ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
10 พ.ค.2007, 10:35 am |
|
ข้อคิดพินิจธรรม
ในช่วงแรก จะให้จิตเกิดความรู้เห็นตามปัญญานั้นยังไม่ได้
ต้องอาศัยปัญญาฝึกฝนอบรมจิตอยู่บ่อยๆ
จนจิตมีความเชื่องชินต่อปัญญา
จิตจึงจะมีความรู้เห็นตามปัญญาไปได้
ฉะนั้น การเดิน มรรคในช่วงแรก
จะให้ราบรื่นไปเลยทีเดียวไม่ได้
เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่เคยเดิน
เหมือนกันกับเด็ก ที่กำลังฝึกหัดเดิน
ย่อมมีการล้มลุกคลุกคลานเป็น ธรรมดา
เมื่อเด็กนั้นพยายามฝึกเดินบ่อยๆ ก็เดิน ได้เหมือนผู้ใหญ่ทั่วไป
หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
วัดป่าบ้านค้อ จ.อุดรธานี
กิเลสไม่ได้อยู่ที่กาย กิเลสอยู่ที่ใจ
เหมือนฝึกม้าพยศ กิเลสไม่มีพอ ไม่เคยอิ่ม
หิวตลอด อยากตลอด เหมือนเชื้อไฟกองใต้ภูเขา กิเลสเก่งแบบนี้
แต่พอธรรมเก่ง ธรรมก็พอกันกับกิเลส ตามฟาดฟัน กันตลอด
ธรรมทำกิเลสหมอบได้ จนขาดสะบั้นลงในที่สุด
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
มีสุขก็เพราะศีล มีโภคสมบัติก็เพราะศีล
ถึงนิพพานสมบัติก็เพราะศีล
ไม่เชื่อศีลแล้วไปเชื่อใครล่ะ
ไปเชื่อคนเกิดคนตายรึ ก็โง่ซิ ฉลาดก็เชื่อศีลซิ
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
เมื่อดำเนินการศึกษาชนิดที่ไม่อาจทำให้ใจสูงนั้น ยิ่งมากเพียงไร
ก็มีแต่จะยิ่งทำใจให้สกปรกมืดมัวและเร่าร้อน มากขึ้นเพียงนั้น
ขอให้คนในโลกแห่งสมัยนี้ อย่าหลงทะนงตัวว่า
มีใจสูงเพราะเหตุที่มีการศึกษากว้างขวางนั้นเลย
พุทธทาสภิกขุ
วัดสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี
การสร้างความดีนั้นไม่สู้กระไร
เพราะมีความดีอยากได้ความดีล่อใจอยู่แล้ว
แต่การละความชั่วนี่ยากเหลือเกิน
ยิ่งคนที่ติดความชั่ว เช่น ติดยาอี
ติดยาบ้า เฮโรอีน บุหรี่ เหล้า
ติดอะไรก็ตาม ก็ติด ทั้งนั้น
ล้วนให้โทษแก่สังขาร ทำลายทรัพย์ โดยไม่มีอะไรขึ้นมา
ทำสุขภาพธาตุขันธ์ที่สมบูรณ์ให้ย่อยยับลงไป
เรียกว่า ตายผ่อนส่ง
ไปเร่งความชรา อันเป็นปกติของตนอยู่แล้ว
เร่งความตายให้มาเร็วขึ้น
นี่เราไม่เห็น ถึงเห็นก็มองว่าไม่สำคัญ
มองว่ารสชาติที่ติดอยู่สำคัญกว่า
บางคนก็ยอมตาย ยอมติดคุกตาราง
แต่ไม่ยอมเลิกสิ่งเหล่านี้
หลวงพ่อทอง
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 78 พ.ค. 50
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2550 14:16 น.
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
10 พ.ค.2007, 10:39 am |
|
ข้อคิดพินิจธรรม
ธรรมชาติของใจนี้มันฝึกกันได้
เอามาใช้ประโยชน์ได้
เปรียบได้กับต้นไม้ในป่า
ถ้าปล่อยทิ้ง ไว้ตามธรรมชาติของมัน
เราก็จะเอามันมาสร้างบ้าน ไม่ได้
จะเอามาทำแผ่นกระดานก็ไม่ได้
หรือทำอะไรอย่างอื่นที่จะใช้สร้างบ้านก็ไม่ได้
แต่ถ้าช่างไม้ ผ่านมาต้องการไม้ไปสร้างบ้าน
เขาก็จะมองหาต้นไม้ในป่านี้
และตัดต้นในป่านี้เอาไปใช้ประโยชน์
ไม่ช้าเขาก็สร้างบ้านเสร็จเรียบร้อย
การปฏิบัติภาวนาและการพัฒนาจิตก็คล้ายกันอย่างนี้
ก็ต้อง เอาใจที่ยังไม่ได้ฝึก
เหมือนไม้ในป่านี่แหละ มาฝึก มัน
จนมันละเอียดประณีตขึ้น รู้ขึ้น และว่องไวขึ้น
หลวงพ่อชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
โลกทุกวันนี้ มีอะไรๆ มากเกินไป
ในทางที่จะผูกพันชีวิตนี้ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจ
ของสิ่งบีบคั้นเผาลน
เผลอไปเพียงนิดเดียวก็จักลื่นไถลลงไปในกองเพลิง
ชนิดที่ยากจะถอนตัวออกมาได้
และถึงกับตายอยู่ในกองเพลิงนั้นเป็นที่สุด
เพราะเหตุนั้นจึงเป็นการสมควรหรือจำเป็นสำหรับชีวิตทุกชีวิต
ที่จะต้องแสวงหาทางและมีทางของตน อันถูกต้องปลอดภัย
เพื่อก้าวหน้าไปสู่ความสะอาดหมดจดสว่างไสว และสงบเย็น
สมตามความปรารถนา
พุทธทาสภิกขุ
วัดสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี
กายสงบ จิตก็สงบ มันต้องอยู่ด้วยกัน
เหมือนเงากับรูปนี้มันไปด้วยกัน
เมื่อกายหยุด เงามันก็หยุดไหว
เมื่อกายไหวไป เงาก็ไหวด้วย
ก็ดูที่กายกินข้าว เงาก็ทำท่ากินข้าวด้วย มันมีข้าวเมื่อไร
นั่นแหละ ไอ้ที่ดับกิเลสได้แล้ว มันต้องเป็นอย่างนั้น
เหมือนเงากับรูป ไม่ได้เกี่ยวกัน
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
ใจที่มีความสงบ ย่อมไม่วอกแวกคลอนแคลน
ไม่ดีดไม่ดิ้น ไม่รบกวนตัวเอง เรียกว่าใจสงบ
ถ้าใจ ไม่สงบนั้น ใจคึกใจคะนอง
มองเห็นอะไรก็มีแต่ความคึกความคะนองเต็มหูเต็มตา
เต็มจมูกเต็มลิ้นเต็มกาย จากรูปจากเสียงจากกลิ่นจากรส
มีแต่ สิ่งยั่วยวนกวนใจ
ใจของเรามีแต่ความวุ่นวี่วุ่นวาย
หาความสงบไม่ได้ ก็หาความสุขไม่ได้
มาบวชในพระพุทธศาสนา แทนที่จะได้รับความสุขจากศาสนา
กลับได้รับความทุกข์ความลำบาก ความกระวนกระวาย
เพราะไม่รักษาจิตใจของตนให้เป็นสมาธิ คือ ความสงบใจ
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 77 เม.ย. 50
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2550 11:13 น.
|
|
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกโป่ง เมื่อ 15 พ.ค.2007, 10:39 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
10 พ.ค.2007, 10:43 am |
|
ข้อคิดพินิจธรรม
การกระทำความดีความชั่วทั้งหลายนี่
ผู้มีปัญญาก็ต้องเลือก
เลือกตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า
อย่างนี้ไม่ควรทำนะ ควรละอย่างนี้นะ
พระองค์แสดงไว้แล้ว เราศึกษารู้แล้วเราก็ไม่ทำ
ไม่ทำตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ ทรงห้ามไว้
ทรงสอนให้พุทธบริษัทให้เลือก
เลือกการกระทำความดี ทิ้งความชั่ว อันนี้เป็นจุดสำคัญ
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย
ใจของเรานี่มันอยู่ในกรง
ยิ่งกว่านั้นมันยังมีเสือที่กำลังอาละวาดอยู่ในกรงนั้นด้วย
ใจที่มันเอาแต่ใจของเรานี้
ถ้าหากมันไม่ได้อะไรตามที่มันต้องการแล้ว มันก็อาละวาด
เราจะต้องอบรมใจด้วยการปฏิบัติภาวนา ด้วยสมาธิ
หลวงพ่อชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
ถ้าจะต้องไปฟังเทศน์ตามวัด หรือที่ใดๆ ก็ตาม
มีความรู้สึกออกมาจากภายในว่า ไม่มีเวลา ไม่มีคนอยู่บ้าน
ครั้นถึงทีจะไปดูหนัง ดูละคร ทุกคืนก็มีเวลา
แม้จะไปกันทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งลูก
ก็มีคนเฝ้าบ้าน คือ ลูกกุญแจ
พุทธทาสภิกขุ
วัดสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี
ศาสนาธรรม คือ อยู่ที่ตาธรรม หูธรรม จมูกธรรม
ลิ้นธรรม วาจาธรรม ใจธรรม
ศาสนาอยู่ที่กายยาววา หนาคืบ กว้างศอกนี้เอง
เห็นเป็นกลาง ทั่วไปทั้งภายในและภายนอก
ผู้ปฏิบัติต้องเห็นอย่างนี้เรียกว่าเห็นธรรม
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
มรรคแปดที่เป็นหลักเดิมนั้น
เป็นเส้นทางของท่านผู้ที่เดินผ่านพ้นไปแล้ว
ท่านจึงได้วางแนวทาง เพื่อเป็นแบบอย่างไว้ให้เรา
เพื่อให้เราได้สร้างทางได้เหมือนกันกับท่าน
เราก็จะได้เดินตามเส้นทางของเรา
และเราก็จะถึงจุดหมายปลายทาง
หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
วัดป่าบ้านค้อ จ.อุดรธานี
การปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีโทษ มีแต่คุณ
คือ จิตไม่ขุ่นมัว จิตผ่องใส จิตเบิกบาน
จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็มีความสุข ไม่มีความทุกข์
จะเข้าสู่สังคมใดๆ ก็องอาจกล้าหาญ
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 76 มี.ค. 50
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 มีนาคม 2550 10:41 น.
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
11 พ.ค.2007, 12:33 pm |
|
ข้อคิดพินิจธรรม
สัตว์นี้เกิดมาต่างๆ กัน ไม่เหมือนกัน
แม้ว่าจะเกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนๆ กัน
แต่ก็ต่างกัน วิชาความรู้ก็ต่างกัน มากน้อยต่างกัน
สมบัติก็ต่างกัน รูปร่างก็ต่างกัน
ความยากจนความมั่งคั่งสมบูรณ์ก็ต่างกัน
อันนี้เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะกรรม
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
ให้เรามาฝึกหัดปัญญาให้มีความฉลาด
มาฝึกหัดจิตให้รู้ตามความเป็นจริง
ปัญญาพิจารณาในสัจธรรมส่วนไหน
ก็กำหนดจิตเพ่งดูในสัจธรรมนั้นๆ
ให้จิตรู้เห็นตามปัญญาโดยตลอด
เหมือนกับฉายไฟอยู่ในที่มืด
เมื่อแสงสว่างของไฟหมุนไปทางไหน
ตาก็รู้เห็นวัตถุที่แสงไฟส่องไปฉันใด
จิต เมื่อมีแสงสว่างของปัญญาได้ส่องทางให้แล้ว
จิตก็รู้เห็นในสัจธรรมนั้นๆ อย่างถูกต้องฉันนั้น
หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
วัดป่าบ้านค้อ จ.อุดรธานี
การกิน การนอน การร่าเริงมหรสพต่างๆ
เป็นเพียงสุขชั่วคราว ไม่ยั่งยืน
ย่อมแตกดับไปเป็นธรรมดา
เพราะฉะนั้นทุกคนที่ปฏิบัติธรรม
อย่าไปหลงใหลในความสุขชั่วคราวนั้น
แต่ความสุขชั่วคราวนี้ ไม่มีก็ไม่ได้
เพียงแต่ว่าเมื่อมีมาแล้ว ก็ให้รู้เท่า
ถ้าไม่รู้เท่า ก็จะเป็นทุกข์
พอมันหายไปทุกข์ใหญ่ก็จะเกิดขึ้น
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย
การกล่าวเท็จนั้น คือ การหาประโยชน์ใส่ตัว หรือพวกของตัว
โดยใช้วาจาเป็นเครื่องมือนั่นเอง
เมื่อบังคับตัวเองไม่ได้
ในทางที่จะไม่แสวงหาประโยชน์ โดยไม่ชอบธรรม
คนก็กล่าวเท็จด้วยวาจา
ซึ่งไม่ต้อง ลงทุนลงแรงมาก เหมือนการกระทำอย่างอื่น
พุทธทาสภิกขุ
วัดสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี
ใครไปร้องไห้ตามสังขารก็เป็นคนโง่ต่างหากเล่า
คนโง่ร้องไห้ คนฉลาดไม่ร้องไห้
อยากโง่ก็ร้องไห้ไปซิ อยากฉลาดก็หยุดร้องไห้เสียซิ
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
เมื่อสุขแท้ ก็ถึงธรรม และเมื่อถึงธรรมก็สุขแท้
หมายความว่า การเข้าถึงชีวิตที่ดีมีความสุข
ก็คือการเข้าถึงธรรม จะเข้าถึงธรรมได้ก็ต้องปฏิบัติธรรม
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม
จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 75 ก.พ. 50
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2550 14:51 น.
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ค.2007, 9:33 am |
|
ข้อคิดพินิจธรรม
ไฟไม่เคยอิ่มเคยพอด้วยเชื้อเพลิงฉันใด
การตามใจตัวเองก็ไม่มีวันอิ่มวันพอ
ด้วยสิ่งที่ช่วยกันประดิษฐ์ขึ้นบำรุงบำเรอตนฉันนั้น
เรายิ่งเอาเชื้อเพลิงโหมเข้าไปในไฟอย่างประชดแดกดัน
เพื่อให้มันอิ่มมันพอเสียที
มันกลับกลายเป็นไฟกองใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
มีความร้อนสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
พุทธทาสภิกขุ
วัดสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี
คนไม่มีศีลทำอะไรก็ผิดๆ เหมือนเรือไม่มีหางเสือ
เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องมีศีล
ไม่ว่าจะเล่าเรียนอะไร จะมีอาชีพอะไร
ศีลเป็นของคนทุกคน
ศีลทำคนให้เป็นคน ทำมนุษย์ให้เป็นเทวดา
คนไม่มีศีลก็เหมือนสัตว์
ทำอะไรไปตามกิเลสชักนำ
กิเลสคือ โลภ โกรธ หลง
มันคอยชวนคนให้ทำผิดตลอดเวลา
คนที่ไม่ได้ศึกษาธรรมย่อมไม่รู้จักมัน
หลงเชื่อมัน ทำตามมัน มันก็พาไปพบทุกข์
คนไม่รู้ก็คิดว่าเป็นความสุข
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
การทำสมาธิก็ต้องมีปัญญาเป็นพี่เลี้ยง
เพื่อแก้ไขในความเห็นผิด
ถ้าไม่มีปัญญาแล้วจะมีความผิดได้ง่าย
หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
วัดป่าบ้านค้อ จ.อุดรธานี
เรื่องกรรมนี่แหละสำคัญมากนะ
แต่คนเราไม่ค่อยจะเชื่อกรรม
ไม่ค่อยจะเชื่อผลแห่งกรรม
มักจะลุอำนาจแก่ตัณหา
แล้วแต่ตัณหามันจะชักจูงไป ยังไง
ก็ไปตามตัณหานั้นยังงี้แหละ
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย
เราเกิดมาในชีวิตหนึ่ง เราจะหาความสงบว่า
คุณต้องพูดให้ถูกใจฉัน คุณต้องทำให้ถูกใจฉัน
ฉันจึงจะสบาย
ในชีวิตหนึ่งจะได้สบายไหมคนเรา
คุณต้องพูดให้ถูกใจฉัน คุณต้องทำให้ถูกใจฉัน
ฉันจึงจะสงบ
ถ้าไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่สงบ
คนคนนี้เกิดมาไม่รู้กี่ชาติ ก็ไม่มีความสงบ
หลวงพ่อชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
ระวังอย่าไปเรียนอวิชชานะ
เรียนวิชาต้องเรียนให้หายโกรธ หายหลง หายลืมนะ
ขอให้เคารพมั่นในพระธรรม
แล้วเจริญให้ถึงจะได้พ้นแก่พ้นตาย
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 74 ม.ค. 50
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มกราคม 2550 22:34 น.
|
|
|
|
|
|
I am
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ค.2007, 10:32 am |
|
"การปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีโทษ มีแต่คุณ"
สาธุจ้า....
ธรรมสวัสดีครับ |
|
_________________ ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก |
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
16 พ.ค.2007, 5:53 pm |
|
ข้อคิดพินิจธรรม
มรรคว่าทางอันประเสริฐ เป็นทางเดินไปสู่ความวิมุติ
ความหลุดพ้นจากอาสวะ ให้ถึงวิโมกข์
ความพ้น ทำเอาเอง
พระพุทธเจ้าเป็นแต่ผู้บอก
ทำเอาเอง ผู้อื่นทำให้ไม่ได้
ใครทำใครเอา เหมือนกับรับประทานอาหาร
ต้องทานใครทานเรา ใครตั้งใจทานก็อิ่มท้องเอง
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
ในทางพระพุทธศาสนา ท่านแนะนำให้เราปรุงแต่งความสุข
ท่านสอนวิธีทำใจหรือฝึกจิตฝึกใจ
และบอกวิธีใช้ปัญญามากมาย
อย่างเช่น การบำเพ็ญสมาธิต่างๆ ก็คือ วิธีปรุงแต่งจิตใจนั่นเอง
แต่เป็นการปรุงแต่งให้เป็นสุข
ในการมองโลกแม้ แต่สิ่งเดียวกัน
ถ้าเรามองไม่เป็น ก็เป็นเรื่องร้าย เกิดทุกข์
แต่ถ้ามองเป็น ก็กลายเป็นดีเกิดสุขได้
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม
เรื่องกามนี้ คล้ายๆ กับรังมดแดงใหญ่ๆ
เราเอาไม้ไปแหย่ ยิ่งแหย่ก็ยิ่งหล่นมาใส่
มดมันหล่นลงมาใส่หน้าใส่ตาแสบหูแสบตา
นั่นก็ยังไม่เห็นโทษมัน มันน่าจะเห็นโทษมันนะ
หลวงพ่อชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
ผู้ประพฤติธรรม แม้จะประพฤติเพื่อประโยชน์สุขของตน
เป็นเบื้องหน้าก็ตาม แต่ผลได้นั้น จะแผ่ซ่านไปทั่วโลก
ทำให้กลายเป็นผู้ประพฤติประโยชน์
แก่โลกทั้งโลกไปโดยไม่รู้ตัว
พุทธทาสภิกขุ
วัดสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี
พวกเราถูกความแก่ เจ็บ ตาย คาดโทษไว้แล้ว
จงรีบแก้ไขตัวเองซี่ !
เกิดเป็นทุกข์ เจ็บเป็นทุกข์ ตายเป็นทุกข์
จะเอาอีกหรือ ? หือ ?
มัวแต่มองตาคน อื่นทำไม ?
ตาของเราก็มี มองผิวหนังคนอื่นทำไม ?
หนังของเราเองก็มีอยู่รอบ
มองหน้าคนอื่นทำไม หน้าของเราก็มีอยู่แล้ว
ระวัง ! อย่าคล้อยตาม
คน สัตว์ บุคคล จะหลงทาง เดินไม่ถูกทางไม่ถึงที่หมาย ได้นะ
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
ผู้ใดหลงใหลในตำราและอาจารย์
ผู้นั้นไม่อาจ พ้นทุกข์ได้
แต่ผู้ที่จะพ้นทุกข์ได้ ต้องอาศัยตำราและอาจารย์เหมือนกัน
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 73 ธ.ค. 49
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤศจิกายน 2549 19:46 น.
|
|
|
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ค.2007, 3:11 pm |
|
ข้อคิดพินิจธรรม
การที่เราทำความเพียรนี้ เราไม่ต้องการอะไรแล้ว
นอกจากขัดจิตขัดใจของเรา ให้ขาวให้สะอาดเท่านั้นแหละ
ใจมันเศร้าหมอง แต่อาศัยขัดอยู่บ่อยๆ ขัดไม่หยุดไม่หย่อน
มันก็ขาวก็สะอาดขึ้น ผ่องใสขึ้น
เพราะกิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ
มันหมักหมมมาหลายภพหลายชาติ
ต้องคอยขัดคอยเกลา
เพราะกิเลสเหมือนตาปู ตีแฝก ตีลงแน่น
แต่ก็ไม่เหลือวิสัย ผู้สามารถที่ตั้งอกตั้งใจจะถอนตาปู
ถอนไม่หยุดไม่หย่อน ถอนไปถอนมามันก็ออก
สั้นเข้าๆ สั้นเข้ามันก็ถอนขึ้นได้
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
เราทั้งหลายต้องมาเรียนธรรมไว้ในปัจจุบัน ให้มันรู้จัก
ถ้ารู้จักแล้วมันสบาย... สบายอย่างไร ?
เหมือนเราเห็นรังต่อ เราก็ไม่เข้าไปใกล้
ตรงนั้นมีเสือ ตรงนั้นมีงู เรารู้อย่างนี้
เราก็หนีไม่เข้าใกล้
ถ้าคนเราไม่รู้ก็เดินสวบๆ ตกลงไปหลุมต่อ
มันก็ต่อย หัวเอาเท่านั้นแหละ
หลวงพ่อชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
ความดี มันดีอยู่แล้ว ในตัวการกระทำทางกาย วาจา ใจนั่นเอง
พอทำเสร็จมันก็ดีเสร็จแล้วเหมือนกัน
เพราะมันดีอยู่ในตัวการกระทำนั้น
จึงพอทำเสร็จ มันก็ดีเสร็จแล้วฯ
ทางฝ่ายทำชั่ว ก็เป็นเช่นเดียวกันอีก คือ ชั่วอยู่
ในตัวการกระทำทางกาย วาจา ใจ นั่นเอง
พอทำเสร็จ มันก็ชั่วเสร็จแล้ว
มันเป็นของแน่นอนตายตัวเช่นนี้
อย่างไม่มีทางที่จะแปรผัน
จนท่านทั้งหลายก็ย่อมจะพิจารณาเห็นได้เองจริงๆ
พุทธทาสภิกขุ
วัดสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี
จิตเราจะไปไหน ไปทำบุญหรือทำบาป
ก็ต้องอาศัยวิญญาณตา จะดูรูปก็ต้องอาศัยตา
จะฟังเสียง ร้องรำทำเพลงเพื่อให้เพลิดเพลิน
ก็ต้องอาศัยวิญญาณหูเป็นผู้ฟัง ว่าจะเพราะพริ้งเพียงใด
หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
วัดอรัญญวิเวก บ้านข่า จ.นครพนม
หนังแผ่นเดียวมันรักษาง่าย อยู่ในท้องก็มีเท่านี้แหละ
ออกจากท้องมาแล้วก็มีเท่านี้แหละ
หมดไป ๑๐๐ ชั่วโมง ๑๐๐ วัน ก็มีหนังแผ่นเดียวเท่านี้แหละ
ตื่นขึ้นมาก็มีหนังแผ่นเดียว จะดับไปก็หนังแผ่นเดียว
จะมาเกิดอีกก็มีแค่หนังแผ่นเดียวเท่านี้
ยังไม่เชื่อกัน ไม่เชื่อธรรมะก็ตามใจซิ
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 72 พ.ย. 49
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤศจิกายน 2549 15:25 น.
|
|
|
|
|
|
|