การอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลายให้ช่วยคุ้มครองบุคคลอันเป็น

ตอบเมื่อ: 26 เม.ย.2005, 8:00 am

ตัวเราเองก็เป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่สวดมนต์ไหว้พระและปฏิบัติสมาธิบ้าง เมื่อมีเวลา แต่สิ่งที่เราปฏิบัติอยู่ก็คือทุกครั้งจะขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ช่วยปกปักรักษาบุคคลอันเป็นที่รัก เช่น บิดามารดา ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ พระราชวงค์ และผองเพื่อน โดยการออกชื่อด้วย ไม่ทราบว่าจะมีผลหรือไม่ และเป็นจริงได้หรือไม่ ขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ด้วย

ตอบเมื่อ: 26 เม.ย.2005, 12:23 pm

การที่เราตั้งจิตอธิฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ปกปักษ์รักษาตัวเราและครอบครับตลอดจนบุคคลที่เราเคารพนับถือ จะเป็นผลสำเร็จได้ดังที่เราปราถนา แต่เราต้องมั่นคงอยู่ในสัมมาทิฐิ ไม่ใช่มิจฉาทิฐิ และการอธิฐานขอบุญบารมีก็ต้องทำอย่างตั้งใจ ประกอบกับต้องมีศึลครบถ้วนบริบูรณ์ การอธิฐานนั้นจึงจะมีผล

อย่างที่มองเห็นได้ชัดก็คือทำให้เราสบายใจแล้วในเบื้องต้น เพราะว่าจะได้ผลทางใจก่อน เหมือนเราอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็เช่นกัน เขาจะได้รับผลต่อเมื่อเราทำทานสำเร็จแล้วและตั้งจิตอุทิศส่วนบุญกุศลนี้ให้กับเขาทั้งหลาย

เพราะฉะนั้น การที่เราจะอาราธนาบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พระบารมีขององค์สมเด็จพระจอมไตร หรือครูบาอาจารย์ทั้งหลายให้มาคุ้มครอง ญาติ มิตร และบุคคลอันเป็นที่รักทั้งหลายเหล่านั้น เราจะต้องทำด้วยจิตที่เป็นสมาธิ และมีศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้วจึงจะประสพผลสำเร็จได้

ผู้เยี่ยมชม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ในความเห็นของผม คิดว่า คล้ายกับการที่ทำบุญ แล้วจะให้ได้ผลบุญอันเลิศ จะต้องประกอบด้วยองค์ 3 นะครับ คือ

1. ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้ให้เป็นผู้มีศีลมีธรรมะ มีจิตใจที่จะให้ด้วยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาเคลือบแฝง

2. วัตถุบริสุทธิ์ วัตถุที่หามานั้น มาหาด้วยสัมมาอาชีวะ อาชีพที่ถูกต้อง

3. ผู้รับบริสุทธิ์ ผู้รับทานเปรียบเสมือนเนื้อนาบุญ ถ้านาดี หว่านข้าวก็อุดมสมบูรณ์ ยิ่งผู้รับบริสุทธิ์มาก ก็ยิ่งมีผลมาก

เช่นเดียวกัน กับการเคารพบูชา เลื่อมใสศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะมีผลมาก ก็ต้องมีองค์ 3 เหมือนกัน คือ

1. ผู้บูชา บริสุทธิ์ หมายถึง ตัวเราเอง ก็มีศีลมีธรรมะ เวลาทำการเคารพบูชา ก็ทำด้วยจิตเลื่อมใส ไม่ใช่ด้วยความโลภแอบแฝงอยู่ ว่าอยากได้นั้น อยากได้นี่ หรือด้วยความหลง (กลัว) แอบแฝงอยู่ คือ กลัวว่า ถ้าไม่เคารพบูชา จะถูกลงโทษ ดังที่คุณ thamma 02 แนะนำนั่นแหละครับ

2. ข้าวของที่จะนำมาบูชา บริสุทธิ์ ซึ่ง มีความหมายได้ 2 นัยคือ 1. ธูปเทียนดอกไม้ที่หามาบูชา หามาได้ด้วยความบริสุทธิ์ 2. ตัวเราเองบูชาด้วยการปฏิบัติบูชา คือ นำคำสั่งสอนของท่านไปปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้ได้ผลมาก

3. ผู้รับการบูชา หรือ ที่เราเรียกกันว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น บริสุทธิ์ ตรงนี้ เราก็ต้องพิจารณาครับ ถ้าเป็น เจ้าป่า เจ้าเขา เจ้าพ่อ เจ้าแม่ต่างๆ กุมารทง กุมารทอง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้บริสุทธิ์จริงหรือเปล่า เปรียบเทียบกับพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นสุดยอดแห่งความบริสุทธิ์ นั่นแหละครับ ควรที่จะเคารพสักการะกราบไหว้บูชา ขอพรจากท่าน แล้วถ้าทำด้วยองค์ 3 ข้างต้นนี้ ผลบุญที่เกิดจากการเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัยนี่แหละครับ ที่จะเป็นบุญใหญ่ไปปัดเป่าคุ้มครองทุกข์โศกโรคภัย ที่หนักก็เป็นเบา ที่เบาก็หาย ถ้าถึงคราวต้องหมดอายุขัยวิบากกรรมตามมาทันจริงๆ ตายแล้วก็ไปดีครับ

ตอบเมื่อ: 28 เม.ย.2005, 2:55 pm

ได้ค่ะ แต่ไม่เหนือกรรม