ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
I am
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
|
ตอบเมื่อ:
15 ม.ค. 2007, 8:48 am |
  |
ความอยากสามารถฉุดกระชากลากแต่ละคนให้คิด ให้พูด ให้ทำ อะไรต่อมิอะไรที่ร้ายแสนร้ายเพียงใดก็ได้ ลักโขมยเล็กๆ น้อยๆ ก็เกิดจากความอยากได้เพียงเล็กๆ น้อยๆ
การปล้นสดมภ์ถึงเข่นฆ่าแทบจะล้างผลาญกันให้หมดบ้านหมดเรือนหมดประเทศ ก็เกิดจากความอยากได้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จนถึงกับต้องสังหารผลาญชีวิตเพื่อให้สมอยาก
การอยากได้ทรัพย์สินเงินทองที่ฉุดลากให้ไปเป็นผู้ร้ายลักโขมย แม้ถึงทำลายชีวิตกัน ก็ไม่เสมอด้วยความอยากมีอำนาจยิ่งใหญ่ ความอยากนี้มีโทษเกินกว่าจะคาดคิดได้ ความอยากนี้ก็เป็นที่รู้ที่เห็นกันอยู่เสมอมา
ความอยากมีวาสนาเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านในเมืองนั้น ต้องทำอะไรต่อมิอะไรมากมาย ผิดร้ายอย่างใดก็ทำกัน บ้านเมืองจะดีขึ้นหรือเลวลงเพียงใด เป็นเรื่องไม่สำคัญเท่าความอยากของคน
ความอยากยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ยิ่งทำความเร่าร้อนรุนแรงเพียงนั้นให้เกิดในหัวใจผู้อยาก ขณะเดียวกันก็อาจทำความเดือดร้อนให้เกิดแก่สังคมแก่ประเทศชาติศาสนามากมาย แต่ก็น้อยนักที่จะเห็นโทษของความอยาก
ความอยากจึงเต็มไปทุกชีวิตจิตใจชักลากนรชนไปดังพระพุทธภาษิต โดยที่ผู้ที่ถูกความอยากชักลากอยู่นั้นหาได้เป็นสุขไม่ แต่ก็หาได้รู้ไม่ว่าความไม่เป็นสุขที่ต้องได้รับอยู่นั้นเกิดแต่ความอยาก ความอยากที่ไม่เคยหยุด ไม่เคยเพียงพอ
ความอยากที่สำคัญประการหนึ่งและมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง คือความอยากทำลายผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความอิจฉาริษยา โกรธใคร เกลียดใคร อิจฉาริษยาใคร ก็อยากทำลายให้ย่อยยับ ความอยากนี้จะฉุดลากให้ผู้มีความอยากอันเกิดจากความโกรธเกลียดอิจฉาริษยาโลดแล่นไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย อย่างไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
มุ่งมั่นไปตามอำนาจของความมุ่งร้าย ที่มีความโกรธเกลียดความอิจฉาริษยาเป็นกำลังของความอยาก ผลักดันและฉุดกระชากลากถูลู่ถูกังไปทุกวิธีทาง อย่างไม่รู้จักท้อแท้เหน็ดเหนื่อย ไม่คำนึงถึงบาปบุญคุณโทษใดๆ ทั้งสิ้น
ความอยากเท่านั้นมีกำลังเหนือความรู้คิดที่ถูกที่ควรทั้งหลายทั้งปวง ความอยากเท่านั้นที่ผูกมัดไว้และลากถูไป ไม่ปล่อยให้มีอะไรอื่นมาปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
สมเด็จพระบรมศาสดาทรงชี้ชัดให้พากันคิดว่า “สัตว์เป็นอันมากถูกความอยากผูกมัดไว้ ดุจนางนกถูกบ่วงรัดไว้ฉะนั้น” นกที่ติดบ่วงย่อมไร้อิสระภาพ ย่อมรอเวลาที่จะถูกจับไปเป็นอาหาร
สัตว์ทั้งหลาย คือเราท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกันกับนางนกที่ทรงมีพุทธภาษิตว่าถูกบ่วงรัด นางนกนั้นเป็นเช่นไร สัตว์ทั้งหลายที่ถูกความอยากผูกมัดไว้ ก็เป็นเช่นเดียวกัน นั้นเอง
: แสงส่องใจ ๒๕๕๐
: สมเด็จพระญารสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
..สวัสดีตอนเช้าครับ..  |
|
|
|
     |
 |
ลูกโป่ง
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
|
ตอบเมื่อ:
15 ม.ค. 2007, 4:59 pm |
  |
สาธุค่ะ...คุณ I am
ซาบซึ้งคำสอนของสมเด็จพระญารสังวร สมเด็จพระสังฆราช ฯมากค่ะ
ความอยากจึงเต็มไปทุกชีวิตจิตใจชักลากนรชนไปดังพระพุทธภาษิต
โดยที่ผู้ที่ถูกความอยากชักลากอยู่นั้นหาได้เป็นสุขไม่
แต่ก็หาได้รู้ไม่ว่าความไม่เป็นสุขที่ต้องได้รับอยู่นั้น
เกิดแต่ความอยาก ความอยากที่ไม่เคยหยุด ไม่เคยเพียงพอ
...สมเด็จพระบรมศาสดาทรงชี้ชัดให้พากันคิดว่า
“สัตว์เป็นอันมากถูกความอยากผูกมัดไว้ ดุจนางนกถูกบ่วงรัดไว้ฉะนั้น”
นกที่ติดบ่วงย่อมไร้อิสระภาพ ย่อมรอเวลาที่จะถูกจับไปเป็นอาหาร
สัตว์ทั้งหลาย คือเราท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกันกับนางนกที่ทรงมีพุทธภาษิตว่าถูกบ่วงรัด
นางนกนั้นเป็นเช่นไร สัตว์ทั้งหลายที่ถูกความอยากผูกมัดไว้ ก็เป็นเช่นเดียวกัน นั้นเอง
ขอบคุณมากนะคะ
ธรรมะสวัสดีค่ะ
 |
|
|
|
   |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
16 ม.ค. 2007, 8:01 am |
  |
สวัสดีครับ คุณลูกโป่ง
I am  |
|
|
|
|
 |
kong_014
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 30 พ.ย. 2006
ตอบ: 37
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
30 ม.ค. 2007, 2:54 pm |
  |
อนุโมทน สาธุ คำสอนอันมีคุณค่า มีแง่คิด ที่จะทำให้สัตว์ทั้งหลาย ได้หลุดพ้น หากละความอยากลงได้ สาธุๆ  |
|
_________________ ไม่กล่าวโทษผู้อื่น กล่าวโทษตนเองไว้เสมอ มุ่งปฎิบัติให้ถึงซึ่งพระนิพพาน |
|
    |
 |
I am
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
|
ตอบเมื่อ:
01 ก.พ.2007, 8:59 am |
  |
สวัสดีครับ คุณ kong_014
 |
|
|
|
     |
 |
|