Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
มะม่วงขม (ธรรมสภา)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นิทาน-การ์ตูน
ผู้ตั้ง
ข้อความ
เด็กบ้านยางสีสุราช
บัวบาน
เข้าร่วม: 05 มิ.ย. 2004
ตอบ: 305
ตอบเมื่อ: 13 ต.ค.2004, 8:01 pm
มะม่วงขม
นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา
พระเจ้าทธิวาหนะ กษัตริย์แห่งเมืองพาราณสี แคว้นกาสี ทรงได้ผลมะม่วงชนิดรสดีมาผลหนึ่ง ทรงเสวยแล้วรับสั่งให้เพาะเมล็ดไว้ในพระอุทยาน อีก ๓ ปีต่อมามะม่วงก็เติบโตให้ผลมีรสอร่อย.....ในเวลาต่อมากลับมีรสขม
ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นอำมาตย์ผู้สอนธรรมแก่พระเจ้าทธิวาหนะ และได้กราบทูลถึงสาเหตุที่มะม่วงมีรสขมนั้น
เดิมทีเดียวพระเจ้าทธิวาหนะ เป็นคนธรรมดาทำงานเป็นกรรมกรอยู่ที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง คราวหนึ่งเขาได้ขึ้นเรือออกทะเล เรือเกิดอับปางกลางทะเล เขาคว้าไม้กระดานได้แผ่นหนึ่งพยายามพยุงตัวให้ลอยมาที่เกาะ หลังจากขึ้นมาบนเกาะได้แล้วเขาก็เที่ยวหาผลไม้กินต่างข้าว ไปพบหมูตัวหนึ่ง หลับอยู่ ใกล้ๆ กับหมูนั้นมีแก้วมณีอยู่ดวงหนึ่ง แก้วมณีดวงนี้มีอานุภาพมาก ใครมีแล้วจะทำให้เหาะได้
เขาพยายามหาวิธีกำจัดหมู เมื่อสำเร็จแล้วก็ได้แก้วมณีมาเป็นของตน
หลังจากนั้นจึงก่อไฟย่างเนื้อหมูกินจนอิ่มหนำ แล้วก็คว้าแก้วมณีเหาะไปทางภูเขาหิมพานต์ ซึ่งมีอาศรมฤๅษีพี่น้องตั้งเรียงรายกันอยู่ ๔ หลังตามลำดับ ต่อมาฤๅษีพี่ชายคนโตตายไปเกิดเป็นพระอินทร์ และได้กลับมาเยี่ยมฤๅษีน้องชายทั้งสามอยู่เป็นประจำ
ต่อมา ฤๅษีน้องชายคนแรกป่วยเป็นโรคผอมเหลือง มีอาการหนาวสั่น วันหนึ่งพระอินทร์ถามฤๅษีน้องชายนั้นว่า ต้องการอะไร
ต้องการไฟ
พระอินทร์จึงถวายพร้าเล่มหนึ่ง
มีฤทธานุภาพมาก หากต้องการไฟให้เคาะและตั้งจิตอธิษฐาน และพร้าก็จะนำฟืนมาให้พร้อมทั้งก่อไฟให้ด้วย
คราวต่อมา พระอินทร์ได้เข้ามาเยี่ยมฤๅษีน้องชายคนที่ ๒ อาศรมของฤๅษีน้องชายนั้นอยู่ใกล้ทางช้างผ่าน รู้สึกไม่สบายเพราะถูกช้างรบกวน
พระอินทร์จึงถวายกลองไว้ ๑ ใบ
มีฤทธานุภาพมาก หากตีแล้วเสียงกลองจะช่วยขับไล่ศัตรูให้หนีไป และหากตีอีกหน้าหนึ่งจะเกิดมีกองทัพใหญ่แวดล้อม
วันต่อมา พระอินทร์ได้มาเยี่ยมฤๅษีน้องชายคนที่ ๓ ก็เป็นโรคผอมเหลืองเช่นกัน หลังจากสนทนากันแล้วพระอินทร์จึงถามว่า ท่านต้องการอะไร
ต้องการนมส้ม ฤๅษีน้องชายคนที่ ๓ นั้นตอบ
พระอินทร์จึงถวายหม้อนมส้ม ๑ ใบ
หม้อนมส้มใบนี้มีอานุภาพมาก หากเทจะมีนมส้มไหลออกไม่มีวันหมด และนมส้มนั้นสามารถกลายเป็นแม่น้ำใหญ่ท่วมคนให้ตายได้
ผลปรากฏว่าด้วยฤทธานุภาพของพระอินทร์ทำให้ฤๅษีทั้ง ๓ ได้สิ่งที่ตนต้องการและนำมาใช้ประโยชน์มากมาย
กล่าวถึงชายคนที่ได้แก้วมณีจากหมู แล้วเหาะมาทางป่าหิมพานต์ ได้เห็นอาศรมตั้งเรียงราย ๔ หลัง จึงลงไปที่อาศรมหลังแรก แต่เห็นรกร้างว่างเปล่าเนื่องจากเจ้าของอาศรมมรณภาพแล้ว จึงไปที่อาศรมหลังที่ ๒
เชิญเลย เชิญเข้ามาข้างใน
ฤๅษีเจ้าของอาศรมหลังที่ ๒ เชิญชวนหลังจากที่เข้าไปขอพักด้วย
เขาอยู่กับฤๅษีรูปที่ ๒ นั้นได้ไม่กี่วัน ก็เห็นฤทธานุภาพของพร้าที่ช่วยก่อไฟ เขาคิดอยากได้จึงเอาแก้วมณีมาแลกกับพร้า ฤๅษีเห็นว่าแก้วมณีมีฤทธานุภาพทำให้เหาะได้จึงยอมแลกด้วย ครั้นได้พร้าจากฤๅษีแล้ว เขาก็ทำทีเป็นขอลาจากไป
แต่เลยไปไม่ทันไรก็เคาะพร้าให้มาฆ่าฤๅษี แล้วก็กลับมาเอาแก้วมณีคืนไป
จากนั้นเขาก็เข้าไปหาฤๅษีรูปที่มีกลองวิเศษ โดยซ่อนพร้าที่ชิงมาจากฤๅษีรูปแรกไว้อย่างมิดชิด อยู่กับฤๅษีนั้นได้ไม่กี่วันก็ได้เห็นฤทธานุภาพของกลอง
จึงทำเหมือนตอนอยู่กับฤๅษีรูปก่อน คือ เอาแก้วมณีแลกกับกลอง และก็ทำเหมือนเดิมอีก คล้อยหลังไปไม่เท่าไรก็สั่งให้พร้ามาฆ่าฤๅษีชิงเอากลองไป
ต่อมาเขาก็เข้าไปหาฤๅษีที่มีนมส้ม แล้วใช้อุบายอย่างเดียวกันนั้น ชิงเอาหม้อนมส้มมาเป็นของตน
จึงเป็นอันว่าขณะนี้ชายผู้นี้มีของวิเศษอยู่ในมือ ๔ อย่างคือ แก้วมณี พร้า กลอง และหม้อนมส้ม เขาจึงคิดการใหญ่โดยหมายจะชิงเอาราชสมบัติของพระเจ้าพาราณสี
จึงสั่งให้แก้วมณีให้พาเหาะไปลงที่เขตเมืองพาราณสี แล้วยื่นสารไปท้าทายพระเจ้าพาราณสีให้มอบราชสมบัติให้แก่ตน มิฉะนั้นแล้วจะยกกองทัพเจ้าบุกขยี้
พระเจ้าพาราณสีพิโรธมาก ทรงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมเพื่อจะปราบโจร โดยพระองค์จะนำกำลังไปปราบเอง ฝ่ายชายผู้ท้าทายจึงตีกลองด้านที่ ๑ แล้วทันใดนั้นเองก็เกิดมีกองทัพช้าง กองทัพม้า กองทัพรถ กองทัพทหารราบพร้อมสรรพ เขาได้สั่งกองทัพทั้งหมดล้อมพระเจ้าพาราณสีไว้
จากนั้นเขาก็คว่ำหม้อนมส้ม แล้วทันใดนั้นเองก็เกิดมีแม่น้ำใหญ่ไหลขึ้นที่บริเวณกองทัพของพระเจ้าพาราณสี มีผลทำให้นักรบของพระเจ้าพาราณสีนั้นต้องตะเกียกตะกายแหวกว่ายอยู่ในสายน้ำ สิ้นใจตายจนหมด
แล้วจึงเคาะพร้าให้ไปตัดเศียรของพระเจ้าพาราณสีมาให้ตน หลังจากนั้นเขาก็ยกพลบุกเข้าไปยึดราชสมบัติ แล้วตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ครองราชสมบัติในเมืองพาราณสี พระนามว่า พระเจ้าทธิวาหนะ
พระเจ้าทธิวาหนะทรงครองราชสมบัติโดยธรรม ดูแลไพร่ฟ้าประชาชนให้อยู่ดีมีสุขและทรงเกื้อหนุนเมืองอื่นๆ ที่อยู่ในอำนาจของพระองค์ให้อยู่ดีมีสุขด้วย พระองค์รับสั่งให้แจกผลมะม่วงที่มีรสอร่อย ที่พระองค์ให้ปลูกนั้นแก่พระราชาเมืองอื่นด้วย
แต่เพื่อมิให้เมืองอื่นนำเม็ดไปเพาะปลูกได้ พระองค์จึงรับสั่งให้เอาหนามแหลมแทงเจาะลงไปในเม็ดเพื่อทำลายหน่อที่จะแตกออกมา มีพระราชาเมืองหนึ่งพยายามที่จะนำเม็ดมะม่วงนั้นไปเพาะแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงวางแผนสั่งคนสวนของพระองค์ให้ไปทำลายรสมะม่วงของพระเจ้าทธิวาหนะ
คนสวนนั้นก็เดินทางไปเมืองพาราณสี สมัครเป็นคนเฝ้าสวนของพระเจ้าพาราณสี ขณะนั้นพระเจ้าพาราณสีทรงต้องการคนเฝ้าสวนเพิ่มเติม จึงทรงรับไว้ให้ทำงานร่วมกับคนเก่า คนเฝ้าสวนที่มาใหม่แสดงฝีมืออย่างเต็มที่สามารถ ทำให้ไม้ดอกไม้ผลในพระอุทยานผลิดอกออกผลนอกฤดูได้ ทำให้พระอุทยานรื่นรมย์
พระเจ้าพาราณสีทรงพอพระทัยในผลงานของเขามาก คนเฝ้าสวนคนเก่าก็ไว้ใจในความสามารถของเขา ในที่สุดงานดูแลพระอุทยานทั้งหมดก็เป็นหน้าที่ของเขา เขาก็เริ่มวางแผนการตามที่ได้มีมาแต่แรกคือทำลายรสมะม่วงของพระเจ้าทธิวาหนะ โดยปลูกต้นสะเดาล้อมต้นมะม่วงและบำรุงรักษาอย่างดี จนกระทั่งต้นสะเดางามและโตขึ้นตามลำดับ รากของต้นสะเดาแทงลึกลงไปเกี่ยวพันกับรากมะม่วง และดูดซึมอาหารให้แก่กันและกัน
ผลปรากฏว่าถึงคราวที่มะม่วงออกผลกลับกลายเป็นมีรสขม คนเฝ้าสวนที่มาจากต่างเมืองนั้นเมื่อได้ทราบว่างานของตนที่ได้รับมอบหมายสำเร็จแล้ว เมื่อได้โอกาสจึงรีบหนีกลับไปบ้านเมืองของตน
ฝ่ายพระเจ้าทธิวาหนะเมื่อได้เสวยผลมะม่วงต้นเดิมนั้น ก็ให้รู้สึกแปลกพระทัยเพราะรสไม่เหมือนเก่า จึงรับสั่งให้เชิญอำมาตย์ผู้ทำหน้าที่สอนธรรมของพระองค์เข้าพบ แล้วตรัสสั่งให้ค้นหาสาเหตุที่ทำให้มะม่วงมีรสขม
อำมาตย์นั้นค้นหาสาเหตุแล้วก็พบว่าเป็นเพราะมีต้นสะเดาขึ้นล้อมอยู่ รากของต้นมะม่วงกับรากของต้นสะเดาเกี่ยวพันกัน จึงทำให้รสของต้นไม้ทั้งสองดูดซึมเข้าหากัน
พระเจ้าทธิหนะเมื่อได้ทราบความจริงจากอำมาตย์นั้น ก็รับสั่งให้ถอนต้นสะเดาทิ้ง และให้ดูแลต้นมะม่วงอย่างดีดุจเดิม แล้วไม่ช้าต้นมะม่วงก็มีรสอร่อยอย่างเดิม
นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า นิสัยของคนนั้นอาจแปรเปลี่ยนไปได้ตามสภาพแวดล้อมที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เหมือนต้นมะม่วงมีรสเปลี่ยนไปเพราะมีต้นสะเดามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นทางที่ดีเมื่อได้เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอย่างใด ก็ขอให้ตั้งสติให้มั่นคงเพื่อจะได้รู้ตัวและรู้เท่าทันกับสภาพแวดล้อมนั้น
.................. เอวัง ..................
_________________
สายลมเริ่มเปลี่ยนทิศแล้ว
ลมหนาวกำลังมาเยือนแล้ว
จันทร์ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๑
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065
ตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2006, 1:37 pm
สา..............ธุ
เด็กน้อย
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2006, 11:55 pm
suvitjak
บัวบาน
เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen
ตอบเมื่อ: 05 มิ.ย.2008, 5:02 pm
สาธุ
_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นิทาน-การ์ตูน
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th