ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
dakoobb
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 03 ธ.ค. 2007
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): 72/15 ม.20 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000
|
ตอบเมื่อ:
03 ธ.ค.2007, 12:59 pm |
  |
นมัสการพระคุณเจ้า ผมอยากเรียนพระอภิธรรมบัณฑิตครับไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรครับ พอดีเพิ่งเปิดมาเจอเว็ปนี้ครับไม่ทราบว่ายังรับสมัครอยู่หรือเปล่าขอพระคุณเจ้าช่วยบอกด้วยนะครับ
นาย วิมลเดช รักสกุล
การศึกษาสามัญศึกษา- ม.ปลาย-กำลังเรียนคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่๑
การศึกษาทางธรรม- ธรรมศึกษาชั้นตรี -กำลังสอบชั้นโท สำนักวัดพระสิงห์
dakoobb@hotmail.com
ที่อยู่ 72/15 ม.20 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000
โทร.0876602042 |
|
|
|
    |
 |
admin
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
|
ตอบเมื่อ:
03 ธ.ค.2007, 3:12 pm |
  |
ควรติดต่อทางโทรศัพท์ หรือ email เพื่อสอบถามรายละเอียดโดยตรงเลยนะค่ะ
เพราะบางครั้งพระคุณเจ้า ก็ไม่ได้เข้าเว็บ
อภิธรรมมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร
จุดเริ่มต้นของการศึกษาพระอภิธรรมในประเทศไทยจนเป็นหลักสูตรที่ยอมรับ และมีผู้ให้ความสนใจศึกษาทั่วประเทศ ปัจจุบันมีอภิธรรมบัณฑิตสำเร็จการศึกษา จำนวน ๔๑ รุ่น ไปเผยแผ่พระสัทธรรมที่ลึกซึ้ง อันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นปราชญ์ที่เข้าใจความเป็นไปในจิตใจของมนุษย์อย่างยิ่ง
หลักสูตรในการเรียนแบ่งออกเป็น ๒ ระดับ
๑. ชั้นนักศึกษา ๙ ชั้น จบแล้วได้รับประกาศนียบัตรอภิธรรมบัณฑิต
๒. ชั้นอาจารย์ ๖ ชั้น จบแล้วได้รับประกาศนียบัตรอภิธรรมมหาบัณฑิต
อภิธรรมมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ได้เปิดการเรียนการสอนทุกวัน เว้นวันพระและวันนักขัตฤกษ์ เวลา ๑๓.๐๐ น.-๑๖.๐๐ น. ณ โรงเรียนพระปริยัติธรรมพรหมรังสี วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร
ปัจจุบันอภิธรรมมหาวิทยาลัยได้เปิดโครงการศึกษา พระอภิธรรม ๙ ปริเฉท หลักสูตรระยะสั้น ใช้เวลาศึกษา เพียง ๓ เดือน เฉพาะเสาร์อาทิตย์ เมื่อจบการศึกษาแล้วได้รับ วุฒิบัตรรับรอง ซึ่งเป็นก้าวแรกของผู้สนใจพระอภิธรรมเบื้องต้น และเปิดโครงการก้าวสู่พระไตรปิฎก ที่ใช้เวลาเรียนเฉพาะ วันเสาร์ เวลา ๑๓.๐๐-๑๕.๓๐ น.
เรียนเชิญ (เรียนฟรี) ผู้ที่สนใจใฝ่รู้ที่จะศึกษาพระอภิธรรม เพื่อความเข้าใจเรื่องความคิด จิตใจ ชีวิตตนเอง เพื่อพัฒนาชีวิตให้เจริญก้าวหน้าอย่างถูกต้อง ติดต่อ : สำนักงานอภิธรรมมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย วัดระฆังโฆสิตาราม คณะ ๗ ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ โทร. ๐-๒๔๑๑-๔๕๔๖, ๐-๖๐๓๘-๒๙๓๓
email ของพระคุณเจ้าที่โพสต์กระทู้...เรียนพระอภิธรรมฟรี ณ วัดระฆังโฆสิตาราม
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13068
นั้นคือ no-fan-@hotmail.com
เว็บไซต์วัดระฆังโฆสิตาราม
http://www.watrakang.com/ |
|
_________________ -- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง -- |
|
    |
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
04 ธ.ค.2007, 6:30 am |
  |
จาก ความเป็นมาของพระไตรปิฎก (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?p=37458&sid=d45a447374f397060266dc396a6869ea
"......สรุปแล้วไม่ว่าจะเป็นใครพูดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปราชญ์ตะวันตกหรือตะวันออก ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ต่างก็ลงรอยกันในประเด็นสรุปข้างท้ายนี้คือ
1. ที่พูดว่าอภิธรรมปิฎกมิใช่พุทธพจน์ทั้งหมด หรือใช่พุทธพจน์เฉพาะบทมาติกาก็ดี พระอภิธรรมไม่อยู่ในรูปพุทธพจน์ก็ดี ผู้พูดมิได้ปฏิเสธว่าพระอภิธรรมปิฎกมิใช่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียงแค่ต้องการบอกว่าอภิธรรมปิฎกเป็นเรื่องที่ "แต่งเพิ่มเข้ามาภายหลัง"
2. ทุกคนยอมรับว่าเนื้อหาในพระอภิธรรมปิฎก เป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะสอดคล้องตามหลักตัดสินพระธรรมวินัย 8 ประการแล้ว โดยประการทั้งปวง ....." |
|
|
|
  |
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
04 ธ.ค.2007, 6:41 am |
  |
จาก หนังสือ พุทธธรรม พระพรหมคุณาภรณ์
http://203.150.123.17/pdf/pt1.pdf
พระพุทธศาสนาเถรวาทนั้น เป็นที่ยอมรับของนักปราชญ์ทางพระพุทธ
ศาสนาทั่วโลก ว่าเป็นนิกายที่รักษาแบบแผนและคำ สอนดั้งเดิมไว้ได้แม่นยำ
แม้แต่ปราชญ์ฝ่ายมหายานยุคปัจจุบันก็เห็นความสำ คัญนี้ ดังที่ในประเทศ
ญี่ปุน่ ไดถื้อลงกันทั่วไปว่า การที่จะศึกษาพระพุทธศาสนามหายานให้ทั่วตลอด
ต้องศึกษาพระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิม (คือเถรวาท) ด้วย เพราะมีพระสูตรบาลี
ที่เป็นรากฐานของพระพุทธศาสนา พระสูตรของมหายานเพียงแต่อธิบาย
สาระที่บรรยายไว้โดยย่อในพระสูตรบาลี ให้ละเอียดกว้างขวางออกไป๑
แม้กระนั้นก็ตาม ในพระพุทธศาสนาเถรวาทเอง เนื้อความบางแห่ง
ในพระคัมภีร์ ที่เป็นส่วนเพิ่มเข้าในสมัยต่อมา ได้ระบุกาลเวลาไว้ชัดเจน ก็มี
ไม่ได้ระบุไว้ ก็มี ถึงจะรู้กันว่าอยู่ในระยะแรกๆ ก่อนยุคอรรถกถา ก็ยังเป็น
ปัญหาที่คนรุ่นปัจจุบันนำ มาถกเถียงคิดค้นหาความชัดเจนแน่นอน
เนื่องจากพระพุทธศาสนาเน้นการใช้ปัญญา การปฏิบัติให้ถูกต้องจึง
ขึ้นต่อการศึกษา และคัมภีร์พระพุทธศาสนา แม้นับเพียงพระไตรปิฎกบาลี ที่
เป็นแหล่งแห่งพุทธพจน์ ก็ใหญ่โตมีเนื้อหามากมาย ยากที่จะศึกษาให้ทั่วถึง
ยิ่งในบางยุคบางสมัย พุทธศาสนิกชนยังเหินห่างจากการศึกษาหลัก
ธรรมอีกด้วย ความรู้ความเข้าใจที่ประชาชนส่วนมากเชื่อถือและปฏิบัติ จึง
อาศัยเพียงการฟังบอกเล่าและทำ ตามๆ กันมา เมื่อกาลเวลาล่วงผ่านไป
นานๆ ความคลาดเคลื่อนก็มีมากขึ้นและชัดเจนยิ่งขึ้น จนกระทั่งบางกรณีถึง
กับเสมือนเป็นตรงข้ามกับคำ สอนเดิม หรือเกือบจะกลายไปเป็นลัทธิอื่นที่คำ
สอนเดิมคัดค้านไปแล้วก็มี
ก็เป็นข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อการมองข้อมูลทั้งสองด้านน่ะครับ  |
|
|
|
  |
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
04 ธ.ค.2007, 6:59 am |
  |
ประเด็น คลาสสิก ที่ขอเสนอให้พิจารณา
เป็นความจริงหรือ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า
จิตตั้งอยู่ในหทัยวัตถุ และหทัยวัตถุตั้งอยู่ในหัวใจเนื้อ
http://larndham.net/index.php?showtopic=26846&st=0&hl=หทัยวัตถุ
http://larndham.net/index.php?showtopic=26139&st=0&hl=หทัยวัตถุ
จากพระสูตร..... ความจริงคือ ไม่มีตรงจุดไหนเลย ที่มีพระพุทธวจนะตรัสไว้เช่นนั้น
จากพระอภิธรรม ....มีการกล่าวคำว่า หทัยวัตถุ ไว้จริง แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า คืออะไร และตั้งอยู่ตรงไหน
จาก คัมภีร์ระดับรองลงมาอีก จึงกล่าวเป็นฟุ้งเป็นแคว ว่าจิตตั้งอยู่ในหทัยวัตถุรูป และ หทัยวัตถุรูปตั้งอยู่ในหัวใจเนื้ออีกที..... ซึ่ง วิทยาการปัจจุบัน พิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่เช่นนั้น
(แม้นแต่ ผู้ศึกษาพระอภิธรรม เช่น อ.ระวี ภาวิไล เอง ยังไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า จิตตั้งอยู่ที่หัวใจเนื้อ)
ถ้าจะศึกษาเป็น อภิธรรมบัณฑิต ก็ขอฝากพิจารณาจุดเหล่านี้ด้วยครับ
ความจริงยังมีอีกหลายจุดครับ แต่เดี๋ยวประเด็น จะยาวเกินไป |
|
|
|
  |
 |
|