เวิร์กช็อป “พระนักเทศน์” พัฒนาวิธีเผยแผ่ศาสนา

ตอบเมื่อ: 16 มี.ค.2008, 11:44 am

เวิร์กช็อป “พ ร ะ นั ก เ ท ศ น์” พัฒนาวิธีเผยแผ่ศาสนา

ในอดีต การฟังเทศน์เป็นเรื่องน่าเบื่อ
ด้วยเหตุผลที่ว่าพระเทศนาแต่เรื่องเก่าๆ ไม่ทันสมัย ไม่ทันต่อเหตุการณ์
ใช้ศัพท์ยากและยากต่อการเข้าใจ

แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นว่า การฟังเทศน์ไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อ
ด้วยเหตุผลที่ว่า พระได้มีเทคนิคในการเทศน์ให้น่าสนใจ
โดนใจวัยรุ่น ทันสมัย ฟังง่าย และง่ายต่อการเข้าใจ

เพื่อรับสนองงานคณะสงฆ์ด้านการพัฒนาบุคลากรเผยแผ่พระพุทธศาสนา
โดยเฉพาะพระนักเทศน์ที่จะออกไปทำหน้าที่
เผยแผ่หลักธรรมในพระพุทธศาสนาแก่ประชาชน
มีความจำเป็นจะต้องเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ
เพิ่มเติมประสบการณ์และทักษะในการเป็นพระนักเทศน์
มีความสามารถในการถ่ายทอดแนะนำหลักพระธรรมคำสอน
ในพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องสู่ประชาชน

ให้เกิดการเรียนรู้และนำไปประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ตามหลักพระพุทธศาสนาให้เกิดความสุข
สันติสุขในสังคมและประเทศชาติ

การดำเนินงานในเรื่องนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ที่มีภารกิจและหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินงานสนองงานคณะสงฆ์และรัฐ
โดยการทำนุบำรุงส่งเสริมสนับสนุนกิจการทางพระพุทธศาสนา
ให้การอุปถัมภ์คุ้มครอง พัฒนางานพระพุทธศาสนา
ดูแลรักษาจัดการศาสนสมบัติ พัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนา
รวมทั้งให้การสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาบุคลากรทางศาสนา

ภารกิจที่สำคัญยิ่งอีกงานหนึ่ง
คือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งดำเนินการอยู่หลายรูปแบบ

เช่น ส่งเสริมให้ข้าราชการและประชาชนได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม
การจัดตั้งศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
การสร้างพระวิปัสสนาจารย์ การสร้างพระนักเทศน์ และการสร้างพระธรรมทูต
เพื่อทำหน้าที่นำหลักพระธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา
สู่ประชาชนให้ประพฤติปฏิบัติตาม เป็นต้น

พระนักเทศน์ เดิมเรียกว่า “พระธรรมกถึก”
แปลว่า พระผู้กล่าวสอนธรรม พระผู้แสดงธรรม
การฝึกสอนอบรมด้านการเทศนาอย่างถูกวิธี
จนมีความรู้และทักษะความเข้าใจในหลักการและวิธีการเทศนาที่ดีแล้ว
จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ด้วยวิธีการเทศน์ในพิธีและโอกาสต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สามารถใช้การเทศน์เป็นเครื่องมือในการนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
ไปสู่ประชาชนให้น้อมนำไปประพฤติปฏิบัติตน
ในการครองเรือนครองตนได้อย่างมีความสุข

การฝึกอบรมสร้างพระนักเทศน์ได้เริ่มมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๔๒
โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๒
ให้ความเห็นชอบแผนทำนุบำรุงส่งเสริมศาสนาและจริยธรรมแห่งชาติ
ที่มุ่งเน้นให้มีการฝึกอบรมพระภิกษุ
เพื่อให้สามารถใช้การเทศน์เป็นเครื่องมือในการนำหลักพุทธธรรม
ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประชาชน
นำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

สำหรับในปีงบประมาณ ๒๕๕๑
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดตั้งงบประมาณ
สนับสนุนโครงการฝึกอบรมพระนักเทศน์ จำนวน ๕,๐๓๕,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพระนักเทศน์ จำนวน ๔๐๐ รูป

ฝึกอบรมพระนักเทศน์ในพรรษา จำนวน ๕๐๐ รูป
และจัดประชุมสัมมนาพระนักเทศน์ จำนวน ๓๐๐ รูป
โดยมีศูนย์ฝึกอบรมพระนักเทศน์ประจำอยู่หนต่างๆ ดังนี้

หนกลาง วัดราชโอรสาราม และวัดประยุรวงศาวาส กรุงเทพฯ,
หนเหนือ วัดท่าตอน จ.เชียงใหม่,
หนใต้ วัดพัฒนาราม จ.สุราษฎร์ธานี
และคณะธรรมยุต วัดพระยายัง กรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น ๖,๗๔๐ รูป

เพื่อให้การพัฒนาวิชาการเทศนา
และหลักวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้พัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
จึงได้เสนอต่อมหาเถรสมาคมให้ความเห็นชอบ
และขออนุญาตเจ้าคณะภาค เจ้าสังกัด
อาราธนาพระนักเทศน์ทุกประเภท จำนวน ๓๐๐ รูป
มาประชุมเชิงปฏิบัติการพระนักเทศน์ทั่วประเทศ ประจำปี ๒๕๕๑

โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

๑. เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายร่วมกันคิดช่วยกันทำ

๒. ให้เกิดการพัฒนาวิชาการเทศนาและการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ยั่งยืน

๓. เพื่อหาแนวทางพัฒนาหลักวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
และข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้มีประสบการณ์
เพื่อให้ประโยชน์ในการพัฒนาวิธีการเทศนาและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ความมั่นคงอย่างยั่งยืนของพระพุทธศาสนาให้อยู่กับสังคมไทยและสังคมโลกตลอดไป

๔. เผยแพร่แนวคิดและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่ได้จากการประชุมครั้งนี้
ไปยังองค์การต่างๆ อันจะก่อประโยชน์ให้แก่คณะสงฆ์และสังคมโดยส่วนรวม

การประชุมเชิงปฏิบัติการพระนักเทศน์
จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๑-๑๓ มีนาคม ๒๕๕๑
ณ วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม

ได้รับความเมตตาอนุเคราะห์อย่างดียิ่งจากพระเดชพระคุณ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์
อดีตอธิบดีสงฆ์แห่งวัดไร่ขิงและอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔
ที่อนุญาตให้ใช้อาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษามหาราชินี
เป็นสถานที่จัดประชุมสัมมนาและเป็นที่พักอาศัย

พร้อมทั้งได้รับความเอื้อเฟื้ออำนวยความสะดวก
จาก พระพิพัฒน์วิริยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอพุทธมณฑล
รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

ทั้งนี้ พระพรหมเวที ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์
ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
ได้เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพระนักเทศน์
โดยมีนางจุฬารัตน์ บุณยากร
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้กล่าวรายงาน

พระพรหมเวที กล่าวสัมโมทนียกถาว่า

พระนักเทศน์ มีความสำคัญกับพระพุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งจะสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา
เพราะพระนักเทศน์สามารถเข้าถึงพุทธศาสนิกชนได้อย่างทั่วถึง

ในขณะเดียวกัน การพัฒนาพระนักเทศน์ให้มีความรู้
ก็เป็นเรื่องที่สำคัญจะต้องดำเนินการ
เพื่อให้พระนักเทศน์มีความรู้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
นำหลักธรรมคำสอนไปสู่ประชาชนให้สามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ด้วย

นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า

ในปีงบประมาณ ๒๕๕๑ สำนักพุทธฯ
ได้จัดตั้งงบประมาณสนับสนุนโครงการอบรมพระนักเทศน์ จำนวน ๕.๓ ล้านบาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพระนักเทศน์ ๔๐๐ รูป
ฝึกอบรมพระนักเทศน์ในพรรษา ๕๐๐ รูป
และจัดประชุมสัมมนาพระนักเทศน์ ๓๐๐ รูป

"การอบรมพระนักเทศน์ จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้เพิ่มประสบการณ์
พัฒนาหลักวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีความทันสมัย
และเกิดความมั่นคงให้อยู่คู่กับสังคมไทยและสังคมโลก

ซึ่งปัจจุบันมีพระนักเทศน์ที่ผ่านการฝึกอบรม
ทั้งมหานิกายและธรรมยุตรวมทั้งสิ้น ๖,๗๔๐ รูป

โดยมุ่งเน้นให้พระนักเทศน์สามารถใช้การเทศน์
เป็นเครื่องมือในการนำหลักพุทธธรรมไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาสู่ประชาชน
เพื่อนำไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข"

ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกล่าว

สาธุ

ที่มา : สกู๊ปข่าวสด, วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๖๓๑๗ ข่าวสดรายวัน
http://www.matichon.co.th