|
|
|
|
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
I am
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.พ.2007, 9:32 am |
|
วันมาฆบูชา
เป็นวันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนา
ได้กล่าวไว้นานปีมาแล้ว เมื่อคนไทยจำนวนไม่น้อยเริ่มสนใจวันวาเลนไทน์กันอย่างท่วมท้นเปิดเผย ว่าเป็นวันแห่งความรัก และคำวาเลนไทน์ก็เป็นชื่อนักบุญต่างศาสนา
ถ้าคนไทยผู้มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ จะสนใจวันแห่งความรักมากมายเพียงใด ก็จะไม่กังวลห่วงใย ถ้าจะเป็นวันท่านผู้ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาที่ท่านบรรลุธรรมสำคัญทั้งหลายองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม
นานปีมาแล้วได้พยายามจะช่วยคนไทยจำนวนไม่น้อยนั้นพ้นจากความคิดผิด หันมาคิดให้เกิดสิริมงคลแก่ชีวิตจิตใจ จึงได้ยกวันมาฆบูชาขึ้นให้ปรากฏประจักษ์อย่างชัดเจน
ทั้งที่วันมาฆบูชามีมานานเป็นพันๆ ปี แล้ว เป็นวันแห่งความรักสูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนา ที่ควรได้รับการเทิดทูนบูชาเหนือวันแห่งความรักอื่นใด แต่ก็หาได้รับความสนใจเท่าที่ควรไม่ น่าเสียใจเป็นที่สุด
น่าเสียใจเป็นที่สุด ที่พากันไม่แยแสที่จะอัญเชิญสิริมงคลยิ่งใหญ่เข้าสู่ชีวิต ให้เป็นเครื่องยังความร่มเย็นเป็นสุขสวัสดีเกิดมีแก่ชีวิต แก่ประเทศชาติบ้านเมืองที่รักของเรา โดยเฉพาะในยามนี้ที่โลกเดือดร้อนวุ่นวายนัก
ได้กล่าวตลอดมานับครั้งไม่ถ้วนว่า
วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนา
สมเด็จพระบรมศาสดาโปรดประทานความรักนั้นแก่สัตว์โลกทั้งปวงในวันมาฆบูชา จึงกล่าวว่าวันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรัก ที่ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ใช่ความรักแบบของมารดาบิดาบุตรธิดาที่มีต่อกัน ไม่ใช่ความรักแบบของสามีภริยาที่มีต่อกัน ไม่ใช่ความรักของหญิงชายที่มีต่อกัน
ความรักของสมเด็จพระบรมศาสดาทรงมีท่วมท้นพระพุทธหฤทัยแตกต่างกับความรักที่นำมากล่าวแล้วทั้งหมด สูงเหนือความรักทั้งหลายทั้งปวงในโลก
พระพุทธหฤทัย หรือพระหฤทัยในสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีความบริสุทธิ์ครบถ้วนทุกประการ คือปราศจากกิเลสสิ้นเชิง ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่แตะต้องพระพุทธหฤทัยได้เลยแม้แต่น้อย
ทรงเป็นเช่นที่กล่าวว่าทรงไกลกิเลสแล้ว สมเด็จพระบรมศาสดาทรงไกลกิเลสแล้วสิ้นเชิง ความรักในพระพุทธหฤทัยจึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแตกต่างห่างไกลกันที่สุดกับความรักในใจเราทั้งหลายคน
สมเด็จพระบรมศาสดาทรงรักสัตว์โลกทั้งปวงเสมอกัน ความรักของพระองค์ท่านเป็นแบบที่ปุถุชนคนมีกิเลสทั้งหลายมีไม่เหมือนแน่นอน เพียงใกล้เคียงก็แสนห่าง ถ้าจะพูดให้ตรงอย่างไม่เกรงใจก็พูดได้ว่า ความรักของเราผู้เป็นปุถุชนนั้นสกปรกด้วยแรงของกิเลส ครบถ้วนทั้ง โลภะ โมหะ โทสะ
ความโลภ ความโกรธ ความหลง ยังมีอยู่ในเราผู้เป็นปุถุชนครบถ้วน จึงย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ความรักของเราบริสุทธิ์สะอาดปราศจากความสกปรกของกิเลสเครื่องเศร้าหมอง ซึ่งแตกต่างห่างไกลนักกับที่เรียกว่าความรักของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่จริงที่นำมาเรียกว่าความรักในสมเด็จพระบรมศาสดาก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะย่อมจักนำให้ผู้รู้เท่าไม่ถึงความหมายของคำว่าความรักในที่นี้เข้าใจไปในทางไม่ดีไม่ถูกต้อง ว่าเป็นการแสดงความไม่รู้ของผู้ใช้คำความรักกับสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่ขอยืนยันความแน่ใจ ว่าใช้คำอื่นจะให้ความลึกซึ่งแก่จิตใจคนทั่วไปไม่เสมอคำว่ารัก คำว่าเมตตานั้นพูดจริงๆ อย่างจริงใจ ผู้ฟังไม่ค่อยรู้สึกลึกซึ่งในความหมายเท่าคำว่ารัก จึงเลือกใช้คำว่ารักแม้เมื่อใช้เกี่ยวกับพระผู้ทรงไกลพ้นแล้วจากความรักอย่างสิ้นเชิง
ขอให้ท่านผู้อ่านหรือผู้ได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับที่กล่าวว่าสมเด็จพระบรมศาสดาทรงมีความรักสัตว์โลกทั้งปวง โปรดเข้าใจเครื่องหมายที่ลึกซึ่งบริสุทธิ์สูงส่งของคำว่ารักในที่นี้ โปรดอย่าคิดให้เป็นบาปเป็นกรรมหนักหนาแก่จิตใจเลย
กล่าวได้ว่าวันมาฆบูชาเป็นวันที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศความรักอันบริสุทธิ์ต่อสัตว์โลกทั้งปวง ในโอวาทปาติโมกข์ที่ทรงแสดง ที่เป็นธรรมเครื่องนำชีวิตสัตว์โลกให้สวัสดีมีสุข ตั้งแต่สุขเล็กสุขน้อยจนถึงสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
คือสุขที่ปราศจากทุกข์สิ้นเชิงไม่พบความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายอีกต่อไป ทรงแสดงไว้ในพระโอวาทปาติโมกข์ เมื่อวันมาฆะพระจันทร์เต็มดวงเสวยมาฆฤกษ์ ในท่ามกลางบริสุทธิ์สงฆ์ ผู้ล้วนเป็นพระอรหันตขีณาสพพุทธสาวกที่ยิ่งแล้วด้วยปัญญา สามารถน้อมรับพระธรรมที่ทรงแสดงไปประกาศได้อย่างถูกต้องแนนอน
ความรักที่บริสุทธิ์สูงส่งที่พระพุทธองค์โปรดประทานเพื่อประคับประคองรักษาชีวิตสัตว์โลกทั้งหลาย จึงมีพระอรหันตขีณาสพพุทธสาวกอัญเชิญไปประกาศอย่างถูกแท้ และความรักของพระพุทธองค์ ก็ได้มาประดิษฐานอยู่ในบ้านเมืองไทยของเราด้วยแล้วเป็นพันๆ ปี ควรจะภาคภูมิใจ ควรจะนอบน้อมรับสิริมงคลที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
ไม่ควรปล่อยปะละเลยถือเป็นเรื่องธรรมดา จนอัปมงคลต่างๆ นาๆ เข้าถึงได้ให้เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนวุ่นวายได้อย่างไม่ควรเกิด และจะเกิดไม่ได้แม้อัญเชิญพระพุทธบารมีไว้เหนือเศียรเกล้าชีวิตจิตใจ ให้ทุกถ้วนหน้า นี้เป็นความจริง
วันเริ่มแรกมาฆบูชา วันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนานั้น ด้วยอำนาจพระพุทธจิตจึงมีจาตุรงคสันนิบาติเกิดขึ้นในวันนั้น ยังให้เกิดความยิ่งใหญ่พรั้งพร้อม คือ
๑. พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ไปประชุมพร้อมกันในวันจันทร์เต็มดวงเสวยมาฆฤกษ์
๒. พระภิกษุทั้ง ๑,๒๕๐ องค์นั้นล้วนเป็นพระอรหันตขีณาสพ ไกลกิเลสแล้วสิ้นเชิง
๓. พระอรหันตขีณาสพทั้ง ๑,๒๕๐ องค์นั้นมิได้นัดหมายกัน
๔. พระอรหันตขีณาสพทั้ง ๑,๒๕๐ องค์นั้นล้วนพระพุทธองค์ท่านโปรดประทานการบวชให้ โดยเปล่งพระพุทธวาจาว่า เอหิ ภิกขุ จงเป็นภิษุมาเถิด
ความพร้อมทั้ง ๔ ประการนี้ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต เกิดขึ้นเพื่อให้การทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์ ทรงประกาศหัวใจพระพุทธศาสนาได้เป็นไปสมบูรณ์พร้อม ยิ่งใหญ่จริง อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
หลักพระพุทธศาสนา หรือหัวใจพระพุทธศาสนา ๓ ประการ ที่เป็นเครื่องแสดงพระพุทธหฤทัยที่มีความรักสูงส่งบริสุทธิ์ต่อสัตว์โลกทั้งปวง ที่ทรงแสดงไว้ในวันพระจันทร์เต็มดวง เสวยมาฆฤกษ์ ณ พระวิหารเวฬุวัน และพระอรหันต์ขีณาสพพุทธสาวก ๑,๒๕๐ องค์ ที่ได้รับพุทธจิตสั่งให้ไปประชุมพร้อมกันในกาลครั้งนั้น ได้อัญเชิญหัวใจพระพุทธศาสนาทั้ง ๓ ประการ เผยแผ่แก่โลก ให้เป็นเครื่องประคับประคอง ชีวิตจิตใจให้ร่มเย็นเป็นสุข
จนปัจจุบันสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จดับขันธ์ปรินิพานไป ๒๕๔๘ ปีแล้ว หัวใจพระพุทธศาสนายังดำรงอยู่อย่างมั่นคง แม้จะไม่ในทุกจิตใจผู้ได้รับรู้รับฟัง ที่ควรถือว่าบุญน้อย จึงไม่เห็นคุณค่าสูงส่งของสิริมงคล จากหัวใจพระพุทธศาสนา
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
รับสั่งว่า
ถ้าจะถือว่ามีวันแห่งความรัก ก็ต้องถือวันมาฆบูชา
วันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศความรักอันบริสุทธิ์สูงส่ง
วันมาฆบูชา-วันแห่งความรัก
วันที่พระจันทร์เต็มดวง เสวยมาฆฤกษ์ ในเดือนสาม
วันแห่งความรัก อันสูงส่งบริสุทธิ์ ในพระพุทธศาสนา
ด้วยทรงมีความรักบริสุทธิ์สูงส่ง ไม่มีเสมอเหมือนพระพุทธองค์จึงทรงแผ่พระมหากรุณาได้กว้างใหญ่ไพศาลไม่มีขอบเขต ทั้งแก่พรหมเทพ มนุษย์สัตว์ ปรากฏแจ้งชัดในพระโอวาทปาติโมกข์ ที่ทรงแสดงในวันมาฆบูชา
พึงไม่ทำบาปทั้งปวง
พึงทำกุศลให้ถึงพร้อม
พึงรักษาจิตของตนให้ผ่องใส
บาปย่อมก่อให้เกิดทุกข์โทษภัยแก่ผู้ทำและผู้อื่น
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนไม่ให้ทำ
กุศลย่อมเป็นคุณแก่ผู้ทำและผู้อื่น
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนให้ทำ
จิตผ่องใส่คือจิตที่ไกลได้จากกิเลสโกรธหลง ที่มีอยู่เต็มโลก
ย่อมให้ความสุขสงบอย่างยิ่งจนถึงเป็นบรมสุข
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนให้รักษาจิตของตน
เป็นชาวพุทธพึงซาบซึ้งพึงมั่นใจ
ในพระคุณยิ่งใหญ่แห่งความรัก
ที่บริสุทธิ์ผ่องใสไพจิตรนัก
โลกประจักษ์วันรักนั้นวันมาฆะ
: มาฆบูชา ๒๕๔๗
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
|
|
_________________ ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก |
|
|
|
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
14 ก.พ.2007, 11:56 am |
|
สาธุจ้า...คุณ I am
ถ้าจะถือว่ามีวันแห่งความรัก ก็ต้องถือวันมาฆบูชา
วันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศความรักอันบริสุทธิ์สูงส่ง
พึงไม่ทำบาปทั้งปวง
พึงทำกุศลให้ถึงพร้อม
พึงรักษาจิตของตนให้ผ่องใส
บาปย่อมก่อให้เกิดโทษภัยแก่ผู้ทำและผู้อื่น
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนไม่ให้ทำ
กุศลย่อมเป็นคุณแก่ผู้ทำและผู้อื่น
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนให้ทำ
จิตผ่องใส คือ จิตที่ไกลได้จากกิเลสโกรธหลง ที่มีอยู่เต็มโลก
ย่อมให้ความสุขสงบอย่างยิ่งจนถึงเป็นบรมสุข
พระพุทธองค์จึงทรงเตือนให้รักษาจิตของตน
เป็นชาวพุทธพึงซาบซึ่งพึงมั่นใจ
ในพระคุณยิ่งใหญ่แห่งความรัก
ที่บริสุทธิ์ผ่องใสไพจิตรนัก
โลกประจักษ์วันรักนั้นวันมาฆะ
ธรรมะสวัสดีค่ะ
|
|
|
|
|
|
kong_014
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 30 พ.ย. 2006
ตอบ: 37
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
16 ก.พ.2007, 9:59 am |
|
สาธุ สาธุ ขออนุโมทนา ครับ |
|
_________________ ไม่กล่าวโทษผู้อื่น กล่าวโทษตนเองไว้เสมอ มุ่งปฎิบัติให้ถึงซึ่งพระนิพพาน |
|
|
|
ใบโพธิ์
บัวบาน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
20 ก.พ.2008, 8:29 am |
|
|
|
_________________ ทำความดีทุกๆ วัน |
|
|
|
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993
|
ตอบเมื่อ:
29 ม.ค. 2009, 12:34 pm |
|
|
|
|
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |