Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ อีกหนึ่งความหวังของเด็กไทย
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 01 เม.ย.2008, 6:27 pm
โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
หรือในชื่อใหม่ว่า
ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๑
โดยก่อตั้งครั้งแรกที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร
โดยนำแบบอย่างการศึกษาพุทธศาสนาที่ประเทศศรีลังกา
ที่จัดการเรียนการสอนแก่เด็กและเยาวชนในวันอาทิตย์
มาเป็นแนวทางการศึกษาพระพุทธศาสนาของเด็กและเยาวชนไทยเรา
และก็ได้แพร่หลายขยายสาขาออกไปทั่วประเทศ
โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
ที่เกิดขึ้นในประเทศศรีลังกา และประเทศไทยนั้น
มีปรารภเหตุที่แตกต่างกันของที่มา
แต่มีความมุ่งหมายในแนวทางเดียวกัน
คือ ต้องการให้เด็กและเยาวชนได้มีความใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนา
เรียนรู้หลักธรรมคำสอนแล้วนำไปประพฤติปฏิบัติ
เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีจริยธรรมและคุณธรรม
เป็นแบบอย่างในสังคม
ตามที่กล่าวว่า มีปรารภเหตุที่แตกต่างกันของที่มานั้น
กล่าวคือ ประเทศศรีลังกาได้ถูกปกครองโดยประเทศนักล่าอาณานิคมมานานหลายสิบปี
พุทธศาสนาในประเทศศรีลังกา ก็ถูกเบียดเบียนจากนักปกครองชาวต่างชาติต่างศาสนา
ที่ต้องการให้ผู้คนของศรีลังกาหันไปนับถือศาสนาของพวกเขา
วัดวาอารามหรือพุทธสถานบางแห่ง
จะถูกพวกต่างชาติที่เข้ามาปกครองยึดไปเป็นศาสนสถานของตน
ทำให้ชาวศรีลังกาที่หนักแน่นศรัทธาในพระพุทธศาสนา ขมขื่นใจไม่ใช่น้อย
ครั้นเมื่อประเทศศรีลังกาได้รับอิสรภาพแล้ว
ก็มีการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาเป็นการใหญ่
จึงจัดให้มีโรงเรียนศึกษาพระพุทธศาสนาขึ้นในวันอาทิตย์
ซึ่งเป็นวันหยุดเรียนของทางราชการ
ให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษากันอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ
ทำให้สถานะของพระพุทธศาสนาในประเทศศรีลังกา
กลับมามีบทบาทในสังคมศรีลังกาอย่างสำคัญอีกครั้ง
ซึ่งนับวันจะยิ่งมั่นคงแข็งแรงขึ้นตามลำดับ
สำหรับประเทศไทยที่ได้มีการจัดการศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ขึ้น
ก็โดยปรารภถึงเด็กและเยาวชนของชาติ
ที่นับวันจะเหินห่างพระพุทธศาสนามากขึ้นทุกที
เพราะโรงเรียนที่เคยมีอยู่ในวัดวาอารามต่างๆ
ก็ไปมีอยู่นอกวัด ทำให้เด็กห่างวัด
การศึกษาแผนใหม่แม้ไม่ขัดแย้งกับคำสอนในพระพุทธศาสนา
แต่ก็จะไม่เกื้อกูลต่อพระศาสนา
ถ้าครูผู้สอนไม่รู้จักนำธรรมะในพระพุทธศาสนา
ไปประยุกต์ให้สอดคล้องกับวิชาการสมัยใหม่
อีกทั้งสังคมเมืองใหญ่ก็ล้วนมีสิ่งล่อสิ่งเร้า
ที่ทำให้เด็กและเยาวชนหันเหไปในทางผิดได้เสมอ
และก็มีตัวอย่างที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นแก่เด็กและเยาวชนให้
เป็นข่าวปรากฏตามสื่อมวลชนอยู่ไม่น้อย
ทำอย่างไรที่จะให้เด็กและเยาวชนได้รู้ถึงคำสอนในพระพุทธศาสนา
แล้วนำไปประพฤติปฏิบัติ
เป็นภูมิคุ้มกันให้พวกเขาก้าวพ้นห้วงเหวของความไม่ดีไม่งามต่างๆ ไปได้
จึงได้มีการจัดตั้งโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ขึ้น
โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ของไทยเราตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ไม่ได้สอนเฉพาะเรื่องพระพุทธศาสนาเท่านั้น
แต่ได้จัดให้มีการเรียนการสอนวิชาการต่างๆ เข้ามาเสริมด้วย
เช่น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ดนตรี นาฏศิลป์ และวัฒนธรรมไทย เป็นต้น
เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่มีใจรักในวิชาการเหล่านี้ได้เรียนรู้อย่างเต็มที่
และเกื้อกูลกับวิชาที่เด็ก เรียนในโรงเรียนประจำ
แต่ปัญหาของโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
ที่หนักอกผู้บริหารมาตลอด ก็คือขาดทุนทรัพย์ในด้านการจัดการศึกษา
ในสำนักเรียนใหญ่หรือวัดใหญ่ในเมืองที่มีฐานะดี
เพราะมีรายได้จากศาสนสมบัติของวัด
เช่น ค่าเช่าตึกอาคารพาณิชย์ และที่ดินของวัด (ที่กัลปนาสงฆ์)
ก็สามารถจัดการศึกษาได้อย่างยั่งยืนถาวร
แต่ถ้าเป็นสำนักเรียนเล็กๆ หรือวัดเล็กๆ
ไม่มีทุนทรัพย์ก็ไม่สามารถจะจัดการศึกษาให้ดำเนินไปได้โดยตลอด
ต้องอาศัยกำลังศรัทธาของชาวบ้าน
และครูบาอาจารย์จากโรงเรียนภายนอกเข้ามาช่วยสอน
ซึ่งก็เป็นการเสียสละของพวกเขาที่น่าสรรเสริญ
นอกจากนั้น ก็จะมีปัญหาบุคลากร คือ พระที่สอน
ถ้าเป็นสำนักเรียนเล็กๆ จะหาพระเป็นอาจารย์สอนยากอยู่
เพราะไม่ใช่ว่าเป็นพระแล้วจะสอนธรรมะได้ทุกรูปทุกองค์ไป
หรือสอนได้ แต่ไม่ค่อยดี เด็กไม่เข้าใจ ก็เกิดการเบื่อหน่าย
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าในระยะแรกของการเปิดเรียน
จะมีเด็กมาสมัครเรียนจำนวนมาก
แต่เรียนไป 3-4 อาทิตย์ เด็กจะเริ่มถอยห่างออกมา
เพราะเกิดการเบื่อเรียนแล้วไม่เข้าใจ
จำนวนของนักเรียนก็จะลดลงไปเรื่อยๆ
หลักสูตรการเรียนการสอนก็เป็นอีกปัญหาที่สำคัญ
เพราะถ้าเขียนหลักสูตรยากไป การเรียนการสอนก็ยากตาม
เด็กไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะวุฒิภาวะไม่ถึงขั้นที่จะรู้ได้
ก็เรียนไปโดยท่องจำอย่างเดียว เด็กก็เบื่อหน่าย
กลายเป็นนกแก้วนกขุนทองที่พูดภาษาคนได้
แต่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงคืออะไร
ปัญหาที่หนักมากก็คือ
เรื่องงบประมาณในการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
โดยงานวิจัยโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ปี 2548
ระบุว่า วัดที่จัดการเรียนการสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์นั้น
ได้รับเงินอุดหนุนเพียง 5 บาท ต่อเด็ก 1 คน
ซึ่งทางกรมกรมการศาสนากล่าวถึงสาเหตุที่งบประมาณมีน้อยว่า
เนื่องจากมีการนับจำนวนที่ซับซ้อน
และมีการประเมินในลักษณะธุรกิจ
คือ ถ้าลงทุนไปแล้ว ประชาชนจะได้อะไร
การที่วัดจัดการศึกษาพระพุทธศาสนาขึ้นมา
ก็มีวัตถุประสงค์ที่แน่ชัดอยู่แล้วว่า
ต้องการให้เด็กและเยาวชนของชาติได้มีความรู้ทางพระพุทธศาสนา
เพื่อจะได้นำความรู้ คือหลักธรรมคำสอนไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
เป็นการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมแก่เด็กและเยาวชน
ให้เป็นคนดีของสังคม ก็จะทำให้สังคมสงบสุขอยู่ได้
แต่ในทางตรงกันข้าม
ถ้าเราไม่ให้การศึกษาอบรมแก่เด็กและเยาวชนอย่างถูกต้อง
เด็กและเยาวชนก็จะมีความคิดที่ไม่ดี
การพูดก็ไม่ดี การกระทำก็ไม่ดี สังคมเดือดร้อน
เป็นเรื่องที่รู้เห็นกันอยู่เป็นประจำ
เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรมองกันในด้านเศรษฐศาสตร์
ซึ่งเป็นเรื่องของวัตถุนิยมเพียงฝ่ายเดียว
ต้องมองถึงเรื่องศาสนาด้วย เพราะศาสนาเป็นเรื่องของจิตใจ
ถ้าจิตใจไม่ดีเสียแล้ว ก็ไม่สามารถจะสร้างเศรษฐกิจ
หรือรักษาเศรษฐกิจให้ดำรงอยู่ได้
หลายคนล้มเหลวในทางเศรษฐกิจมีให้เห็นกันอยู่มากมาย
สงครามเล็กใหญ่ การก่อการร้าย ก็ล้วนเรื่องวัตถุนิยม
มุ่งผลที่เป็นวัตถุที่ตนจะได้รับเป็นที่ตั้ง
สังคมจึงเดือดร้อนกันจนทุกวันนี้
นั่นก็คือเราขาดการปลูกฝังด้านคุณธรรมให้เกิดขึ้นในใจนั่นเอง
เพราะฉะนั้น คำถามที่ว่า ถ้าลงทุนไปแล้วประชาชนจะได้อะไร
จึงเป็นคำถามของคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย
เหมือนกับตักบาตรพระแล้วถามว่าจะได้อะไร
และถ้าคนในสังคมไทยเรายังติดอยู่กับวัตถุนิยม อย่างไม่ลืมหูลืมตาอย่างนี้
โอกาสที่จะพัฒนาการเรียนการสอนพระพุทธศาสนา
ไม่ว่าจะในชื่อของโรงเรียนหรือชื่อของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
ก็ไม่มีโอกาสขยายให้กว้างขวางออกไปได้อย่างที่วาดฝันไว้ว่า
จะมีศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ทุกตำบลทั่วประเทศ
เพราะที่ผ่านมาเห็นมีแค่การตั้งตัวเลขและจำนวนอย่างสวยหรูเท่านั้นเอง !!
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 86 ม.ค. 51 โดย ธมฺมจรถ)
คัดลอกจาก...ผู้จัดการออนไลน์
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
ตอบเมื่อ: 02 เม.ย.2008, 12:17 am
"ถ้าลงทุนไปแล้วประชาชนจะได้อะไร"
ได้.... พลเมืองที่ดีมีคุณภาพ และตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม
ได้.....ประเทศชาติที่ผู้นำยึดมั่นใน "ธรรมาธิปไตย"
ได้.....ความสงบ...เป็นปกติสุขของบ้านเมือง
เป็น
"กำไร"
แห่งการลงทุน
ที่ไม่อาจวัดได้ในเชิงปริมาณ
และเห็นเป็นรูปธรรม...เพียงข้ามวัน
และเป็น
"กำไร"
แห่งการลงทุน
ที่มนุษย์ทุกชาติพันธุ์...ล้วน
"แสวงหา"!!!
อนุโมทนาสาธุ...ด้วยนะคะคุณลูกโป่ง
I am
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
ตอบเมื่อ: 02 เม.ย.2008, 9:35 am
_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th