เปลี่ยนชื่อดีจริงหรือ

ผู้เยี่ยมชม

เห็นใครๆ เขาเปลี่ยนชื่อกันเยอะมาก บอกชื่อไม่ดี ตัวอักษรไม่ดี เปลี่ยนใหม่แล้วจะดีอนาคตจะรุ่งเรืองแทนที่จะได้แค่ 50 ก็ได้ 100 เต็ม อนาคตดีแน่ อยากรู้จังว่า มันจะเปลี่ยนได้อย่างนั้นจริงเหรอ ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง ต้องรับและต้องชดใช้ ถ้าได้เปลี่ยนชื่อ แทนที่ต้องรับกรรมเต็มๆ กลับเหลือแค่ครึ่ง หรือไม่ถึงครึ่ง ที่ไม่ดีก็ดีได้ มันง่ายอย่างนั้นเลยหรือ

ตอบเมื่อ: 31 พ.ค.2005, 12:19 am

ชื่อของมนุษย์เรานี่ ก็แค่สมมติทางโลก เรียกว่านางนั่น นางนี่ นายคนนั้น นายคนนี้ แต่ถามว่าจากชื่อเดิมที่ตั้งมาแต่เกิด แล้วมาเปลี่ยนในช่วงจังหวะชีวิตไหนก็แล้วแต่ เพียงหวังว่าชีวิตจะดีขึ้น เพียงหวังว่ากรรมจะจำไม่ได้ ตามไม่ทัน เป็นความคิดที่ผิด

เป็นเพียงศาสตร์แขนงหนึ่ง แต่ก็เท่านั้น ไม่มีผลเท่าการกระทำของแต่ละบุคคลเลย ให้สังฆราชตั้งให้ด้วย กรรมมันจะเป็นแบบนี้ มันต้องชดใช้อย่างนี้ กรรมมันจัดสรร ไม่มีเทวดาหน้าไหนหรืออักษรตัวใดมาจัดสรร ถ้าง่ายอย่างที่คิดๆ ทำๆ กันอยู่ ก็ไม่ต้องพยายามอะไรแล้ว วันๆ ก็นั่งหาหมอดูเปลี่ยนชื่อเพื่อให้มันดีขึ้นไม่ดีกว่าหรือ ไม่ต้องทำมาหากิน

...เชื่อมั่นในตัวเอง ชื่อเป็นเพียงสมมติทางโลก กรรมเก่าถึงต้องชดใช้ แต่ก็ไม่สำคัญเท่าการกระทำกรรมดีที่เป็นกุศลในปัจจุบัน...

ธรรมะสวัสดี
มณี ปัทมะ ตารา

ตอบเมื่อ: 31 พ.ค.2005, 11:25 am

เห็นด้วยกับพี่ปุ๋ยครับ

ชื่อนั้นสำคัญไฉน เป็นเพียงสมมติทางโลก ที่สมมติขึ้นเท่านั้น ใยต้องไปยึดติด (ตัวกู ของกู : ท่านพุทธทาส) ว่า ชื่อนั้นดี ชื่อนี้ดีเป็นศิริมงคล ชื่อนั้นไม่ดีป็นอวมงคล....

งั้นวัน ๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรเปลี่ยนชื่อมันอยู่ยังงั้น เพื่อจะได้มีโชคลาภ วิ่งเข้ามาหา.......

ผู้เยี่ยมชม

ชื่อ "อมร" แปลว่า "ไม่ตาย" แต่ในความเป้นจริง ก็ยังต้องตาย ดังนั้น เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตั้งมาให้เราแล้วก็ใช้ๆ ไปเถิดครับ ชื่ออะไร ก็ละชั่ว ทำดี ทำใจใส เข้าไว้

อ้อ แต่ถ้าจะมีข้อดีอย่างหนึ่ง ของการเปลี่ยนชื่อนี้ ต้องเปลี่ยนตอนเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 ครับ เพราะเขาจะมีการจัดกลุ่มเรียน และห้องเรียนตามอักษร โดยเรียงตาม กอไก่ ถึง ฮอนกฮูก เลยครับ ที่นี่ถ้าใครมีชื่อเป็น กอไก่ อย่างผมที่ชื่อ เกียรติ ก็จะมีเพื่อนๆ รายล้อมที่ล้วนแต่ชื่อ กอไก่ครับ เช่น กรเกียรติ กิจชัย กฤษชัย ก้องเกียรติ ฯลฯ ดังนั้น ถ้าเราเรียนไปสักพัก แล้วเราเบื่อหน้าเพื่อนกลุ่มเดิมๆ แนะนำให้เราเปลี่ยนชื่อครับ เป็นตัวอักษรตัวอื่น เช่น ชอช้าง ชัยรัตน์ อะไรอย่างนี้ เราก็จะได้เจอหน้าเพื่อนกลุ่มใหม่ เป็นไงไอเดียเข้าท่ามั้ยครับ

ผู้เยี่ยมชม

เสียดายจบมานานแล้วไม่งั้นได้ใช้วิธีของคุณเกียรติแน่ แต่เอ รหัสเรามันไม่เปลี่ยนนี่นาจะได้ผลหรอ หุ หุ

ตอบเมื่อ: 01 มิ.ย.2005, 9:53 am

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มารสสนาถนัดมาก เรื่องเดีนรชาณวิชาแบบนี้

ในส่วนตัวเป็นคนที่ชอบศึกษาในเรื่อง การทำนาย โหราศาสตร์ แบบนี้

เป็นสิ่งที่ไม่หน้าเชื้อว่ามันจะมีผล จริง ในทางกลับกันมันทำให้ชีวิตของคนที่เป็นชื้อเปลี่ยนแปลงไปจริงอย่างคาดไม่ถึง

ในศาสตร์แบบนี้ ผลกระทบของมันจะขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน ถ้าเชื่อมากมาก ผลของการเปลี่ยนชื้อจะส่งผลกระทบรุนแรง ทั้งในทางที่ดีและไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด

1. การเปลี่ยนชื้อทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยน เพราะ การเปลี่ยนชื้อ ทำให้ความรู้สึกของคนเราที่อ่อนไหว นั้น รับรู้ถึงการเริ่มต้นใหม่ ชีวิตใหม่ ถ้ามีอะไรร้ายๆ ก็ทำให้รู้สึกว่า มันจบสิ้นแล้ว และสิ่งที่ดีกำลังจะเข้ามาในชีวิต ถึงแม้สิ่งร้ายๆจะเข้ามาก็จะไม่ไปโทษความผิดที่ชื้ออีก

2. ถ้าเรายิ่งมีความเชื่อมากเราก็จะยิ่งผูกโยงเรื่องต่างๆ ที่อาจไม่มีความเกียวข้องกันมาเป็นเรื่องเดียวกันได้งบ่ายมากขึ้น ถ้าเปลี่ยนชื้อแล้ว ได้คะแนนดีขึ้นมาก เราก็เอา 2 เรื่องนี้มาเป็นเรื่องเดียนกัน ว่าเป็นเพราะเปลี่ยนชื้อทำให้คะแนนดีขึ้นมา

จำไม้ได้ ว่าอ่านมาจากคำภีของศาสนาใด แต่ มีคำกล่าวไว้ว่า "พระเจ้าจะช้วยคนที่ช้วยตนเอง" หรือคำที่ว่า จะไม่เห็นถ้าไม่เปิดตา จะไม่มีคนมาเปิดประตูถ้าไม่เคาะ

ท้ายสุด ศรัทธา จะ ต้องมีปัญญาความคู่กัน

มารศาสนา

ผู้เยี่ยมชม

ลองอ่านบทความนี้สิคะ
ยิ้ม

คัดลอกมาจาก
http://dungtrin.com/newsletter/prepare033.htm

คอลัมน์ของคุณดังตฤณค่ะ

ถาม – ชื่อและนามสกุลของคนเรา ถ้าเปลี่ยนแล้วจะทำให้ชะตาดีขึ้นหรือเลวลงจริงหรือไม่ครับ?

ตอบแบบฟันธงสั้นๆ เลยคือจริงครับ! ผมเชื่อว่าชื่อคนมีอิทธิพลกับความรู้สึกนึกคิดของเจ้าตัว เชื่อว่าเมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วจะมีผลกระทบกับชีวิตโดยรวมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลไม่เป็นเรื่องจริง หรือไม่มีมูล หรือไม่ช่วยให้อะไรๆดีขึ้น วิชานามมงคลคงไม่แพร่หลาย และคงไม่มีการประกอบอาชีพทางนี้กันมาก

แต่ศรัทธาและความเชื่อดังกล่าวข้างต้นนี้ เป็นไปในทำนองเดียวกับที่เชื่อว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวมีอิทธิพลกับชีวิตคุณจริงๆ เช่นถ้าจัดห้องเสียใหม่ ความรู้สึกของคุณจะแตกต่างไป วิธีคิด วิธีใช้ชีวิตในห้องนั้นจะไม่เหมือนเดิม อารมณ์ในขณะพักผ่อนหรือทำงานจะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

ทุกสิ่งที่เชื่อมโยงกับคุณอย่างใกล้ชิด หรือกระทั่งชี้ตรงมาแสดงความเป็นคุณ ล้วนมีบทบาท มีอิทธิพลเล็กใหญ่กับคุณเสมอ พวกที่ฝักใฝ่เรื่องเคล็ดลางจะไม่ละเลยแม้กระทั่งการก้าวเท้าใดออกจากตัวบ้านก่อนด้วยซ้ำ

สรุปคือชีวิตคุณทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงตรงไหน ก็ต้องมีผลกระทบในทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน และคุณจะเห็นผลต่างอย่างรวดเร็วเสียด้วยถ้าเปลี่ยนสิ่งที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นคุณแบบโต้งๆ

ชื่อและนามสกุลนั้น มองเผินๆเป็นเพียงสัญลักษณ์ใช้บ่งบอกว่าใครเป็นใคร จะให้เรียกว่าอย่างไร แต่ในทางลึกแล้ว ชื่อของคนๆหนึ่งมีความสัมพันธ์กับลักษณะจิตใจ ฤกษ์เกิด ฤกษ์ดำรงอยู่ และฤกษ์แห่งการตายไม่มากก็น้อย เมื่อเราสำคัญว่าตนเองมีนามเช่นไร นามดังกล่าวจะก่อให้เกิดภพแห่งความเป็นเช่นนั้นขึ้นมาอย่างหนักแน่น เหมือนคลื่นรบกวน หรือเครื่องจรรโลงใจที่อยู่ติดตัวแต่ละคน จึงไม่น่าฉงน หากมีตำราที่แค่รู้ชื่อก็สามารถทายทักได้ถูกว่าชีวิตที่ผ่านมาวนเวียนอยู่กับสภาพเช่นไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม นามของแต่ละคนเป็นปัจจัยหนุน ไม่ใช่ปัจจัยนำ หมายความว่าชีวิตคุณจะดีขึ้นหรือเลวลงในระยะยาวนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนามเป็นหลัก แต่กรรมดีกรรมชั่วที่ทำเป็นอาจิณต่างหาก ที่ใช่

การเปลี่ยนชื่ออาจทำให้อะไรๆดีขึ้นได้แบบวูบวาบ แล้วกลับตกต่ำลงด้วยปัจจัยอื่นที่แรงกว่า มีผลยืดเยื้อยาวนานกว่ากัน แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ที่ดีขึ้นอย่างถาวร จะปรับสภาพชีวิตคุณให้ดีขึ้น แม้ทีละน้อย แต่ก็มั่นคงยั่งยืน กระทั่งโด่งถึงที่สุดแห่งความรุ่งเรืองได้

ยกตัวอย่างนะครับ สมมุติว่าคุณเป็นนักพูด ซึ่งต้องไปพูดต่อหน้าชุมชนจำนวนมากเป็นประจำ หากเปลี่ยนเสื้อแสงเสียใหม่ ภาพจะดูดีขึ้นหรือเลวลงทันที เสื้อผ้าจึงเป็นส่วนสร้างความรู้สึกมั่นใจ หรืออย่างน้อยก็เป็นปัจจัยให้ความรู้สึกเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของคุณเปลี่ยนแปลงออกมาจากภายใน พูดง่ายๆว่าการแต่งกายมีผลกระทบทั้งต่อความรู้สึกของคนอื่นและภาวะจิตใจคุณเอง

แต่หากคุณปรับเปลี่ยนวิธีพูด มีอารมณ์ขัน มีลูกล่อลูกชน มีการตั้งใจให้คุณแก่คนฟัง ผลจะแรงกว่าเปลี่ยนสไตล์แต่งตัวมาก คือหากพูดดี ฟังง่าย ฟังมัน แถมสื่อสารอันเป็นประโยชน์ให้คนเข้าใจชัดเจนทุกถ้อยกระทงความ คนจะหันมาฟังคำพูดของคุณมากกว่าดูการแต่งกายของคุณ ต่อให้คุณแต่งตัวมอซอ ดูไม่ค่อยเข้าท่า ในที่สุดก็อาจกลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ เกิดนักพูดฝีปากเอกในคราบซำเหมาขึ้นในวงการไป

นี่ก็ทำนองเดียวกัน สมมุติว่าคุณชื่อนายเหม็น ซึ่งเป็นชื่อโบราณ ไม่มีใครตั้งกันแล้ว แต่ถ้าคุณตั้งใจรักษาศีลให้สะอาดบริสุทธิ์ คำพูดมีแต่สรรเสริญคน ไม่ติฉินนินทาใคร อีกทั้งทำเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนรอบข้าง ในที่สุดชื่อของนายเหม็นผู้มีความประพฤติหอมหวนทวนลมจะฟุ้งเฟื่องขจรขจายกว้างไกล กลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ เป็นของแปลก ‘ดี’ ไปเสียอีก

คนไม่ค่อยเข้าใจความจริงข้างต้นนี้ ไปมองว่านามเป็นปัจจัยนำ เลยฝากความหวังกันไว้ผิดๆ นึกว่าเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลปุ๊บจะเกิดภูเขาทองขึ้นที่หลังบ้านทันที ความเชื่อผิดๆนี้จึงก่อให้เกิดการแนะนำผิดๆ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงผิดๆมากกว่าจะถูกต้อง ตำราตั้งชื่อนั้นมีหลายเจ้า คนทั่วไปไม่มีวันทราบได้เลยว่านักตั้งชื่อมีหลักการน่าเชื่อถือแท้จริงลึกซึ้งแค่ไหน มีผลงานการตั้งชื่อใหม่ให้เกิดมงคลหรืออัปมงคลกับใครมาแล้วบ้าง

ตามประสบการณ์ที่เคยพบมา ผมเคยเห็นคนเปลี่ยนชื่อแล้วจิตบิดเบี้ยวไปจากเดิม คือความคิดความอ่านผิดเพี้ยน ไม่เป็นตัวของตัวเอง แถมชื่อใหม่เป็นเสมือนแรงดึงดูดเรื่องยุ่งๆสารพัดชนิดเข้ามาสู่ชีวิตตนด้วยซ้ำครับ!

ที่สุดของที่สุดคือถ้ากรรมดีด้วย นามดีด้วย ก็จะเกิดความสมบูรณ์แบบขึ้นมา เพราะฉะนั้นผมไม่ต่อต้านเรื่องการตั้งชื่อใหม่ แต่อยากให้เข้าใจอย่างสมบูรณ์ครบวงจรครับว่าชื่อไม่ใช่ปัจจัยนำ กรรมทางความคิด การพูด และการกระทำต่างหากที่ใช่ ถ้าแค่ชักชวนกันสำรวจกรรมของแต่ละคน ถามเอาจากคนใกล้ตัว ไม่ต้องไปหาหมอดูที่ไหน ถามเขาว่าคุณมีกรรมอันเป็นตำหนิอย่างไรบ้าง พูดตรงไหนเป็นกาลกิณี รับทราบแล้วน้อมนำมาปรับเปลี่ยนเสียใหม่ให้มีดีขึ้น พูดตรงไหนเป็นศิริมงคล รับทราบแล้วน้อมมาพัฒนาให้ประเสริฐยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เท่านี้คุณก็ได้ชื่อว่าสร้างกรรมที่เป็นมงคลกับชื่อตนเอง ไม่ใช่พยายามเอาชื่อใหม่ดีๆ มาสวมทับกรรมไม่ดี ประดุจคนซื้อเสื้อขาวมาใส่ทั้งที่ยังไม่ชำระล้างสะสางกายครับ

ตอบเมื่อ: 03 มิ.ย.2005, 8:45 pm

เปลี่ยนก็ดี ไม่เปลี่ยนก็ได้ ทุกอย่างอยู่ที่การกระทำ จะดีจะไม่ดี ไม่เกี่ยวกับชื่อ ขอเพียงให้ ตั้งใจทำดี ความสุข ความเจริญ ของชีวิต ย่อมเข้ามา เป็นธรรมดา

ตอบเมื่อ: 04 มิ.ย.2005, 2:10 am

การเปลี่ยนชื่อ ก็เป็นอุบายทางจิต
ชีวิตกำลังแย่ เครียดเศร้าหมอง
จิตเชื่อ มากว่า เปลี่ยนชื่อแล้วจะดี
ยิ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อจาก บุคคลที่น่าเชื่อถือ
จิตยิ่งน้อมนำให้เชื่อ เกิดศรัทธาสูงสุด
ย่อมเกิดพลังใจ กำลังใจที่เข้มแข็ง.....
จิตแจ่มใส ใจเบิกบาน....สิ่งต่างๆ ที่เศร้าหมอง ย่อมผ่อนคลายลง

ชีวิตคนทุกคน ย่อมมีทั้งช่วงที่คิดว่า แย่เศร้าหมอง และช่วงที่แจ่มใส เบิกบาน
เมื่อตกไปแล้ว ก็ต้องขึ้น เหมือนดวงอาทิตย์ส่องแสง
ชีวิตก็เป็นเช่นนั้นแล......

มีความสุขกับทุกๆ วันนะค่ะ

ยิ้มเห็นฟัน