ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
I am
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.ค.2007, 7:45 am |
  |
ปฏิบัติกันเถิด
จงหายใจเข้า หายใจออก อยู่อย่างนี้แหละ อย่าใส่ใจกับอะไรทั้งนั้น ใครจะยืนเอาก้นขึ้นฟ้าก็ช่าง อย่าไปเอาใจใส่ อยู่แต่กับลมหายใจเข้าออก ให้ความรู้สึกกำหนดอยู่กับลมหายใจ ทำอยู่อย่างนี้แหละ
ไม่ไปเอาอะไรอื่น ไม่ต้องคิดว่าจะเอานั่นเอานี่ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น
ให้รู้จักแต่
ลมเข้า...ลมออก...
ลมเข้า...ลมออก...
พุท.. เข้า
โธ.... ออก
อยู่กับลมหายใจอย่างนี้แหละ เอาอันนี้เป็นอารมณ์ ให้ทำอยู่อย่างนี้
จนกระทั่งลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก
ให้รู้จักอยู่อย่างนั้น จนจิตสงบ หมดความรำคาญ
ไม่ฟุ้งซ่านไปไหนทั้งนั้น
ให้มีแต่ลมออกลมเข้า
ลมออกลมเข้าอยู่อย่างนั้น
ให้มันเป็นอยู่อย่างนี้
ยังไม่ต้องมีจุดหมายอะไรหรอก
นี่แหละเบื้องแรกของการปฏิบัติ
เมื่อใจสงบ กายก็สบาย
ถ้ามันสบาย ถ้ามันสงบ มันก็จะรู้จักของมันเอง
ทำไปเรื่อยๆ ลมก็จะน้อยลง อ่อนลง
กายก็อ่อน จิตก็อ่อน
มันเป็นไปตามเรื่องของมันเอง
นั่งก็สบาย ไม่ง่วง ไม่โงก ไม่หาวนอน
จะเป็นอย่างใด ดูมันคล่องของมันเองไปทุกอย่าง
นิ่ง สงบ จนพอออกจากสมาธิแล้ว
จึงมานึกว่า มันเป็นอย่างใดหนอ
แล้วก็นึกถึงความสงบอันนั้น ไม่ลืมสักที
สิ่งที่ติดตามเราเรียกว่าสติ ความระลึกได้ สัมปชัญญะ ความรู้ตัว เราจะพูดอะไร จะทำอะไร จะไปนั่น จะมานี่ จะไปบิณฑบาตก็ดีจะฉันจังหันก็ดี จะล้างบาตรก็ดี ก็ให้รู้จักเรื่องของมัน ให้มีสติอยู่เสมอ ติดตามมันไป ให้ทำอยู่อย่างนี้
: หลวงพ่อชา สุภทฺโท
: http://www.watnongpahpong.org/aj8.htm
สวัสดียามเช้าครับ..  |
|
_________________ ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
แก้ไขล่าสุดโดย I am เมื่อ 16 ก.ค.2007, 3:13 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
     |
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.ค.2007, 4:44 pm |
  |
อนุโมทนาบุญนะคะ....คุณ I am
....ปฏิบัติกันเถิด....
เมื่อใจสงบ กายก็สบาย
ขอบคุณมากนะคะ....สำหรับสารธรรมที่มีค่าและนำมาฝากกันเสมอ...
ธรรมะสวัสดีค่ะ
 |
|
|
|
   |
 |
|