Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การบริหารและธำรงพระพุทธศาสนา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
atm
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2007
ตอบ: 1
ที่อยู่ (จังหวัด): สุพรรณบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 30 มิ.ย.2007, 7:58 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากทราบว่าการบริหารพระพุทธศาสนา และการธำรงพระพุทธศาสนานั้นคืออะไร แล้วเราจะปฏิบัติตามนั้นได้อย่างไรคะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ผู้เยี่ยมชม.
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 22 พ.ค. 2007
ตอบ: 95

ตอบตอบเมื่อ: 30 มิ.ย.2007, 7:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การบริหารนี้ไม่ทราบ แต่การจะธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้คงอยู่อย่างเข้มแข็งนั้น ต้องมีกลุ่ม ครับ เพราะกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นอย่างเดียวกันเท่านั้น จึงจะมีปากมีเสียงต่อรองกับคนกลุ่มอื่นในสังคมได้ กลุ่มดังว่าไว้ก็เช่นกลุ่มของพุทธมามกะทั้งหลาย เป็นต้น

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กุหลาบสีชา
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ค.2007, 1:23 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“การบริหาร (จัดการ)” หมายถึง
การปฏิบัติการตามภาระหน้าที่ และบทบาทของหน่วยงาน
จากความรู้ ความสามารถของบุคลากรของหน่วยงานนั้น
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเกิดประสิทธิผลสูงสุด ...

ส่วน “การธำรง” หมายถึง การรักษา ซึ่งจะรักษาไว้ได้ก็ต้องประกอบไปด้วย
การอนุรักษ์ การส่งเสริม การสืบสาน และการเผยแผ่

“การบริหาร” เป็นเรื่องของหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา
และเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิด “การธำรง” อยู่

อย่างไรก็ตาม “การธำรง” ไว้ซึ่งพระพุทธศาสนานั้น
มิใช่เป็นภาระหน้าที่ของผู้หนึ่งผู้ใด
หรือองค์กรหนึ่งองค์กรใดโดยเฉพาะ
หากแต่เป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนทุกคน
โดยต้องเริ่มปฏิบัติที่ตัวเราเองก่อน
ด้วยความรู้และความเข้าใจในบทบาทของการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีค่ะ

เนื้อหาข้างล่างนี้ โดยเฉพาะข้อ ๑๑
คงทำให้เราเหล่าพุทธศาสนิกชนได้แจ้งใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองขึ้นนะคะ ยิ้ม

ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้

ธรรมจักร ปฏิญญาชาวพุทธเกี่ยวกับพระพุทธศาสนากับความมั่นคงของชาติ
ธรรมจักร

สภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์
และเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทยได้เคยจัดสัมมนาเรื่อง
“บทบาทของพระพุทธศาสนาในการส่งเสริมความมั่นคงของชาติ”
เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ณ ห้องอเนกประสงค์
อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ในโอกาสสัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม
เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และมีผู้เข้าร่วมสัมมนาอันประกอบด้วย พระภิกษุ ผู้แทนองค์การพระพุทธศาสนา
ผู้แทนสถาบันการศึกษา ผู้แทนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
กรรมการและสมาชิกสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ฯ
และเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย เยาวชน และผู้ที่สนใจ จำนวน ๑๕๕ คน

โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาได้มีมติเห็นชอบปฏิญญาชาวพุทธ
เกี่ยวกับพระพุทธศาสนากับความมั่นคงของชาติ
ซึ่งประกอบไปด้วยข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่มีสาระสำคัญดังนี้

๑. ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติมาแต่โบราณกาล
หลักธรรมของพระพุทธศาสนาได้เป็นที่พึ่ง
และหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนคนไทย
ได้สร้างเอกลักษณ์อันดีงามแก่คนไทยและชาติไทย
วิถีพุทธได้เป็นวิถีชีวิตของคนไทย
ทำให้สังคมไทยมีความเรียบร้อย
ทำให้ประเทศชาติมีความเจริญมั่นคงมาจนทุกวันนี้

๒. พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงเป็นพุทธมามะกะ
ได้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงมาจนทุกวันนี้

ได้ทรงครองแผ่นดินโดยธรรมตามหลักทศพิธราชธรรม
ทรงเป็น องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก
ทำให้ศาสนิกของศาสนาต่างๆ ในประเทศไทยมีความสมานฉันท์
และความเข้าใจอันดีต่อกัน
ไม่มีการทะเลาะวิวาทขัดแย้งอย่างรุนแรงเหมือนบางประเทศ

๓. สถาบันที่เป็นแกนหลักของความมั่นคงของชาติ
ได้แก่ สถาบันชาติ สถาบันพุทธศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์

ความสำคัญของสถาบันทั้งสามปรากฏอยู่ในธงไตรรงค์ ซึ่งเป็นธงชาติไทย
คนไทยทุกคนไม่ว่าจะมีเชื้อชาติศาสนาใด
จึงมีหน้าที่ส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ตามบทบัญญัติในรับธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

๔. การเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจและสังคม
ความเจริญก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไป

ในสังคมยุคโลกาภิวัตน์ ความเจริญทางวัตถุได้ล้ำหน้ากว่าความเจริญทางจิตใจมาก
ทำให้เกิดช่องว่างที่ห่างไกลระหว่างความมั่นคั่งทางวัตถุและความมั่งคั่งทางจิตใจ
ทำให้คนตกอยู่ภายใต้กระแสวัตถุนิยมและบริโภคนิยม กระแสธรรมนิยมอ่อนกำลังลง
ทำให้คนจำนวนไม่น้อยไม่เห็นความสำคัญของศาสนาและจิตใจ
เป็นเหตุให้ความประพฤติ ความคิด ละจิตใจของคนเบี่ยงเบนผิดทำนองคลองธรรม
ไม่เป็นไปตามหลักธรรมของศาสนา มีความประพฤติที่ผิดศีลธรรม
เบียดเบียนกันมากยิ่งขึ้น มีความคิดที่ผิด
ไม่เชื่อในความคิดที่ว่า ทำความดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว
ทำให้ปัญหาสังคมเพิ่มและรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เช่น ปัญหาความไม่เป็นธรรม ปัญหาการเบียดเบียนการเอารัดเอาเปรียบกัน
ปัญหาการทุจริตฉ้อราษฏร์บังหลวง ปัญหาอาชญากรรม
ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม เช่น ปัญหาที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

๕. ในปัจจุบันพระพุทธศาสนาต้องประสบภัย
และปัญหาหลายประการ ทั้งภัยภายนอก และภัยภายใน

ภัยภายนอกมาจากลัทธิศาสนาอื่น จากกระแสวัตถุนิยมและบริโภคนิยม
จากวัฒนธรรมต่างประเทศที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย
ภัยภายในมาจากทั้งบรรพชิตและฆราวาส
ที่ไม่ประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา
เป็นชาวพุทธแต่เพียงในนามตามสำมะโนครัว
ไม่ได้เป็นชาวพุทธที่แท้จริงที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบาน
มีคำพูดและการกระทำที่บ่อนทำลายพระพุทธศาสนา
ทำให้บทบาทของพระพุทธศาสนาในการส่งเสริมความมั่นคงของชาติลดน้อยลง

๖. ในการส่งเสริมบทบาทของพระพุทธศาสนาเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของชาติ
เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้องร่วมมือและประสานงานกัน
อย่างเข้มแข็งจริงจังและต่อเนื่อง

ทั้งคณะสงฆ์ รัฐบาล หน่วยงานราชการ สถานศึกษา
องค์การพระพุทธศาสนา ประชาชน สื่อมวลชน
ทุกฝ่ายต้องผนึกกำลังกันในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา
เพื่อให้พระพุทธศาสนามีความเข้มแข็งเป็นสถาบันหลักที่สำคัญ
ที่จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงของชาติทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง

๗. รัฐบาลจะต้องมีนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ
ในการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา อย่างชัดเจนเป็นบูรณาการ
มีการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้อย่างจริงจังต่อเนื่อง

ควรปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป
ควรมีกฎหมายอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธโดยเฉพาะ
ควรมีแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
เพื่อเป็นกรอบและแนวทางในการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เกิดเอกภาพ
ควรมีคณะกรรมการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาในระดับชาติและระดับจังหวัด
เพื่อผนึกกำลังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา
ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ
ส่งเสริมการดูแลด้านการบริหารจัดการทางการเงินเกี่ยวกับศาสนสมบัติ
และเงินบริจาคอย่างมีประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผล

๘. หน่วยงานราชการจะต้องถือเป็นนโยบาย
และภารกิจที่สำคัญในการพัฒนาข้าราชการ
ให้เป็นผู้มีคุณภาพ เป็นผู้มีความรู้คู่คุณธรรม

ควรอบรมข้าราชการในด้านจิตใจ
โดยส่งเสริมการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
เพื่อให้มีรากฐานทางจิตใจที่มั่นคง
ตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า

“รากฐานที่นับว่าสำคัญคือรากฐานทางจิตใจ”

ให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมของศาสนา และคุณธรรม ๕ ประการ
ตามพระบรมราโชวาท
มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง
ให้สมกับที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


๙. ผู้บริหารสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งครูอาจารย์
จะต้องตระหนักในความสำคัญของศาสนา

ตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า

“คนเราต้องมีศาสนา มีความคิดหรือสิ่งที่คิดประจำใจ
อันเป็นแนวทางปฏิบัติในใจประจำตัว
และต้องมีการศึกษา คือความรู้ต่างๆ ทั้งในด้านจิตใจทั้งในด้านวัตถุ
เพื่อประกอบกับตัวเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ได้ ทั้งสองอย่างเป็นสิ่งสำคัญ
และเป็นสิ่งที่จะแยกจากกันไม่ได้”


ผู้บริหารสถานศึกษาและครูอาจารย์
จะต้องอบรมสั่งสอนเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญและเป็นอนาคตของชาติ
ให้เป็นผู้ที่พร้อมทั้งความเก่งและความดี มีทั้งความรู้และคุณธรรม
โดยให้คุณธรรมนำความรู้ และความเก่งไปใช้อย่างถูกต้อง
เป็นประโยชน์และเป็นธรรม
ไม่นำความรู้และความเก่งไปใช้ในทางที่ผิด
เพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยทำความเสียหายให้กับผู้อื่น สังคม ประเทศชาติ


๑๐. องค์การทางพระพุทธศาสนาจะต้องตระหนักในบทบาท
และภารกิจในการส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
เพื่อให้พระพุทธศาสนาได้มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาสังคม การพัฒนาสังคม
และการส่งเสริมความมั่นคงของชาติ

ควรมีการกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ
ในการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาที่มีชัดเจน
กรรมการขององค์การพระพุทธศาสนาจะต้องปฏิบัติงาน
ตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา
โดยเฉพาะอิทธิบาท ๔ สังคหวัตถุ ความซื่อสัตย์สุจริต ความเสียสละ

ควรจัดตั้งและอบรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ให้แพร่หลายกว้างขวาง
เพื่อให้ประชาชนและเยาวชน มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
ปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
ร่วมมือในการป้องกันแก้ไขภัยต่างๆ ที่เกิดแก่พระพุทธศาสนาด้วยความสามัคคีปรองดองกัน

๑๑. พุทธศาสนิกชนจะต้องปฏิบัติตนตามพุทธะปณิธาน ๔ ประการ คือ

(๑) มีความรู้ ความเข้าใจในธรรมะอย่างถูกต้องและเพียงพอ

(๒) ปฏิบัติธรรมะให้ได้ผลตามควรแก่ตน

(๓) เผยแผ่ธรรมะ และอธิบายธรรมะให้แก่ผู้อื่นให้เข้าใจได้

(๔) ถือเป็นหน้าที่สำคัญในการที่จะต้องป้องกัน แก้ไข
ขจัดภัยที่เกิดแกพระพุทธศาสนาให้หมดสิ้นไป
โดยความสามัคคีพร้อมเพรียงของพุทธบริษัททุกหมู่เหล่า
นำวิถีพุทธมาประพฤติปฏิบัติให้เป็นวิถีชีวิต ให้สมกับเป็นชาวพุทธ
ซึ่งแปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
เป็นผู้พร้อมด้วยไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิและปัญญา


(๕) สื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งหนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์
วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ควรร่วมมือในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา
เพื่อให้พระพุทธศาสนาเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการป้องกันแก้ไขปัญหาสังคม
การพัฒนาสังคม และการส่งเสริมความมั่นคงของชาติ
โดยช่วยในการเยาวชนมีความรู้ เผยแผ่หลักธรรมคำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนา
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา

อาทิ ศีล ๕ ความกตัญญูกตเวที ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป
ปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เช่น คุณธรรม ๔ ประการ การรู้รัก-สามัคคี ความเพียร
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ

สาธุ สาธุ สาธุ

(ที่มา: การอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดย อาจารย์สมพร เทพสิทธา
ประธานสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์, พ.ศ. ๒๕๔๘, หน้า ๑๘-๒๓)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง