Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 หลวงพ่อปัญญามรณภาพ ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว [10 ต.ค. 50 - 10:06] อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 12:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา (10 ต.ค. 2550) หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อินทปัญโญ หรือพระพรหมมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มรณภาพด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ที่โรงพยาบาลศิริราชพยาบาล กรุงเทพฯ สิริอายุได้ 96 ปี 4 เดือน 29 วัน

ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ สำลักอาหารถูกนำเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชลประทาน ก่อนถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชพยาบาล แพทย์ทำบอลลูนให้เนื่องจากเส้นเลือดตีบเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่สะดวก รวมทั้งมีหลายโรครุมเร้า กระทั่งมรณภาพดังกล่าว

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ฉายา “ปทุมุตฺตโร” เกิดวันที่ 11 พ.ค. 2454 บิดาชื่อ นายวัน เสน่ห์เจริญ มารดาชื่อ นางคล้าย เสน่ห์เจริญ กำเนิดที่ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง มีพี่น้อง 5 คน หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ รู้จักในนาม พระธรรมโกศาจารย์ เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ “เมตตาศึกษา” ของวัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ และบำเพ็ญกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกมาก


คัดลอกจาก...
Image

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ประวัติและปฏิปทาพระพรหมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8148

รวมคำสอนหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
http://www.dhammajak.net/dhamma/indexnew32.php

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 4:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

องค์กรคณะสงฆ์ไทย สูญเสียเพชรเม็ดงามไปอีกหนึ่งองค์

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 4:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอกราบนมัสการมาด้วยความอาลัยต่อการมรณภาพของ

ท่านปัญญานันทภิกขุ
หนึ่งในพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
และมีคุณูปการยิ่งต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย


ด้วยจิตคารวะ สาธุ สาธุ สาธุ
 


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 10 ต.ค.2007, 4:31 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 4:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ
“หลวงพ่อปัญญา” 12 ต.ค.นี้


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2550 13:47 น.

Image

วัดชลประทานฯ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ากราบศพหลวงพ่อปัญญาฯ วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. และประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ เวลา 17.00 น.วันเดียวกัน ขณะที่พระลูกวัดทำความสะอาดโดยรอบวัดและศาลาฯ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล ด้านอธิบดีกรมการศาสนา ระบุหลวงพ่อปัญญาฯ เป็นปูชนียบุคคลของประเทศ เป็นพระนักเทศน์นักปฏิบัติ เป็นดวงประทีปทางปัญญาของชาวพุทธดวงหนึ่งที่มีแสงสว่างมานาน

บรรยากาศที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ พระสงฆ์ได้ช่วยกันทำความสะอาดโดยรอบวัด ศาลาขจรประศาสน์ ซึ่งจะเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทัตเถระภิกขุ ขณะเดียวกัน มีประชาชนทยอยมาที่วัดด้วยความโศกเศร้า

พระเทพปริยัติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ กล่าวว่า ในวันนี้ทางวัดได้เตรียมการเรื่องงานที่อย่างเดียว เนื่องจากกะทันหัน หลวงพ่อปัญญาฯ เพิ่งเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ของวัดทุกฝ่ายได้เตรียมตกแต่งศาลาขจรประศาสน์ ประสานที่จอดรถภายในวัดทั้งหมด และประสานสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ

ตามที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ทรงมีบัญชามาให้ประสานไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อประกอบพีธีถวายน้ำหลวงสรงศพในวันที่ 12 ตุลาคม เวลา 17.00 น. และอาจจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ากราบศพตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันที่ 12 ตุลาคมนี้

“ตอนนี้ต้องขอโอกาสให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ เพราะหลวงพ่อไม่ใช่พระของวัดแต่เป็นพระของประเทศ และขอแจ้งไปยังญาติโยมยังไม่ต้องรีบร้อนมา หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการในพระบรมราชานุเคราะห์ อย่างน้อยศพของท่านต้องอยู่อีกเป็นปี เพราะลูกศิษย์มาก และต้องฟังทางมหาเถรสมาคม และฝ่ายราชการด้วย” พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชลประทานฯ กล่าวและว่า หลวงพ่อปัญญาฯ ไม่เคยสั่งการเรื่องการจัดงานศพของท่าน แต่ทางวัดจะสืบสานปณิธานของหลวงพ่อ ในการดูแลวัด ตามที่วางแนวทางไว้ตั้งแต่เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 2503 จนถึงปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลวงพ่อปัญญาฯ ท่านมีของสะสมอะไรเป็นพิเศษหรือไม่
พระเทพปริยัติเมธี กล่าวว่า หลวงพ่อปัญญาฯ ไม่มีของสะสมอะไรเลย
ยกเว้นหนังสือมีมากที่สุด และท่านไม่มีแม้กระทั่งเงินฝากในบัญชีที่เป็นชื่อของท่าน ถ้ามีก็เป็นชื่อของวัด ทางวัดเตรียมทำเรื่องการทำซีดีเทศนาธรรม
ซึ่งหลวงพ่อปัญญาฯ มีมากกว่า 5,000 กัณฑ์
รวมถึงเอกสารงานพิมพ์งานเขียนต่างๆ ด้วย


ด้านนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงการมรณภาพของหลวงพ่อปัญญาฯ ว่า
ถือเป็นการสูญเสียพระผู้ใหญ่ในวงการพระสงฆ์
ซึ่งเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แม้จะอายุมาก
แต่โดยสติปัญญายังให้หลักธรรมได้ตลอดเวลา
และคำสอนยังเป็นหลักดำเนินชีวติได้เป็นอย่างดี


นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า
หลวงพ่อปัญญาฯ เป็นปูชนียบุคคลของประเทศ เป็นพระนักเทศน์นักปฏิบัติเป็นดวงประทีปทางปัญญาของชาวพุทธดวงหนึ่ง
ที่มีแสงสว่างมานานมาก จากประวัติท่านอุทิศตน เพื่อพระพุทธศาสนามาแต่เยาว์วัย
และมุ่งมั่นเป็นทายาทของพระพุทธองค์มาโดยตลอด เป็นครูพระที่เทศน์ไม่หยุด แม้จะเจ็บป่วยก็ไม่หวั่นไหว


คัดลอกจาก...

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000119951

สาธุ สาธุ สาธุ
 


แก้ไขล่าสุดโดย ลูกโป่ง เมื่อ 10 ต.ค.2007, 10:11 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 4:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศิริราชสรุป “หลวงพ่อปัญญา”
มรณภาพด้วยอาการปอดอักเสบและไตวายเฉียบพลัน


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2550 11:24 น.

Image

โรงพยาบาลศิริราชเผยสาเหตุการมรณภาพของ
“หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ” มาจากอาการปอดอักเสบ และไตวายเฉียบพลัน
ระบุเมื่อคืนที่ผ่านมาหลวงพ่อหยุดหายใจแต่สามารถปั๊มช่วยเอาไว้ได้
ก่อนที่อาการจะทรุดในตอนเช้าและมรณภาพในที่สุด
เผยก่อนหน้าที่หลวงพ่อมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
และเข้ารับการรักษาที่ รพ.ชลประทานฯ ก่อนที่จะย้ายมาที่ศิริราช


เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น.ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล
เปิดแถลงข่าวถึงชสาเหตุการมรณภาพของพระพรหมมังคลาจารย์
หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ณ ห้องประชุมสื่อมวลชน
ตึกอำนวยการ รพ.ศิริราชว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทางโรงพยาบาลศิริราชได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลชลประทานรังสฤษฏ์
เพื่อขอย้ายหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุมารับการรักษา
ซึ่งทางโรงพยาบาลได้รับเข้ามาเป็นผู้ป่วยเมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 1 ตุลาคม
โดยเข้ารักษาตัวอยู่ที่วอร์ด 54 ปี ชั้น 5 ด้วยอาการหน้ามืด วูบ เหนื่อยและแน่นหน้าอก

ทั้งนี้ คณะแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นเพราะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
เนื่องจากหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งก่อนหน้านี้หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุเคยมีอาการมาแล้ว
และได้รับการผ่าตัดเพื่อขยายหลอดเลือด แต่ก็มีอาการกำเริบ
จากนั้นทางทีมแพทย์ของศิริราชได้ตรวจยืนยันอีกครั้ง ด้วยการฉีดสีและพบว่าตีบจริง

ต่อมาในวันที่ 5 ตุลาคม คณะแทพย์จึงได้ผ่าตัดอีกครั้ง
ซึ่งผลการผ่าตัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้นำไปดูอาการ 1 คืนในห้องไอซียู
จากนั้นได้ย้ายกลับไปที่วอร์ด 84 ปี แต่เมื่อย้ายกลับไปพบอาการไอ มีเสมหะ
โดยที่ไม่ไข้ จึงนำเข้าไอซียู เมื่อเอกซเรย์พบปอดติดเชื้อ
การทำงานของไตแย่ลง ทั้งนี้ โดยปกติการทำงานของไตของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
น้อยกว่าคนปกติอยู่แล้ว ต่อมามีอาการไตวายเฉียบพลันและปอดติดเชื้อ

ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวต่อว่า เมื่อคืนวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา
หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุมีอาการหัวใจวายและหยุดหายใจ 1 ครั้ง
แต่ทางแพทย์สามารถปั๊มหายใจช่วยชีวิตไว้ได้ ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค.
หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุมีอาการทรุดหนักและและมรณภาพในที่สุด

ทั้งนี้ คณะแพทย์วินิจฉัยสาเหตุของการเสียชีวิตว่า
มาจากอาการปอดอักเสบ และไตวายเฉียบพลัน


สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 4:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รพ.ชลประทานฯ จัดไว้อาลัยหลวงพ่อปัญญา
ชวนศิษยานุศิษย์สานต่องาน "ศาลากลางน้ำ"


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2550 14:58 น.

รพ.ชลประทานฯ จัดโถงอาคาร 80 ปีปัญญานันทะ
ให้ประชาชนลงนามไว้อาลัย “หลวงพ่อปัญญา”
คุณหญิงหมอพรทิพย์รุดช่วยดูแลสรีระสังขาร ด้านหลานหลวงปู่เผยนักเรียน นักศึกษาในอุปการะของหลวงปู่ เหมือนสิ้นเสาหลักทางการศึกษา


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก รพ.ชลประทานรังสฤษฏ์ว่า
เมื่อเวลา 13.10 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์
ได้เดินทางมายัง รพ.ชลประทานฯ ในชุดดำ เข้าไปอยู่ในห้อง 401 ซึ่งจะใช้เป็นห้องเก็บสรีรสังขารของหลวงพ่อปัญญา
โดยทางโรงพยาบาลแจ้งว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์มีความผูกพันกับทางโรงพยาบาล
จึงจะมาช่วยจัดการเรื่องสรีรสังขารของหลวงพ่อ


ทั้งนี้ บริเวณโถงอาคาร 80 ปีปัญญานันทะ รพ.ชลประทานฯ ได้จัดให้เป็นสถานที่ให้ประชาชนร่วมลงนามไว้อาลัยต่อหลวงพ่อปัญญา ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาลงนามบริเวณดังกล่าว


นางทิพย์ ศรโต แม่บ้านทำความสะอาดตึก 80 ปีฯ กล่าวว่า หลวงพ่อปัญญาเข้ามารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลบ่อยครั้ง
ซึ่งตนเคยพบแ ละกราบท่าน บางครั้งเมื่อรถเข็นของท่านเข็นผ่าน
หลวงพ่อก็จะให้พรคนแถวนั้น รู้สึกตกใจและเสียใจมากกับการมรณภาพของหลวงพ่อปัญญา
เพราะประชาชนละแวกนี้ หมอ พยาบาล รักท่านทุกคน


ด้าน น.ส.สุขวสสา ชูแข เปิดเผยว่า เป็นหลานของหลวงปู่
มาพร้อมกับคุณแม่ประไพศรี ชูแข ณ พัทลุง กล่าวว่า เป็นญาติของหลวงปู่ เมื่อเช้าได้ทราบข่าวจากโทรทัศน์ จึงรีบเดินทางมาร่วมลงนามไว้อาลัย


ด้านนางประไพศรี กล่าวว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ตนหยิบเสื้อดำมารีด
ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้สวมใส่ คิดว่าอาจจะมีคนรู้จักเสียชีวิต แต่ไม่คิดว่าจะเป็นหลวงปู่ เพราะเมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งจะมากราบหลวงปู่
หลวงปู่ยังได้อวยพรขอให้มีอายุ ครบ 100 ปี


ด้านนางสาววชิราพร พรพาณิชพันธุ์ หนึ่งในหลานที่หลวงปู่ส่งเรียนหนังสือ
เปิดเผยว่า ขณะนี้ศึกษาอยู่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ชั้นปี 3 หลวงปู่ส่งเรียนตั้งแต่เริ่มเรียนระดับปริญญาตรี ซึ่งหลวงปู่จะสอนตลอดว่า ให้ศึกษาอย่างเต็มความรู้ความสามารถ ขอให้รู้จักประหยัด
เลือกคบเพื่อนและอย่าเที่ยวกลางคืน
การจากไปของหลวงปู่ ตนรู้สึกตกใจและเสียใจมาก
นอกจากจะสูญเสียพระผู้ใหญ่ระดับประเทศแล้ว ลูกหลานและเยาวชนที่ท่านส่งเรียนก็ขาดเสาหลักด้านการศึกษาไปด้วย เพราะหลวงปู่ให้ความสำคัญด้านการศึกษามาก
ไม่เฉพาะลูกหลานที่ส่งให้เรียนหนังสือ แม้เป็นคนอื่นที่รักเรียนแต่ขาดทุนทรัพย์
หากมาขอ หลวงปู่ก็จะสนับสนุนทุนการศึกษาให้ทุกคน


ด้านคุณตาสังสรณ์ เสน่ห์เจริญ หลานสายตรงของหลวงปู่
ผู้ติดตามหลวงปู่ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 วัน ได้เดินทารงไปเยี่ยมหลวงปู่ที่ รพ.ศิริราช
หลวงปู่รู้สึกตัวดีไม่มีอาการเลื่อนลอย ได้เปรยให้ฟังว่ามียมบาลมาหา
และยมบาลบอกว่าพระรุ่นเดียวกับท่านไม่มีใครอยู่แล้ว เหลือท่านอยู่องค์เดียว


นพ.อุทัย สุภาพ ผอ.รพ.ชลประทานฯ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลจะเคลื่อนสรีระสังขารของหลวงพ่อปัญญา
ไปยังศาลาขจรประศาสน์ วัดชลประทานฯ ในช่วงเที่ยง วันที่ 12 ต.ค. เพื่อให้ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปเข้ารดน้ำศพ


ด้านนางสุพิต อนันตสุข อายุ 71 ปี นางพิทยา ส่งศรี อายุ 76 ปี
ซึ่งเป็นหลาน พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทัตเถระภิกขุ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฎ์ เดินทางร่วมลงนามในสมุดไว้อาลัย
ที่โรงพยาบาลชลประทาน จัดไว้สำหรับประชาชนที่บริเวณชั้นล่างห้องโถงของโรงพยาบาล โดยทั้งสองกล่าวว่า สิ่งที่นึกถึงหลวงพ่อปัญญาฯ คือ การปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
เป็นพระปฏิบัติ ที่ยึดถือความเป็นจริงของชีวิต ไม่มีเรื่องอิทธิฤทธิ์ ตามแนวทางปฏิบัติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ให้เชื่อในเรื่องไตรลักษณ์ เรื่องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ทุกคนให้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
ลูกศิษย์ของหลวงพ่อปัญญาฯ จะต้องเป็นผู้รู้ ผู้ตื่นและผู้เบิกบานด้วยธรรม
ทั้งนี้ ได้ถวายสัจจะ ว่าจะปฏิบัติธรรมตลอดชีวิตตามแนวทางที่หลวงพ่อสอน


“การเทศน์ของหลวงพ่ออยู่ในใจตลอด ท่านเทศน์ให้เป็นคนดี
ปฏิบัติดี มีชีวิตอย่างพอเพียง ไม่คิดเรื่องลาภยศ สรรเสริญ
เรื่องรูปปฏิบัติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในวัดชลประทานฯ จะไม่มีเรื่องเหล่านี้เลย” นางสุพิต กล่าว และว่าหลวงพ่อปัญญาฯ เคยพูดว่าจะยังไม่ตายจนกว่าจะสร้างอุโบสถกลางน้ำ ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ อ.วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เสร็จก่อน ดังนั้น ขอเชิญชวนลูกศิษย์เดินตามรอยปณิธาณของหลวงพ่อ สานต่องานนี้ให้แล้วเสร็จ


ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลชลประทานได้จัดสมุดลงนามไว้อาลัยในวันนี้
จนถึงเวลา 20.00 น.และวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.


คัดลอกจาก...
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000119990

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 4:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

1. ประวัติย่อ ปัญญานันทภิกขุ
2. พรธรรมปีใหม่ 2542/1999
3. เรื่อง ศีลธรรมและสัจจธรรม
4. เรื่อง แหล่งเกิดความทุกข์
5. เรื่อง องค์สามของความดี
6. เรื่อง หลักใจ
7. เรื่อง ทำดีเสียก่อนตาย
8. เรื่อง ตามรอยพุทธบาท
9. เรื่อง ฐานของชีวิต
10. เรื่อง สันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง
11. เรื่อง ชั่งหัวมัน
12. เรื่อง อนัตตาพาสุขใจ
13. เรื่อง ฤกษ์ยามที่ดี
14. เรื่อง อดีต ปัจจุบัน อนาคต
15. เรื่อง วิธีการสอนของพระพุทธเจ้า
16. เรื่อง สำนึกสร้างปัญญา
17. เรื่อง สอนลูกให้ถูกวิธี
18. เรื่อง ปฏิวัติภายนอกกับภายใน
19. เรื่อง วางไม่เป็นเย็นไม่ได้
20. เรื่อง ร้อนกายไม่ร้อนใจ
21. เรื่อง อย่าโง่กันนักเลย
22. เรื่อง ทำศพแบบประหยัด
23. เรื่อง คานธี - คนดีที่โลกนับถือ
24. เรื่อง ทำให้ถูกธรรม
25. เรื่อง มรดกธรรม
26. เรื่อง อยู่ด้วยความพอใจไม่มีทุกข์
27. เรื่อง ฝึกสติปัญญา ปัญหาไม่มี
28. การสืบอายุพระพุทธศาสนา
29. การศึกษาและการรับปริญญาในพระพุทธศาสนา
30. เรื่อง การพึ่งธรรม
31. เรื่อง เกิดดับ
32. การพักกาย พักใจ
33. เกียรติคุณของพระธรรม
34. เกียรติคุณของพระธรรม 2
35. ส.ค.ส. (สื่อความสงบ) 2543
36. Dhamma Lights The Way
37. Being Together With Love
38. Love your children the right way 1
39. Love your children the right way 2
40. Love your children the right way 3
41. เรื่อง ความจริงอันประเสริฐ
42. เรื่อง ทาน - บริจาค
43. ปาฐกาถา วัดปัญญานันทาราม
44. เรื่อง เสรีต้องมีธรรม
45. ปัญญาสาร ปีที่ 6 ฉบับ ก.ค.-ก.ย. 2544
46. หลวงพ่อมาดี

* ปาฐกถามากกว่า 150 เรื่อง


กรุณาอ่านทุกเรื่องได้ที่...

http://www.panya.iirt.net/read/

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 5:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

Image


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่...

ชมรมลูกศิษย์วัดปัญญานันทาราม

http://www.watpanya.org/

สาธุ สาธุ สาธุ
 


แก้ไขล่าสุดโดย ลูกโป่ง เมื่อ 10 ต.ค.2007, 10:16 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 10 ต.ค.2007, 9:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ประมวลภาพ'หลวงพ่อปัญญา'มรณภาพ

Image

Image

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่...

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=7170&catid=39

Image

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 11 ต.ค.2007, 9:37 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หลวงพ่อปัญญา มรณภาพ ร่ำอาลัยพระนักเทศน์

โดย ข่าวสด วัน พฤหัสบดี ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2550 08:17 น.

Image

เผยไตวายเฉียบพลัน สิ้นลมสงบ-อายุ96ปี พิธีรดน้ำศพวันที่12ตค.


มรณภาพ- พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี มรณภาพด้วยอาการไตวายฉับพลันที่โรงพยาบาลศิริราช
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ต.ค. สิริอายุ 96 ปี

คณะสงฆ์สูญเสียพระนักเทศน์-นักเผยแผ่ธรรมะชื่อดังหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เผยมรณภาพสงบด้วยอาการปอดอักเสบและไตวายเฉียบพลัน หลังลูกศิษย์ส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อวันที่ 6 ต.ค. เนื่องจากหลวงพ่อสำลักอาหารและมีอาการซึมผิดปกติ
เคลื่อนศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลชลประทาน
เพื่อรอพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพในวันที่ 12 ต.ค.นี้ ศิษยานุศิษย์ต่างหลั่งน้ำตาอาลัยการจากไป
เลขานุการวัดชลประทานฯเผยปณิธานสุดท้าย
อยากสร้างโบสถ์กลางน้ำให้มหาจุฬาฯวังน้อยให้เสร็จสิ้น ถึงกับปรารภว่าจะไม่ยอมตายถ้าหากสร้างไม่เสร็จ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ต.ค.
ที่หออภิบาลอายุรศาสตร์ ห้องซีซียู ชั้น 3 ตึกอัษฎางค์ โรงพยาบาลศิริราช
พระพรหมมังคลาจารย์ หรือ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ด้วยโรคปอดอักเสบ และไตวายเฉียบพลัน สิริรวมอายุ 96 ปี พรรษา 76 ทันทีที่คณะศิษยานุศิษย์ทราบข่าว ต่างพากันมารอกราบศพที่ด้านหน้าห้องซีซียูกว่า 20 คน แต่ทางโรงพยาบาลไม่สามารถให้เข้าไปในห้องไอซียูได้ โดยจะให้เฉพาะญาติสนิทและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปรับสรีระสังขารเท่านั้น
ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด คณะศิษยานุศิษย์บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ อาลัยต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระนักเทศน์ชื่อดัง


จากนั้นเวลา 10.45 น. โรงพยาบาลได้เคลื่อนศพไปฉีดฟอร์มาลิน ก่อนที่จะเคลื่อนศพไปที่ศาลาพิธีศพ ตึกอดุลยเดชวิกรม เพื่อรอรถพยาบาลมารับศพไปยังโรงพยาบาลชลประทาน จ.นนทบุรี
ระหว่างที่รอรถพยาบาลอยู่นั้น ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ากราบสังขารของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ
เป็นเวลาประมาณ 20 นาที จนถึงเวลา 12.10 น. จึงได้เคลื่อนศพออกจากโรงพยาบาลศิริราช ในระหว่างการเคลื่อนย้ายสรีระสังขารของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ตั้งแต่ออกจากห้องซีซียู จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาลศิริราช ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก


น.พ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช
เปิดแถลงข่าวถึงสาเหตุการมรณภาพว่า หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ได้เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.
ด้วยอาการหน้ามืด วูบ และแน่นหน้าอก ซึ่งก่อนหน้านี้ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เคยมีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบตันมาก่อน และเคยรับการถ่างขยายหลอดเลือดมาแล้ว จนเมื่อมาถึงโรงพยาบาลศิริราช ทีมแพทย์ได้วินิจฉัยอาการพบว่า
มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เนื่องจากหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
ต่อมาในวันที่ 6 ต.ค. พบว่าหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุมีอาการไอ มีเสมหะ
และมีการติดเชื้อในปอด อีกทั้งการทำงานของไตเริ่มแย่ลง ส่งผลการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการปอดติดเชื้อขาดประสิทธิภาพ
และเมื่อไตทำงานแย่ลง ประกอบกับหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มีอายุมาก จึงทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ส่งผลให้เกิดหัวใจหยุดเต้นไปหนึ่งครั้ง
ในช่วงค่ำของวันที่ 9 ต.ค. ทีมแพทย์ได้พยายามช่วยยื้ออาการไว้ได้เป็นผลสำเร็จชั่วคราว แต่ต่อมาในเช้าวันที่ 10 ต.ค. อาการหลวงพ่อทรุดหนักลง การเต้นของหัวใจก็หยุดลงอีก และมรณภาพลงอย่างสงบ เวลา 09.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ด้วยอาการโรคปอดอักเสบและไตวายเฉียบพลัน


พระครูพิมลสรกิจ พระเลขานุการของพระพรหมมังคลาจารย์ กล่าวว่า หลวงพ่อเริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. โดยมีอาการแน่นหน้าอก และสำลักอาหารขณะฉันเพล จึงนำส่งโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งในช่วงเช้าของวันที่ 9 ต.ค. หลวงพ่อยังคุยได้ตามปกติ แต่พอช่วงบ่ายมีอาการซึม กระทั่งมรณภาพในที่สุด หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มีความเป็นห่วงมากเรื่องการสร้างอุโบสถกลางน้ำ
ให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาอย่างมาก และท่านบอกว่าจะทำงานชิ้นนี้เป็นชิ้นสุดท้าย ถึงขนาดที่ท่านบอกเลยว่า จะอยู่ถึง 100 ปี และจะไม่ยอมตายหากยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งขณะนี้การดำเนินการก็คืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งการมรณภาพของท่าน ลูกศิษย์ทุกคนต่างเสียใจเป็นอันมาก นอกจากนี้ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ยังเป็นสหายธรรมกับท่านพุทธทาสภิกขุ ในการบุกเบิกสวนโมกขพลาราม
ที่จ.สุราษฎร์ธานี มาด้วยกัน


ด้านพระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะภาค 17 และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ
กล่าวว่า วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ได้ประสานกับทางโรงพยาบาลชลประทาน ให้นำศพหลวงพ่อปัญญา เก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำช่วยรักษาสภาพศพให้สมบูรณ์ที่สุด
เป็นเวลา 2 คืน และเปิดให้ประชาชนได้ลงนามเขียนคำไว้อาลัย ตรงบริเวณชั้นล่าง ณ ตึก 80 ปี ปัญญานันทะ โรงพยาบาลชลประทาน ทั้งนี้ ในวันที่ 10 ต.ค. วัดชลประทานฯ กำลังจัดเตรียมงานพิธีรดน้ำศพ พร้อมทั้งให้พระภิกษุและสามเณรลูกวัด ช่วยกันทำความสะอาดศาลาขจรประศาสน์และบริเวณวัดโดยรอบ ทำให้ไม่สะดวกที่จะเคลื่อนย้ายศพหลวงพ่อมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด อีกทั้งในวันที่ 11 ต.ค. เป็นวันพระใหญ่ ที่พระสงฆ์ต้องลงสวดปาติโมกข์ ไม่สะดวกอีกเช่นกัน กำหนดการต่างๆ จึงไปลงตัวอย่างที่สุด ในวันศุกร์ที่ 12 ต.ค. ทั้งนี้ ได้คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน เจ้าหน้าที่จากมหาจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองนนทบุรี ประสานให้ความร่วมมือกับวัดชลประทานฯ ในการอำนวยความสะดวกในงานพิธีดังกล่าว


สำหรับกำหนดการเคลื่อนย้ายศพหลวงพ่อปัญญานันทะมาบำเพ็ญกุศลในวันที่ 12 ต.ค.นั้น เวลา 08.30 น. เคลื่อนย้ายศพหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุจากโรงพยาบาลชลประทาน มาไว้ที่วัดชลประทานฯ และประกอบพิธีบรรจุศพลงในโกศพระราชทาน ณ ศาลาขจรประศาสน์ เวลา 09.00 น. เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้รดน้ำศพหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด เวลา 17.00 น. พิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และแขกผู้มีเกียรติเข้ารดน้ำศพ อาทิ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และกรรมการมหาเถรสมาคม พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ภายหลังพิธีจะได้เก็บศพหลวงพ่อไว้ 100 วัน เพื่อรอการพระราชทานเพลิงต่อไป


สำหรับบรรยากาศที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนทยอยเดินทางมาสอบถามข้อเท็จจริง
ถึงข่าวการมรณภาพของหลวงพ่อปัญญานันทะอย่างไม่ขาดสาย และเมื่อทราบว่าหลวงพ่อปัญญาได้มรณภาพแล้วด้วยอาการของโรคไตวายเฉียบพลัน
ก็พากันแสดงความรู้สึกเสียใจออกมา


เวลา 13.30 น. รถกู้ชีพของโรงพยาบาลชลประทาน ได้นำศพของหลวงพ่อปัญญานันทะ เดินทางมาถึงโรงพยาบาล โดยมีข้าราชการ แพทย์ พยาบาล รวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าวการมรณภาพต่างมายืนเข้าแถวทั้งฝั่งทางเดิน
เพื่อรอรับและสักการะศพ บางคนถึงกับร้องไห้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ก่อนที่จะนำศพของหลวงพ่อขึ้นไปยังชั้น 4 ห้องจินดาสงวน ห้อง 401 ซึ่งทางโรงพยาบาลได้จัดไว้เป็นห้องพิเศษสำหรับหลวงพ่อปัญญานันทะ
ในยามที่ต้องมาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลชลประทานเป็นประจำ ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลชลประทาน ได้จัดเตรียมสถานที่บริเวณด้านล่างอาคาร 80 ปีปัญญานันทะ ให้เป็นสถานที่ให้ประชาชนร่วมลงนามไว้อาลัย ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาลงนามอย่างต่อเนื่อง


ต่อมานายแพทย์อุทัย สุภาพ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลประทาน พร้อมด้วยพระครูปลัดสุวัฒนมงคลวรคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชลประทานฯ และดร.ชาติชาย พิทักษ์ธนาคม เลขานุการวัดชลประทานฯ และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวที่ห้องประชุมชั้น 6 โรงพยาบาลชลประทาน


นายแพทย์อุทัย ได้กล่าวว่า หลวงพ่อได้มาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลชลประทาน
เมื่อวันที่ 30 กันยายนเมื่อช่วงบ่ายด้วยอาการของโรคปอดอักเสบและไตวาย ซึ่งเป็นโรคประจำตัวของหลวงพ่อ ต่อมาวันที่ 1 ตุลาคม
ทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวหลวงพ่อปัญญา ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช จนกระทั่งหลวงพ่อได้มรณภาพลงด้วยโรคไตวายเฉียบพลัน ซึ่งก่อนหน้าที่หลวงพ่อจะถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในวันที่ 30 ก.ย. เพียง 2 วัน ทางโรงพยาบาลได้ทำบอลลูนหัวใจให้กับหลวงพ่อ ก็ไม่พบว่ามีอาการใดๆ ผิดปกติ กระทั่งมาทราบข่าวว่าหลวงพ่อมรณภาพแล้วเมื่อเช้านี้จึงเดินทางไปรับศพหลวงพ่อ
ที่โรงพยาบาลศิริราชกลับมาที่โรงพยาบาลชลประทาน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่หลวงพ่อสร้างขึ้นเองด้วยเงินทำบุญ ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้เกียรติกับหลวงพ่อซึ่งเป็นคุโณปการของโรงพยาบาล
ทางโรงพยาบาลจึงต้องปฏิบัติกับหลวงพ่อให้สมเกียรติ ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงเก็บรักษานำศพของหลวงพ่อไว้ที่โรงพยาบาล
ไปจนถึงวันที่ 12 ต.ค.ก่อนที่จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดชลประทานฯต่อไป


พระครูปลัดสุวัฒนมงคลวรคุณ กล่าวว่า อาตมาอยากให้ประชาชนที่รักและเคารพในตัวหลวงพ่อที่ต้องการเดินทาง
มาสักการะหลวงพ่อที่โรงพยาบาลนั้น ทำการสักการะที่บริเวณชั้นล่างของอาคารที่โรงพยาบาลได้จัดเตรียมไว้เท่านั้น เนื่องจากห้องที่เก็บรักษาศพของหลวงพ่อเป็นห้องพิเศษ มีขนาดไม่ใหญ่มาก และเกรงว่าจะเกิดความไม่สะดวก จึงขอให้ผู้ที่ต้องการเดินทางมาสักการะที่โรงพยาบาลใช้สถานที่ชั้นล่างของโรงพยาบาลไปก่อน
และเมื่อทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่จัดงานภายในวัดให้กับหลวงพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็จะเคลื่อนย้ายศพของหลวงพ่อไปบำเพ็ญกุศลและเปิดให้ประชาชนทั่วไป
ได้เข้ารดน้ำอย่างเป็นทางการ โดยในเบื้องต้นได้ทำการปรึกษาหารือกันแล้วว่า
จะทำการเก็บศพของหลวงพ่อไว้ 100 วัน


ดร.ชาติชาย พิทักษ์ธนาคม ในฐานะรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะร่วมเป็นเจ้าภาพในสวดบำเพ็ญกุศลให้กับหลวงพ่อทุกคืน สำหรับโครงการต่าง ๆ ที่หลวงพ่อได้ทำไว้นั้น ทุกโครงการจะได้รับการสานงานต่อไป โดยเฉพาะโครงการงานสร้างอุโบสถกลางน้ำของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ที่อำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งใช้เงินจำนวนกว่า 136 ล้านบาทนั้น ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะต้องสร้างไปตามกำหนดให้เสร็จภายในเดือนก.ย.ปีหน้าตามที่หลวงพ่อได้ตั้งปณิธานไว้

ที่จ.พัทลุง นางหนูกลิ่น กฤตรัชตนันท์ อายุ 92 ปี น้องสาวคนสุดท้องในครอบครัวของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 191 ถนนเสน่ห์เจริญ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ทราบข่าวการมรณภาพของหลวงพ่อปัญญานันทะแล้ว และเข้าใจดีว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ก็ต้องตายจึงทำใจได้ ส่วนการเดินทางไปร่วมงานศพที่จังหวัดนนทบุรีนั้น ก็อยากไปร่วมงานเหมือนกัน แต่ยังกังวลเรื่องสุขภาพร่างกายเพราะชรามากแล้ว เกรงว่าจะไปเป็นภาระให้ลูกหลาน


ทางด้านนางสุภาพ พรพาณิชพันธ์ ลูกสาวของนางหนูกลิ่น และเป็นหลานสาวคนโตของหลวงพ่อปัญญาฯกล่าวว่า เรื่องของการจัดงาน จึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ แต่ในฐานะของลูกหลานก็ได้มีการทยอยกันเดินทางไปร่วมงาน และเย็นวันนี้คงจะถึงจังหวัดนนทบุรีกับเกือบทั้งหมด หลวงลุง เป็นคนอารมณ์ดี โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่ลูกหลานและญาติไปเยี่ยม จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
และล่าสุดเมื่อปลายปี 2548 ที่หลวงลุงเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ที่บ้านไฟไหม้ ซอย 10 ถนนเสน่ห์เจริญ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ซึ่งสภาพบ้านได้ถูกแปรเปลี่ยนดัดแปลงเกือบทั้งหมด หลวงลุงจึงถามว่า มีอะไรบ้างในบ้านหลังเก่าที่เหลืออยู่ ปรากฏว่าเหลือเพียงป้ายเลขที่บ้านเก่า ซึ่งเป็นป้ายไม้ เขียนด้วยเลขไทย ๑๑๘ หลวงลุงจึงสั่งให้เก็บรักษาไว้ และจนขณะนี้ก็ยังเก็บไว้


ส่วนบรรยากาศวัดปัญญานันทาราม ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บรรยากาศการเข้าค่ายและการฝึกอบรมปฏิบัติธรรม ยังคงเป็นไปตามปกติ
มีคณะนักเรียนและครูเข้ามาปฏิบัติธรรมตามตารางเข้าค่ายของวัดตามระยะเวลาที่กำหนด มีคณะครูและนักเรียนบางส่วนที่เข้าค่ายรับการอบรมเดินทางกลับ เนื่องจากครบกำหนด และก็มีนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ที่เพิ่งเดินทางมาถึงก็เริ่มเข้ารับการอบรมตามวงรอบตามปกติ


คุณครูจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รู้สึกตกใจเมื่อได้ทราบข่าวจากเพื่อนที่โทรศัพท์มาบอกเมื่อเช้านี้ โดยนำนักเรียนชั้นม.4 ชายหญิงจำนวน 180 คน มาเข้ารับการอบรมระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายจึงพานักเรียนเดินทางกลับ


ด้านพระมหาเด็ด เตชเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปัญญานันทาราม ฝ่ายฝึกอบรม เปิดเผยว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดที่หลวงพ่อปัญญานันทะได้ให้แนวทางไว้ตั้งแต่ท่านสร้างเมื่อปี พ.ศ.2538 สร้างวัดเพื่อสร้างพระ สร้างคน สร้างเยาวชนของชาติ ศาสนทายาทที่ดีของพระพุทธศาสนาให้อยู่ในโลกได้อย่างถูกต้องและห่างไกลจากวัตถุนิยม
ทางวัดก็ดำเนินงานตามที่หลวงพ่อได้ฝากเอาไว้ นั่นก็คือการให้คนได้เข้ามารับการอบรม เข้าค่าย โดยเฉพาะวันเดียวกันนี้เป็นวันที่หลวงพ่อจากเราไป ทางวัดก็ต้องดำเนินงานอบรมต่อไปอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าตารางการเข้าค่ายรับการอบรม
ในปี 2551 เต็มหมดแล้ว ซึ่งก็จะมีการสับเปลี่ยนกันไปโดยมีคณะหนึ่งเข้า คณะหนึ่งก็ออกไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเยาวชนและนักเรียน รวมทั้งครูอาจารย์ที่มาเป็นหมู่คณะ ซึ่งก็ผู้ที่เข้ามาอบรม 800 กว่าคน วันนี้ก็ต้องเอางานที่หลวงพ่อได้สานเอาไว้ให้เป็นการบูชาหลวงพ่อ ท่านคงจะอิ่มใจที่ลูกศิษย์ยังคงดำเนินตามเท้าที่ท่านได้ทำงานตลอด 96 ปีที่ท่านใช้ชีวิตทำให้ดู อยู่ให้เห็น เย็นให้ได้สัมผัส ตามที่หลวงพ่อได้ตั้งปณิธานในวันที่ท่านมาทำงานที่วัดแห่งนี้ว่า
ตั้งใจทำงานเพื่องาน ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่อย่างแท้จริง ผู้ใดเป็นผู้รักหลวงพ่อเดินตามรอยเท้าของหลวงพ่อ
ขอให้ผู้นั้นทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ร่างกายของหลวงพ่อตายได้ แต่งานของหลวงพ่ออย่าให้ตาย เพราะเราจะต้องสืบต่อกันต่อไป นี่คือใจความของหลวงพ่อที่สอนเอาไว้


วันเดียวกัน นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยหลังผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดทำข้อมูลคำสอนของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนในวิชาพุทธศาสนาว่า ตนยังไม่ได้รับคำสั่งจากทางคณะสงฆ์ว่าจะให้มีการจัดเตรียมรวบรวมข้อมูล
หลักธรรมคำสอนของหลวงพ่อปัญญานันทะ แต่เรื่องใดที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สามารถให้ความร่วมมือและเป็นประโยชน์ต่อชาวพุทธก็ยินดีอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
ต้องรอทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อีกครั้ง ส่วนจะมีการยกย่องให้หลวงพ่อปัญญาเป็นบุคคลสำคัญของยูเนสโก
เหมือนกับท่านพระพุทธทาสได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้สามารถทำได้ แต่คงจะต้องเตรียมข้อมูลก่อน ซึ่งตนเชื่อว่า หลวงพ่อปัญญาเป็นพระรูปหนึ่งที่อยู่ในฐานะที่ได้รับการพิจารณา เพราะขณะนี้มีบุคคลสำคัญหลายคนที่ได้เสนอไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการคัดเลือก


สำหรับประวัติพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เดิมชื่อ ปั่น นามสกุล เสน่ห์เจริญ เกิดวันที่ 11 พฤษภาคม 2454 ที่อ.เมือง จ.พัทลุง ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดนางลาด จ.พัทลุง พ.ศ.2475 โดยมีพระครูจรูญกรณีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์
ทั้งนี้ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุได้เริ่มต้นชีวิตการเป็นพระนักเทศน์ที่วัดปากนคร
อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และเป็นข่าวฮือฮาเมื่อท่านได้เทศน์ หรือแสดงปาฐกถาธรรมด้วยการยืนพูดบนม้านั่ง ที่บริเวณหลังสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ในวันที่ท่านเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปเผยแผ่ธรรมะยังต่างประเทศ ซึ่งการเทศน์ที่สถานีรถไฟในครั้งนั้น ถือว่าเป็นการยืนเทศน์ครั้งแรกของพระสงฆ์ไทย


พ.ศ.2547 ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ เป็นรองสมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏที่พระพรหมมังคลาจารย์


หลวงพ่อปัญญานันทะ มีความปราดเปรื่องในการเทศนาบรรยายธรรม โดยท่านจะใช้คำพูดแบบเรียบง่าย เข้าใจง่าย ไม่อ้างคำบาลีมากมายจนเข้าใจยากและฟังไม่รู้เรื่อง
ท่านเป็นผู้ที่มีวาทศิลป์เป็นเลิศ อธิบายหลักธรรมให้คนทั่วไปเข้าใจอย่างง่ายๆ เป็นพระที่ต่อต้านการนำศาสนามาหากิน หลอกลวงชวนเชื่อให้งมงาย ทุกครั้งที่แสดงปาฐกถาธรรมในสถานที่ต่างๆ จะมีประชาชนเข้าฟังเป็นจำนวนมาก วิธีการของท่านคือ จะไปบรรยายธรรมตามหอประชุมต่างๆ ตามคำเชิญ เช่น ศาลาปฏิบัติธรรม สถานที่ราชการ และโรงเรียนต่างๆ แทนการให้มานั่งฟังกันที่วัด ตามรูปแบบเดิมๆ ที่เคยปฏิบัติกันมา การมรณภาพของท่านจึงถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของคณะสงฆ์ไทย

ด้านนายกนก แสนประเสริฐ ผอ.ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา รักษาการ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม(มส) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้ประสานกับพระเทพปริยัติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ เกี่ยวกับการมรณภาพของพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ทั้งนี้ ทางสำนักพุทธฯ ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขานุการ สำนักพระราชวัง ในการขอพระราชทานน้ำสรงศพ และขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งได้รายงานให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคม รับทราบแล้ว ซึ่งคณะสงฆ์ได้แสดงความเสียใจ พร้อมทั้งจะร่วมพิธีสรงน้ำหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ในวันที่ 12 ต.ค. เวลา 17.00 น. ณ วัดชลประทานฯด้วย


Image

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง