ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ดิตถกร
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 10 ส.ค. 2007
ตอบ: 20
|
ตอบเมื่อ:
11 ต.ค.2007, 8:13 pm |
  |
เตือนภัยผู้ใช้เส้นทาง
" เขาไม้แก้วทะลุผ่านสัตหีบ "
อยากจะเล่าให้เป็นอุทาหรณ์ เตือนเพื่อน ๆ ที่ขับรถเอง
โดยใช้เส้นทาง เขาไม้แก้ว ทะลุผ่านสัตหีบ (สามารถแยกไประยองได้)
เส้นทางนี้เกือบทำให้ปูและพี่อุ๊ด เป็นอะไรที่อันตรายได้มากมายเลยทีเดียว
เรื่องมีอยู่ว่า...................
เมื่อวันเสาร์ที่ 11 พอเลิกงาน 5 โมงเย็น ปูกับพี่อุ๊ด
ก็รีบขับรถไปหาพ่อกับแม่พี่อุ๊ด ที่ สัตหีบ (ชลบุรี) ทันที
เราสองคนขับไปเส้นมอเตอร์เวย์ จนกระทั่งเกือบถึง
ทางแยกที่ป้ายจะบอกว่า ตรงไปพัทยา เลี้ยวซ้ายไประยอง (เขาไม้แก้ว)
ตอนนั้นเห็นว่าจะ 4 ทุ่มแล้ว ถ้าเราไปเส้นพัทยา ก็กลัวว่ารถจะติด และนานถึง
จึงเลี่ยงไปเส้นระยอง (เขาไม้แก้ว) ซึ่งสามารถทะลุไปถึง กม. 10 ( รพ.สิริกิต์ )
เลี้ยวขวาอีกนิด ก็ถึงบ้านพ่อกับแม่...........
ขับมาเรื่อย ๆ และรถยนต์วิ่งสวนทางกัน.............
ขณะนั้นเกือบ 4 ทุ่ม รถเริ่มไม่ค่อยมีวิ่ง นาน ๆ จะขับสวนทางกันสักคัน
ปูกับพี่อุ๊ดขับมาเกือบจะถึงทางเข้าด้านหลังวัดชีจรรย์
ระหว่างทางปูสังเกตุเห็นขอนไม้ วางพาดไหล่ทางเยอะมาก
จนเอ่ยปากคุยกับพี่อุ๊ดว่า ทำไมขอนไม้เยอะจังเน๊อะ
พี่อุ๊ดก็บอกว่าสงสัยฝนตกลมแรง พากิ่งไม้หักมั้ง
แต่ปูดูแล้ว มันไม่ใช่กิ่งไม้หัก แต่เป็นขอนไม้ขนาดย่อม
ที่วางพาดไหล่ทาง ประมาณว่าจะให้รถที่วิ่งมาหักหลบอย่างนั้นเลย
แล้ว.............ก็มองเห็นเห็นรถคันหนึ่ง..............
กำลังจะวิ่งสวนทางรถปูไป ..................แต่แล้วจู่ ๆ ..................
รถยนต์ ( โฟวิวสีน้ำเงิน ) ก็ขับปาดหน้า ทำให้รถปูต้องเหยียบเบรคกระทันหัน
(ถ้าไม่เบรคอย่างเร็ว ต้องชนกันแน่ ๆ ) ตอนนั้นตกใจมาก ....หัวทิ่มเลยอ่ะ.....
รถโฟวิว ห่างกับรถปูประมาณ 6-7 ก้าว
คิดกันว่า สงสัยรถคันนั้นจะเลี้ยวเข้าซอย แต่เอ๊ะ มันไม่มีซอย..............
คิดกันอีกว่า รถคันนั้นจะเลี้ยวรถกลับ แต่เอ๊ะ ทำไมมันจอดนานจัง..............
เวลาผ่านไปประมาณ 30 วินาที ( มันนานนะ ถ้าเขาจะเลี้ยวรถกลับ )
แต่รถคันนั้นก็ไม่ยอมทำอะไรสักที นิ่งอยู่อย่างนั้น...................
สักพัก รถคันนั้นดับไฟหน้ารถ.................
ปูกับพี่อุ๊ด ก็รู้เลยว่ามีอะไรไม่ดีแน่ ๆ รีบเช็ค ว่ารถล็อครึยัง
เปิดไฟสูงใส่มัน แล้วพี่อุ๊ดก็ รีบเอามีดข้างเบาะ มาให้ปูถือไว้............ส่วนพี่อุ๊ดเอง
รีบหันไปคว้าปืนหลังเบาะ ตอนนั้น เวลานั้น เชื่อมั้ยเพื่อน ๆ ไม่มีรถผ่านมาสักคันเลย.....กลัวมากกกกกกก
มองดูพี่อุ๊ดเอง ก็คงไม่ต่างจากปู........ปูมองที่รถมันตลอด แต่เหมือนกับว่า
มันดูเชิงเรา คือมันเองก็ยังไม่ลงจากรถ คือต่างคนต่างจอดอย่างนั้น
รถปูจะถอยหลังก็ไม่ได้ เพราะมีขอนไม้พาดอยู่เยอะมาก จะเดินหน้าก็ไม่ได้
เพราะคงไม่พ้นรถมัน กลัวว่ามันจะถอยชนด้วย...........
มือปูก็คลำหาโทรศัพท์ หาไม่เจอ.............กดไม่ถูก.........
สักพัก ................. มันเปิดประตูรถออกมา เป็นผู้ชาย 2 คน
แต่คนขับยังอยู่ในรถ...ไม่ปิดหน้า ไม่ใสหมวก
เป็นวัยกลางคน..... หัวใจปูแทบอยู่ตาตุ่ม.........กลัวมาก รู้ว่าตัวเองเสียงสั่น
บอกพี่ว่า ทำไงดี มันจะทำอะไร กลัว............(สติไม่อยู่กับตัวแล้ว)
พี่อุ๊ดบอกปูว่าใจเย็น ๆ ปู ใจเย็น ๆ ให้ปูข้ามไปอยู่เบาะหลัง
แล้วถ้ามันทุกกระจกรถ ให้ปูเอามีดแทงมันเลยนะ
แล้วพี่ก็บีบแตรรถ ให้มันเสียงดัง บีบแบบต่อเนื่อง เท่าที่จะบีบได้ ให้เสียงดังเข้าไว้
ส่วนปูเอง ก็จับมีดแน่น หัวสมองคิดไรไม่ออก รู้แค่ว่าปูจ้องมันอยู่ ( ทำได้แค่นั้น )
พอผู้ชายคนที่ 2 ลงจากรถ มันก็เดิมมาหาผู้ชายคนแรก แล้วก็เดินมาทางรถปู
มันเดินมาจวนจะถึงอยู่แล้ว พี่อุ๊ดก็บีบแตรเสียงดัง.................
.................. เหมือนเสด็จเตี่ย ( กรมหลวงชุมพร) ช่วยปูกับพี่อุ๊ดไว้ (หน้ารถห้อยเสด็จเตี่ย)
มีรถกำลังวิ่งมาจากด้านหน้า 1 คัน และรถวิ่งมาข้างหลัง 2 คัน
มันคงเห็นท่าไม่ดี ก็รีบวิ่งหันหลังกลับขึ้นรถมัน แล้วรีบเลี้ยวออกไปทันที
รถคันที่มาด้านหลัง 2 คัน เขามาด้วยกัน จอดรถแล้วลงมาถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า
เพราะเขาเห็นรถปูส่องไฟที่รถมัน นานแล้ว........... ( เขาบอกว่าเขาเป็นคนแถวนี้ )
และได้ยินเสียงแตรรถ เขาก็รีบออกมาดูกัน และคิดกันว่าต้องมีอะไรแน่ ๆ
สักพักเสียงโทรศัพท์พี่อุ๊ดก็ดังขึ้น แม่พี่อุ๊ดโทรมา ถามว่าถึงไหนแล้ว รู้สึกเป็นห่วงยังไงก็ไม่รู้.......
คุยกับคนที่ขับรถมา 2 คัน เขาเป็นลุงกับหลานกัน บอกกับปูว่า แถวนี้ปล้นกันเยอะมาก
พอดีว่ามาเฝ้าไร่ แล้วได้ยินเสียงรถเบรค เห็นไฟส่องรถ พร้อมกับเสียงแตรรถ
ก็เลยรีบพาหลานออกมา..............ถึงตอนนี้ปูเพิ่งจะร้องไห้ออ ก........น้ำตาทะลักออกมาเลย
ทั้งดีใจ ทั้งตกใจ...........ขอบคุณ ๆ ๆ ๆ ๆ ลุงกับหลาน มาก ๆ ๆ
เพราะถ้าเขาไม่มา ไม่รู้ว่าปูกับพี่อุ๊ดจะเจออะไรกันบ้าง......ไม่กล้าคิด.. ......กลัว
ส่วนมัน.... ปูกับพี่อุ๊ด คงเกือบเคยทำกรรม ร่วมกัน ..... ตอนนี้ ขออโหสิกรรมให้....ไม่จองเวร.....
ขออย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย..............
เพื่อน ๆ ถ้าจำเป็นต้องไประยอง หรือสัตหีบ พยายามอย่าใช้เส้นทางนี้นะ
ให้ยอมเสียเวลาไปเส้นพัทยา เข้าสัตหีบ แล้วตรงไประยอง จะปลอดภัยกว่ามากเลย
ดีใจที่เราสองคนปลอดภัยกลับมา.............
ดีใจที่เราสองคนไม่เป็นอะไร............
ขอบคุณลุงกับหลาน......ขอบคุณมาก ๆ ๆ ......( ลืมถามชื่อซะอีก.......)
ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณเสด็จเตี่ย.......(เป็นที่พึ่งทางใจให้เราสองคน)
อโหสิให้ไอ้คนเลวนั่น...........( ชาติไหนอย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย )
............... และดีใจ........ที่ได้กลับมาเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ ฟัง................
:::: บางครั้งสิ่งที่ทำให้เราเสียใจมากที่สุดในชีวิตไม่ใช่สิ่งที่เราสูญเสียหรือผิดหวัง แต่กลายเป็นความเสี่ยง ที่เราไม่กล้าเสี่ยง ถ้าคุณคิดว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้คุณมีความสุขมากจงมุ่งไปหามัน เพราะในจังหวะของชีวิตคนเรา เรามักจะไม่ผ่านมาบนถนนสายเดิมนี้อีก
 |
|
_________________ วิสัยอริยะมิอาจตัดสินจากภายนอก สภาวะแห่งอริยะที่ท่านเปิดเผย ผู้มีตาย่อมเห็น ผู้มีหูย่อมได้ยิน |
|
  |
 |
นงคราญ ดอนวุ่น
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 13 พ.ย. 2006
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี
|
ตอบเมื่อ:
12 ต.ค.2007, 10:45 am |
  |
ขอบคุณ คุณปูมากนะ เป็นประโยชน์มาก ๆ เลย คงเป็นผลบุญที่คุณปูและคุณอุ๊ดสร้างมา คุณปูกับคุณอุ๊ดจึงไม่เป็นอะไร และขอบคุณ คุณลุง และคุณหลานด้วย สงสัยจะเคยร่วมสร้างบุญด้วยกัน
หรือเคยมีบุญคุณแต่ชาติปางค์ก่อน เรื่องร้ายผ่านไปแล้วเดี๋ยวเรื่องดี ๆ ก็ผ่านมาเองนะจ๊ะ. |
|
|
|
  |
 |
|