Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พระบรมสารีริกธาตุ 3 ประเทศ ประดิษฐานมณฑลพิธีสวนสัตว์ดุสิต
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993
ตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2007, 2:50 pm
พระบรมสารีริกธาตุ 3 ประเทศ ประดิษฐานมณฑลพิธีสวนสัตว์ดุสิต
กาลครั้งนั้น พระบรมศาสดาทรงดำริว่า
ตถาคตมีพระชนมายุน้อย ประกาศพระศาสนาอยู่ได้ไม่นานก็จะปรินิพพาน พระศาสนายังไม่แผ่ไพศาลไปยังนานาประเทศ
พระองค์จึงทรงอธิษฐานว่า เมื่อตถาคตปรินิพพาน และทำการถวายพระเพลิงแล้ว
พระบรมสารีริกธาตุทั้งหลายจะแตกกระจายออกเป็น 3 สัณฐาน คือ ขนาดโตเท่าเมล็ดถั่ว ขนาดกลางเท่าเมล็ดข้าวสาร และขนาดเล็กเท่าเมล็ดผักกาด เผื่อว่ามหาชนในนานาประเทศ จะได้อัญเชิญไปนมัสการทำการสักการบูชา เข้าถึงกุศล อำนวยผลบังเกิดในสุคติภพต่อไป ด้วยอานุภาพแห่งพุทธาธิษฐานทำให้เกิดเพลิงมิไหม้ ดังนี้
1. ผ้าขาวที่ห่มห่อพระสรีระชั้นในสุดและนอกสุด
2. พระเขี้ยวแก้ว 4 เขี้ยว
3. พระรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้าทั้งสองข้าง)
4. พระอุณหิส (กระดูกหน้าผาก)
จากตำนานพระพุทธศาสนา กล่าวถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเสด็จปรินิพพานตอนหนึ่งว่า
ข่าวการเสด็จปรินิพพานของพระพุทธเจ้าแพร่สะพัดอย่างรวดเร็วและกว้างไกล
พระเจ้าอชาตศัตรูแห่งกรุงราชคฤห์ กษัตริย์ลิจฉวีแห่งไพศาลี ศากยะแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ปุรีแห่งอลากัปปา โกละยะแห่งรามคาม มัลละแห่งปาวา รวมทั้งพราหมณ์คนหนึ่ง ต่างอ้างสิทธิ์ได้ส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ จากมัลละแห่งกุสินารา เกือบจะเกิดสงครามแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ แต่ได้
โทณพราหมณ์
เข้ามาจัดการโดยตกลงแบ่งกันอย่างสันติ ให้มีการแบ่งออกเป็น 8 ส่วนเท่ากัน ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งตกเป็นของมัลละแห่งกุสินารา ซึ่งได้สร้างสถูปที่สำคัญขึ้นมาแห่งหนึ่งในเมืองของตนด้วยพิธีอย่างสมเกียรติ
บัดนี้กาลเวลาได้ล่วงเลยมาถึง 2550 ปี พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าก็ยังได้ถูกอัญเชิญไปยังนานาประเทศ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการบูชา เพื่อเป็นสิริมงคลของชีวิต เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวพุทธที่ได้กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และเนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ อัญเชิญจาก 3 ประเทศ คือ ศรีลังกา พม่า และไทย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทย กราบสักการบูชาถวายเป็นพระราชกุศล
นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2550 องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา พม่า และไทย มาประดิษฐานชั่วคราว ณ มณฑลพิธีสวนสัตว์ดุสิต เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยพาบุตรหลานที่เป็นเยาวชนของชาติมากราบสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวพุทธควรได้กราบสักการบูชา อันเป็นสิริมงคลของชีวิต อีกทั้งจะได้พัฒนาจิตใจให้เยาวชนไทยยึดมั่นในคุณธรรม 4 ประการ ตามพระบรมราโชวาท
พระบรมสารีริกธาตุอัญเชิญจาก 3 ประเทศ จะประดิษฐานชั่วคราว ณ มลฑลพิธีสวนสัตว์ดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นระยะเวลา 80 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2550 เป็นต้นไป เปิดให้กราบสักการบูชา ระหว่างเวลา 09.00-20.00 น.
การนี้รัฐบาลศรีลังกาและรัฐบาลพม่า ได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษเพื่อชาวไทย ได้กราบสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุหรือกระดูกของพระพุทธเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จปรินิพพาน บรรดาสาวกของพระองค์ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ไปยังดินแดนต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้กราบไหว้สักการบูชา
ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธโดย
หนังสือพิมพ์ข่าวสด คอลัมน์สดหน้าพระ หน้า 32
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6115
_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th