Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ท่านคิดว่า ชาวพุทธรวมตัวกันไม่ติดเพราะ... อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 7:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่านคิดว่า เหตุที่ชาวพุทธรวมตัวกันไม่ได้ รวมตัวกันไม่ติด

จึงทำให้ขาดพลังในการต่อรอง ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา

ความอยู่รอดที่เนื่องกับศาสนาโดยตรง

ท่านคิดว่า ชาวพุทธขาดคุณธรรมข้อใด เพราะเหตุใด ทำมัยจึงเป็นเช่นนั้น

ซึ่งต่างจากศาสนิกศาสนาอื่น...ดังผู้นับถือศาสนาส่วนใหญ่ซึ่งอยู่ทางตอนใต้

ของพระเทศไทย เขารวมตัวกันได้เร็วเป็นปึกแผ่น เป็นอันหนึ่ง

อันเดียวกัน ดูเหมือนว่าจะมีพลังต่อรองเพื่อ

ปกป้องศาสดาของพวกเขา เพื่อปกป้องคนของเขาซึ่งนับถือศาสดาองค์เดียวกัน

แม้ไม่รู้จักกัน อยู่กันคนละประเทศก็ตาม

ท่านคิดเห็นอย่างไร


แสดงความเห็นกันได้ไม่จำกัดลัทธิศาสนา เพื่อจะได้นำข้อดี

ข้อด้อยของกันและกัน มาปรับใช้
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 7:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คิดว่า น่าจะขาดความสามัคคีธรรม
เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัวเกินไป
เสียเวลาทำมาหากิน
 
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 8:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนพุทธ มักคิดว่า ศาสนาพุทธสอนให้ไม่เบียดเบียน จึงปล่อยให้คนอื่นเบียดเบียนได้ตลอด

ซึ่งไม่ใช่การใช้ปัญญาในการนับถือศาสนาอย่างแท้จริง หน้าที่ในการดูแลพระศาสนา

เป็นหน้าที่พุทธบริษัท ทั้งสี่ คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 10:27 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลิงค์นี้ เป็นอีกแนวคิดหนึ่งของพุทธบริษัท เขาจะตีเตะถีบอย่างไร ก็ไม่โกรธเขา....พูดให้เขากลับใจสาธุ

http://www.manager.co.th/Pjkkuan/ViewNews.aspx?NewsID=9500000044554
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 10:30 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สถานการณ์ภาคใต้ในมุมมองของผู้อยู่ในพื้นที่ ได้คลุกคลี่กับชาวบ้านที่ อำเภอระแนะ นราธิวาส

จะมากระเทาะความจริงให้ปรากฎ เพื่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้รู้ความจริง

http://dhammathai.org/news/view.php?No=132
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 12:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เพราะพระพุทธเจ้าเก่งเกินไป หมายความว่า มีปัญญามากล้นเกินมนุษย์ คำสอนของ

พระองค์จึงมีทุกระดับบุคคล

เมื่อคำสอนมีมาก พุทธบริษัทต่างก็ยึดถือเอาหัวข้อธรรมที่ตนอ่านมา ค้นพบมา เป็นต้น แล้วก็

ยึดว่า นี่ก็เป็นคำสอนพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ฉันปฏิบัติตามนี้แหละ

เช่น

สอนว่า... ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น (แล้วก็ทำท่าให้ดูประหนึ่งว่า ฉันเป็นคนไม่ยึดมั่นถือมั่น)

สอนว่า...อย่ายึดติดในสมมุติ (แล้วก็ทำท่าให้ดูประหนึ่งว่า ฉันเป็นคนไม่ยึดติดในสมมุติบัญญัติ)

สอนว่า...สิ่งทั้งปวงมี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา (แล้วก็ทำท่าเอาว่า ฉันได้บรรลุธรรม

แล้ว)

แผ่เมตตาให้เขา (แล้วก็สวดมนต์แผ่เมตตาโดยไม่สนใจว่าจะมีอะไรเป็นไปและเกิดขึ้น)

ฯลฯ

นึกได้แค่นี้

ไคยึดข้อไหนบอกกันบ้างน้า
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 2:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยึดว่าบรรลุแย้วไปดูนรกสวรรค์ได้ขณะบรรลุไง
 
MG
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 2:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราต้องพิจารณาที่ตัวเราก่อนเป็นเบื้องต้น

เวลาที่เรากราบพระพุทธรูป จะเห็นพระเนตรท่านมองต่ำ ดูที่พระวรกายของท่าน

หาได้สนใจว่า จะมีใครมากราบไหว้หรือไม่

การที่เราไปบอกว่าคนอื่นไม่ดีโดยนัยลึกๆ ก็เหมือนเราบอกว่าเราดีกว่านั่นเอง
ซึ่งจริงๆ แล้ว เราก็อาจจะไม่ได้ดีไปกว่านั้นเลย

การจะให้เกิดความร่วมมือกัน เราต้องเปิดใจกว้าง มองให้เห็นทั้งส่วนดี
ส่วนเสียของคนอื่น รวมทั้งตัวเราเองด้วย

เราจะเป็นกัลยาณมิตรต่อกันได้ ต้องมีสิ่งยึด ที่เป็นศรัทธา เป็นความดี ร่วมกัน

สภาพสังคมพุทธ โดยร่วมค่อนข้างขาดพลัง
เหตุเพราะเราทานกระแสพลังของกิเลส ของความเสื่อมในสังคมเราเองไม่ได้

การเริ่มต้นที่ดีที่สุด คือเริ่มต้นจากตัวเรา

ด้วยการศึกษาอย่างจริงจัง ให้เกิดศรัทธา แล้วลงมือปฏิบัติ เป็นปฏิบัติบูชา

ทำตัวเองให้เป็นบัณฑิต และคบหาบัณฑิต

แล้วรวมกลุ่มของบัณฑิต ที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อคนอื่น และสังคม

ทุกอย่าง ล้วนมีเหตุมีผล ถ้ามองเห็น เข้าใจสภาพจริง เข้าถึงปัญญาในเรื่องนั้น
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 7:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนพุทธที่เข้าวัดแบ่งเป็นสองประเภทใหญ่คือ พวกที่อยากขึ้นสวรรค์ และ พวกที่รักปัญญาทางพุทธ

สมัยนี้หาพุทธมามกะหาได้ยากครับ เพราะสังคมมีค่านิยมของต่างประเทศเข้ามาปะปนมากมาย

ถ้าต้องการให้พุทธมามกะรวมตัวกันได้อย่างเข้มแข็ง คงต้องเริ่มที่พระผู้ออกบวชก่อนครับ พระไทยไม่แบ่งแยกฝ่ายกัน สามัคคีกัน หาสถานที่รวมตัวกัน ให้คนพุทธที่เคยเข้าวัดด้วยความศรัทธาในตัวท่านได้มีโอกาสพบปะสนทนาและปฏิบัติธรรมร่วมกัน การเข้าฟังธรรมและการปฏิบัติธรรมร่วมกันบ่อยครั้งจะช่วยสร้างความสนิทสนมให้กับบรรดาลูกศิษย์ของพวกท่านได้เอง

สาธุ การใหญ่สำเร็จได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของคนหลายฝ่ายครับ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 8:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำสอนของพุทธมีมากมายหลายหัวข้อธรรม ผู้คนจึงเลือกเอาตามอัธยาศัยตน

แต่ของศาสนาอื่นเช่น คริสต์ อิสลาม...

จะสอนเน้นหนักเกี่ยวกับศรัทธาเป็นหลัก คือสอนให้เชื่อในพระผู้เป็นเจ้าของเขา จงรักภักดีจนชั่ว

ชีวิต แม้ชีวิตก็สละให้ได้

ใครสละชีพเพื่อศาสดาตนได้ ผู้นั้น...จะไปสถิตอยู่บนสวรรค์กับศาสดาตน

ฆ่าคนต่างศาสนา ยิ่งได้รับคำชื่นชมจากศาสดามากๆ


-แต่พุทธไม่มีคำสอนเหล่านี้เลย คือ สบายๆ สไตล์เบริดๆ

ชาวพุทธเลยทำตัวแบบสบายๆ

-ยิ่งมีคำสอนว่าไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นด้วย ว้าวววถูกใจ

ฉันเป็นคนไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรในโลก เลยพลัดตกลงไปในบ่อแห่งความเกียจคร้าน

ไม่ยึดมั่นถือมั่น
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 เม.ย.2007, 8:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ภัยของพุทธจากการปาฐกถาของพระภิกษุผู้เป็นปราชญ์แห่งประเทศไทย
http://203.150.123.17/html/450215.htm
 
ป้า
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 12:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เคยได้ยินหลักธรรมของพุทธศาสนานี้ไหมจ๊ะ

พึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ
พึงสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต
พึงสละชีวิต เพื่อรักษาธรรม

คงเป็นคติเตือนใจ ในการคิดก่อนพูดได้น่ะจ๊ะ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 2:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่อิสระครับ ถ้าก้าวเข้ามาในวรรณะทางธรรม คือเป็นพุทธมามกะโดยเคารพโอวาทพระธรรมคำสอนแล้ว ย่อมอยู่รวมกันได้กับพวกถือธรรมเพราะถือว่ามี ธาตุ ที่ใกล้เคียงกัน คือ ถึงแม้มีความแตกต่างกันแต่ไม่กระทบกระทั่งกัน เพราะถือพระธรรมเป็นใหญ่ จึง อยู่รวมกันอย่างสงบสุข

คำว่าไม่ยึดมั่นถือมั่นนี้ เอาไว้ใช้ในกรณีที่ กิเลส ตัณหา อุปาทาน เกิด คือ ไม่ละเมิดผิดในพระธรรมเพราะกิเลสเป็นเหตุ ได้แก่การละกิเลสเสียไม่ยึดมั่นถือมั่นในกิเลส แตกต่างจากคำว่า เกียจคร้านในทางโลก เกียจคร้านจนต้องอดอยากปากแห้งและเกิดความระทมทุกข์ตามมา เมื่อเอามาใช้ในทางธรรม เกียจคร้านในทางธรรม คือการไม่ขยันสะสมตัวกิเลสขี้เกียจให้พอกพูนในตน เพราะการสะสมตัวขี้เกียจจะเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ตามมา ฉะนั้นควรละเสียไม่ยึดมั่นถือมั่นในกิเลสตัวขี้เกียจอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์

จะทำสิ่งใดก็ได้อิสระตามใจแต่ต้องไม่เบียดเบียนใคร กระทำให้อยู่ในทางวิชชาคือถูกต้องตามหลักธรรม ธรรมของพุทธมามกะ หรือ ธรรมของพระภิกษุ ธรรมของพระภิกษุณี นี่ถือเป็นความอิสระอย่างหนึ่งของศาสนาพุทธครับ
 
ทิพ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 2:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อวานเรา เดินจงกรม อยู่ แม่ชีเดินมา ปิดไฟ ทั้ง ทั้ง ที่เห็นเรา เดินอยู่ เรา งงงงง มากกกกก
เราเดินได้ 1.40 ชม
หมดอารมย์ ไปไหว้ หลวงปู่แล้วกลับ
แต่เราก็แผ่เมตตาให้ เค้า นะ
สาธุ
 
เวียนหัว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 2:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทธรวมกันไม่ติดเพราะอะไร

ก็ต้องนิยามคำว่าพุทธก่อน ถ้าเป็นพุทธของพระพุทธเจ้า ดูตามนิยามของชาวโลกเขาก็ว่า จะมี พวกมหายาน แล้วก็วัชรยาน แล้วก็หินยานหรือเถรวาท คือมี 3 พวกว่างั้นเถิด

ในไทยก็มีทั้ง 3 พวกนี้ ก็เป็นพุทธ เมื่อมีแล้วก็ไม่น่ามีปัญหา แล้วทำไมจึงมีปัญหา รวมกันไม่ติด

ก็เพราะกลุ่มที่ถูกสมมติว่ามีอำนาจเขาบอกว่า พุทธจะต้องมีเถรวาทอย่างเดียวจึงเป็นพุทธ อย่างอื่นไม่ใช่ เขาก็ไปกีดกันพวกอื่น ดูถูกพระจีน ดูถูกพระญวน ดูถูกพระธิเบตว่านี่ไม่ใช่ของจริง ต้องเถรวาท หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือหินยานจึงเป็นของจริง

เมื่อไปว่าเขาก่อน พอเราจะทำอะไร กลุ่มอื่นที่ถูกว่า เขาก็เฉยๆ ทั้งทั้งที่กลุ่มอื่นนั้น ลองให้ทำงานเดียวกันแบบอิสระแข่งกันซิ กลุ่มที่บอกว่าฉันคือความถูกต้องนั้นทำสู้ไม่ได้หรอก นี่เป็นภาพกว้าง

พอดูภาพลึก กลุ่มที่ว่าฉันคือกวามถูกต้อง คือเถรวาท ก็มีหลายก๊วน ก๊วนที่ถูกสมมติว่ามีอำนาจนี้ก็ไปว่า ก๊วนอื่นไม่ใช่พุทธ พุทธ ต้องเป็น อย่างของฉัน

อย่างของอาจารย์พุทธทาสไม่ใช่พุทธ เพราะมีพวกมหายานอยู่ด้วย ด่ากันได้ด่ากันดี เกือบร้อยปี ด่าจนคนถูกด่าที่ว่าไม่ถูกต้องนั้น ได้รับรางวัลสหประชาชาติไปแล้ว พวกด่านี้ยังไม่เลิกด่า บอกว่า อย่างนี้ไม่ใช่พุทธ มันต้องแบบของฉันซิ จึงเป็นพุทธ เรียกว่า ถ้าจะถูกต้องต้องแบบของกู ต้องตัวของกูจึงถูกต้อง เลยไปเพาะศัตรูไว้ พอทำอะไรเขาก็เฉยๆ แต่ดูตอนทำงานซิ ตอนพุทธทาส 100 ปีนี้ วงการหนังสือของไทยเรียกว่า หนังสือธรรมะคึกคักที่สุดในปีพุทธทาส 100 ปี พวกกลุ่มที่ว่าตัวกูของกูถูกต้อง ทำมาตั้งนานไม่เห็นมีอะไร ยิ่งทำยิ่งเละ

กลุ่มที่ว่าตัวกูของกูถูกต้องนี้ไปว่ากลุ่มของธรรมกายบอกว่าสอนธรรมะไม่ถูกต้อง แบบที่สอนไม่ถูก แต่ปรากฏว่าตอนนี้กลุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าสอนไม่ถูกนี้ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย รวมพลทีหนึ่ง เป็นแสน กลุ่มที่ว่าตัวกูของกูถูกต้องนี้รวมให้ได้พันคนยังยาก เพราะไม่มีผีมือ แต่ไปว่าคนอื่น คนอื่นก็ไม่มาสุงสิงด้วย ไม่มายุ่งด้วย เป็นการทำลายพุทธศาสนาแบบที่ตัวเองไม่รู้มาเป็นสิบๆปี จนบัดนี้ก้ยังไม่รู้ เราถูกพวกที่ไม่รู้เรื่องสอน คิดดูเอาเองว่ามันจะยุ่งอีนุงตุงนังกันแค่ไหน

แค่นี้ยังไม่พอ อ้าวไปว่า ไปทะเลาะกับสันติอโศกอีกแล้วว่าเขาไม่ใช่พุทธ สอนผิด แต่ปรากฏว่าพวกที่สอนผิด...สอนผิดนี้ไม่เคยมีข่าวฉาวเกี่ยวกับเงินเกี่ยวกับยศตำแหน่ง เกี่ยวกับสีกาเลย แถมยิ่งมีสมาชิกมากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นก๊วนที่ว่าถูกต้องจะทำอะไรคนอื่นเลยไม่ค่อยจะเล่นด้วย ก็เลยรวมกันไม่ค่อยติดไง เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้
 
เราเอง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 2:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีวัดหนึ่ง ใน จ.บุรีรัมย์ ใหญ่มาก สายธรรมยุตเรานี่แหละ ที่นี่สัปปายะมาก เราศรัทธาหลวงปู่มาก
 
ตาตะวัน
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 22 เม.ย. 2007
ตอบ: 9

ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 9:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พูดอย่างไร...ใจอย่างนั้น จงเตือนตนด้วยตนเอง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง