|
|
|
 |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
โอภาส
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 03 ก.ค. 2007
ตอบ: 5
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
06 ก.ค.2007, 10:20 pm |
  |
มีปัญหาคือพยายามที่จะตัดใจจากใครบางคน แต่ทำไม่ได้สักที รบกวนชี้แนะหน่อยครับ....กลุ้มใจ ขอบคุณครับ |
|
|
|
  |
 |
กุหลาบสีชา
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2007
ตอบ: 1466
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
07 ก.ค.2007, 1:16 am |
  |
ก่อนตัดใจ ควรรู้ก่อนว่าจะวาง "ใจ" ตนเอง
ไว้ที่ตรงไหน และอย่างไรก่อน
เข้าใจค่ะว่า ตัดบัวยังเหลือใย
ไม่ง่ายเลยที่จะทำได้ในเวลาอันสั้น
แต่เนื้อความข้างล่างนี้
อาจเป็นแสงสว่างที่ช่วยส่องทางให้รู้ว่าจะ
"ทำใจ" และ "วางใจ" ของตนได้ที่ไหน และอย่างไรนะคะ
"เรื่องความรักนี้เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตฆราวาสทุกคน
บางคนถึงกับเอาเป็นสรณะที่พึ่งของชีวิต
ซึ่งมักจะทำให้ชีวิตประสบความทุกข์ระทมบ่อยๆ
รักได้ไม่เป็นไร ไม่ผิดศีล ไม่ผิดอะไร
แต่พุทธศาสนาสอนว่าทุกอย่างในชีวิตต้องประกอบด้วยธรรมะ
ต้องยอมรับความจริง เราต้องพยายามพิจารณาทุกเช้าทุกเย็นว่า
เราต้องมีความพลัดพรากจากคนที่เรารักทุกคนไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เราไม่ตายจากเขา เขาก็ต้องตายจากเรา
อันนี้ไม่ใช่เพื่อทำให้เรารู้สึกกลุ้มใจหรือเศร้าใจ
แต่เป็นการเปิดจิตใจออกไปรับความเป็นจริง
ซึ่งปกติเราชอบพยายามประคับประคองอารมณ์ที่สบายของเราไว้
โดยการกลบเกลื่อนความจริง บางแง่ บางมุม บางประการ
คือสิ่งที่จะลดรสชาติของอารมณ์นั้น
เพราะธรรมชาติของคนเรานี้ชอบเพลิดเพลินในอารมณ์ เพลิดเพลินในความรัก
แต่ถ้าเราเพลิดเพลินในสิ่งใดแล้ว ความเพลิดเพลินนั้นแหละเป็นความยึดมั่นถือมั่น
เกิดภพ เกิดชาติ เกิดความไม่มั่นคง เกิดความหวั่นไว
เพราะว่าอารมณ์ทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย
ผู้ยึดมั่นในอารมณ์ย่อมฝืนธรรมชาติไม่ให้เปลี่ยนแปลง
แต่มนุษย์เราจะสู้ธรรมชาติไม่ได้ มันเป็นการฝืนที่ลมๆแล้งๆ
เป็นการฝืนที่จะทำให้รู้สึกระทมขมขื่น รู้สึกเซ็ง หมดหวัง สิ้นหวัง
นักปฏิบัติผู้ปฏิบัติธรรมะจะคำนึงถึงความจริงเรื่องนี้อยู่เสมอ
สำนึกรู้ในโทษของการไม่ยอมรับความจริงว่า
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่เพียงรู้ว่ายึดมั่นในสิ่งที่ไม่เที่ยงเมื่อไร ก็ต้องเป็นทุกข์ทันที
คิดอย่างนี้ได้ความรักมันไม่หายหรอก
ความรักของเราไม่ใช่ว่ามันจะจืดชืดหมดรสชาติ
แต่จะเป็นความรักที่สุกงอม เป็นความรักของผู้ใหญ่ ความรักไม่มีโทษอะไร
เรื่องความรักนั้นจะต้องสังเกตว่ามันจะเปลี่ยนสภาพตามความรู้
และความเข้าใจของธรรมะของผู้รัก หมายความว่า
ถ้าพวกเราไม่มีสติปัญญาเป็นที่พึ่งภายในใจ
ไม่มีตัวรู้คอยคุ้มครอง การดำเนินชีวิต คอยดูแลสิ่งที่เราทำ คำที่เราพูด
เราย่อมมีความรู้สึกขาดความมั่นคง ซึ่งจะอยู่ลึกๆในใจตลอดเวลา
รู้สึกว่าขาดอะไรสักอย่าง มีความรู้สึกอย่างนี้แล้ว
เรามักจะพยายามลบความรู้สึกนี้โดยความรัก
จึงแสวงหาความรักอย่างดิ้นรน กระสับกระส่ายกระวนกระวาย
ความรักของเรานั้นจะประกอบไปด้วยความเห็นแก่ตัว เพราะเกิดจากความอยาก
แต่ผู้ที่มีความมั่นคง มีที่พึ่งภายในใจแล้ว
จะมีความรู้สึกพอดี ไม่มีอะไรขาด ไม่มีอะไรเกิน พอดีๆ
ผู้ที่รู้สึกพอดีนั่นแหละสามารถให้ความรักด้วยความอิสระ
มีความรู้สึกไวต่อคนอื่น ต่อความต้องการของเขา
ความกลัว ความวิตกกังวล ของเขา
สามารถสังเกตเห็นสิ่งแวดล้อมหรือบุคคลรอบข้างอย่างลึกซึ้ง
เพราะเดี๋ยวนี้คนเราก็พอแล้ว ไม่มีความห่วงอะไร
จิตที่เต็มไปด้วยธรรมะแล้วเป็นจิตที่สร้างสรรค์มาก
เพราะว่าไม่มีอะไรบกพร่อง พร้อมที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้
พร้อมที่จะให้ความรัก โดยไม่หวังอะไรตอบแทน
คือ เขาจะรักหรือไม่รักเรื่องของเขา แต่ว่าเราจะให้ เราพอใจกับการให้
แต่ไม่มีความต้องการในความรักเพื่อแก้ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยว
หรือว่างเปล่าในใจของตนเอง
มีธรรมะเป็นที่พึ่ง ความรักเป็นที่พึ่งไม่ได้
แต่ธรรมะเป็นที่พึ่งได้ ธรรมะเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในชีวิตมนุษย์"
ที่มา : ความรักที่แท้จริง. ใน เพื่อนนอก เพื่อนใน
โดย ชยสาโรภิกขุ, หน้า ๑๐-๑๒. |
|
|
|
    |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
07 ก.ค.2007, 5:46 am |
  |
ปัญหาเรื่องความรัก
ขอถามก่อนว่า มีเหตุผลอย่างไร ทำไมต้องตัดใจไปจากเค้า แอบรักเค้าข้างเดียว หรือกำลังเรียน ฯลฯ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
โอภาส
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 03 ก.ค. 2007
ตอบ: 5
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
07 ก.ค.2007, 9:53 am |
  |
ขอบคุนมากนะครับที่ชี้แนะ ส่วนปัญหาเกิดจากทั้ง 2 อย่างน่ะครับทั้งแอบรักข้างเดียว กับอยากเรียนก่อนน่ะครับ เลยไม่ค่อยอยากกังวลกับเรื่องรักมากน่ะครับ |
|
|
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
07 ก.ค.2007, 11:54 am |
  |
ชอบเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง น้ำท่วมไม่ถึงก็แห้งแหง๋แก๋ ไม่มีประโยชน์อันใด
ถ้ายังลังเลๆ ตัดใจไม่ได้ว่าเอาไงดีหว่าปลงใจไม่ลงสักที
ลองใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งดิกล้าป่าว เดินเข้าไปบอกรักเขาดูสิ จะจะไปเลย จะได้รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา
ถ้าเขาปฏิเสธด้วยเหตุผลใดก็ตาม ได้ยินจากปากเค้าเองแล้ว คราวนี้แหละจะตัดใจได้เลย
เพราะเห็นสัจจะ จะจะแล้ว
เมื่อต้นเหตุถูกตัด ผลคือความกังวลใจ ตัดไม่ตัด จะขาดลงปลงใจได้
..ถ้าทำอย่างที่แนะนำแล้วพึงระวังด้วยล่ะ พอสาวเจ้าปฏิเสธแล้ว จะมากลุ้มใจอีกว่า ทำไม
เทอถึงไม่รักฉัน ฉันไม่ดีตรงไหนหรอ เอาอีกกลุ้มเพราะเค้าไม่สนองตอบอีก
ความเห็นส่วนตัวไม่ควรเลียนแบบ.....
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ถ้ารู้จักรักๆ ให้เป็น ความรักจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันและกัน ให้มุ่งมั่นทำในที่สิ่งที่ตั้งใจไว้จนสำเร็จ
แต่ทีนี้มันไม่ใช่ความรักน่าซี เป็นอารมณ์หนึ่งของวัยนี้เท่านั้น |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
โอภาส
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 03 ก.ค. 2007
ตอบ: 5
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
07 ก.ค.2007, 9:23 pm |
  |
ขอบคุณครับพี่สำหรับคำชี้แนะนะครับ |
|
|
|
  |
 |
บัวหิมะ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
|
ตอบเมื่อ:
23 ส.ค. 2008, 11:11 pm |
  |
สมควรแล้ว อย่าริรักในวัยเรียน สาธุ
เอาธรรมะเข้าข่มนะหนู |
|
_________________ ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ |
|
  |
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |