ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
I am
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
|
ตอบเมื่อ:
06 ก.ย. 2007, 9:02 am |
  |
พระพุทธศาสนาสอนให้ เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม
ผู้ใดทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี
ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว
คนอื่นจะรับแทนไม่ได้ ๑
สอนให้ ทำทาน การสละสิ่งของ ของตนให้แก่สัตว์อื่นแลบุคคลอื่น
ด้วยจิตเมตตาปรารถนาความสุขแก่บุคคลอื่น
ถึงวัตถุที่ให้นั้นจะเป็นของน้อยนิดเดียวก็ดี
หากมากด้วยจิตเมตตาของก็จะเป็นของมากเอง ๑
สอนให้ รักษาศีล ด้วยจิตวิรัติเจตนางดเว้นตัวเดียว
โดยมีหิริ -โอตตัปปะเป็นมูลฐาน
จะเป็นศีล ๕-๘-๑๐-๒๒๗ ก็ตาม
ถ้ามีจิตวิรัติเจตนางดเว้นตัวเดียว
โดยมีหิริ -โอตตัปปะเป็นมูลฐานแล้ว
เป็นอันถึงที่สุดของการรักษาศีลได้ทั้งนั้น ๑
สมาธิ สอนให้เห็นโทษของอารมณ์ที่เกิดมาอายตนะ ๖
ซึ่งมันแส่ส่ายไปยังโลกธรรมทั้งแปด
เป็นทุกข์เดือดร้อน ไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วย่อมสละปล่อยวาง
แล้วย้อนเข้ามาอยู่ที่จิตแห่งเดียว ๑
ปัญญา สอนให้ค้นคว้าสิ่งทั้งหมดที่มาปรากฏอยู่ที่จิต
ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีให้เห็นเป็นแต่เกิดจากปัจจัย
เมื่อปัจจัยในสิ่งนั้น ๆ ดับไปแล้ว
สิ่งเหล่านั้น ๆ ก็ดับไปหมด
จะเหลืออยู่แต่ธรรมสิ่งเดียว ๑
ผู้มาพิจารณาเห็นชัดแจ้งด้วยใจของตนเองอย่างนี้แล้ว
ผู้นั้นปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาอันนี้ไม่มีการเสื่อม
และไม่หลงงมงายในสิ่งที่ไร้สาระ
เข้าถึงธรรมอันแท้จริง
จะเรียกผู้นั้นว่าอริยบุคคลหรืออะไรก็แล้วแต่
เพราะปฏิบัติธรรมเข้าถึงที่สุด
คือ ใจ แล้วสิ้นสงสัยในธรรมทั้งปวง
ผู้เขียนหวังว่าหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มนี้
จะเป็นประโยชน์แก่นักปฏิบัติไม่มากก็น้อย
เมื่อปฏิบัติตามดังได้อธิบายมาแล้ว
วัดหินหมากเป้ง
๑๗ ตุลาคม ๒๕๒๙
: ถึงโลก ถึงธรรม
: พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี)
http://www.thewayofdhamma.org/page2/moradok211.html
 |
|
_________________ ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก |
|
     |
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
06 ก.ย. 2007, 11:33 am |
  |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณ I am
ธรรมะสวัสดีค่ะ
 |
|
|
|
   |
 |
|