Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ปัญหาชีวิตคับ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ต้อ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2005, 12:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมเป็นเกย์คับ แต่ไม่มีใครรู้ และจะไม่ให้ใครรู้



แต่ผมมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากๆคับ ทุกวันนี้พยายามฝึกจิตตามหลังสติปัฏฐาน4 อยู่คับ หวังและเชื่อในเรื่องกรรมและโลกหน้ามากๆคับ



ทุกวันนี้ ผมอายุ 22 แล้ว แต่ที่บ้านทั้งพ่อทั้งแม่หวังมากๆ ให้ผมแต่งงาน

ทุกวันนี้ท่านทั่งสอง อยากให้หาแฟน



ท่านเชื่อว่าที่ผมไม่หาแฟน เพราะผมไม่อยากแต่งงาน

ผมเคยขอบวข แต่แม่บอกว่า ไว้มีแฟนก่อน แล้วพอจะแต่งงานแล้วค่อยบวช



ผมไม่อยากแต่งงาน เพราะ

1. ผมไม่อยากต้องให้ใครมาเกิดเพราะผม ผมไม่อยากมีบ่วง เกิดมาแล้วผมอาจจะไม่รักเขา แล้วผู้หญิงล่ะ ผมต้องพาเขามาร่วมทุกข์กับผม ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ รู้ถึงหูพ่อแม่ ก็เสื่อมเสียชื่อเสียงให้พ่อแม่ขายหน้า เป็นการสร้างกรรมอีก

2. แต่งงานกับผู้หญิง เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากทำอยู่แล้ว ผมไม่มีอารมณ์ร่วม ทุกวันนี้ แม้แต่กับผู้ชาย ผมไม่อยากมีเรื่องกามารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยคับ ผมพยายามสละและห้ามใจ



ผมไม่อึดอัด แต่อนาคตข้างหน้านี้ ผมรู้ว่าผมจะต้องแก้ไขปัญหานี้



พี่ๆ เพื่อนๆ คิดยังไงคับ และผมควรจะทำยังไงจึ่งถูกต้อง ถ้าไม่แต่ง พ่อแม่ก้อไม่พอใจ และจะทำให้พ่อแม่เสียใจ แม่ชอบพูดบ่อยๆว่า คนจีนน่ะ ถ้าแม่ได้อุ้มหลาน ถือว่ามีบุญ ผมไม่อยากให้แม่คิดอย่างงั้น



ผมหนักใจมากๆคับ



ผมมีพี่สาวคนเดียว และผมเป็นลูกชายคนเดียวคับ





ผมรู้ว่าที่ผมเป็นทุกวันนี้ มันเป็นกรรม ผมควรรับ

แต่ตกใจมาก ที่มีพี่ท่านหนึ่งบอกว่า เป็นเกย์บวชไม่ได้ จิงเหรอคับ ผมอ่านแล้วใจวูบเลยคับ

พระพุทธเจ้าคือ ฮีโร่ของผมเลยคับ ไม่ใช่คนเก่งๆหลายๆคยในโลกธุรกิจใบนี้



ช่วยผมหน่อยนะคับ ผมหนักใจกับปัญหานี้คับ ผมควรทำไงคับ ผมไม่อยากแต่งงาน



ทำไงผมจะได้บวชคับ

ผมใจร้อน คิดมาก หรือ จิตอ่อนไปหรือเปล่าคับ



อยากหาคนคุยเรื่องนี้ด้วยจังเลยคับ ไม่มีใครที่ผมคุยได้เลยคับ โดยเฉพาะเรื่องธรรมมะ ไม่มีเพื่อนคนไหนมีความสนใจเหมือนผมเลยคับ อยากมีเพื่อนคุยเรื่องนี้เพื่อความเจริญด้วยกันในธรรมคับ



รวกวนแนะนำเรื่องปัญหาชีวิตของผมด้วยนะคับ ผมต้องเจอมันเข้าสักวันคับ
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2005, 6:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เพราะเราเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไกลในสังสารวัฎ(การเวียนว่ายตายเกิด) ร่วมกันครับ ดังนั้น สิ่งที่ผมเคยได้ยินได้ฟังอะไรมา ก็ยินดีบอกกล่าวเผื่อจะเกิดประโยชน์แก่เพื่อนร่วมทาง



การที่คุณบอกว่า

1. เป็นเกย์แต่ไม่มีใครรู้ และจะไม่ให้ใครรู้ แสดงว่า ไม่ได้แสดงออกใดๆ ออกมา

2. ไม่มีอารมณ์ร่วมไม่ว่าทั้งหญิง หรือชาย

ถ้าเป็นเช่นนี้จริง คุณก็ไม่ได้จัดว่าเป็นเกย์ครับ เพียงแต่อาจจะมีบางอารมณ์หวั่นไหวไปบ้างทำให้คิดไปเช่นนั้น ซึ่งเราก็สามารถทดสอบได้ โดยทดลองไปเป็นอาสาสมัครช่วยงานวัด ถือศีลแปด ประพฤติพรหมจรรย์ดูสัก 7 วัน 15 วัน 1 เดือนดู เพราะถ้าคุณเตรียมที่จะบวชจริง แสดงว่าคงไม่มีปัญหาในเรื่องการงาน และการเงิน คงเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ถ้าทำได้แล้วไม่เกิดปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมว่าก็มีสิทธิ์บวชได้ครับ



พระวินัยท่านตรัสไว้เช่นนั้นจริงครับว่า ห้ามกระเทยบวช เพราะคนเราย่อมยังมีกิเลส ถ้ากระเทยบวช เวลากิเลสสายราคะกำเริบขึ้นมา จะไปลงที่ไหน ถ้าไม่ใช่พระภิกษุ ซึ่งไม่สามารถมีพระวินัยอะไรป้องกันไว้ได้ด้วยครับ ผิดกับผู้ชายทั่วไปที่ถ้าบวชพระ ยังมีพระวินัยป้องกันไว้ในเรื่องผู้หญิงว่า ห้ามพระพูดคุยกับผู้หญิงในที่ลับตา ห้ามจับสิ่งของที่เกี่ยวเนื่องกันระหว่างพระกับผู้หญิง เช่น ถือของชิ้นเดียวกัน นั่งที่นั่งที่ติดกัน ฯลฯ พระวินัยจึงยังช่วยควบคุมระหว่างพระกับผู้หญิงไว้ได้ แต่ถ้าเป็นพระ(ผู้ชาย) ด้วยกัน ไม่มีพระวินัยจะไปกำกับอย่างนั้นได้น่ะครับ ว่าห้ามพระพูดคุยกันในที่ลับตา อ้าวก็พระเหมือนกันทำไมจะคุยกันไม่ได้ นอนอยู่ในกุฏิหลังเดียวกันยังได้เลย ใช่มั้ยครับ จึงต้องกลายมาเป็นพระวินัยว่าห้ามกระเทยบวชแบบนี้แหละครับ เพราะไม่รู้จะไปป้องกันอย่างไร คุณคงเข้าใจนะครับ



ตัวอย่างจริงที่เคยเกิดขึ้นสมัยผมบวชเป็นสามเณร ในช่วงเตรียมตัวบวช มีผู้เป็นแบบนี้มาเตรียมบวชเหมือนกัน วันหนึ่ง เขาเกิดอารมณ์ขึ้นมา จึงแอบดู คนอื่นๆ(ผู้ชาย) ที่เตรียมบวชด้วยกันอาบน้ำ เมื่อพระอาจารย์จับได้ พระอาจารย์จึงขอให้เขาออกจากการอบรมไป ก่อนที่จะได้บวชน่ะครับ



ส่วนเรื่องพ่อแม่ควรหาทางให้ท่านได้มีโอกาสศึกษาธรรมะ โดยเฉพาะบทที่ว่า "เราจะต้องพรากพรัดจากของรักของชอบใจเป็นธรรมดา ไม่มีใครได้สิ่งต้องการทั้งหมดหรอก" เมื่อเป็นเช่นนี้ ใจของท่านจะได้ไม่ยึดมั่นถือมั่นมากเกินไป ว่าชีวิต จะต้องเป็นตามสูตรวิทยาศาสตร์ ใส่สารเคมีที่ 1 ผสมกับสารที่ 2 จะต้องใด้สารที่ 3 เสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ชีวิตไม่ใช่อย่างนั้น จะมากะเกณฑ์ว่า ตอนเด็กๆ เรียน เรียนจบทำงาน ทำงานหน่อย ต้องแต่งงาน แต่งงานแล้วต้องมีลูก มันไม่ใช่สูตรสำเร็จแบบนั้นครับ
 
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2005, 8:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อพหรมจริยาเวรมณีสิขาปทังสมาธิยามิ



ผู้หญิง อาจทำให้พระล่วงศีลข้อนี้ได้ถ้าไปอยู่ในหมู่สงฆ์ ในทำนองเดียวกันพระที่หน้าตาดีก็อาจทำให้ผู้หญิงลุ่มหลงและก่อเหตุการอันไม่สมควรได้ เช่น เรื่องของท่านท้าวมหาพรหมชินปัญจระ ที่ท่านมีหน้าตาหล่อเหลางดงาม(ยามกำเนิดอยู่ในมนุษภูมิและออกบรรพชาด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา) จนมีหญิงคนหนึ่งอดใจไว้ไม่อยู่ตรงเข้าสวมกอดท่านขณะบิณฑบาต (อ้างอิงจากเทปพระคาถาชินบัญชร) ซึ่งท่านละแล้วซึ่งกิเลสในเรื่องนี้และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกจึงถอดกายทิพย์ละสังขารก่อนอายุไข



ส่วนเกย์ ไม่อาจทำให้พระล่วงศีลข้ออพรหมจริยาได้ แต่หากบวชเป็นพระศีลข้อนี้ของเกย์คงไม่บริษุทธิ์และหมองมัว บัณเฑาะว์หรือกระเทยห้ามบวชในพุทธศาสนา นี่เป็นข้อกำหนดเลยครับ แต่ หมายถึง มีสองเพศในคนคนเดียว(เท่าที่อ่านคำจำกัดความนะครับ) ตรงนี้ในทางพันธุศาสตร์จะอธิบายได้ ซึ่งมีทั้ง กระเทยแท้ และ กระเทยเทียม ส่วนเกย์คงต้องมองความหมายทางจิตวิทยา ซึ่งตรงนี้ผมไม่ทราบเลย(แม้จะเคยบวชมาแล้ว) ตรงนี้ต้องถามผู้รู้นะครับ แต่หากจะบวช และประพฤติพรหมจรรย์ได้ จะต้องปลงอาบัติถ้าแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายด้วยกัน(คือหมู่สงฆ์) แล้วเวลาปลงอาบัติเมื่อแตะเนื้อต้องตัวผู้ชาย ความก็ต้องแตกอยู่ดี เพราะถ้าไปกล่าวว่าอาบัติเพราะไปแตะเนื้อต้องตัวเพศตรงข้าม นั่นยิ่งเลยเถิดไปถึงข้อมุสาอีก หรือ ถ้าไม่ผิดศีลข้ออพรหมจริยาเลย(แต่โอกาสผิดสูงมากเพราะ โอกาสที่จะถูกเนื้อต้องตัวพระหรือเด็กวัดที่เป็นชายย่อมมีมาก) ในสมัยพุทธกาล ไม่มีคำว่าเกย์ คงต้องอาศัยการตีความมากพอสมควร ถ้ามีสองเพศคืออวัยวะสืบพันธุ์ของทั้งสองเพศอยู่ในคนคนเดียวซึ่งจัดเป็นความผิดปกติทางด้านพันธุกรรม นั่นแน่นอน คือ บัณเฑาะว์ แต่ถ้าสภาพร่างกายภายนอกทุกประการเป็นชาย แต่มีความผิดปกติหรือเบี่ยงเบนทางจิตใจ ผมอ่านไม่พบในนวโกวาทนะครับ แต่คุณเป็นชายที่ไม่สมบูรณ์ ชายที่ผิดปกติทางด้านจิตใจ ประพฤติพรหมจรรย์ได้ ตัดกามกิเลสเรื่องเพศได้อย่างเด็ดขาด ร่างกายภายนอกเป็นชายแท้ทุกประการ ถ้าคำถามแบบนี้ผมตอบได้ยากครับ แต่ส่วนใหญ่หาได้น้อยนะครับ เกย์ที่ตัดเรื่องนี้ได้ และศีลของพระ 227 ข้อ สำหรับ สงฆ์ที่เป็นเพศชายจิตใจปกติ ก็จะต้องปรับเปลี่ยนไปหลายข้อซึ่งยุ่งยากมากนะครับ



เอ คุณคิดจะบวชเพื่อหนีการแต่งงานหรือเปล่าครับ(ผมเชื่อว่าคงไม่ได้คิดจะบวชเพราะทางวัดมีพระหน้าตาดีแน่ๆ เพราะเวลาผ่านสังขารก็เสื่อม พระจะไม่ปรุงแต่งกับรูปโฉมโนมพรรณ) เรื่องแต่งงานผมเห็นด้วยกับคุณนะครับว่า ถ้าต้องให้ผู้หญิงหรือเด็ก(ลูก)มารับกรรมอย่าแต่งเลย ส่วนเรื่องอยากจะบวช ผมไม่ทราบว่าการเป็นเกย์ทำจิตบำบัดหายหรือเปล่า ในกรณีของคุณน่าจะหายนะครับ เพราะที่คุณเล่ามาก็เข้าข่ายการถือพรหมจรรย์อยู่แล้ว ถ้าหายได้เขาก็รักษาคุณให้กลับเป็นชายดังเดิม คุณก็จะไปติดประเด็นของการแต่งงานอีก แต่เมื่อหายแล้วก็น่าจะแต่งงานได้นะครับ เพราะคุณเป็นชายปกติแล้ว หลังจากนั้นค่อยออกบวช



เป็นปัญหาที่ยากมากครับ ปัญหาของคุณยากมากๆทั้งสองทางเลย ทั้งทางเพศฆราวาสและเพศบรรพชิต ตามความคิดของผมนะครับ รักษาทางจิตใจให้หายดีเสียก่อน หลังจากนั้นจึงถือพรหมจรรย์คือละซึ่งกามกิเลสจากเพศหญิง เมื่อนั้นก็จะไม่มีความเคลือบแคลงใดๆเลย

ศีลของพระคุณก็ไม่ต้องปรับเปลี่ยนให้ตรงกับความเป็นเกย์ของคุณถือได้ตรงตามหลักปฎิบัติของสงฆ์ทุกอย่าง



กระเทยที่มีความผิดปกติทางพันธุศาสตร์(บัณเฑาะว์) รักษาอย่างไรก็ไม่หายเพราะความผิดปกติเกิดขึ้นในระดับโครโมโซม แต่ความเป็นเกย์ในร่างกายของชายแท้ผมว่าจิตแพทย์น่าจะรักษาหายนะครับ
 
เพียงธาร
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 30 เม.ย. 2005
ตอบ: 2

ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2005, 8:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดิฉันก็ทราบมาค่ะว่าเป็นกระเทยแล้วจะบวชไม่ได้ เหตุผลก็คงอย่างที่คุณเกียรติเขียนไว้ข้างบน แต่ในทางปฏิบัติก็เห็นบวชกันได้นี่คะ อย่างพี่ที่เป็นนักร้องก็ยังบวชได้ ถ้ามีศรัทธาแน่วแน่ ถ้ามั่นใจว่าจะเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม พระท่านคงจะให้คุณบวชค่ะ เพียงแต่ว่าคุณจะไม่สบายใจหรือเปล่า คนอื่นไม่รู้ แต่ตัวคุณเองก็รู้นี่คะ



ส่วนเรื่องแต่งงาน อย่าแต่งเลยนะคะ อย่าต่อเวรต่อกรรมเลย ในเมื่อคุณก็รู้ตัวอยู่แล้ว คุณจะยังทำบาปฉุดผู้หญิงอีกคนเข้าสู่ความทุกข์มหันต์นี้อีกหรือคะ



ความตั้งใจจะเจริญในทางธรรมนั้นดีอยู่แล้วค่ะ ดิฉันขออนุโมทนาด้วย คนที่ไม่ได้บวชก็สามารถบรรลุธรรมได้นะคะ



ขอให้เจริญในธรรมค่ะ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ต้อ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2005, 5:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมไม่เคยคิดจะบวชเพื่อหนีการแต่งงานน่ะคับ แต่จะบวชเพื่อบรรลุธรรมและดับจิตให้เกิดมาดีกว่านี้น่ะคับ ผมเชื่อมั่นว่า ผมจะไม่ทำผิดพระธรรมวินัยอย่างเด็ดขาดน่ะคับ แม้แต่เรื่องกามารมย์ ผมก้อไม่ยอมให้เกิดเด็ดขาด



เรื่องเปลี่ยนจิตใจให้มาเป็นปกติอย่างเดิมนี่ทำได้ด้วยเหรอคับ มันเป็นกรรมนะคับ ผมเคยทำด้วยตนเอง แต่ไม่ได้คับ เลยตัดสินใจว่า ถ้าไม่ชอบผู้หญิง ก้ออย่าเลยเถิดด้วยการชอบผู้ชายให้ครอบครัวเสียหน้าเลย ผมคิดอย่างเงี้ยอ่ะคับ



แต่ทำยากมาก



พี่เกียรติคับ ไอเดียของพี่เกียรติที่บอกว่า ให้ลองถือศีลแปด ผมจะลองทำดูนะคับผม



 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2005, 11:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลองดูเถอะครับ จะเป็นบุญกุศลกับตัวคุณเอง และถ้าคุณถือได้ตลอดชีวิต แม้คุณไม่ได้บวชก็ตาม แล้วอธิษฐานขอให้ได้ไปเกิดเป็นเพศที่ตนปรารถนา เพื่อสร้างความดียิ่งๆ ขึ้นไป จนบารมีเต็มเปี่ยมพ้นทุกข์ทั้งปวง

บุญจากการถือศีลแปดนี้แหละครับ ที่จะทำให้คุณได้ไปเกิดเป็นหญิงแท้ หรือชายแท้ได้ในอนาคต ขึ้นกับว่า คุณอธิษฐานขอเป็นเพศไหน ไม่ต้องทนทุกข์กับความรู้สึกที่เป็นอยู่ ไม่ว่ามากหรือน้อยก็ตามตลอดไป ตราบเท่าที่ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส
 
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 พ.ค.2005, 7:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปัจจุบันผมมีภรรยาพร้อมลูก 3 คน แต่ก่อนนี้ตอนยังไม่แต่งงาน พ่อแม่ก็รบเร้าให้รีบแต่งงานและรับช่วงกิจการ ช่วงนั้นก็มีจิตใจคิดอยากบวชเหมือนกันแต่ไม่มากนักกลัวว่าจะปฏิบัติได้ไม่ดีทำให้ศาสนามัวหมอง เลยไม่ได้บวช ช่วงก่อนแต่งพ่อแม่ก็บอกว่าถ้าแต่งงานและรับช่วงงาน มีหลานจะทำให้มีความสุขสมหวัง

ปัจจุบันความจริงก็คือว่าไม่มีมนุษย์คนใดที่จะมีความสุขได้ตลอดไปถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพุทธองค์ ได้อย่างนี้ ก็ต้องการอย่างนั้นต่อไป ตอนนี้ก็มีปัญหาพ่อผัวแม่ผัวกับลูกสะใภ้ กับปัญหาอื่น ๆ อันเป็นธรรมดา เป็นปัญหาปรกติของทุกครอบครัว ถ้าผมย้อนเวลากลับได้ และสภาพจิตเป็นเช่นปัจจุบัน ผมคงจะทดลองถือศีลอยู่ที่วัดสักระยะหนึ่งเพื่อทดสอบตัวเองว่าจะสามารถบวชได้ไหม ถ้าเป็นไปได้ ก็คงจะหาทางอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจว่า กิจการค้าใดหรือวงศ์สกุลใดก็ตาม หนีพ้นกฏอนิจจังไปไม่ได้เหมือนกัน ลองดูตัวอย่างจากประวัติศาสตร์ก็จะเห็นได้จริงไม่รุ่นใดก็รุ่นหนึ่งเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง ให้เวลาทำใจพิจารณาดูก็จะเห็นจริง ลูกบวขดีกว่าลูกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเป็นไหน ๆ และถ้าเราสามารถปฏิบัติจนเห็นผลได้จริงก็คงจะมีวิธีช่วยท่านให้เข้าใจในธรรมะได้ดีขี้น

อนาคต หวังไว้ว่าหลังจากลูก ๆ เรียนจบ มีงานทำเรียบร้อย จะออกบวชปฏิบัติให้ได้ดังใจปรารถนา ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด อนาคตทีดีต้องเกิดจากปัจจุบันที่ดี
 
ต้อ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 พ.ค.2005, 10:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากคุยกับพี่สุรพงษ์มากๆครับบบบ มีทางให้ผมติดต่อได้บ้างไหมครับผม
 
A
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ค.2005, 10:01 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมก็เป็นเหมือนกับเจ้าของกระทู้นั่นแหละ ทุกวันนี้ก็ได้ปฏิบัติธรรมตามสมควร และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จนทำให้คนทั้งบ้านเชียร์ ที่จะให้อยู่เป็นโสดตลอดไป เพราะเราได้พิสูจน์ให้พ่อแม่พี่น้องได้เห็นแล้ว ว่า เราได้อยู่เป็นโสดเพือการปฏิบัติธรรม และจุนเจือช่วยเหลื่อกำลังทรัพย์เท่าที่ทำได้ ให้กับบรรดาญาติๆ

อยากบอกคุณว่า ความไม่มีคู่นั้นเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ การที่จะบรรลุธรรมนั้นมิได้จำกัดเพียงแค่เพศบรรพชิตเท่านั้น เราสามารถเป็นอริยะบุคคลได้ด้วยการถือศัล 5 ศีล8และการฟังธรรมตามกาล



ถ้าอยากเป็นกัลยานมิตรให้กันก็บอกเบอร์โทรด้วยนะครับ

ขอให้ยึดมั่นในพระรัตนตรัยครับ
 
เจ้าของกระทู้
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2005, 7:30 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ เอ ครับ



อยากเป็นเพื่อนด้วยครับ ผมจะบอกเบอร์โทรผมผ่านทางเมล์นี้น่ะคับ ช่วยเมล์มากหาก่อนได้ไหมคับ ผมไม่อยากบอกในนี้คับ



jon61_2004@yahoo.com ขออีเมล์ของคุณเอ ด้วยคับ



ขอบคุณคับ
 
A
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 พ.ค.2005, 7:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมได้ติดต่อเจ้าของกระทู้ตาม email แล้วนะครับ ไม่ทราบว่าได้ข้อมูลหรือยัง ยังไงก็ติดต่อตามที่อยู่ที่ผมส่งให้ หรือโทร ศูนย์หนึ่งแปดหนึ่งห้าศูนย์สี่สี่หก ก็ได้ครับ



 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง