ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ดุสิตธานี
บัวบาน


เข้าร่วม: 21 ก.ย. 2007
ตอบ: 352
ที่อยู่ (จังหวัด): สุโขทัยธานี
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ย.2007, 1:16 pm |
  |
คิดบวก ชีวิตบวก
Positive Thinking, Positive Life...
โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ
เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ
เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)
เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ
เวลาเจอคำนินทา ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการสะท้อนว่าเรายังคงเป็นคนที่มีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวัง ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือวิธีที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต
เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี
เวลาเจอความพลัดพราก ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาตัวเอง
เวลาเจอลูกหัวดื้อ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือโอกาสทองของการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง
เวลาเจอแฟนทิ้ง ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพานพบ
เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง
เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือความอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง
เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน ให้บอกตัวเองว่า
นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม
เวลาเจอคนเลว ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์
เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด
เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบททดสอบว่าที่ว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด
เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรม ในวิกฤตย่อมมีโอกาส
เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต
เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์
Best Regards, |
|
_________________ จงทำจิตให้บริสุทธิ์ ด้วยความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือแม้กระทั่ง ตัวของเราเอง |
|
  |
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ย.2007, 4:45 pm |
  |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ธรรมะสวัสดีค่ะ
 |
|
|
|
   |
 |
วิชชา
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 05 พ.ย. 2007
ตอบ: 31
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ย.2007, 4:59 pm |
  |
นักคิด ไม่สามารถดับกิเลสได้ และมีโอกาสที่จะคิดผิด ด้วยความเห็นผิดสูง
ทางที่ดีควรอ้างอิงหลักฐานจากพระไตรปิฎกโดยตรง เชื่อในผู้ที่เป็นครู
สูงสุด คือ พระพุทธเจ้า เท่านั้น
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 415
๑๐. ติรัจฉานกถาสูตร
ว่าด้วยการพูดติรัจฉานกถา
[๑๖๖๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงอย่าพูดติรัจฉานกถา
ซึ่งมีหลายอย่าง คือ พูดเรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอมาตย์ เรื่องกอง
ทัพ เรื่องภัย เรื่องรบ เรื่องข้าว เรื่องน้ำ เรื่องผ้า เรื่องที่นอน เรื่องดอก
ไม้ เรื่องของหอม เรื่องญาติ เรื่องยาน เรื่องบ้าน เรื่องนิคม เรื่องนคร
เรื่องชนบท เรื่องสตรี เรื่องบุรุษ เรื่องคนกล้าหาญ เรื่องตรอก เรื่องท่าน้ำ
เรื่องคนที่ล่วงลับไปแล้ว เรื่องเบ็ดเตล็ด เรื่องโลก เรื่องทะเล เรื่องความ
เจริญและความเสื่อมด้วยประการนั้น ๆ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะถ้อยคำที่ไม่
ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความ
หน่าย... นิพพาน ก็เมื่อเธอทั้งหลายจะพูด พึงพูดว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกข-
นิโรธคามินีปฏิปทา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะถ้อยคำนี้ประกอบด้วยประโยชน์
เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย... นิพพาน ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตาม
ความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
จบติรัจฉานกถาสูตรที่ ๑๐
จบสมาธิวรรคที่ ๑
ก่อนจะเชื่อหลักการอะไร ของใคร เราควรศึกษาพระไตรปิฎกให้เข้าใจก่อน
เพื่อให้เกิดปัญญาแยกแยะว่าคำพูดของใครไม่บิดเบือนพระพุทธพจน์
ที่มา....
http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=3532 |
|
_________________ ไม่มี
แก้ไขล่าสุดโดย วิชชา เมื่อ 03 ม.ค. 2008, 1:00 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
      |
 |
Buddha
บัวบาน

เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415
|
ตอบเมื่อ:
08 พ.ย.2007, 7:52 pm |
  |
จะกล่าวสิ่งใด จะสอนสิ่งใด ก็ต้องอิงหลักความจริง อิงหลักที่สามารถเป็นไปได้ สามารถทำได้
ถ้าสอนผู้อื่นได้ แต่ตัวเองทำไม่ได้ เขาเรียกว่า "อวดอุตริฯ" ถ้าเป็นพระภิกษุสงฆ์
ก็ต้องอาบัติ
อันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้ว่าให้ใครนะขอรับ
แต่ขอติ ติง เตือน สติ ท่านทั้งหลายเอาไว้ |
|
|
|
  |
 |
กุหลาบสีชา
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
10 พ.ย.2007, 12:08 pm |
  |
ท่านก็ไม่ได้บอกว่า
ที่กล่าวมาทำให้ดับกิเลสได้ (โดยสิ้นเชิง)
และไม่ได้กล่าวว่าเป็นการอ้างอิงมาจากพุทธพจน์
จึงไม่ได้ถือว่าเป็นการบิดเบือน
ดังนั้น ในฐานะที่เป็น (พระ) นักคิดท่านย่อมมีสิทธิคิด และแสดงความคิดได้
สิ่งที่ท่านกล่าวก็เป็นเพียงวิธีการการสร้างมุมมอง
ให้ปุถุชนที่ยังมีกิเลสท่วมอยู่
มีโลกทัศน์อย่างสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างกำลังใจ
และไม่ท้อถอยเมื่อต้องประสบกับทุกข์หลากหลายรูปแบบ
ส่วนเราจะเชื่อ เห็นด้วยและโน้มนำมาปฏิบัติหรือไม่
ย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเรา
ธรรมะมีหลายชั้น
และธรรมแต่ละชั้นนั้น
แม้แต่พระพุทธองค์เองยังทรงเลือกที่จะแสดงธรรมเรื่องเดียวกัน
ในต่างวิธี และต่างกาลกับคนที่มีปัญญา (ทางธรรม) แตกต่างกันเลย
ท่านก็มีหน้าที่ของท่าน
ท่านก็กำลังทำหน้าที่ของท่าน
ทำได้มากน้อยเพียงใด...ท่านก็ทำ
เราคงมิอาจรู้ได้ว่า....ท่านทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่ดี
เรารู้แต่เพียงว่า
ถ้าเป็นนักปฏิบัติที่มิใช่เป็นเพียงนักธรรม
ย่อมเข้าใจ ซึ้งใจ และเคารพใน "ธรรม"
และย่อมไม่มี "โมหะ" บังตา
เพราะเขาย่อมพิจารณาและหมั่นตรวจสอบประเมินตนเอง
เพื่อ ลด ละ วาง ให้ได้มากที่สุดก่อน....เป็นสำคัญ
เหนือสิ่งอื่นใด
เขาเหล่านั้นย่อมจะไม่เพ่งโทษใคร
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สิ่งใดก็ตามที่เป็นก้าวล่วงและเข้าข่ายกับการปรามาสพระรัตนตรัย
ทั้งด้วยกาย วาจา และใจ
ด้วยประการทั้งปวง
 |
|
|
|
    |
 |
ใบโพธิ์
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
10 พ.ย.2007, 4:25 pm |
  |
 |
|
_________________ ทำความดีทุกๆ วัน |
|
  |
 |
ช้างชูธง
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 พ.ค. 2007
ตอบ: 50
|
ตอบเมื่อ:
12 พ.ย.2007, 8:18 am |
  |
ท่านให้กำลังใจดีครับ
สาธุ
* |
|
|
|
  |
 |
ศรชัย
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 02 พ.ย. 2007
ตอบ: 3
ที่อยู่ (จังหวัด): chiangrai
|
ตอบเมื่อ:
19 พ.ย.2007, 2:40 pm |
  |
ดูที่เจตนาท่าน ผมว่าทำให้ได้คิด ถ้ามองที่ความหลากหลาย ผมว่าท่านเป็นกลุ่มคนที่สอนคนให้เป็นคนดี ใช้ปัญญา ระดับต้นๆ อย่างน้อยท่านก็คิดดี พูดดี ทำดี ซึ่งตอนนี้ชาติเรากำลังต้องการอย่างมาก  |
|
_________________ อย่าเบื่อ อย่าบ่น อดทน เพียงพอ และรอเมื่อต้องรอ |
|
  |
 |
|