Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ...เรื่องของบุญบารมี...(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 11:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

เรื่องของบุญบารมี
โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)


คนเราเกิดมาในพิภพ มาหลายชาติหลายกัป หลายกัลป์
เวียนว่ายตายเกิด ทับถมแผ่นดินมาตลอด ไม่มีใครอยู่รอดปลอดภัย
มัจจุราชแห่งความตายจะมาถึงเราเมื่อไรก็ไม่ทราบ
ขอให้พิจารณาตรงนี้ อย่าคิดด้วยความประมาทว่า เราจะอยู่อีกนาน
เราก็ไม่ทราบว่าจะตายจากโลกไปเมื่อไรนั้น คติวิบัติ คติสมบัติ เราไม่ทราบเลย

คนเราไม่เหมือนกัน ต่างกันเพราะบารมีไม่เท่ากัน
บารมี ซึ่งแปลว่าความเพียร
เวียนว่ายตายเกิดมาหลายกัป หลายกัลป์ กัปหนึ่งก็เป็นหมื่นปี
พระพุทธเจ้าสร้างบารมีมามาก
อาตมานึกย้อนหลังเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา
ต้นมะขามกายะสิทธิ์ของอาตมา
ตอนอาตมาย้ายมาที่วัดนี้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙
ไปๆ มาๆ ยังไม่ได้อยู่ประจำ รักษาการเจ้าอาวาส
อาตมาคิดว่าทำไมหนอ ต้นมะขามต้นนี้ทำไมปืนถึงยิงไม่ออก
นกเหยี่ยว นกกา มากมายจริง
เดี๋ยวนี้นกดังกล่าวหายไปไม่มีเหลือสักตัว เนื่องจากพวกบ้ามายิงกินหมด
อาตมาก็ไปพิสูจน์ดูเห็นหนามพุงดอมากมาย ในสวนป่า
ก็ไปเจอที่ประหารชีวิตนักโทษ อยู่ที่โคนต้นมะขาม
ตอนนั้นมีพระอยู่ ๖-๗ รูป เท่านั้น

เราจึงมานั่งกัมมัฏฐาน ถึงได้รู้ว่าที่นี่เป็นประหารนักโทษ
เป็นที่รบพุ่งชิงชัยกันในสมัยสมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ที่มีค่ายคูอยู่ที่หลังวัด ที่ประหารนักโทษเป็นหิน
อาตมานำมาเก็บไว้ ก็มีหัวขโมย มาขโมยไป
อาตมาจึงขุดที่ใต้ต้นมะขามดูว่า ทำไมเม็ดมะขามจึงได้เป็นรูป ๑๒ นักษัตร
หนึ่งฝักมี ๑๒ เม็ด ครบรอบนักษัตร เป็นสัตว์นานาชนิด
ชลประทานมาช่วยบุกเบิกทำให้เตียน
เมื่ออาตมาขุดดินใต้ต้นมะขาม ปรากฏว่าพบศพทั้งหมด ๔๐ ศพ
ตอนนั้นมีหลวงตาอยู่ ๒ รูป ช่วยทำศพให้ แผ่เมตตาให้
สวดตอนสี่ห้าทุ่มแล้วจึงเผาหมดไป
พอเผาหมดแล้ว ต้นมะขามนักษัตรก็เหี่ยวแห้งเฉาตายไป
เหลือแต่ต้นลูก ต้นเดิมใหญ่มาก มีอายุนับพันปี
วิญญาณนักโทษประหารเหล่านั้น อยู่ที่ต้นมะขามกายะสิทธิ์ ปืนจึงยิงไม่ออก


สาธุ สาธุ สาธุ
 


แก้ไขล่าสุดโดย ลูกโป่ง เมื่อ 05 เม.ย.2008, 12:08 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 11:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอนหลังนี้มะขามนักษัตรนั้น ก็กลายมีมากกว่า ๑๒ เม็ดบ้าง
ไม่ถึง ๑๒ เม็ดบ้าง แต่ก็ยังเป็นรูปร่างหน้าสัตว์เหมือนกัน
ตรงนั้นเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดเรานี้ยังมีเทวดาที่ต้นพิกุล
สอนแม่ชีสวดมนต์ มหาเมตตาใหญ่
ถ้าใครมาแล้วมีสมาธิเข้าขั้นแล้วจะเห็น ว่าจะมีอะไรบ้างในวัดนี้
ถ้าใครมาบวชอยู่ที่วัดนี้ไร้บุญวาสนาก็จะอยู่ไม่ได้ จะเพี้ยนไปเลย
ไปแล้วไม่เห็นกลับมาสักองค์ล้มหายตายจากกันไปหมด

สภาพการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไป ของศักดิ์สิทธิ์ก็กลายเสื่อมไป
เหมือนต้นมะม่วงอกร่อง เอาพันธ์อย่างดีมา
ไปปลูกในสถานที่อันไม่สมควร เช่นดินไม่ดี
และไม่เอาใจใส่รดน้ำพวนดิน มะม่วงอกร่องมันก็กลายไป
มีรสเปรี้ยวไม่มีรสหวานเหมือนเดิม เพราะที่ดินไม่ดี
ฉันใดก็ฉันนั้น เราจะดูเรื่องคนสถานที่ ก็ไม่เหมือนกัน
คติสมบัติ สร้างความดีไม่ถูกสถานที่
อุปทิสมบัติ สร้างความดีผิดตัวบุคคล กาลสมบัติสร้างความดีผิดกาลเวลา
ประโยคสมบัติสร้างความดีไม่เสมอต้นเสมอปลาย
ถ้าเราปฏิบัติธรรมเสมอต้นเสมอปลาย ท่านจะมีบารมีสูงขึ้นกว่าเดิม
แต่เดิมบ้านเราเคยมีเงินแค่ร้อยบาท จะมีเงินเป็นพัน
แล้วจะมีเงินเป็นหมื่น และเป็นแสน

เพราะฉะนั้นก็ขอเจริญพรทุกคน มีบุญไม่เท่ากันหรอก
บางทีเราเทศน์อธิบายไปอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็บอกว่ายังไม่เข้าใจ
แต่คนที่มีบุญวาสนาเขาเข้าใจ
ยกตัวอย่าง เมื่อนานมาแล้วตอนที่กุฏิเก่าของอาตมา คนมากันแน่น
แล้วก็มีอิสลาม มียืนอยู่หน้ากุฏิ เราก็ให้พร เพราะมีคนมาถวายสังฆทาน
แปลกที่อิสลามมารับพร แล้วก็ขอรูป ๒ นิ้วไปใส่กระเป๋า
เขายืนรับพรอยู่ห่างตั้งใจรับพร เขาก็ได้
รับพรนั้น คนที่อยู่ข้างในไม่ได้พร เพราะไม่ได้ตั้งใจ
แล้วอิสลามคนนั้น ก็ขับรถไป
รถคว่ำแหลก แต่ตัวเขากลับไม่เป็นอะไรเลย เพราะเขารับพรไป

นี่แหละท่านทั้งหลาย คนที่ไร้บุญวาสนา
ถึงเวลา ตีสิบสอง พระพุทธเจ้าแก้ปัญหาเทวดา
เหมือนอย่างที่ เทวดาที่อยู่ต้นพิกุล
ก็มาสอนแม่ชีสวดมนต์เวลาตีสิบสองเหมือนกัน
จะสวดมนต์เสียงดังที่ศาลาหลังเก่า พลับพลา พลับเพ วิโรธนัง
ตีสี่พระพุทธเจ้าเล็งญาณ พุทธกิจ ๕ ประการไม่เคยว่าง
ตอนเช้า บิณฑบาตโปรดสัตว์
ตอนสายัญเห ธัมมะเทสนัง
ตอนเย็น แสดงธรรม ภิกขุโอวาทัง
ตอนหัวค่ำ สอบอารมณ์กัมมัฏฐาน อัฏฐรัตเตเทวะปัณธนัง
ยี่สิบสี่นาฬิกา แก้ปัญหาเทวดา
เดี๋ยวก็ยังมีอยู่ เทวดาจะมาชวนแม่ชีก้อนทอง ปานเงิน
สวดมนต์ตอนยี่สิบสี่นาฬิกา
อาตมาจึงให้แม่ชีถามเทวดาว่า ทำไมต้องมาอยู่ที่ต้นพิกุล
ต้นพิกุลต้นนี้มีอายุประมาณพันปี
ก็เนื่องจากว่าโดนสาปมาจากสรวงสวรรค์
ผิดประเวณีนางฟ้า พระอินทร์สาปมา
ถามว่าจะครบร้อยปีเมื่อไร เทวดาก็บอกว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อาตมาก็จดไว้
พอครบกำหนดร้อยปี ต้นพิกุลโค่นลงมาเองโดยไม่มีลมพัดเลย
แล้วกิ่งก็ล้มไปทับกำแพงโบสถ์ ซึ่งเป็นไม้หักไป ๒ อัน นอกนั้นไม่เป็นไร
และต้นก็แยกออกเป็นท่อนสองท่อน อาตมาก็เลยไม่ต้องไปทำอะไร
นี่แหละท่านทั้งหลายบารมีเราไม่เท่ากัน
บ้านไหนโต๊ะหมู่บูชาสกปรก
ปล่อยให้เด็กไปนอนแล้วก็เล่นกันที่ในห้องพระ รับรองเทวดาไม่เข้าบ้านนั้นแน่
ถ้าบ้านไหนรักษาความสะอาดสวดมนต์เป็นประจำ
เทวดาจะรักษาโต๊ะหมู่ เรียกว่า เทพรักษา บ้านนั้นจะเจริญรุ่งเรือง
เทวดามีประจำคนไหม ขอตอบว่ามี
เทวดาประจำวันเกิดรักษา ถ้าเทวดาออกเมื่อไรต้องตาย
หลวงพ่อโสธรมีคนไปกราบไหว้เป็นจำนวนมาก มีเทวดารักษาถึง ๑๖ องค
แต่พระพุทธรูปองค์อื่นๆ เช่น พระนอน พระพุทธชินราช หลวงพ่อวัดไร่ขิง
มีเทวดาเพียง ๑๐ องค์ เงินทองก็ต่างกัน


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 11:10 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนเราก็มีเทวดารักษา ท่านต้องมองด้วยปัญญาจะเห็นว่า
คนนี้มีเทวดารักษาที่ศรีษะจะมีโง้วเฮ้งที่ศรีษะ มันจะมีแสงออก
ท่านมีสมาธิละเอียดจะเห็นแบบนี้
เพราะการเจริญพระกัมมัฏฐานเป็นการสร้างบารมีให้กับตนเอง
ของใครของมันทำกันเอาเอง อาตมาประสบมามากมาย
ก่อนมาอยู่วัดนี้อาตมาเดินธุดงค์ มาหลายแห่งแล้ว สำเร็จมาหลายแห่งแล้ว
ท่านทั้งหลายที่เป็นหนุ่มเป็นสาว สาวแซ่แก่แม่หม้าย
อาตมาพยายามไปหาว่า แซ่นี้คืออะไร
มีสาวแล้วก็มีแซ่ โบราณเขาพูดให้เราคิด
แซ่ตัวนี้คือชาติผู้ดี คือ วงศ์ตระกูล ถ้าแปลปัจจุบันนี้แปลว่า นามสกุล
สาวต้องสวยต้องรวยด้วย แปลว่า พรหมจารี ไม่บกพร่อง ไม่มีอะไรเสียหาย
แซ่ ตัวนี้แปลว่า สกุล รุนชาติ พร้อมมูลบริบูรณ์สำหรับแม่บ้าน
เคหะศาสตร์ ควรเอาสองอย่างนี้มาเป็นแม่บ้าน

คนเราจะพ้นทุกข์ได้ก็เพราะความเพียร เดินจงกรมนั่งกัมมัฏฐาน
ความเพียรเป็นบารมีอันหนึ่งสามารถเป็นที่พึ่งของตัวเองได้
ในเมื่อสามารถเป็นที่พึ่งของตัวเองได้ ก็เป็นการช่วยตัวเองโดยเฉพาะ
นัตถิ สันติ พลังสุขัง สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มีอีกแล้ว
ถ้ามีความสงบอยู่ที่ไหนก็มีความสุขอยู่ที่นั่น

จุดมุ่งหมายของพระพุทธเจ้า อีกจุดหนึ่ง คือ ท่านต้องการทุกคนไปลามาไหว้
เราจะเห็นพระสงฆ์องค์เจ้าไปไหน ก็จะต้องมาลา
เมื่อมาก็ต้องไหว้ รายงานตัวให้ทราบ
สองพันกว่าปีแล้วยังใช้ได้ดีอยู่จนบัดนี้ มีประโยชน์ประจำชีวิตมาก
คนยุคใหม่ตั้ง ๒๕ ศตวรรษ คนจะอายุสั้น
เมื่อก่อน ๒๕ ศตวรรษ คนอายุยืน
คนมีธรรมะมากอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
มายุคใหม่สมัย บังอาจและก้าวร้าวกับพ่อแม่
และไม่มีอโหสิกรรมต่อกันด้วย
ยกตัวอย่าง บางทีลูกหลาน ว่าพ่อว่าแม่ โดยไม่ได้เกรงใจ
บางบ้านพ่อแม่ด่าลูก ด่าแล้วยังไม่พอยังแช่งลูกอีก
เมื่อก่อน ๒๕ ศตวรรษนั้น คนมีธรรมะมาก มีจิตใจเมตตามากกว่าคนสมัยนี้
คนสมัยนี้ห่างเหินจากความเมตตา กรุณาซึ่งกันและกัน ไม่มีความจงรักภักดี
เท่าที่อาตมาสังเกต ตามพุทธทำนายหลังจาก ๒๕ ศตวรรษ
คือ ครึ่งของศาสนา เพราะศาสนาที่พระองค์ประกาศไว้ ๕,๐๐๐ ปี
มันจะค่อยๆ เสื่อมคลาย เสื่อมลงตามสภาพ


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 11:13 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดังนั้น ลูก สมัยใหม่นี้ ยืนพูดกับพ่อแม่ ไม่มีการเคารพ
แต่พระสงฆ์ยังทำตามประเพณีอยู่
จดการบวชเข้าไว้ เพื่อต้องการให้เคารพผู้มีอาวุโส
เหมือนอย่างเวลาเราตกฟากเวลาเท่าไร ก็จดไว้
พี่ชายใหญ่ต้องเป็นพ่อ พี่สาวใหญ่ต้องเป็นแม่
ช่วยเลี้ยงน้องเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่
คนเราเดี๋ยวมีธรรมะแต่ปาก แต่ไม่มีธรรมะประจำใจ
รับศีลก็รับแต่ปาก แต่จิตใจก็ไม่ได้รับด้วย
ถ้าปฏิบัติธรรม จิตใจของท่านก็จะยอมรับ
คนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้รับศีล ก็ยังพูดตามไม่ได้ มันจึงไม่เข้าถึงจิตใจ
เกิดกลียุคใน ๒๕ ศตวรรษ นั้นเป็นความจริงทุกประการ
ผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน
ผู้ดีก็จะเดินเข้าไปในตรอกซื้อที่ซื้อทาง
ขี้ครอกขายที่ได้ก็มาอยู่ตึกพาณิชย์ ขายของไม่ได้ก็เจ๊ง

ตามพุทธทำนาย หลัง ๒๕ ศตวรรษ จะเกิดกลียุค
พี่น้องจะฆ่ารันฟันแทงกัน ลูกจะฆ่าพ่อแม่
พ่อแม่จะฆ่าลูก นั้นเป็นความจริงแล้ว
คนที่ไร้ธรรมะขาดเมตตาปราณี จะฆ่ารันฟันแทงกัน
เมื่อก่อน ๒๕ ศตวรรษ พี่น้องรักกันช่วยเหลือกัน ไม่ฆ่ารันฟันแทงกัน
ก็เพราะ เขาเคารพพ่อแม่
คนเรายุคใหม่นี้ ไม่มีการเคารพพ่อแม่เลย จึงไม่มีระเบียบวินัย
และจารีตประเพณี วัฒนธรรม ก็จะจืดจางหายไป อย่างน่าใจหาย
พระพุทธเจ้าสอนไว้ชัดเจนว่า สายเลือดของเรา
ตั้งแต่ปู่ ย่าตาทวด สร้างความดีกับลูกหลาน
คนไทยรับรองจิตใจของตนเอง
ว่ามีอัธยาศัยรักพี่รักน้อง ไม่ทำลายพี่ทำลายน้อง
เป็นคนมีธรรมะ ไม่ใช่หน้าไหว้หลังหลอก
คนโบราณเขารักกัน ที่น้ำใจ
คนสมัยใหม่นี้ไม่รักกันที่น้ำใจ
รักแต่เปลือกไม่ถึงแก่น ความรักจึงไม่มั่นคงถาวร
คนสมัยก่อนเขาปฏิบัติธรรมมาก คนสมัยนี้ไม่ปฏิบัติธรรม
คนสมัยก่อนพอวันพระเขาจะไปวัด รักษาอุโบสถ
พาลูกพาหลานไปด้วย เดี๋ยวนี้ไม่มีการทำอย่างนั้น
การเข้าวัดเป็นการไปเที่ยววัด เป็นการทัวร์บุญ
ถามถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร ก็ตอบว่าไม่รู้


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 12:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อสมัยสุโขทัยนั้น ไม่ต้องเป็นพี่น้องกันเลย
เขาต้องการคนดีมาอยู่ใกล้กัน รวมกันเป็นหมู่บ้าน
เขายกที่ให้ฟรี เพราะที่ทางสมัยโบราณไม่มีโฉนด
เดี๋ยวนี้แม้เป็นพี่น้องกัน ที่ดินเพียงคืบเดียวก็ยังโกงกัน
ยกตัวอย่าง ครอบครัวที่เชียงราย
พ่อแม่ยกที่ดินให้ แบ่งให้กันคนละล๊อค
และที่แต่ละผืนจะมีร่องน้ำไหลผ่าน
โดยพี่คนโตมีที่ดินอยู่ต้นน้ำ อุดน้ำไม่ให้ไหล
ไม่ให้น้องกิน แล้วก็ปิดรั้วไม่ให้เดิน
เวลานอกจะออกต้องเดินอ้อมไปไกลกว่าจะไปถึงถนนใหญ่
พอพี่คนโตมีลูกคนหนึ่ง ไม่ยอมพูด เป็นใบ้
จนอายุ ๑๐ ขวบแล้วก็ยังไม่พูด ทำอย่างไรก็ไม่พูด
พอเขามาที่วัดอัมพวัน อาตมาก็บอกให้เขารีบไปเปิดน้ำ
แล้วให้มานั่งกัมมัฏฐานที่วัดเป็นเวลา ๑๕ วัน ให้เจ้ากรรมนายเวร
น้องคนเล็กเป็นผู้หญิง และน้องเขยก็เป็นตำรวจ จึงมีความอิจฉาน้อง
ท่านทั้งหลายก็จงอย่าไปอุดน้ำ
อย่าไปอุดถนนหนทางไม่ให้ใครเขาเดิน มีลูกจะเป็นใบ้

ยุคใหม่สมัยนี้ ท่านทั้งหลายอย่าไปไว้ใจทาง
อย่าไปวางใจคน ท่านจะจนใจเอง
ท่านจะเสียเอง คนเดี๋ยวนี้เชื่อไม่ค่อยได้
ไม่ว่าจะเป็นนางฟ้า นางสวรรค์ ก็เชื่อไม่ได้
นางเมขลาสมัยก่อนนั้นเชื่อได้
ช่วยเหลือพระมหาชนกให้เข้าฝั่งไปถึงมิถิลานครได้
แต่เมขลาสมัยนี้ชอบล่อแก้วหลอกลวง
ตำราโบราณพูดไว้ไม่ผิดเลยที่ว่า
มีเงินเขาก็นับว่าน้อง มีทองเขาก็นับว่าพี่
ไม่มีเงินไม่มีทองก็ไม่มีพี่น้องเลย

ท่านทั้งหลายอย่าสร้างอะไรให้ตัวเองเดือดร้อน
และอย่าไปทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน
และก็ให้พยายามอย่างยิ่งอย่าไปเบียดเบียนตัวเอง
และอย่าไปเบียดเบียนคนอื่นเขา เท่านี้ก็พอเหลือกินเหลือใช้
เมื่อสมัยสุโขทัย ที่พระพุทธศาสนาเจริญมาจาก นครศรีธรรมราช
ซึ่งมาจากศรีลังกา ทำให้นครศรีธรรมราชมีหลักธรรมดี
มีแหวน นะโม มีเครื่องถมลายทอง
มีปัญญาเพราะนั่งกัมมัฏฐาน สมัยก่อนนั้น คนนครฯ เป็นคนใจร้าย
หากินทางการประมง พี่น้องก็ฆ่ารันฟันแทงกัน
พระอรหันต์ สององค์ขึ้นฝั่งที่นครศรีธรรมราช
สร้างวัดมหาธาตุ และสร้างวัดอรัญญิกาวาส ให้พวกนครฯ
เรียนหนังสือ เรียนวิชาการ และนั่งกัมมัฏฐาน
จึงมีปัญญาทำเครื่องถมลายทอง
และก็กลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ต่อผู้ใหญ่

อาตมาเคยถาม ชาวนครฯ ว่าอะไรเป็นสัญลักษณ์ของ นครฯ
พากันตอบว่าวัดมหาธาตุ ตอบผิดกันหมด
ต้องตอบว่าแหวนนะโม
เพราะคน นครฯ กลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จึงมีแหวนนะโม
นะโม เป็นหัวใจของ นครฯ ใครไม่มีแหวนนะโม คนนั้นไม่ใช่คนนครฯ
พระเจ้ากรุงสุโขทัย จึงได้นิมนต์พระสององค์นี้ขึ้นเมืองสุโขทัย
พระสถูป เจดีย์ มีรูปร่างคล้ายของศรีลังกา
พระราชาทรงผนวช บวชในพระพุทธศาสนา
หาธรรมะมาปกครองบ้านเมือง คือ เมตตานั่นเอง


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 12:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนเรานี้ ถ้ามีการเจริญพระกัมมัฏฐานแล้ว จะรักกันจะมีเมตตาต่อกัน
สามีภรรยาจะเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น ไม่ใช่พระเจ้าช่วยเราได้
พระพุทธเจ้าสอนให้เราพึ่งตนเอง ช่วยตนเอง ให้สอนตัวเอง
สองมือเรานี้พึ่งฝีมือเราเอง หมายถึง มือข้างหนึ่งมี ๕ นิ้ว

แต่มือข้างหนึ่งแต่ละนิ้วหมายถึง
๑. จริงต่อการงาน
๒. จริงต่อหน้าที่
๓. จริงต่อวาจา
๔. จริงต่อบุคคล
๕. จริงต่อความดี

มืออีกข้างหนึ่ง แต่ละนิ้วมีความหมายดังนี้
๑. ภูมิรู้
๒. ภูมิธรรม
๓. ภูมิฐาน
๔. ภูมิปัญญา
๕. ภูมิปัจจุบัน

พึ่งตัวเองได้เลย ทำเท่านี้เอง
ไม่ต้องไปใช้ฝีมือของคนอื่น ใช้ฝีมือของเราก็อยู่ได้
คนสุโขทัยมีเมตตามาก เพราะมีธรรมะ
คนเราเดี๋ยวนี้ ปากว่าตาขยิบ
ต่อหน้าเป็นอย่างหนึ่ง ลับหลังเป็นอีกอย่างหนึ่ง
ปากหวานจิตใจเชือดคอ

คนสมัยสุโขทัย ประกอบด้วยลักษณะ ๔ ประการ คือ

๑. ชอบช่วยเหลือกัน ก่อสร้างไปทางไหนเขาก็จะช่วยกัน
แต่คนสมัยนี้ไปไหนชอบทำลายซึ่งกันและกัน
เรียกว่าเพื่อนบ้านร้านถิ่น
คนโบราณนั้น ญาติธรรมนั้นดีที่สุดแล้ว
ญาติทางสายโลหิตบางทีก็ไม่รักกัน
สู้ญาติธรรม หรือธรรมทายาท
ที่ท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรม เรียกว่า ธรรมทายาท

๒. ละเอียดอ่อน จิ้งจกทักเขายังเชื่อ
เดี๋ยวนี้พ่อแม่ทักยังไม่ยอมเชื่อเลย คนโบราณละเอียดอ่อนมาก
อ่อนน้อมถ่อมตน แขกมาก็ต้อนรับ
ไม่เหมือนคนสมัยนี้หยาบคายมากเถียงคำไม่ตกฟาก

๓. ชอบงอก ไม่ชอบหด ไม่ชอบการเหี่ยวแห้ง
ชอบปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา เดี๋ยวนี้ชอบทำลายตัดต้นไม้หมด

๔. ชอบต่อสู้ ไม่เลี่ยงงาน อดทนต่อสู้กับงาน


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 12:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อานิสงส์ที่เราเจริญพระกัมมัฏฐาน เราได้ของเราเองไม่ใช่คนอื่นได้
กัมมัฏฐานทำคนให้ฉลาด ให้หลักความจริงใจ
รู้จักชีวิตประจำวันว่าควรทำอะไร
ไม่ใช่ไปนั่งเพียงสวรรค์นิพพาน นั่งให้ญาณ ๑๖ เกิด
กัมมัฏฐานทำให้คนรู้จักปรมัตธรรม
ไม่หลงติดอยู่ในบัญญัติธรรม บัญญัติอารมณ์
เพราะฉะนั้นอารมณ์ดี อารมณ์ร้ายสำคัญมาก
ทำคนให้มีศีลธรรมและวัฒนธรรม อันดีงาม
ทำคนให้รักใคร่กันสนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เราทำกัมมัฏฐานนี้ แผ่เมตตาให้ศัตรูกลายเป็นมิตร
ทำคนให้เมตตากรุณากัน และยินดีเมื่อคนอื่นเขาได้ดี
ทำคนให้เป็นคน ให้ดีกว่าคน ให้เป็นพระใจประเสริฐ
ทำคนไม่ให้เบียดเบียนกันเว้นจากการเอารัดเอาเปรียบกัน
ทำคนให้รู้จักตนเอง และรู้จักปกครองตนเอง ปกครองครอบครัวด้วย
และทำให้เราเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย ไม่มีมานะ ทิฏฐิถือตัว
ใครจะตักเตือนว่ากล่าวก็จะไม่โกรธ
ทำคนให้เป็นผู้หนักแน่น มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม
ทำคนให้มีกายวาจาใจบริสุทธิ์ เหมือนทองคำธรรมชาติที่หล่อหลอม
ทำคนให้ได้รับความสุข กัมมัฏฐาน ทำให้เดินทางถูกต้อง
ทำคนให้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นประโยสาร
สามารถป้องกันภัยทางอบายภูมิได้
คือ เปรตนรก อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน ไม่ต้องไปในภูมินั้นอีกต่อไป
เป็นปัจจัยให้ได้พบมรรคผลนิพพานในชาติต่อไป
ทำกิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลง
ทำให้มีใจสุขุมเยือกเย็น ทำให้เป็นผู้มีสติรอบคอบ
ทำให้ความจำดีขึ้น ทำให้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ หายไป
ทำให้ความเชื่อความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยดียิ่งขึ้น

ความดีนั้นไม่ใช่จะได้มาอย่างง่ายดาย จะเอาเงินทองไปซื้อก็ไม่ได้
และทำแทนให้กันก็ไม่ได้ ความดีนั้นกว่าจะได้มาแสนจะยาก
ต้องทำด้วยความลำบากยากเย็นเข็ญใจ
ชีวิตมนุษย์ มันขื่นขมไปหมด ไม่มีอะไรหวาน
เป็นของดีที่หาได้ยาก ต่างคนต่างหามา
เพราะฉะนั้นบุญบารมีของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน

ญาติพี่น้องท้องเดียวกัน ก็มีดีไม่เท่ากัน
น้อยมากที่จะมีดีเหมือนกัน
ต่างคนต่างมา ต่างเวรต่างกรรมจากการกระทำมาไม่เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น ญาติธรรมนั้นดีที่สุด
ญาติสายโลหิตก็ใช้ไม่ได้ เพราะยังมีการฆ่ากัน ยังจะทะเลาะวิวาทกัน
พี่น้องท้องเดียวกันก็ไม่ใช่ญาติ ญาติคือคนสนิทคนใกล้ชิดกัน
ญาติธรรมจึงดีที่สุด เป็นญาติในพระพุทธศาสนาด้วยกันจะไม่มีทะเลาะกันเลย
จะพูดกันรู้เรื่อง จะเข้าใจกันได้ง่าย ฉะนั้นการปฏิบัติธรรมเป็นญาติกับพระศาสนา


คัดลอกจาก...หนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม 16
http://www.jarun.org

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2008, 10:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณธรรมเริ่มเสื่อมจากใจคน
นับวันศีลธรรมจักหายากนัก


สู้ สู้ ทักทาย
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2008, 2:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ....สาธุ...สาธุค่ะคุณลูกโป่ง

ผู้แบ่งปันธรรมดีดี...สู่ญาติธรรมเสมอ สาธุ สู้ สู้ ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 19 มิ.ย.2008, 5:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ เป็นบทความที่ดีมากเลยครับ มึน
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง