ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
08 ต.ค.2008, 12:01 pm |
  |
เราตถาคตตั้งศาสนา(พุทธ)ไว้เพื่ออะไร?.....จากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า
คิริมานนทสูตร
" เราตถาคตตั้งศาสนาไว้ ไม่ได้หวังเพื่อให้บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งบำเพ็ญหาประโยชน์อย่างอื่น
ตั้งไว้เพื่อประสงค์จะให้บุคคลบำเพ็ญภาวนา เพื่อให้ระงับกิเลสตัณหาเท่านั้น
การบำเพ็ญภาวนา เมื่อไม่คิดว่าจะให้ระงับดับกิเลสตัณหาแห่งตน ก็ได้ชื่อว่า เป็น
คนหลงโลกหลงทาง "
ต่อ
ส่วนกุศลที่เกิดจากการบำเพ็ญภาวนานั้น จะว่าไม่ได้ไม่มี เช่นนั้นก็ไม่ปฏิเสธ อันที่จริง
ก็หากเป็นบุญเป็นกุศลโดยแท้ แต่ว่าเป็นทางหลงจากพระนิพพานเท่านั้น
การกระทำความเพียรบำเพ็ญภาวนา ทำบุญทำกุศลอย่างใดอย่างหนึ่ง
มากน้อยเท่าใดก็ตาม ก็ให้รู้ว่าบำเพ็ญบุญกุศลและเจริญภาวนา เพื่อระงับดับกิเลส
ตัณหาของตนให้น้อยลง ให้พ้นจากกองกิเลสนั้น เช่นนี้ชื่อว่าเดินถูกทาง พระ
นิพพานแท้ |
|
|
|
  |
 |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
08 ต.ค.2008, 3:23 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
ตั้งไว้เพื่อประสงค์จะให้บุคคลบำเพ็ญภาวนา เพื่อให้ระงับกิเลสตัณหาเท่านั้น |
 |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
ฌาณ
บัวเงิน


เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
|
ตอบเมื่อ:
08 ต.ค.2008, 9:37 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
"การบำเพ็ญภาวนา เมื่อไม่คิดว่าจะให้ระงับดับกิเลสตัณหาแห่งตน ก็ได้ชื่อว่า เป็น คนหลงโลกหลงทาง " |
สาธุครับอาจารย์พลศักดิ์ ผมเปิดซีดีฟังพระสูตรนี้อยู่บ่อยๆชอบมากเลยครับ
โดยเฉพาะตอน....
ดูกรอานนท์ บุคคลผู้มีปัญญาพึงคิดถึงตน แล้วปราบใจของตนให้พ้นจากทุกข์และความลำบาก และให้ออกจากบ่วงแห่งกิเลสมารให้ได้เถิด ถ้าไม่คิดอย่างนี้ แม้จะมีปัญญาก็มีเสียเปล่า ไม่นับเข้าในจำนวนที่มีปัญญา
กิริยาที่พ้นทุกข์พ้นยากและพ้นออกจากบ่วงแห่งกิเลสมารได้ก็คือพ้นจากกิเลส ตัณหาของเรา เมื่อพ้นจากกิเลสตัณหาได้เช่นนั้น ก็ได้ชื่อว่าพ้นจากความทุกข์ความยากโดยสิ้นเชิง ถ้ายังไม่พ้น ก็ได้ชื่อว่ายังไม่พ้นจากความทุกข์ความยาก
เมื่อตนยังไม่หลุดไม่พ้นก็ไม่ควรสั่งสอนผู้อื่นเพราะตัวยังไม่พ้น จะสั่งสอนผู้อื่นให้พ้นได้ด้วยอาการอย่างไร
เปรียบเหมือนบุคคลจะข้ามแม่น้ำ ถ้าตัวของเราข้ามไปถึงฝั่งฟากโน้นแล้ว จึงร้องบอกให้ท่านผู้อื่นข้ามมาตามตน เช่นนี้สมควรแท้ เมื่อเราร้องบอกเขา แล้วเขาพอใจจะไปหรือหาไม่ ก็แล้วแต่ใจเขา ส่วนตัวของเราข้ามไปได้สมประสงค์แล้ว ข้ออุปมานี้ฉันใด
ผู้ที่เป็นครูเป็นอาจารย์สอนให้ผู้อื่นพ้นจากทุกข์ ก็ต้องทำตัวให้พ้นทุกข์เสียก่อน จึงสมควรจะสอนคนอื่น
มีอุปไมยเหมือนผู้ที่จะพาข้ามแม่น้ำฉันนั้น
บุคคลที่เปลื้องตัวให้พ้นออกจากกองกิเลสยังไม่ได้ แล้วจะไปเปลื้องปลดสัตว์ในป่าช้า ผีทั้งหลายเขาจะหัวเราเยาะเย้นว่า อะโห โอหนอ! ตัวของท่านก็ยังไม่พ้นทุกข์ แล้วจะมาพาเอาพวกข้าพเจ้าออกจากทุกข์ได้อย่างไร
ตัวของท่านและพวกข้าพเจ้าก็ยังไม่พ้นนรกอยู่เหมือนกัน จะมาพาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากนรกได้ด้วยอาการอย่างไรฯ
 |
|
_________________ ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ |
|
  |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
09 ต.ค.2008, 2:35 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
"การบำเพ็ญภาวนา เมื่อไม่คิดว่าจะให้ระงับดับกิเลสตัณหาแห่งตน ก็ได้ชื่อว่า เป็น คนหลงโลกหลงทาง " |
|
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
tanaphomcinta
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180
|
ตอบเมื่อ:
12 ต.ค.2008, 10:11 pm |
  |
ตัวของท่านและพวกข้าพเจ้าก็ยังไม่พ้นนรกอยู่เหมือนกัน จะมาพาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากนรกได้ด้วยอาการอย่างไรฯ
มันก็จริงอยู่ ต่างก็ยังไม่พ้น แต่เห็นทางรู้ทางพ้นนำมาบอกท่านอื่นให้รู้และเห็นไปด้วยก็จะไมดีกว่าหรือ ก็เปรียบเหมือนเราไม่รู้ทางเข้ากรุงเทพฯ
แต่มีคนบอกทางว่าไปทางนั้นทางนี้ก็ยังดีไม่ใช้หรือ อีกอย่างถึงผู้บอกยังไม่พ้นทุกข์ แต่บอกว่าทำตามอย่างนี้แล้วจะพ้น ทำอย่างนั้นจะไม่พ้นนะก็จะพอมีประโยชน์อยู่บ้างไม่ใช้หรือ อีกอย่างเราหาเพชรแทบเป็นแทบตายก็หาไม่เห็นและไม่เจอเลย แต่ไก่กับเขี่ยขึ้นมาให้เห็น แล้วท่านจะเก็บเอาเพชรนั้นไหม(ไม่ได้หมายความท่านที่ตั้งกระทู้นะ) เพียงแต่เอาเหตุการที่เจอมาโดยตรงมาพูดกัน คือเคยเจอมาแล้ว พอเราบอกท่านก็สวนทันทีเลยว่า ท่านไม่ได้ปฎิบัติเหมือนผมไม่ต้องมาสอนผม แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่าผมไม่ได้ปฎิบัตเหมือนท่าน ผมทั้งปริยัติและปฎิบัติมาแล้ว ผมรู้แต่ผมยังไม่เห็น แต่ท่านเข้ามาปฎิบัติเมื่อวานชืนนี้เองผมว่าท่านนี้กำลังโดนอุปกิเลสครอบเงานะก็มาว่าเราไม่ได้ปฎิบัติแล้วมาสอน คนเราจะไปมองเห็นแตภายนอกจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสำเร็จหรือไม่ (เป็นห่วงกล้วบาปทางใจ) ถ้าหากว่าท่านไม่มีดีบ้างท่านก็คงไม่มาตั้งกระทู้ให้เราได้ศึกษาเป็นแน่ (อย่าเครียดนะ) กาเลนะธรรมะฉากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง*กาลถามธรรมตอบธรรมเป็นมงคลอันสูงสุด เด้อสิบอกให้ ฮิฮิฮิ |
|
_________________ ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล |
|
       |
 |
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
12 ต.ค.2008, 11:22 pm |
  |
tanaphomcinta พิมพ์ว่า: |
ตัวของท่านและพวกข้าพเจ้าก็ยังไม่พ้นนรกอยู่เหมือนกัน จะมาพาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากนรกได้ด้วยอาการอย่างไรฯ
มันก็จริงอยู่ ต่างก็ยังไม่พ้น แต่เห็นทางรู้ทางพ้นนำมาบอกท่านอื่นให้รู้และเห็นไปด้วยก็จะไมดีกว่าหรือ ก็เปรียบเหมือนเราไม่รู้ทางเข้ากรุงเทพฯ
แต่มีคนบอกทางว่าไปทางนั้นทางนี้ก็ยังดีไม่ใช้หรือ อีกอย่างถึงผู้บอกยังไม่พ้นทุกข์ แต่บอกว่าทำตามอย่างนี้แล้วจะพ้น ทำอย่างนั้นจะไม่พ้นนะก็จะพอมีประโยชน์อยู่บ้างไม่ใช้หรือ อีกอย่างเราหาเพชรแทบเป็นแทบตายก็หาไม่เห็นและไม่เจอเลย แต่ไก่กับเขี่ยขึ้นมาให้เห็น แล้วท่านจะเก็บเอาเพชรนั้นไหม(ไม่ได้หมายความท่านที่ตั้งกระทู้นะ) เพียงแต่เอาเหตุการที่เจอมาโดยตรงมาพูดกัน คือเคยเจอมาแล้ว พอเราบอกท่านก็สวนทันทีเลยว่า ท่านไม่ได้ปฎิบัติเหมือนผมไม่ต้องมาสอนผม แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่าผมไม่ได้ปฎิบัตเหมือนท่าน ผมทั้งปริยัติและปฎิบัติมาแล้ว ผมรู้แต่ผมยังไม่เห็น แต่ท่านเข้ามาปฎิบัติเมื่อวานชืนนี้เองผมว่าท่านนี้กำลังโดนอุปกิเลสครอบเงานะก็มาว่าเราไม่ได้ปฎิบัติแล้วมาสอน คนเราจะไปมองเห็นแตภายนอกจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสำเร็จหรือไม่ (เป็นห่วงกล้วบาปทางใจ) ถ้าหากว่าท่านไม่มีดีบ้างท่านก็คงไม่มาตั้งกระทู้ให้เราได้ศึกษาเป็นแน่ (อย่าเครียดนะ) กาเลนะธรรมะฉากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง*กาลถามธรรมตอบธรรมเป็นมงคลอันสูงสุด เด้อสิบอกให้ ฮิฮิฮิ |
คุณ tanaphomcinta กำลังต่อว่าพระพุทธเจ้าอยู่นะครับ
คุณฌานไม่ได้เขียนเอง เขายกมาจาก คิริมานนทสูตร |
|
_________________ ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
|
|
  |
 |
natdanai
บัวบาน

เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok
|
ตอบเมื่อ:
13 ต.ค.2008, 9:00 am |
  |
 |
|
_________________ ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง |
|
    |
 |
tanaphomcinta
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180
|
ตอบเมื่อ:
13 ต.ค.2008, 6:05 pm |
  |
คุณ tanaphomcinta กำลังต่อว่าพระพุทธเจ้าอยู่นะครับ
คุณฌานไม่ได้เขียนเอง เขายกมาจาก คิริมานนทสูตร
ต้อฝขออภัยโทษอย่างมากถ้าผิดไป ข้อความตรงไหนที่ต่อว่าพระพุทธเจ้า สี่ขายังรู้พาดนักปราชญ์ยังรู้พลั่ง ยังไงช่วยชี้อีกทีๆว่าพระพุทธเจ้า ฮิฮิฮิ |
|
_________________ ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล |
|
       |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
14 ต.ค.2008, 2:21 pm |
  |
คุณ tanaphomcinta ครับ
คิริมานนทสูตร
" เราตถาคตตั้งศาสนาไว้ ไม่ได้หวังเพื่อให้บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งบำเพ็ญหาประโยชน์อย่างอื่น
ตั้งไว้เพื่อประสงค์จะให้บุคคลบำเพ็ญภาวนา เพื่อให้ระงับกิเลสตัณหาเท่านั้น
การบำเพ็ญภาวนา เมื่อไม่คิดว่าจะให้ระงับดับกิเลสตัณหาแห่งตน ก็ได้ชื่อว่า เป็น
คนหลงโลกหลงทาง "
ถ้าใครปฏิบัติแล้วไม่สามารถระงับดับกิเลสตัณหาของตนให้เป็นบางลงได้
แต่ไม่เพิ่มกิเลส ไปอวดเบ่งว่าตนเองแน่กว่าใคร ย่อมชื่อว่า เป็น
คนหลงโลกหลงทาง |
|
|
|
  |
 |
tanaphomcinta
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180
|
ตอบเมื่อ:
14 ต.ค.2008, 3:41 pm |
  |
ข้าน้อยผิดไปแย้ว ฮิฮิฮิ |
|
_________________ ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล |
|
       |
 |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 30 มิ.ย. 2008
ตอบ: 542
|
ตอบเมื่อ:
14 ต.ค.2008, 6:52 pm |
  |
tanaphomcinta พิมพ์ว่า: |
ข้าน้อยผิดไปแย้ว ฮิฮิฮิ |
คนที่กล้าออกมาบอกว่าตนเองผิด ถือว่าประเสริฐที่สุด
ผมอยู่ในเว็บศาสนาต่างๆมา 6 ปี ยังไม่กล้าออกมายอมรับว่าผมผิดแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งๆที่บางเรื่องผมก็รู้ว่าตนเองผิดชัดๆ แต่ด้วยความทนงตน นึกว่าข้านี้แน่กว่าผู้ใด
จึงไม่มีทางยอมรับว่าตนเองผิด
ขอคารวะคุณtanaphomcintaด้วยใจจริง คุณประเสริฐกว่าผมมากนัก |
|
|
|
  |
 |
tanaphomcinta
บัวใต้น้ำ

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 127
ที่อยู่ (จังหวัด): 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180
|
ตอบเมื่อ:
15 ต.ค.2008, 6:35 pm |
  |
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ พิมพ์ว่า: |
tanaphomcinta พิมพ์ว่า: |
ข้าน้อยผิดไปแย้ว ฮิฮิฮิ |
คนที่กล้าออกมาบอกว่าตนเองผิด ถือว่าประเสริฐที่สุด
ผมอยู่ในเว็บศาสนาต่างๆมา 6 ปี ยังไม่กล้าออกมายอมรับว่าผมผิดแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งๆที่บางเรื่องผมก็รู้ว่าตนเองผิดชัดๆ แต่ด้วยความทนงตน นึกว่าข้านี้แน่กว่าผู้ใด
จึงไม่มีทางยอมรับว่าตนเองผิด
ขอคารวะคุณtanaphomcintaด้วยใจจริง คุณประเสริฐกว่าผมมากนัก |
ก็เป็นนักบินตอนเช้ามาแล้ว 25 ปี เราเองมองไม่เห็นคิ้วที่อยู่บนตาเราเอง
เมื่อคนอื่นมองเห็นว่าคิ้วเราบางเกินไปหรือดกเกินไป เราก็ต้องยอมรับว่าเรามองไม่เห็นคนอื่นเป็นกระจกเงาให้เราดีมาก ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ตรัสสอนไว้ว่า ผู้ใดโดนชี้โทษที่เราไม่รู้และไม่เข้าใจ แล้วเรายอมรับการชี้โทษนั้น ก็เหมือนหนึ่งว่าเราได้ยื้นมือข้างขวารับเอาซึ่งขุมทรัพย์ที่ผู้อื่นยื้นให้ แต่ถ้าผู้ใดโดนชี้โทษแล้วไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดไม่รู้ว่าตัวเองโง่ ท่านตรัสว่าคนนั้นโง่และดับเบิ้ลโง่ด้วยไม่ใช้หรือท่าน ฮิฮิฮิ |
|
_________________ ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล |
|
       |
 |
|