ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2005, 1:19 am |
  |
ในภาพ ผู้ปฏิบัติธรรมเดินจงกรมในช่วงเช้าที่บริเวณวัดร่มโพธิธรรม
......................................................................................................
ธรรมะจากพระโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต
เจ้าอาวาสวัดร่มโพธิธรรม
ต.หนองหิน กิ่ง อ.หนองหิน จ.เลย
การรู้ รู้แบบไหน รู้แบบเจตนา หรือไม่เจตนา ตั้งแล้วรู้ รู้แล้วยึดมั้ย ไปรู้เห็นก็เริ่มเสาะหา เริ่มตะลอนๆ ซอกแซก ไม่ต้องไปอะไรมากกับภาวะทั้งหลาย รู้แบบไม่ต้องตั้งกับการรู้มาก จะแบบจางคลายลง ผ่อนคลายลง โยนิโสแบบฉับพลัน เหตุปัจจัยแห่งการยุ่งยากจะลดน้อยลงไป ความหมายต่างๆ จะลดลงไปด้วย
ทุกอย่างมีอยู่โดยธรรมชาติ อยู่ในความเป็นนิสัยของสัตว์โลกอยู่แล้ว ตั้งมากก็เป็นภาระแห่งจิตมาก สละไปเลย จึงจะรู้แบบไม่ต้องมีภาระอะไรมาหมกมุ่นมาก ตั้งมากก็เตลิดมาก น้ำหนักมาก ตัวตนมากเมื่อเจตนามาก
ความบริสุทธิ์ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีเจ้าของจับจองความบริสุทธิ์ ไม่ต้องไปเสียดายกับความเลือกเอง เลือกรู้ เลือกเห็น เลือกสัมพันธ์สัมผัส ไม่ต้องไปเสียดาย เพราะมันเป็นลีลาของตัณหา อุปทาน ไม่ใช่อะไรเลย เพราะมันก็ยังหาภาระอยู่ หาชาติอยู่ ต้องอิงอะไรสักอย่าง อาศัยอะไรสักอย่างหนึ่งอยู่นั่นเอง
ธาตุรู้จริงๆ ไม่เป็นทั้งเหตุ ไม่เป็นทั้งผล ถ้าเห็นล้วนๆ ของมันเอง ไม่เป็นกระบวนการแห่งกรรม ไม่ก่อภพ ไม่ก่อชาติ ตัวตน บุคคล เราท่าน จะพยายามแยบคายอย่างไร ในเมื่อความพยายามยังเป็นตัณหา อุปทาน ก็คลายเจตนา เหมือนดอกไม้บาน มันไม่หุบ มันไม่กำ บานแล้วบานเลย ไม่มาหลงไม่มากำอีก
คลี่คลายแบบธรรมชาติ ไร้เจตนาในความเข้าใจ ก็จะบานไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ ไม่โมฆะ ไม่ต้องเสียดายว่า กลัวจะไม่ได้รู้ ไม่ได้เห็น ตัดความเสียดายลง มันจะแยบคาย จะลึกซึ้งเอง
........................................................
ติดตามตอนต่อไป >> |
|
|
|
   |
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2005, 1:36 am |
  |
ไปวัดไหน ก็ชอบถ่ายรูปพระอาทิตย์
ตรงนี้ก็งดงามมากอีกเช่นกัน จะที่ไหนๆ พระอาทิตย์ก็ดวงเดียวกัน
...................................................................................................
มรรควิธีต้องไร้เจตนา ไปเรื่อยๆ ไม่มุ่งนอก ไม่มุ่งใน ต้องรู้แบบกลางๆ ไม่หลงทาง จะรู้พร้อมของมันเอง จิตที่รู้พร้อมได้สมบูรณ์แบบ และตามธรรมชาติจริงๆ ต้องรู้แบบไม่มีตัวผู้รู้
ผ่อนให้เป็น คลายให้เป็น จะได้จบ ไม่วน ไม่ใช่ต้องตั้งตลอด เจตนาตลอด มันจะได้ลดกระแสเวทนา ลดซึม ธาตุขันธ์ ไม่ต้องเสียดาย กลัวไม่รู้ กลัวไม่เห็น เห็นมันก็มีอยู่แล้ว รู้มันก็มีอยู่แล้ว....หนอ
บรรลุ คือ ลุในความเป็นตัวเป็นตน ความเพียรในพุทธศาสนาคือความเข้าใจ การฟังให้เข้าใจ ไม่ต้องไปตอกย้ำในการที่จะต้องเข้าไปรู้ ไม่ใช่ว่าต้องรู้อย่างไร ไม่ใช่ว่าต้องซอกแซกเข้าไปรู้
ความเป็นอมตะธรรม สัจธรรม ได้สดับตรับฟังเมื่อไร เวลาไหน ก็ยังคงเป็นอมตะธรรม สัจธรรมอยู่นั่นเอง
ของจริงของปลอม
พระจริง ไม่ใช่อยู่ที่สถาบันหรือนิกายใดๆ
พระจริง ไม่ใช่อยู่ที่สิ่งพันกายนุ่งห่อมนั่น
พระจริง ไม่ใช่อยู่ที่เพศ หรือวัยใด
พระจริง ไม่ใช่อยู่ที่ผมใครๆ ยาวหรือสั้น
พระจริง ไม่ใช่อยู่ที่เนื้อ หนัง เอ็น กระดูก
พระจริง ไม่ใช่อยู่ที่ลูกหลานของชาวบ้าน
พระจริง ไม่ใช่อยู่ที่เปล่งวาจาแล้วเป็นพระกัน
พระจริง นั้นอยู่ที่ใด...ใครรู้เอย...
........................................................
ติดตามตอนต่อไป >> |
|
|
|
   |
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2005, 1:47 am |
  |
ความเป็นพระ แท้จริง อยู่ที่จิต
เมื่อไม่คิด ไม่เพ้อฝัน ไม่หวั่นไหว
จิตไม่โกรธ ไม่โลภหลง ต่อสิ่งใด
หยุดเย็นไซร้ พระเป็นได้ จริงทุกคน
หน้าที่ที่รับผิดชอบไม่ต่างกับหัวโขนที่เขาสวมให้
กติกาทั้งหลายคือสมมุติ
หน้าที่เป็นของชั่วคราว
สิ่งที่เราต้องรับผิดชอบยิ่งกว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
คือ...รับผิดชอบจิตของตัวเอง
พระโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต
วัดร่มโพธิธรรม
ต.หนองหิน กิ่ง อ.หนองหิน จ.เลย
พระโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต
>>>>> จบ >>>>> |
|
|
|
   |
 |
ศักดิ์ชัย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 พ.ค.2005, 6:07 am |
  |
|
|
 |
|