ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
02 เม.ย.2007, 2:24 pm |
  |
ประวัติและปฏิปทา
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต)
วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร
แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ
๏ อัตโนประวัติ
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต) เป็นพระเถระที่มุ่งมั่นในการพัฒนาวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร (พระอารามหลวง) มาตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ควบคู่กันไปกับการส่งเสริมสนับสนุนบุคลากรด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม-แผนกบาลี เพื่อสนองคุณประโยชน์และความวัฒนาสถาพรแห่งพระพุทธศาสนา
พระเทพคุณาภรณ์ มีนามเดิมว่า โสภณ พุ่มพวง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ.2506 ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ณ บ้านกาหลง ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร (พระอารามหลวง) และรองเจ้าคณะภาค 13 กรุงเทพมหานคร
๏ การบรรพชาและอุปสมบท
เมื่อวัยเยาว์ได้ศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดกาหลง จ.สมุทรสาคร จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้วไม่ได้ศึกษาต่อ เพราะได้มาบรรพชาเป็นสามเณรภาคฤดูร้อน เมื่ออายุ 13 ปี ณ วัดกาหลง ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2519 โดยมีพระครูสมุทรธรรมสุนทร (สุด สิริธโร) เป็นพระอุปัชฌาย์
บวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร 2 ปี จึงได้ย้ายมาอยู่วัดหัวลำโพง แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม
เมื่ออายุครบ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดหัวลำโพง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2528 โดยมีพระครูนครเขตบริรักษ์ (สุวิทย์ ฐิตวิชฺโช ป.ธ.3, M.A) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูบวรวุฒิกิจ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิสิฐวุฒิกร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “โสภณจิตฺโต”
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต)
๏ วิทยฐานะทางธรรมและทางโลก
หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม จนจบการศึกษาพระปริยัติธรรมสูงสุดของคณะสงฆ์ทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลี พ.ศ.2521 สอบได้นักธรรมชั้นเอก พ.ศ.2536 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค
ส่วนวิทยฐานะทางโลก พ.ศ.2541 จบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยเกริก คณะศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานโยบายและการวางแผนสังคม (ศศ.ม.)
๏ งานด้านการส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา
- เป็นกรรมการสนามหลวงแผนกธรรม-แผนกบาลี
- เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-แผนกบาลี
- เป็นพระปริยัตินิเทศก์
- เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดเทวราชกุญชร ได้ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาแก่พระภิกษุ-สามเณรให้ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีพระภิกษุสอบได้เป็นเปรียญธรรม 9 ประโยค จำนวน 5 รูปด้วยกัน โดยได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้ผู้สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ทุนละหนึ่งแสนบาท, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง พร้อมตั๋วเครื่องบินจาริกแสวงบุญไปกลับกรุงเทพฯ-ประเทศอินเดีย ตลอดจน ส่งพระภิกษุที่สนใจด้านวิปัสสนากรรมฐานไปฝึกอบรมปฏิบัติ ณ ประเทศพม่า
- ได้ตั้งทุนการศึกษาสงเคราะห์ระดับประถมศึกษา และจัดกิจกรรมการพัฒนาการศึกษาให้แก่นักเรียน โรงเรียนวัดเทวราชกุญชร
๏ งานด้านการเผยแผ่ธรรม
พระเทพคุณาภรณ์ เป็นพระนักเผยแผ่ ได้แสดงธรรมตามวาระสำคัญในวันธรรมสวนะ แสดงพระธรรมเทศนา ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย อบรมข้าราชการทหารกองสวัสดิการทหารบก อบรมศีลธรรมแก่เด็กและเยาวชน และยังได้เรียบเรียงหนังสือธรรมะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
หลังจากวัดเทวราชกุญชร ได้รับอนุมัติจากมหาเถรสมาคม ให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 13 แล้ว ท่านได้จัดการปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิเจริญจิตตภาวนา ให้แก่บริษัท สุวรรณชาติ จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ และข้าราชการทหารกองทัพบก
๏ ลำดับงานปกครองและสมณศักดิ์
ผลงานที่ปรากฏทั้งด้านการส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม และการเผยแผ่ รวมถึง การพัฒนาเสนาสนะจนเป็นที่ยอมรับ จึงทำให้ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์และหน้าที่การงานทางคณะสงฆ์ ดังนี้
- เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีวชิรโมลี
- เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2544 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร
- เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสุธี
- เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2549 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ
- เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2549 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะภาค 13
- เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2551 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพคุณาภรณ์
- ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร, เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ, เป็นรองเจ้าคณะภาค 13 (ฝ่ายการศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ ในเขตปกครองจังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด)
๏ ผลงานและเกียรติคุณดีเด่น
ปี พ.ศ.2545 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระราชทานพระพุทธรัตนโกสินทร์มหาวชิราลงกรณ ขนาดหน้าตัก 19 นิ้ว ประดิษฐานประจำพระแท่นบุษบกที่เทวราชธรรมศาลาชั้นสอง เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2545
ปี พ.ศ.2546 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานนามพระประธานประจำพระอุโบสถ นามว่า พระพุทธเทวราชปฏิมากร เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546
ปี พ.ศ.2546 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการบูรณะพระอุโบสถ จำนวนเงิน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2546
ปี พ.ศ.2548 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเข็มเกียรติคุณอนุรักษ์มรดกไทย เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2548 เนื่องจากพระราชสุธีได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา อนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังได้อย่างงดงามวิจิตรตระการตา เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา
ปี พ.ศ.2548 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมพระพุทธรูปศิลปสมัยต่างๆ จำนวน 9 องค์ พระราชทานเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2548
ปี พ.ศ.2548 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธเทวราชปฏิมากร ขนาดบูชา 9 นิ้ว ณ พระอุโบสถวัดเทวราชกุญชร เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2548
ปี พ.ศ.2549 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีเปิดพระวิหาร และสมโภชพระพุทธรูปศิลปสมัยต่างๆ จำนวน 9 องค์ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2549
ปี พ.ศ.2550 ได้สร้าง อาคารพิพิธภัณฑ์สักทอง ขนาดกว้าง 16.75 เมตร ยาว 30.15 เมตร เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ด้านพระพุทธศาสนา อนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติในด้านสถาปัตยกรรมตามโครงการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้สักทอง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2550 โดยได้รับการสนับสนุนจาก ศ.ดร.อุกฤษ และท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน
พระเทพคุณาภรณ์ ในวัยเพียง 44 พรรษา 22 (เมื่อปี พ.ศ.2550) มุ่งมั่นในการพัฒนาพระอารามสมกับเป็นพระอารามหลวง ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาพระอารามจนแล้วเสร็จ ตามโครงการบูรณะพระอารามเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา
ปี พ.ศ.2551 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธียกช่อฟ้าพระอุโบสถ และยกฉัตรถวายพระพุทธเทวราชปฏิมากร เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2551
ปี พ.ศ.2552 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเปิดอาคารพิพิธภัณฑ์สักทอง เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2552
7 ปี (นับถึงปี พ.ศ.2552) แห่งการดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสของพระเทพคุณาภรณ์ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถบวกกับประสบการณ์ที่มุ่งมั่นพัฒนาพระอาราม และบริหารกิจการพระศาสนา โดยเฉพาะการพลิกฟื้นวัดเทวราชกุญชร ให้สมกับเป็นพระอารามหลวงที่สำคัญเฉกเช่นในอดีต
วันที่ 5 เมษายน ของทุกๆ ปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของพระเทพคุณาภรณ์ การนี้จึงขอเชิญศิษยานุศิษย์และผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาร่วมแสดงมุทิตาจิตสักการะโดยพร้อมเพรียงกัน
.............................................................
รวบรวมและเรียบเรียงมาจาก ::
1. หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 31
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย อนุชา ทรงศิริ
วันที่ 01 เมษายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5967
2. http://www.watdevaraj.com/ |
|
|
|
    |
 |
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
|
ตอบเมื่อ:
20 พ.ย.2009, 11:42 am |
  |
|
    |
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
|