ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
I am
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
|
ตอบเมื่อ:
20 ธ.ค.2007, 8:31 am |
  |
สรรเสริญ-นินทา
ความสรรเสริญและนินทาก็เช่นเดียวกัน ในตัวคนคนเดียวกันนั่นแหละเมื่อเขาเห็นกิริยาอาการต่างๆ ที่น่าชอบ เขาก็ยกยอสรรเสริญชมเชย แต่เมื่อเขาเห็นกิริยาวาจาที่น่ารังเกียจเขาก็ติเตียน คนผู้เดียวกันนั่นแหละมีทั้งสรรเสริญและนินทา มันจะมีความแน่นอนที่ไหน อันคำสรรเสริญและนินทาเป็นของไม่มีขอบเขตจำกัด แต่คนในโลกนี้โดยมากเมื่อได้รับสรรเสริญจากมนุษย์ชาวโลกทั้งหลายที่เขายกให้ ก็เข้าใจว่าเป็นของตนของตัวจริงๆ จังๆ
อันสรรเสริญไม่มีตัวตนหรอก มีแต่ลมๆ แล้งๆ หาแก่นสารไม่ได ้แต่เรากลับไปหลงว่าเป็นตัวเป็นตนจริง ไปหลงหอบเอาลมๆ แล้งๆ มาใส่ตนเข้า ก็เลยพองตัวอิ่มไปตามความยึดถือนั้น ไปถือเอาเงาเป็นตัวเป็นจริงเป็นจัง แต่เงาเป็นของไม่มีตัว เมื่อเงาหายไปก็เดือดร้อนเป็นทุกข์ โทมนัสน้อยใจไปตามอาการต่างๆ ตามวิสัยของโลก
แท้จริงสรรเสริญ-นินทา มันหากเป็นอยู่อย่างนั้นแต่ไหนแต่ไรมา ก่อนที่เราจะเกิดมาเสียอีก พระพุทธองค์ทรงเห็นว่ามนุษย์โง่เขลา หลงไปยึดถือเอาสิ่งไม่แน่นอนมาเป็นของแน่นอน จึงเดือดร้อนกันอย่างนี้ แล้วพระองค์ก็ทรงบัญญัติธรรมทับลงเหนือโลกอันไม่มีแก่นสารนี้ให้เห็นชัดลงไปว่ามันไม่ใช่ของตัวของตนแต่เป็นลมๆ แล้งๆ
สรรเสริญเป็นภัยอันร้ายกาจแก่มนุษย์ชาวโลกอย่างนี้ แล้วก็ทรงสอนมนุษย์ชาวโลกให้เห็นตามเป็นจริงว่าสิ่งนั้นๆ เป็นอนัตตาจะสูญหายไปเมื่อไหร่ก็ได้ มนุษย์ผู้มีปัญญาพิจารณาเห็นตามความจริงดั่งที่พระองค์ทรงสอนแล้วก็คลายความทุกข์เบาบางลงไปบ้าง
แต่มิได้หมายความว่า โลกธรรมนั้นจะสูญหายไปจากโลกนี้เสียเมื่อไร เป็นแต่ผู้พิจารณาเห็นตามเป็นจริงดั่งที่กล่าวมาแล้ว ทุกข์ทั้งหลายก็จะเบาบางลงเป็นครั้งคราว เพราะโลกนี้ยังคงเป็นโลกอยู่ตามเดิม ธรรมก็ยังคงเป็นธรรมอยู่ตามเดิม
แต่ธรรมสามารถแก้ไขโลกได้เป็นบางครั้งบางคราวเพราะโลกนี้ยังหนาแน่นด้วยกิเลสทั้ง ๘ ประการอยู่เป็นนิจ ความเดือดร้อนเป็นโลก ความเห็นแจ้งเป็นธรรม ทั้งสองอย่างเป็นเครื่องปรับปรุงเป็นคู่กันไปอยู่อย่างนี้ เมื่อกิเลสหนาแน่นก็เป็นโลก เมื่อกิเลสเบาบางก็เป็นธรรม
: สิ้นโลก เหลือธรรม หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
http://www.thewayofdhamma.org/page2/moradok212.html
 |
|
_________________ ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก |
|
     |
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
20 ธ.ค.2007, 11:03 am |
  |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณ I am
อันสรรเสริญไม่มีตัวตนหรอก
มีแต่ลมๆ แล้งๆ หาแก่นสารไม่ได้
้แต่เรากลับไปหลงว่าเป็นตัวเป็นตนจริง
ไปหลงหอบเอาลมๆ แล้งๆ มาใส่ตนเข้า
ก็เลยพองตัวอิ่มไปตามความยึดถือนั้น ไปถือเอาเงาเป็นตัวเป็นจริงเป็นจัง
แต่เงาเป็นของไม่มีตัว เมื่อเงาหายไปก็เดือดร้อนเป็นทุกข์
โทมนัสน้อยใจไปตามอาการต่างๆ ตามวิสัยของโลก
...โลกธรรม 8 เป็นธรรมดาของโลก....
ธรรมะสวัสดีค่ะ
 |
|
|
|
   |
 |
กุหลาบสีชา
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
20 ธ.ค.2007, 8:28 pm |
  |
ไม่มีใครรอดพ้นโลกธรรม ๘
ธรรมสวัสดียามค่ำค่ะทั้ง ๒ ท่าน
อนุโมทนาสาธุ ด้วยนะคะคุณ I am  |
|
|
|
    |
 |
|