ตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปีภายใต้ลัทธิอาณานิคม นโยบายการไม่ยุ่งเกี่ยวกับศาสนาของอังกฤษทำให้เกิดช่องว่างในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับศาสนาขึ้น การอุปถัมภ์ค้ำจุนของรัฐที่มีต่อพุทธศาสนาได้หยุดชะงักไป อย่างไรก็ตาม ความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยของพระสงฆ์พม่าก็กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความรู้สึกชาตินิยมขึ้นในเวลาต่อมา การก่อตั้งสภากลางสามัคคีสงฆ์ (General Council of Sangha Samaggi, GCSS) ขึ้นในปี ค.ศ.1922 โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะปฏิรูปองค์กรคณะสงฆ์เพื่อการต่อสู้ทางการเมืองนั้น ไม่อาจดึงดูดพระสงฆ์ส่วนใหญ่ได้ ทั้งๆ ที่เกิดกระแสชาตินิยมอย่างรุนแรงขึ้นมาในพม่า
ระหว่างการยึดครองของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ.1942-45) รัฐบาลของ ดร.บาเมียว (Dr.Ba Maw) ที่ญี่ปุ่นหนุนหลังอยู่ ได้จัดตั้งสภากลางสงฆ์ทุกนิกาย (Grand Council of the Sangha of All Orders) ขึ้นเพื่อรวมพระสงฆ์พม่าในทุกนิกายให้เป็นหนึ่งเดียว ภายหลังจากที่อังกฤษได้เข้ายึดครองพม่าอีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ.1945 ผู้นำพระสงฆ์ (sayadaw) ทางตอนล่างของพม่าได้พยายามที่จะฟื้นฟูสภากลางสงฆ์ขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะความแตกต่างทางนิกายได้