Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ความริษยาพาโลกฉิบหาย (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
I am
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
ตอบเมื่อ: 06 มี.ค.2007, 8:34 am
ไม่อาจมีผู้ยืนยันรับรองได้ว่า วิกฤตของบ้านเมืองเรามีจุดเริ่มต้นที่อะไร เลวร้ายหนักหนาเพียงไหน จึงแผ่ขยายได้รวดเร็วจนท่วมบ้านท่วมเมือง แทบจะทำให้หมดกำลังใจที่จะเห็นการกลับคืนมาเหมือนเดิม
ถ้าใช้คำว่า “ฉิบหาย” ดังที่พระพุทธองค์ทรงใช้ ก็ต้องแก้ที่จุดเกิดเหตุของความฉิบหายนั้น ที่พระพุทธองค์ทรงชี้ว่า คือ
ความริษยา
ชาติอื่นภาษาอื่นน่าจะไม่ใช่ ที่จะมาก่อความริษยาถึงเป็นความฉิบหายให้เกิดแก่บ้านเมืองเรา
เราต้องทำกันเอง และอย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ที่ความริษยาจะเป็นเหตุแห่งวิกฤตของบ้านเมืองเรา
ขอให้คิดถึงพระพุทธภาษิตที่พระพุทธองค์ทรงเตือนไว้ชัดเจนน่ากลัวที่สุด
“ความริษยาพาโลกฉิบหาย”
ดูให้ดี คิดให้ดี ว่าเหตุแรงร้ายที่สุดในพระพุทธภาษิต กำลังพาเราไปเข้าร่วมด้วยหรือไม่ ในการทำโลกให้ฉิบหาย ทุกคนจงคิดอย่างรอบคอบและเร่งถอนตัวจากการเป็นภัยร้ายของบ้านเมืองเราให้ได้เถิด
อย่าหูเบาเชื่อง่าย ได้ยินใครเขาพูดอะไร เกี่ยวข้องถึงความผิดความชั่วของผู้ใด แม้ไม่รู้จริงอย่าด่วนเข้าร่วมขบวนการเชื่อตามเขา เพราะจะเป็นการร่วมขบวนการสร้างความฉิบหายให้แก่ไทย
ดังพระพุทธภาษิตในสมเด็จพระบรมศาสดา ที่ไม่ทรงรู้ผิดในเรื่องใดทั้งสิ้น พึงระลึกไว้ว่า สมเด็จพระบรมครูทรงแสดงเหตุที่แท้จริงของความฉิบหายว่า คือความริษยา
ความริษยาที่เป็นความไม่อยากให้คนอื่นได้ดี มีนิสัยที่เห็นคนอื่นได้ดีแล้วทนอยู่ไม่ได้ ทนอยู่ไม่ได้ก็คือ ต้องคิด ต้องพูด ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เพื่อให้ผลร้ายนานาประการเกิดแก่ผู้ที่ได้ดีจนน่าอิจฉา ตามความคิดความเห็นของคนริษยา
คนริษยาตามลำพังผู้เดียวจะไม่อาจสร้างความฉิบหายได้มากมาย จนถึงกับทรงมีพระพุทธภาษิตเตือนสติไว้ แต่เพราะคนริษยาคนเดียวมักจะสามารถทำให้เกิดขบวนการเชื่อตามได้มากมาย นั่นก็หมายถึงว่าขบวนการริษยาจะทำให้เกิดขบวนการฉิบหายได้ยิ่งใหญ่เพียงใดก็ได้แน่ นี้เป็นเหตุที่ทำให้อยากจะคิดว่า ความเดือดร้อนหรือที่เรียกว่า ความฉิบหายของบ้านเมืองเราเริ่มด้วยความริษยาจะมิได้หรือ
เพื่อนอบน้อมถวายเป็นพระพุทธบูชา หยุดเสียงแห่งความริษยาให้หมดสิ้น ทุกคนพร้อมใจกันหยุดการกระทำทั้งทางกายวาจาใจที่เกิดจากความริษยาให้หมดสิ้น หันมาพร้อมใจกันแสดงความมีเมตตาอย่างจริงใจต่อกันและกัน ทั้งทางกายวาจาใจ ตั้งแต่บัดนี้เถิด
เพื่อความฉิบหาย อันเป็นผลของความริษยา จะได้สิ้นสุดลง พาความวิกฤตที่น่ากลัวนักของบ้านเมืองเราให้จบสิ้นไปด้วย
ความร่มเย็นเป็นสุขสมเป็นเมืองของพระพุทธองค์จะได้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง ให้เป็นที่อัศจรรย์ของโลก ทั่วทั้งโลกร้อนก็จริงอยู่ แต่เมืองพระพุทธองค์ของเราไม่ร้อนเหมือนเขาก็ได้
แม้เราจะไม่พากันปฏิเสธพระพุทธเมตตา ไม่ปฏิเสธความรักอันสูงส่งบริสุทธิ์ ที่ทรงพระมหากรุณาโปรดประทานให้แล้วเมื่อ ๒๕๙๕ ปีก่อน ในวันมหาบูชาสำคัญ คือ
วันมาฆบูชา วันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธองค์
: แสงส่องใจ มาฆบูชา ๓ มีนาคม ๒๕๕๐
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
...สวัสดีเช้าวันทำงานครับ...
_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 06 มี.ค.2007, 2:42 pm
สาธุจ้า...คุณ I am
ธรรมะสวัสดีค่ะ
admin
บัวทอง
เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
ตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2012, 11:37 pm
_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th