Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สุนัขผู้กล้าหาญ (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 07 ม.ค. 2005, 10:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สุนัขผู้กล้าหาญ

นิทานธรรมฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา


บริเวณป่าช้าใหญ่ซึ่งอยู่ชานเมืองพาราณสี แคว้นกาสี มีสุนัขหลายร้อยตัวมาอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยมีพญาสุนัขตัวหนึ่งเป็นหัวหน้า ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นพญาสุนัข เป็นหัวหน้าของสุนัขเหล่านั้น มีหน้าที่คอยดูแลความเป็นอยู่และสุขทุกข์ คราวใดที่เกิดภัย ก็จะเข้าช่วยเหลือปกป้องคุ้มครองให้สุนัขเหล่านั้นพ้นภัย

วันหนึ่ง พระราชาทรงนั่งรถม้าเสด็จไปประพาสพระอุทยาน ทรงพระเกษมสำราญอยู่ในพระอุทยานนั้นตลอดทั้งวันและเสด็จกลับเข้าเมืองเมื่อเวลาพลบค่ำ

รถม้าคันหนึ่งพระราชาประทับนั่งไปนั้นตกแต่งสวยงามตัวรถหุ้มด้วยหนังสัตว์ทั้งคัน แม้แต่เชือกและเครื่องรัดต่างๆ ก็ทำด้วยหนังสัตว์ ดังนั้นเมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ตามปรกติ เจ้าหน้าที่จะเก็บหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดต่างๆ แยกไว้ต่างหากจากตัวรถ เพื่อกันคนขโมยหรือกันสุนัขมากัดกิน

แต่วันนั้นเนื่องจากกลับมาถึงเวลาพลบค่ำ เจ้าหน้าที่จึงจอดรถไว้ที่หน้าพระลานโดยที่ยังมิได้เก็บหนังหุ้มรถ เชือก และเครื่องรัดต่างๆ เหมือนอย่างที่เคย

ตกกลางคืน เกิดฝนตกหนัก หนังหุ้มรถ เชือก และเครื่องรัดทั้งหมดเปียกชุ่ม สุนัขหลวงได้กลิ่นจึงลงมาจากปราสาทกัดกินเชือกและเครื่องรัดจนหมด

รุ่งเช้าพวกเจ้าหน้าที่ดูแลรถมาตรวจดูต่างก็ตกใจจึงรีบไปกราบทูลพระราชา

“ขอเดชะ เมื่อคืนนี้ตอนฝนตก พวกสุนัขจรจัดเข้ามาทางท่อน้ำ กัดกินหนังหุ้มรถ เชือก และเครื่องรัดจนหมด พระเจ้าข้า”

พระราชาได้ยินเจ้าหน้าที่กราบทูลเช่นนั้นก็ทรงพิโรธมากกระทืบพระบาทและตรัสสั่งอย่างเฉียบขาดว่า “นับแต่นี้ไป พวกเจ้าพบเห็นหมาจรจัดที่ไหน จงฆ่าทิ้งให้หมด”

นับแต่นั้นมา สุนัขนอกพระราชวังต่างเดือดร้อนกันทั่วเพราะเมื่อพวกเจ้าหน้าที่มาพบเข้าก็จะถูกเหมาว่าเป็นสุนัขจรจัดและถูกฆ่าทั้งหมด สุนัขเหล่านั้นเมื่อไม่ทราบจะช่วยตัวเองได้อย่างไรจึงพากันไปหลบอยู่ในป่าช้ารวมกับบริวารของพญาสุนัข

พญาสุนัขเห็นพวกสุนัขมาอยู่รวมกันมากกว่าแต่ก่อนเริ่มรู้สึกผิดปรกติ วันหนึ่งได้โอกาสจึงเข้าไปถามถึงสาเหตุ

“มีอะไรหรือ พวกเจ้าจึงมารวมอยู่ที่นี่กันมากผิดปรกติ”

“หัวหน้า...” สุนัขตัวหนึ่งรายงาน “มีเหตุร้ายเกิดขึ้นแก่พวกเรา ตอนนี้ถูกพระราชาสั่งให้ฆ่าตายเป็นเบือ เพราะพระองค์โกรธหาว่าพวกเราซึ่งเป็นหมานอกพระราชวังเข้าไปกัดกินหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดถึงในพระราชวัง”

“เรื่องเป็นอย่างนี้แหละหัวหน้า” สุนัขอีกตัวหนึ่งสรุปและโอดครวญ

“พวกเรากลัวจะถูกฆ่าตายเหมือนเพื่อนๆ เลยพากันมาหลบอยู่กับท่าน”

พญาสุนัขได้ฟังคำนั้นแล้วก็คิดหาเหตุผลในเรื่องที่พระราชากล่าวหาว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่พวกสุนัขข้างนอกจะเข้าไปกัดกินหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดถึงในพระราชวัง ในที่สุดก็สรุปได้ว่า “พระราชวังเป็นสถานที่ที่มีการอารักขาอย่างแข็งแรง โอกาสที่พวกสุนัขข้างนอกจะเข้าไปได้ไม่มีเลย ฉะนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกสุนัขข้างนอกอย่างพวกเราจะเข้าไปกัดกินอย่างที่ถูกกล่าวหา”

“แล้วถ้าอย่างนั้น สุนัขพวกไหนล่ะที่กัดกิน” พญาสุนัขคิดหาเหตุผลต่อไปก็ประจักษ์ชัดว่าต้องเป็นสุนัขในพระราชวังนั่นเองกัดกิน

“ตอนนี้ ความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นแล้ว” เขาคิด

“พวกที่ทำความผิดกลับปลอดภัย แต่พวกที่ไม่ทำความผิดกลับถูกฆ่าตาย เราควรจะเปิดเผยความจริงในเรื่องนี้”

เมื่อคิดได้ดังนี้ พญาสุนัขก็พูดปลอบพวกสุนัขบริวารมิให้หวาดกลัวภัยอีกต่อไปและขอร้องให้ทุกตัวอยู่รวมกันที่นี่จนกว่าตนจะกลับมา จากนั้นเขาก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปเฝ้าพระราชาถึงพระราชวัง

พญาสุนัขเป็นสุนัขแสนรู้ ก่อนออกเดินทางได้ตั้งจิตแผ่เมตตาไปยังพระราชาข้าราชบริพารและชาวเมืองทั่วไปรวมทั้งขอให้ทุกคนเมตตาและพวกสุนัขบริวาร ผลปรากฏว่าการตั้งจิตแผ่เมตตาของพญาสุนัขได้ผล ตลอดจนทางที่ผ่านไปนั้น แคล้วคลาดปลอดภัยไม่มีใครมาทำอันตรายหรือขัดขวางจนเขาสามารถเข้าไปเฝ้าพระราชาได้สำเร็จ



มีต่อ >>>>>
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 07 ม.ค. 2005, 10:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“ขอเดชะ” เขากราบทูล

“พระองค์รับสั่งให้ฆ่าสุนัขหรือ”

“ใช่...เราสั่งให้ฆ่าเอง” พระราชาทรงยอมรับ

“สุนัขพวกนั้นมีความผิดอะไร พระเจ้าข้า”

“มันกัดหนังหุ้มรถ เชือก และเครื่องรัดที่รถเรา”

“พระองค์รู้แน่แล้วหรือว่าสุนัขพวกนั้นกัดกิน พระเจ้าข้า”

“ยังไม่รู้แน่ แต่ก็เชื่อว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น”

“การที่พระองค์ยังไม่รู้แน่แล้วสั่งฆ่านั้นนับว่าไม่ยุติธรรมเลย พระเจ้าข้า”

“ที่เราสั่งฆ่าก็เพราะเจ็บใจที่พวกสุนัขมันมากัดกินหนังหุ้มรถของเรา”

“พระองค์สั่งฆ่าสุนัขทุกตัวหรือว่าให้ยกเว้นสุนัขบางพวก พระเจ้าข้า”

“ไม่ได้สั่งให้ฆ่าทุกตัวหรอก สุนัขที่อยู่ในวัง เราไม่ได้สั่งให้ฆ่า ”

“ขอเดชะ...” พญาสุนัขกราบทูลแข็งขัน

“พระองค์ลำเอียง พระองค์สั่งให้ฆ่าแต่เฉพาะพวกสุนัขที่พระองค์ไม่โปรดไว้ชีวิตแก่พวกสุนัขที่พระองค์โปรดทั้งๆ ที่พวกสุนัขทั้งหมดมีโอกาสทำผิดได้เหมือนกัน”

พระราชาได้ฟังพญาสุนัขกราบทูลอย่างนั้นแล้วนิ่งอึ้งพญาสุนัขเห็นเป็นโอกาสจึงกราบทูลแข็งขันต่อไปว่า

“ขอเดชะ...พระราชาลำเอียงไม่เหมาะสม พระราชาที่ดีต้องทำตัวให้เหมือนคันชั่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นต้องสืบหาสาเหตุก่อนจึงค่อยสั่งลงโทษ”

จากนั้นพญาสุนัขนั้นจึงได้กล่าวเตือนพระราชาอีกว่า

“พวกสุนัขที่เกิดและเติบโตในราชตระกูล มีร่างกายแข็งแรงและมีผิวพรรณสวยงาม ทำผิดกลับไม่ถูกฆ่า แต่ข้าพระองค์ทั้งหลาย [ไม่ได้ทำผิด] กลับถูกฆ่า การฆ่าแบบนี้ไม่ถูกต้องเพราะเป็นการฆ่าผู้ที่อ่อนแอ”

คำเตือนของพญาสุนัขทำให้พระราชาคิด พระองค์ได้ตรัสถามเขาว่า

“เจ้าแสนรู้ เจ้ารู้หรือว่าสุนัขพวกไหนกัดกินหนังหุ้มรถ เชือกและเครื่องรัดรถของเรา”

“รู้ พระเจ้าข้า” พญาสุนัขกราบทูล

“พวกไหนล่ะ”

“พวกที่พระองค์เลี้ยงไว้ในพระราชวังนั่นแหละ พระเจ้าข้า”

“เจ้ามีหลักฐานหรือ”

“มีพระเจ้าข้า” พญาสุนัขกราบทูล

จากนั้นก็ ทูลพระราชาให้ต้อนพวกสุนัขหลวงมาอยู่ในที่เดียวกัน แล้วให้หาหญ้าคาและน้ำเปรียงมาโขลกคลุกกันคั้นเอาน้ำกรอกปากสุนัขพวกนั้นพอน้ำยาตกถึงท้องเท่านั้น สุนัขพวกนั้นก็สำรอกออกพร้อมกับชิ้นหนังที่กินเข้าไป

พระราชาทรงยอมจำนนต่อหลักฐานและยอมรับผิดพญาสุนัขจึงทูลขอให้พระราชทานอภัยแก่สุนัขทั้งหมดรวมทั้งทูลขอให้ไว้ชีวิตแก่สัตว์ทุกประเภท พระราชาทรงรับคำ และเพื่อเป็นการตอบแทนความดีแก่พญาสุนัข พระราชาจึงรับสั่งให้พระราชทานอาหารแก่เขาและบรรดาสุนัขทั้งหมดทั้งในและนอกพระราชวังตลอดรัชกาล

นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้นำต้องตั้งอยู่ในความยุติธรรม การลงโทษโดยที่ยังมิทันสืบสวนหาความผิดนั้นไม่ถูกต้อง อย่างพระราชาสั่งให้ลงโทษพวกสุนัขโดยไม่สอบสวนฉะนั้น



--------- จบ---------
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
พญาสุนัข
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.พ.2007, 8:42 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 03 มิ.ย.2008, 3:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ได้ข้อคิดอีกแล้ว ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง