เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993
|
ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2007, 2:50 pm |
  |
พระบรมสารีริกธาตุ 3 ประเทศ ประดิษฐานมณฑลพิธีสวนสัตว์ดุสิต
กาลครั้งนั้น พระบรมศาสดาทรงดำริว่า “ตถาคตมีพระชนมายุน้อย ประกาศพระศาสนาอยู่ได้ไม่นานก็จะปรินิพพาน พระศาสนายังไม่แผ่ไพศาลไปยังนานาประเทศ” พระองค์จึงทรงอธิษฐานว่า เมื่อตถาคตปรินิพพาน และทำการถวายพระเพลิงแล้ว
พระบรมสารีริกธาตุทั้งหลายจะแตกกระจายออกเป็น 3 สัณฐาน คือ ขนาดโตเท่าเมล็ดถั่ว ขนาดกลางเท่าเมล็ดข้าวสาร และขนาดเล็กเท่าเมล็ดผักกาด เผื่อว่ามหาชนในนานาประเทศ จะได้อัญเชิญไปนมัสการทำการสักการบูชา เข้าถึงกุศล อำนวยผลบังเกิดในสุคติภพต่อไป ด้วยอานุภาพแห่งพุทธาธิษฐานทำให้เกิดเพลิงมิไหม้ ดังนี้
1. ผ้าขาวที่ห่มห่อพระสรีระชั้นในสุดและนอกสุด
2. พระเขี้ยวแก้ว 4 เขี้ยว
3. พระรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้าทั้งสองข้าง)
4. พระอุณหิส (กระดูกหน้าผาก)
จากตำนานพระพุทธศาสนา กล่าวถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเสด็จปรินิพพานตอนหนึ่งว่า ข่าวการเสด็จปรินิพพานของพระพุทธเจ้าแพร่สะพัดอย่างรวดเร็วและกว้างไกล พระเจ้าอชาตศัตรูแห่งกรุงราชคฤห์ กษัตริย์ลิจฉวีแห่งไพศาลี ศากยะแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ปุรีแห่งอลากัปปา โกละยะแห่งรามคาม มัลละแห่งปาวา รวมทั้งพราหมณ์คนหนึ่ง ต่างอ้างสิทธิ์ได้ส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ จากมัลละแห่งกุสินารา เกือบจะเกิดสงครามแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ แต่ได้ โทณพราหมณ์ เข้ามาจัดการโดยตกลงแบ่งกันอย่างสันติ ให้มีการแบ่งออกเป็น 8 ส่วนเท่ากัน ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งตกเป็นของมัลละแห่งกุสินารา ซึ่งได้สร้างสถูปที่สำคัญขึ้นมาแห่งหนึ่งในเมืองของตนด้วยพิธีอย่างสมเกียรติ
บัดนี้กาลเวลาได้ล่วงเลยมาถึง 2550 ปี พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าก็ยังได้ถูกอัญเชิญไปยังนานาประเทศ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการบูชา เพื่อเป็นสิริมงคลของชีวิต เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวพุทธที่ได้กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ อัญเชิญจาก 3 ประเทศ คือ ศรีลังกา พม่า และไทย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทย กราบสักการบูชาถวายเป็นพระราชกุศล
“นายโสภณ ดำนุ้ย” ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2550 องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา พม่า และไทย มาประดิษฐานชั่วคราว ณ มณฑลพิธีสวนสัตว์ดุสิต เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยพาบุตรหลานที่เป็นเยาวชนของชาติมากราบสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตของชาวพุทธควรได้กราบสักการบูชา อันเป็นสิริมงคลของชีวิต อีกทั้งจะได้พัฒนาจิตใจให้เยาวชนไทยยึดมั่นในคุณธรรม 4 ประการ ตามพระบรมราโชวาท
พระบรมสารีริกธาตุอัญเชิญจาก 3 ประเทศ จะประดิษฐานชั่วคราว ณ มลฑลพิธีสวนสัตว์ดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นระยะเวลา 80 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2550 เป็นต้นไป เปิดให้กราบสักการบูชา ระหว่างเวลา 09.00-20.00 น.
การนี้รัฐบาลศรีลังกาและรัฐบาลพม่า ได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษเพื่อชาวไทย ได้กราบสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุหรือกระดูกของพระพุทธเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จปรินิพพาน บรรดาสาวกของพระองค์ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ไปยังดินแดนต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้กราบไหว้สักการบูชา
ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธโดย
หนังสือพิมพ์ข่าวสด คอลัมน์สดหน้าพระ หน้า 32
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6115 |
|
_________________ -- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง -- |
|