Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนที่อยู่ในวงการพระ นี่บาปใหม? อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
kuniza
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2005, 2:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนที่อยู่ในวงการพระ นี่บาปใหม?

รับเช่า พระเครื่องไร แบบนี้ครับ..พี่ๆๆ ช่วยกันเข้าไป พูดเรื่อง ธรรมมะ หน่อยสิครับ..

ลองเข้าไป ชี้ทางสว่าง ให้ พวกนี้หน่อย...
http://www.krusiam.com
 
33
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 เม.ย.2005, 9:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.krusiam.com/book/rompo_mag/No_129/content/?BookSubCate_Content_ID=CID0000004
 
อวิชชา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2005, 12:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยังมีความอยากจะได้วัตถุอันน่ารักน่าใคร่น่าพอใจ ติดอยู่ในสิ่งที่ไม่มีสาระว่าเป็นสาระ เห็นสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเป็นของเที่ยง สี่งที่ไม่ใช่ตนว่าเป็นตัวตน มีความเห็นที่ผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า ใจย่อมเศร้าหมอง นั่นคือบาปแท้ของสัตวโลกทั้งหลาย อบายภูมิเป็นอันหวังได้ในปรโลก
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ค.2005, 6:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อันนี้คงต้องมองต่างมุมกับคุณอวิชชานิดหน่อยนะครับ เพราะสิ่งที่คุณอวิชชาบอกในตอนต้นนั้นถูกต้อง แต่ตอนสรุปผมว่ายังไม่ใช่น่ะครับ

ที่สรุปบอกว่า "มีความเห็นผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า" จริงๆ แล้วจะต้องเป็นว่า

"มีความเห็นยังถูกไม่สมบูรณ์จากคำสอนของพระพุทธเจ้า" ซึ่งทำให้เกิดผลที่ต่างกันครับ ดังนั้นผลที่บอกว่า "ใจย่อมเศร้าหมอง นั่นคือบาปแท้ อบายภูมิเป็นอันหวังได้ในปรโลก" จึงไม่ใช่ครับ แต่ต้องเป็นผลว่า "เมื่อยังไม่สมบูรณ์ ผลก็คือยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป ยังไม่หลุดพ้นจากวัฏสงสาร" จึงจะถูกต้องกว่าครับ

เหตุที่ผมเห็นเช่นนั้น ก็เพราะว่า

คนที่ขยันขันแข็งในการทำงาน ดูแลครอบครัวอย่างดี ดูแลพระพุทธศาสนาและสังคมบ้างเป็นบางโอกาส เขาย่อมเห็นเงินว่าสำคัญ เก็บสะสมเงินทองไว้เลี้ยงครอบครัว ซึ่งจัดได้ว่า เขายังติดอยู่ในสิ่งไม่ใช่สาระ ติดอยู่ในสิ่งไม่เที่ยง และติดอยู่ในสิ่งไม่ใช่ตัวตน คือ เงิน แต่เขาจะไม่ไปอบาย (นรก เปรต เดรัจฉาน อสุรกาย) ครับ ถ้าเขาไม่ได้ทำผิดศีล หรือผิดกุศลกรรมบถ 10 แต่จะยังเวียนว่ายตายเกิดต่อไปเท่านั้นเอง

เช่นเดียวกัน คนที่สะสมวัตถุมงคลด้วยเคารพ ศรัทธาในพระพุทธคุณ ก็ไม่ไปอบาย เพียงแต่ยังต้องเวียนว่ายต่อไป

ส่วนคนที่สะสมเพื่อธุรกิจเก็งกำไร นำของสูงมาซื้อขาย ใจเกาะเกี่ยวด้วยความโลภ ทำผิดกุศลกรรมบท 10 ในข้อที่ว่า คิดโลภ ผลคือ ต้องไปอบาย อย่างนี้ถูกต้องครับ



คนที่ยังติดในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน ก็คือ คนที่นั่งอยู่ในแพ ครับ คือ ลอยคอเรื่อยๆ ในทะเล แต่จะไม่จมน้ำครับ ส่วนคนที่พลัดตกลงน้ำ กระโดดลงน้ำ ซึ่ง หมายถึง คนที่ทำผิดศีล ผิดกุศลกรรมบท 10 ย่อมจมน้ำ คือ อบายครับ

ส่วนคนที่ทิ้งแพ มาขึ้นเรือใหญ่ มุ่งไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ย่อมหมายถึง คนที่ปล่อยวางในสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน แล้วมาศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ย่อมหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด (ในทะเลทุกข์) โดยเร็ว ครับ



















 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง