน่ใจก็ต้องหาวิธีศึกษาให้แจ่มแจ้ง ผมเข้าใจคุณดีครับ และเชื่อว่าไม่นานคุณจะต้องได้พบสิ่งที่สูงสุดในชีวิต คุณมีคุณธรรมสูง รู้จักการให้อภัย ผมเชื่อว่าไม่นานแน่คุณจะต้องพบกับสิ่งที่คุณค้นหา เป็นกำลังใจให้ครับ แล้วก็ลืมเรื่องที่ผ่านมาซะ มาคุยกันถึงเรื่องหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์และการบำเพ็ญบุญกุศลในการต่อไปดีกว่าครับ

ผู้เยี่ยมชม

ขอบคุณคุณ thamma02 ครับ ผมเคยยึดโทสะเป็นที่ตั้งใครเตือนก็ไม่ฟัง คิดแต่ว่า เขาหวังร้ายกับเรา ทีหลังก็ไม่มีใครมาเตือน มีแต่ความบาดหมาง คลางแคลง แต่ในเว็บธรรมจักรแห่งนี้ ผมทราบดีว่าไม่มีใครคิดหวังร้ายกับเราและจากการอ่านบทความธรรมะหลายๆบทผมก็เห็นจริงตามนั้น และพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นโดยเฉพาะตรงส่วนที่คิดว่า เป็น จุดอ่อน ของเรา ผมอยากเป็นคนที่มืดมาสว่างไปน่ะครับ

ปล.ถ้าย้อนประวัติไปเช็คอดีตของผมตามเว็บที่มีการคุยการเมืองต่างๆจะใช้อารมณ์และไม่ยอมรับฟังใครเลยครับ สดๆร้อนๆ ก่อนผมจะมาที่นี่คือ เรื่องซึนามิกับการเมือง(ไม่ขอใช้คำว่าการหาเสียงนะครับ) แต่อย่าพูดเรื่องการเมืองที่นี่เลยนะครับ พอดีตอนนั้นเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งด้วย ถ้าการโต้ตอบทางตัวอักษรเปรียบได้กับการสู้ศึก ตอนนั้นก็ถือได้ว่า ประมาณ ละเลงเลือดเลยครับ เลือกตั้งผู้ว่า กทม. ตั้งแต่สมัยคุณสมัครจวบจนคุณอภิรักษ์ ตอนนี้ก็ยังติดตามเรื่องการเมืองฯอยู่(อยู่ที่วัยกับความสนใจในเรื่องต่างๆด้วย) แต่ไม่ไปเถียงกับใครแล้ว แสดงความคิดเห็นแล้วก็จบถ้าใครไม่เห็นด้วยก็ไม่ไปเถียง เราก็สบายใจ เขาก็สบายใจ มาอ่านบทความธรรมะดีกว่า รู้สึกว่า เราไปเสียเวลากับการไปเถียง(ในเว็บบอร์ด)ในเรื่องที่ไม่มีใครยอมใคร แต่ละคนก็ยึดมั่นในความชอบ ความคิดของตัวเอง และไม่มีข้อสรุปและใครเปลี่ยนแปลงความคิด(นี่ยังไม่เอาเรื่องของหัวคะแนนมารวมด้วย แต่ผมไม่ได้เป็นหัวคะแนนของใครนะครับ) แต่ตอนนี้ นอกจากเช็คเมล์ ดูหุ้น และพวก search engine ต่างๆ ฯลฯ ผมก็ดูเว็บธรมมะนี่แหละครับ อาจเป็นสถานการณ์ในชีวิตจริงอยู่ในสภาวะคับขันและต้องการคำแนะนำที่ถูกต้องและดีงามด้วยน่ะครับ เดินโซเข้ามาเลย มาตั้งกระทู้เรื่องคุณไสย จากการที่ได้อ่าน ได้ฟัง ได้รับธรรมทาน ทำให้จิตใจดีขึ้นเรื่อยๆน่ะครับ ไม่ได้ดีมาตั้งแต่แรก(ไม่ใช่เลวนะ) แต่โทสะ ทิฐิสูง เถียงแบบไม่ยอมใคร อ่านไปเรื่อยๆ เมื่อเราแสดงความไม่ดีออกไป เราจะสะกิดใจจากบทความที่เราอ่านมา บางครั้งโพสท์ข้อความไปแล้ว ไม่ถึงว่ารู้ด้วยตัวเองว่าไม่ควร แต่เมื่อมีผู้มาเตือนก็จะน้อมนำจิตคิด พิจารณาตามแล้ว สำนึกถึงสิ่งที่ได้กระทำลงไป เว็บอื่นๆ ที่เกี่ยวกับทางนี้ผมก็ไปดูทั่วแหละครับ ดูแล้วทำให้จิตใจเราดีขึ้นน่ะครับ ละอายที่จะรับคำชมของคุณ แต่จะพยายามทำให้ได้ตามคำชมครับ

ตอบเมื่อ: 01 เม.ย.2005, 9:07 pm

ตอบคุณ รักแม่ ครับ

ผมดีใจมากครับที่คุณเริ่มเข้าใจในเรื่องของหลักธรรม เพราะว่าธรรมทั้งหลายที่พระพุทธองค์ท่านตรัสเอาไว้เราสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้เป็นอย่างดี อย่างที่คุณได้เล่ามา หากเปรียบคุณเป็นดอกบัวผมก็ว่าคงเป็นบัวดอกที่ 2 แน่นอนครับ เพราะว่าคุณก็เป็นคนที่เข้าใจถึงหลักธรรมได้ดี เพียงแต่ต้องมีคนมาช่วยอธิบายเพียงเล็กน้อย คุณก็สามารถเข้าถึงซึ่งพระธรรม จากความคิดของผม คุณก็เป็นคนที่มีคุณธรรมอยู่ในหัวใจอยู่ แต่ยังหาไม่พบเนื่องจากยังไม่ถึงวาระ ของทุกอย่างจะต้องมีวาระเป็นของตัวเอง แต่เมื่อถึงวาระนั้นแล้วคุณก็จะเริ่มเข้าใจทีละน้อยจากนั้นก็จะพอกพูนขี้นเรื่อย ๆ จนเต็ม ก็ต้องอาศัยความเพียร และความอดทนอย่างสูง ก่อนนั้นผมก็เคยเหมือนคุณ มีโทสะรุนแรง มีโมหะฝังแน่นในสันดาน มีโลภะอยู่ในจิตใจอย่างเต็มเปี่ยม และก็สุดท้ายได้มาพบหลวงพ่อฤาษีลิงดำนี่แหละครับ ท่านเป็นบรมครูของผม ช่วยอบรมสั่งสอนขัดเกลาจิตใจให้กิเลสที่ฝังแน่นในสันดานออกไปทีละน้อยจนบัดนี้ดีขี้นมากแล้วครับ จนผมรู้สึกว่าผมเป็นคนละคนกับเมื่อก่อนนั้น อย่างที่ผมบอกไว้ในตอนต้นว่าหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถนำมาใช้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ผมลองมาแล้วครับ เอาตัวแรกเลยนะ พระพุทธองค์ท่านตรัสรู้ครั้งแรกคือ อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แค่นี้ก็พอแล้วครับที่จะเปลี่ยนคนให้เป็นอีกคนได้แต่คนนั้นต้องมีบารมีสั่งสมมาบ้างนะครับถึงจะเข้าใจและน้อมนำตามหลักธรรมนี้

พูดกันง่าย ๆ ก็คือ เราจะต้องรู้ตัวทุกข์ครับ ผมเชื่อว่าคุณก็ต้องรู้ดี ว่าสิ่งใหนเป็นทุกข์

สมุทัย เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ข้อนี้ก็น่าจะรู้นะครับ เพราะว่าคนเราจะทำอะไรลงไปน่าที่จะรู้ผลของการกระทำนั้นก่อนนะครับ

นิโรธ ความดับทุกข์

มรรค ทางแห่งความดับทุกข์

และยังมีปลีกย่อยอีกมากมายครับ แต่หลวงพ่อท่านได้นำ หลักธรรมนั้นมาอบรมสั่งสอนอย่างละเอียดและง่ายดาย ซึ่งฟังแล้วก็เข้าใจง่าย ซึ่งผมก็ได้เดินตามหลวงพ่อท่านจนท่านได้มรณะภาพไปทุกวันนี้ก็ยังยึดถือคำสอนนั้นอยู่ จึงทำให้มีชีวิตอยู่บนโลกที่วุ่นวายนี้ได้อย่างสงบครับ ผมว่าคุณก็เช่นกันครับผมเชื่อว่าคุณมาได้ถูกทางแล้ว เพียงแต่ยังไม่มั่นใจเท่าใดนัก เจอคนข้างทางก็ถามเขาบ้างนะครับ แต่ต้องถามคนที่รู้นะครับจะช่วยให้คุณถึงจุดหมายในชีวิตได้เร็วขึ้น ขอเอาใจช่วยนะครับ หรือหากคิดอะไรไม่ออกก็ลองมาคุยกันนะครับ ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความรู้น้อย ๆ ของผมเลยครับ

ตอบเมื่อ: 01 เม.ย.2005, 9:14 pm

ขออธิบายอีกนีดครับ ดอกบัวดอกที่ 2 ตามที่หลวงพ่อเล่าให้ฟัง หมายถึง ดอกที่กำลังจะเริ่มบาน เพียงแต่ได้รับแสงอาทิตย์ ก็จะบานได้อย่างเต็มที่

หากเปรียบเหมือนมนุษย์ ที่จะเข้าใจในหลักธรรม แต่ยังติดอยู่อีกนิดหน่อย เพียงแต่มีคนมาชี้แนะเท่านั้น ก็สามารถเข้าใจได้แจ่มแจ้งและพร้อมปฏิบัติตามได้อย่างเข้าใจ

ผิดถูกอย่างไรท่านผู้รู้กรุณาอธิบายเพิ่มเติมให้ด้วยนะครับ และขออภัยในความเขลาขอกระผมด้วยและพร้อยที่จะ ยินดีรับคำชี้แนะจากทุกท่านครับ