Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
การถวายเทศน์มงคลวิเศษกถา (วิเสสกถา)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
พิธีกรรมทางศาสนา
ผู้ตั้ง
ข้อความ
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
ตอบเมื่อ: 04 เม.ย.2008, 12:26 am
ก า ร ถ ว า ย เ ท ศ น์ ม ง ค ล วิ เ ศ ษ ก ถ า
ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระเจ้าแผ่นดินนั้น
มีธรรมเนียมสำคัญของหลวงประการหนึ่ง
คือ
การถวายเทศน์มงคลวิเศษกถา (วิเสสกถา)
ซึ่งนับว่าเป็นการถวายเทศน์พิเศษต่างจากถวายเทศน์ในงานพระราชพิธีอื่นๆ
พระสงฆ์ผู้รับหน้าที่
ถวายเทศน์มงคลวิเศษกถา
นี้
จะต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระพระบรมราชานุญาตก่อน
เมื่อมีพระบรมราชานุญาตลงมาแล้ว
ก็ถือเป็นหน้าที่ประจำที่จะต้องถวายเทศน์ทุกปี
จนกว่าจะมีเหตุจำเป็น
จึงกราบทูลขอพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนรูปอื่น
สำนวนเทศนามงคลวิเศษกถานั้น
โดยปกติจะเป็นการพรรณาถึงพระราชกรณียกิจ
และพระราชจริยาวัตรขององค์พระมหากษัตริยาธิราชเจ้า
ที่พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถ
ในการดำเนินรัฐประศาสโนบายบริหารประเทศชาติ
และปกครองพสกนิกรให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุข
โดยอาศัย
หลักทศพิธราชธรรมจริยานุวัตร
สิบประการ
พระผู้ถวายเทศน์ต้องแต่งสำนวนเทศน์ให้เสร็จล่วงหน้า
พิมพ์สำเนาส่งให้สำนักพระราชวัง
นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายก่อนวันงานพระราชพิธี
เป็นสำนวนเทศน์กัณฑ์ใหญ่มีเนื้อความมาก
ต้องใช้เวลาถวายเทศน์ตั้งแต่ ๔๕ นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง
ถวายมงคลวิเศษกถาจบลงแล้ว
จะลงจากธรรมาสน์มานั่งยังอาสนเดิมในแถว
แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯ ไปประเคน
เครื่องไทยธรรมกัณฑ์เทศน์พร้อมทั้งใบปวารณา
แล้วพระผู้ถวายเทศน์จึงสวด ยถา วาริวหา ฯลฯ
พระสงฆ์ทั้งหมดรับ สพฺพีติโย ฯลฯ เป็นต้น
มงคลวิเสส
เป็นคำบาลี
จะเขียนให้เป็นปัจจุบันจากวิเสสเป็นพิเศษก็ได้ความหมายเดียวกัน
คำวิเสสเป็นที่นิยมใช้สมัยรัชกาลที่ ๕ มากกว่าพิเศษ
เช่น กรรมการวิเสส
กระทั่งมงคลวิเสสกถาที่เป็นธรรมเนียมครั้งแรกเกิดครั้งรัชกาลที่ ๕
การถวายมงคลวิเสสกถามีความต่างจากการถวายพระธรรมเทศนาทั่วไป
และจัดถวายเนื่องในการเฉลิมพระชนมพรรษาเท่านั้น
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
เป็นผู้ทรงเทศน์มงคลวิเสสกถาเป็นองค์แรกที่ถวายแด่รัชกาลที่ ๕
สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ประทานอธิบายด้วยว่า
ในสมัยราชาธิปไตยนั้น
การเทศน์มงคลวิเสสกถา
เป็นวิธีการวิจารณ์กษัตริย์ที่แยบคายวิธีหนึ่ง
และธรรมเนียมการเลือกพระมหาเถระที่จะถวาย
ก็มักเป็นสมเด็จพระสังฆราช
เว้นไว้เพียงสมเด็จพระสังฆราชทรงชราหรือพระประชวร
สมเด็จพระสังฆราชจึงคัดเลือกสมเด็จพระราชาคณะ
ที่เหมาะสมให้ปฏิบัติหน้าที่นี้
สำหรับพระมหาเถระผู้ทำหน้าที่
ถวายมงคลวิเสสกถา
ในรัชกาลปัจจุบัน
ได้แก่
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมฺมสาโร) แห่งวัดราชผาติการาม
ครั้นท่านมรณภาพลง จึงมาเป็นองค์ปัจจุบัน
คือ
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) แห่งวัดชนะสงคราม
การถวายมงคลวิเสสกถา
สมัยหลัง
นับว่ามีความแตกต่างจากในรัชกาลที่ ๕ กับต้นรัชกาลที่ ๖
คือเมื่อก่อนนั้น พระมหาเถระผู้ถวายเทศน์
เพียงร่างคำแสดงพระธรรมเทศนาให้สละสลวยไว้ใช้เวลาขึ้นธรรมาสน์
หากทราบมาว่าสมัยหลัง ท่านธรรมกถึก (ผู้แสดงธรรม)
ต้องส่งเอกสารให้สำนักพระราชวังพิจารณาถึงเรื่องความเหมาะสมก่อน
แล้วจึงถวายคืนให้ใช้เทศน์ถวายได้
ธรรมเนียมตรวจตรานั้น
มิอาจทราบว่าเป็นเพราะเกิดจากสมัยรัชกาลที่ ๖ ใช่หรือไม่
เมื่อ
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)
เทศน์ท้วงติงนโยบายของรัชกาลที่ ๖
ที่เรี่ยไรประชาชนนำเงินมาซื้อเรือรบ
ครั้งนั้นทรงกริ้วรับสั่งถอดสมณศักดิ์
ต่อมาภายหลังจึงถวายสมณศักดิ์คืน
รวบรวมและเรียบเรียงมาจาก :
-
http://www.heritage.thaigov.net/religion/relceremony/relcer1.htm
- คอลัมน์ บังอบายเบิกฟ้า 9 ธันวาคม 2550
http://www.thaipost.net/
suvitjak
บัวบาน
เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
ตอบเมื่อ: 22 ก.ค.2008, 12:03 pm
ขอบคุณครับ ผมเพิ่งจะได้รู้เรื่องก็เดี๋ยวนี้
_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ฌาณ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2008, 9:40 pm
_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
พิธีกรรมทางศาสนา
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th