Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
อยากรู้ว่าคนที่เข้ามาใครมี สัมผัสที่ 6คับ?, ใครเคยอ่านหนังสื
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
วัชรพล
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 29 มี.ค. 2005
ตอบ: 1
ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 9:17 am
ผมอายุ 11 ปี อย่าหาว่าผมโม้นะคับ มันเป็นความเชื่อส่วยบุคคล ผมมี สัมผัสที่ 6 ไปที่ไหนก็เจอตลอดเลยคับ ก้ออยากถามว่าใครมีมั้งคับ
แล้วใครเคยอ่านหนังสือของแม่ชีทศพรมั่งครับ ผมขอแนะนำนะคับ ดีมากๆครับ
นพ
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 15 ก.พ. 2005
ตอบ: 7
ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 9:55 am
ผมก็มีครับ แต่แนะนำอย่าไปสนใจมันเลยครับ
เพราะบางเรื่องก็จริง บางเรื่องก็เท็จ
หมกมุ่นมากกลายเป็นลุ่มหลง เดี๋ยวคนอื่นเขาจะมองคุณแปลกๆ
รักแม่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 12:24 pm
เคยอ่านหนังสือของแม่ชีทศพรเล่มสองครับ ในส่วนของการชี้กรรม เห็นกรรม ตรงนี้ผมต้องผ่านไป เพราะสิ่งที่ผมไม่รู้ จากประสบการณ์ ไม่ได้แปลว่า มันไม่มี หรือ มันไม่จริง เสมอไป ไม่จำเป็นต้องเรื่องชี้กรรมนะครับ เรื่องธรรมดาทางโลกด้วย แต่ผมจะไม่ไปใส่ใจตรงนั้น อ่านเพราะว่าหลายๆสิ่งที่ท่านแนะนำคือความดีในพระพุทธศาสนา และวาจาของท่านคือวาจาของผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตครับ และ ชีวิตแต่หนหลังท่านก็เป็นผู้ที่มีทุกข์มากเหมือนผม ท่านย้อนกลับไปพิจารณาว่าเคยทำสิ่งอะไรที่ไม่ดีไว้ในอดีต(เช่น โกงการซื้อขายมะพร้าว) และนำมาเป็นบทเรียนเพื่อที่จะสอนผู้อ่านว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นสิ่งไม่ดี ถ้าแยกส่วนที่เป็นหลักออกมาได้ จะไม่ต้องสนใจเลยว่า การชี้กรรม การเห็นอดีต จริงหรือ ไม่จริง และศาสนาพุทธก็สอนให้เราดำเนินชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่จำเป็นจะต้องรู้อดีต(ในชาติก่อน)ก็ได้
การที่คนอยากรู้กรรมในอดีตชาติก็เพราะ ความทุกข์ ที่กำลังเผชิญ คนที่มีสุขสวัสดีในชีวิตผมสังเกตว่าไม่ค่อยมีคนที่อยากรู้กรรมหรืออดีตชาตินะ ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป ผู้ที่เห็นว่าชีวิตตนอยู่ดีมีสุขและไม่มีจิตใจมุ่งมั่นเพื่อความหมดสิ้นซึ่งอาสวะกิเลสในพระพุทธศาสนา เขาก็ไม่อยากรู้(ไม่ใช่ดูดวงนะ อันนี้จะต่างกัน)
ส่วนสัมผัสที่ 6 ไม่แน่ใจว่าขอบเขตที่คุณกล่าวมานั้นมีแค่ไหน เป็นลางสังหรหรือรู้เห็นในอดีตชาติ ผมนี่เมื่อก่อนขนาดเปิดยามอุบากองดูเลยนะ ก่อนที่จะออกจากบ้าน แต่พบว่าเราจะไปพบทุกข์หรือสุขสวัสดีมีชัย ประสบอุบัติเหตุหรือไม่ อยู่ที่พฤติกรรมของเราหลังที่ออกไปแล้วมากกว่า ชีวิตในชาตินี้ผมมีความสุขด้วย ไม่ได้เกิดมามีแต่ความทุกข์ แต่เมื่อมีความสุข มีพ่อแม่ที่ดี การศึกษาดี ผมจะไม่เอามาเขียนในนี้ เพราะไม่เกิดประโยชน์กับผู้อ่านและเมื่อมีความสุข เราย่อมไม่หวังพึ่งผู้ใด ต่อเมื่อมีความทุกข์ จิตใจเป็นทุกข์ ผมจึงเข้ามาเขียนระบายไขว่คว้าหาที่พึ่งอุตลุต นี่คือธรรมชาติของคนที่ไม่ยอมรับในความเป็นจริงแห่งสภาวธรรมที่ปรากฏ จึงทำให้ร้อนรนเมื่อมีทุกข์และเกิดปัญหา(จึงไม่มีปัญญา) ที่จะพิจารณาว่าตัวเราก็คือจุดเล็กๆจุดนึง ปลาตัวเล็กๆ ในวังวนแห่งสังสารวัฏ ปลาเล็กไม่สามารถว่ายต้านกระแสน้ำได้ ถ้ามีน้ำวน(เทียบกับความทุกข์)เกิดขึ้น มีแต่จะถูกแรงแห่งน้ำดึงดูดให้จมลึกลงไปอีก ถ้าเทียบกับผมในปัจจุบันผมก็คือปลาเล็ก แต่ ปลาเล็กต้องเรียนรู้ที่จะอยู่รอด ที่จะเติบใหญ่ ที่จะทำตัวให้พ้นออกไปจากวังวนอย่างถาวร การละซึ่งกิเลสก็เหมือนการว่ายทวนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ผมว่า น่าจะพยายามที่จะเรียนรู้มากกว่าว่า จะทำอย่างไรในปัจจุบันให้มีความสามารถเช่นนั้นได้ และภายหลังหากมีกระแสน้ำวนเกิดขึ้นอีก(ทุกข์) ก็จะไม่ถูกดูดลงไปจมจนแทบเอาชีวิตไม่รอดอีก ในส่วนของการทำดีที่แม่ชีสอน ผมว่าดีครับ แต่อย่าเอาไปเทียบกับพระอริยเจ้า(แม่ชีเป็นผู้กล่าวเองเมื่อมีคำถามในแนวเปรียบเทียบกับหลวงพ่อจรัลแห่งวัดอัมพวัน) เพราะ ชี เป็น อุบาสิกาในพุทธบริษัทสี่ แม้แต่ ภิกษุณี ยัง ไม่เทียบ ภิกษุ แม่ชีเป็นผู้ทรงศีล แต่ถือเป็นอุบาสิกา ยิ่งไม่ควรนำไปเทียบ คาถาหลวงพ่อโอภาสีที่แม่ชีแนะนำก็ดี คำกล่าวของแม่ชี ไม่พบความก้าวร้าวหรือยกตนข่มท่านใดๆ และไม่เน้นเรืองการชี้กรรมที่พบจากญาณเลยในเล่มสอง ท่านชี้แต่เรื่องปัจจุบันในชาตินี้ทั้งสิ้น
ผมไม่คิดว่าแม่ชีโกหกนะครับ เพราะถ้าจะโกหกเพื่อหากิน ท่านจะมาบอกทำไมว่าท่านเคยทำกรรมอะไรมาบ้าง เช่น โกง ทำไม่ดีกับพ่อแม่ แต่งงานมากี่ครั้ง ชีวิตล้มเหลวมากี่หน ผู้ที่มีเจตนาจะทำเช่นนั้น จะมาบอกทำไม โดยเฉพาะคำว่า โกง ไม่มีประโยชน์ ถ้าจะปั้นเรื่องเพื่อหากิน ต้องไปในแนวอื่น คำว่าเคยโกงนี่เอามาพูดไม่ได้เลย เพราะย่อมเป็นสิ่งที่ผู้คนที่เข้ามาคบหาไม่ไว้วางใจและไม่สนิทใจ ไม่เชื่อถือ โดยเฉพาะเมื่อมีกิจกรรมที่ต้องใช้เงิน
โดยส่วนตัวแล้ว แม่ชี เท่าที่ผมสัมผัสจากตัวหนังสือ คือ อุบาสิกาผู้ทรงศีล คำสอนหรือคำกล่าวของแม่ชี ถ้าเป็นระดับจิตที่ลึกซึ้งหรือระดับการระลึกชาติหรือชี้กรรม เป็นสิ่งที่ผมต้องตัดออกไปเลย เพราะผมไม่มีวิปัสนาญาณระดับนั้น ผมรับแต่สิ่งที่ดีๆสิ่งที่ท่านกล่าวในลักษณะของการทำความดี ละความชั่ว ซึ่งถ้าสิ่งใดฟังแปลกหูไปจากหลักศาสนาที่เราเคยเล่าเรียนมา ก็ไม่รับ แค่นั้นเอง สำหรับผมเรื่องเห็นกรรม ชี้กรรม ต้องตัดออกไปเลย ไม่ใช่ไม่เชื่อหรือไม่มี แต่เราไม่รู้จึงพิจารณาได้แต่ในวงกว้างๆเช่น อย่าทำไม่ดีกับพ่อแม่ อย่าฉ้อโกง ฯลฯ ถ้าลึกลงไปแล้ว นรก สวรรค์ ในไตรภูมิพระร่วงมี แม้แต่ในพระคาถา ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกที่ผมสวดอยู่ทุกวัน ยังอ้างอิงถึงสวรรค์ทุกชั้นและพรหมโลก แต่ ผมไม่มีสัมผัสที่หกอย่างนั้น และไม่สามารถที่จะกล่าวได้ว่าไม่จริงหรือไม่เชื่อ เพราะผมเคยโดนสิ่งที่เคยคิดว่ามันไม่จริงหรือไม่มีเล่นงานมาแล้ว
ต่อข้อถามของคุณ ผมยิ่งแนะนำไม่ได้ครับว่าดีหรือไม่ดี แต่หนังสือของแม่ชีทศพรเล่มสอง ผมแนะนำได้ว่าดีครับ(ตัดเรื่องชี้กรรมในอดีตชาติไปแล้วด้วย) แต่ไม่ถึงขนาด อ่านแล้วไม่พอใจยินดีคืนเงิน โดยเฉพาะที่อ่านแล้วจี้ใจดำผมอย่างแรงคือหัวข้อ "ของหายตายแทนตัว" หรือ แม้แต่เรื่องของคุณปุ๊กกี้ ทุกท่านที่อ่านจะเห็นได้เลย ว่าจริง เพราะเป็นเรื่องในชาตินี้ที่ดังพอสมควร
ขอถาม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 3:33 pm
ขอถามน้องวัชรพลครับ ด้วยความเคารพนะคับ ที่บอกว่าเจอบ่อยนี่ เจออะไรเหรอคับ แบบไหนคับ อยากรู้ไว้เป็นความรู้คับ
สับสน
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 4:08 pm
มีคนมาเล่าให้ฟังว่า
มีคน ๆ หนึ่ง บอกไว้ว่า ใคร ๆ ก็มีอยู่ 6 อย่างกันทุกคน ไม่ว่าใคร
บอกไว้นานแล้วตั้งสองพันกว่าปีก่อน
จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
สงสัยน่ะ
เขมิกา
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 4:57 pm
เคยเจอสัมผัส ทั้ง...เพ....
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
ตอบเมื่อ: 29 มี.ค.2005, 5:05 pm
สัมผัสที่ 6
เป็นการรับรู้ด้วยจิตใจโดยตรง เมื่อพูดถึงสัมผัสที่ 6 เกือบทุกคนก็นึกถึงการได้สัมผัส หรือรับรู้สิ่งที่นอกเหนือจากคนธรรมดาเค้ารับรู้กัน เช่นสัมผัสกับจิตวิญญาณ สัมผัสกับอำนาจที่เหนือคำบรรยาย เป็นต้น
แต่ถ้าพูดถึงสัมผัสที่เกี่ยวกับหลักธรรมะนั้น จิตสามารถรับรู้อารมณ์ต่างๆ เช่นความโกรธ ความหลง ความโลภ อันเป็นกิเลสตัณหาที่เกิดจากจิตใจภายใน อารมณ์หรืออาการเหล่านี้จิตสามารถสัมผัสรับรู้ได้ เพียงแต่เราไม่เคยที่สนใจกับสิ่งเหล่านี้ กลับไปสนใจกับสิ่งภายนอก เมื่อรับรู้แล้วก็สร้างความลุ่มหลง ในสิ่งเหล่านั้น
ที่กล่าวมานี้ก็ไม่ได้ว่ากล่าวใครหลอก เพียงบอกกล่าวเพิ่มความเข้าใจในเรื่องของสัมผัสที่ 6 ที่แง่มุมหนึ่ง ส่วนน้องวัชรพลนั้นก็สนับสนุนด้วยที่ได้มาสนใจในเรื่องนี้ เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่เชื่อในเรื่องจิตวิญญาณ จะเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม แม้ว่าความเชื่อนั้นยังขาดไม่ตรงแท้ที่เที่ยว แต่นี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของการความดี ละเว้นความไม่ดีทั้งหลาย
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th