ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:00 pm |
  |
ไอ้ที่โง่ ไอ้ที่บ้า คงไม่ใช่ผมแล้วแหละ guest
เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมาผม มีธรรมมาพูดตลอด ผิดกับคุณ เพราะมากี่ทีก็ ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ตอบให้ได้สิ ผมก็บอกว่า ผมตอบไปแล้ว สามสี่ครั้ง
มากี่ทีก็บอกว่า ตอบให้ได้สิ จิ้งจอกเจ้าเล่ห์
แล้วแบบนี้มันคนปกติหรือ ผมก็ตั้งคำถามว่า ถ้าเช่นนั้น ผมยังไม่รู้เลยว่า ตอบไปคุณจะรู้เรื่องหรือ ให้คุณตอบผมให้ได้ก่อน จะได้คุยกันรู้เรื่อง ถ้าตอบไม่ได้ก็ให้บอกมา จะได้ อธิบายให้ฟัง จะได้เข้าใจได้
นี่ก็ไม่ตอบ มากี่ทีก็ ไอ้แก่บ้า ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ นี่เคยเห็นเด็กหัดพูดไหม มันพูดเป็นอยู่ไม่กี่คำ ก็นี่แหละ guest แหละ 555 |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:07 pm |
  |
ก็ตอบแบบสอบตก
จะให้ผ่านไปได้ยังไง
พอเถอะคุณขันธ์
คุณเป็นประเภท "ปทปรมะ"
ผมวางอุเบกขาซะแล้ว
แต่ผมยังเมตตาอยู่ไม่ต้องห่วง |
|
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:07 pm |
  |
เอานิทานเรื่องนี้ไปอ่าน อยู่ใน ลานธรรมจักรนี่แหละ หัดอ่านซะบ้าง ทั้งสามคน จะได้เกิดปัญญาขึ้นมาบ้าง โง่กัน ไม่ตื่นสักที
http://www.dhammajak.net/zen/46.html |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:17 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
ก็ตอบแบบสอบตก
จะให้ผ่านไปได้ยังไง
พอเถอะคุณขันธ์
คุณเป็นประเภท "ปทปรมะ"
ผมวางอุเบกขาซะแล้ว
แต่ผมยังเมตตาอยู่ไม่ต้องห่วง |
ก็คุณบอกเองไม่ใช่หรือว่า คุณไม่ใช่พระอริยะ แล้ว คุณถามว่า ปีติ ของโคตรภู กับ ปีติของ คนธรรมดา ต่างกันอย่างไร ผมตอบไปแล้ว แล้วคุณไม่ใช่พระอริยะ คุณจะมาบอกว่าผมสอบตกได้อย่างไรหละ guest ผมถึงบอกไงว่า คุณมันจอมเดา
แล้วยังมาบอกว่า ผมเป็นพวกปทปรมะ แต่ยังเมตตาผมอีก แน่
อยากจะใช้ภาษาวัยรุ่นว่า ฮากลิ้ง |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:20 pm |
  |
คนที่เถียงไม่ออก เขาไม่ได้เรียกว่า วางอุเบกขา เขาเรียกว่า อุเบกขาจำนน คือ ไม่รู้จะพูดอย่างไรเลยต้องวางเฉยด้วยความจำนน
แต่ถ้าวางอุเบกขา ในพรหมวิหารสี่ จะต้องตั้งต้นด้วย เมตตา แล้วกรุณาคือให้ และ มุทิตา แล้วจึงอุเบกขา
คือ เมตตา แล้วจึงให้ ให้ธรรม ให้ด้วยความตักเตือนด้วยความยินดี และ มุทิตา แล้วจึงอุเบกขา |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:31 pm |
  |
เอาอย่างนี้แล้วกัน
คุณไม่ต้องห่วงว่าผมจะรู้ธรรมหรือเปล่า
เพราะพระอรหันต์ท่านเรียกผมว่า "ลูก"
ผมมีที่พึ่งของผมแล้ว
ผมอยู่ใกล้เนื้อนาบุญแล้ว
ส่วนตัวคุณถ้าเจริญในธรรมอย่างแท้จริง
ผมก็อนุโมทนา "มุฑิตาจิต" ด้วย
ผมสร้างเมตตาบารมีมานานแล้ว
หลายภพชาติแล้ว |
|
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:40 pm |
  |
ผมจะถือว่า ต่อไปนี้ คุณ 2 คนคือ mes และ guest ได้สละสิทธิ์ที่จะโต้แย้ง เพราะว่า ตัวเองไม่สามารถตอบคำถามผมได้ ในกรณีอุทัพยญาณ นั่นหมายความว่า มีความรู้ไม่พอ ที่จะมาโต้แย้งผม และต่อไปนี้ ผมจะแสดง อรรถาธิบายโดยมีนัยยะ ของคำว่า อุทัพยญาณ อันมาจากการปฏิบัติ
คำว่า อุทัพยญาณ คือ ญาณที่เห็นการเกิดและการดับ คำง่ายๆนี้กินความ ในรูป และ นาม และจะไม่เรียกว่า เป็นญาณ หากว่า ยังเห็นสรรพสิ่งจนยุติไม่ได้ปลงใจไปไม่ได้ คือ เห็นคนเกิดคนตาย เห็นคาบระยะเวลาอันยาวนานในการเกิดดับ ไม่เรียกว่า อุทัพยญาณ จนกว่า เราจะมีมหาสติปัฏฐาน จ่อลงปัจจุบันธรรม คือ คิดปั๊บรู้ เริ่มรู้สึกอะไรรู้ ทีนี้ เมื่อมันเกิด เห็นแต่เกิดอย่างเดียวก็ยังไม่เป็น อุทัพยญาณ ต้องเห็นว่าในขณะเดียวกันที่รู้สึกนั้น มีการดับพร้อมลงไปด้วย ก็อยากจะให้กรัชกรายไปทดลองดู คือ ทำสมาธิให้ดี แล้วเปล่งเสียงให้ดัง เมื่อเปล่งเสียงเสร็จเอาใจเข้าไปสังเกตุในเสียงนั้นว่า เกิดขึ้นแล้วดับไป เอาให้ทันเป็นปัจจุบันธรรม เรียกว่า เห็น การเกิดดับ ของรูปเสียง จากนั้น เมื่อจิตมีกำลังมีพละกล้าพอ ก็ให้ สังเกตุที่ สัญญา เช่น ระลึกเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เรื่องนั้นจะโผล่เข้ามาให้เราเข้าใจ แล้วพอหยุดนึก เรื่องนั้นจะดับลงไปทันใด นี่เรียกว่า เห็นการเกิดดับ ใน นามธรรมอันได้แก่ สัญญา
ทีนี้ ในนามทั้งสี เราจะต้องสังเกตุในกระบวนการเดียวกันนี้ เช่นเดียวกัน
ในมหาสติปัฎฐานสี่ คือ กระบวนการให้เห็น รูป นามนี้เกิดดับ พิจารณาให้เห็นการเกิดดับนี้บ่อยๆ ธรรมจะเกิดในจิต เป็นข้อยุติ ชัดเจนในธรรม ไม่ใช่แค่เข้าใจ แต่ลิ้มรสธรรมนั้นเอง อย่างแจ่มแจ้ง เรียกว่า อุทัพยญาณเกิดขึ้น
เมื่อ อุทัพยญาณเกิดขึ้น เราจะแจ่มแจ้งด้วยตัวเองว่า นี่เราได้ญาณตัวหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน กระจ่างขึ้นมา ก็จะเป็น ปัจจัตตัง คือ รู้เห็นได้เฉพาะตน เพราะธรรมของพระพุทธองค์นั้น เป็นปัจจัตตังทั้งสิ้น
เมื่อ อบรม บ่มเพาะ มหาสติปัฏฐานลงจ่อที่ปัจจุบันธรรมทุกขณะจิตที่เคลื่อนแล้ว มหาสติจะละเอียดขึ้นๆไป ครานี้จิตจะเริ่มเป็นสมาธิพร้อมทั้ง เห็นแต่ความดับไปๆ ในอาการเดียวกัน แต่ไม่เห็นมันเกิด จะเห็นแต่ดับๆ จนเด่นชัด นี่แหละ เรียกว่า ภังคญาณ
อย่าไปมองคาบเวลาที่ยาวนะ มองสิ่งที่เกิดเดี๋ยวนี้ดับเดี๋ยวนี้เลย นั่นแหละ ธรรมนั้นอยู่ตรงปัจจุบันธรรมนั้นๆ
ขอพูดข้ามไปเลย ผมเมตตาคุณกรัชกราย ขอให้คุณกรัชกรายเชื่อในคำพูดของผมแล้วพิจารณาทวนสิ่งที่ผมพูดให้มาก แล้วทำให้มาก คือ เมื่อจับ ปัจจุบันธรรมอันใดที่เด่นชัด ให้มองตัวนั้นตามให้ปัจจุบันยิ่งกว่าปัจจุบันคือ ให้เร็ว ให้ทันมากยิ่งๆ ขึ้นไป แล้ว พอเร็วมากขึ้น มหาสติจะตามทัน ช่องแห่งวิมุตติคือ ไม่เกิดไม่ดับ นั่นแหละ พระนิพพาน เกิดโคตรภูญาณขึ้นคำรบแรก วินาทีนั้น จิตจะไม่วิพากษ์ ไม่มีอะไรเคลื่อน ไม่มีอะไรทางซ้ายทางขวา อยู่ ชั่วระยะหนึ่ง
เมื่ออวิชชากลับเข้ามาเราจะเริ่มนึกคิดและอัศจรรย์จิตตนเองว่า นี่คือ ความปราศจากความปรุงใดๆ ทั้งสิ้น อยู่ตรงหน้านี้เอง
ใครที่ได้ตรงนี้แล้ว จะมีปัญญาแก้วกล้า พูดอะไรเห็นเป็นปรมัตธรรมทั้งสิ้น จะไม่มีการปรุงใดๆ เบาตัวเบาใจ เพราะอำนาจแห่งพระนิพพาน
เอาหละ ใครอยากฟังอีก เอาไว้จะเล่าให้ฟังใหม่ ขอให้คุณ กรัชกราย ทบทวน และปฏิบัติ ให้ดี ผมจะบอกให้ว่า อุปสรรคสำหรับกรัชกรายคือ
ความช้าและ ขาดกำลัง ดังนั้นให้เจริญ พละ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา ให้แก้วกล้า ให้มีกำลัง เวลาจะพิจารณาอะไรรวบรวม ศรัทธา และ กำลังจิต พิจารณา จึงจะตัดขาด ในสมมติธรรมได้ คือ มีกำลังจิตที่แหวกอวิชชาได้ จึงต้องเจริญ พละให้กลายเป็น อินทรีย์อันทำให้จิตนี้มีกำลัง แน่วแน่ให้ได้
ขอให้โชคดีในธรรม
ส่วนคนอื่น ยังอีกนาน |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:48 pm |
  |
โอ๋ย แค่นี้เหรอ
ผมเห็นมาหมดแล้วคุณขันธ์
แล้วทำไม่ผมไม่ได้ญาณนั้นญาณนี้เหมือนคุณล่ะ
เหตุปัจจัยของนามรูปหายไปไหน
ทำไมมีแต่เกิดดับล่ะ
สายของเหตุปัจจัยหายไปไหน
มั่วแล้ว
เออผมเผลอไปว่าวางอุเบกขาแล้ว
แค่เนี้ยเหรอ 55555555 |
|
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:55 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
โอ๋ย แค่นี้เหรอ
ผมเห็นมาหมดแล้วคุณขันธ์
แล้วทำไม่ผมไม่ได้ญาณนั้นญาณนี้เหมือนคุณล่ะ
เหตุปัจจัยของนามรูปหายไปไหน
ทำไมมีแต่เกิดดับล่ะ
สายของเหตุปัจจัยหายไปไหน
มั่วแล้ว |
คนที่ได้ธรรม ไม่มีใครดูถูกธรรม แต่ยิ่งจะมีความอัศจรรย์ ว่าไม่มีทางที่จะเห็นเองรู้เอง หรือ ธรรมแค่นี้
ผมแปลกใจนะ ว่า ทำไม guest ได้แล้ว แต่ไม่เอามาพูด ซ้ำพอผมพูดกลับมาบอกว่า แค่นี้หรือ guest อย่าแสดงความเขลาออกมาเลย |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2008, 11:59 pm |
  |
อ้างอิงจาก: |
เหตุปัจจัยของนามรูปหายไปไหน
ทำไมมีแต่เกิดดับล่ะ
สายของเหตุปัจจัยหายไปไหน
มั่วแล้ว
เออผมเผลอไปว่าวางอุเบกขาแล้ว
แค่เนี้ยเหรอ 55555555 |
โอ้ คนโง่ ก็พูดอะไรโง่ๆ ผมบอกตามตรงนะ คุณ guest คุณคงจะต้องศึกษาให้ดีก่อน ผมตลกกับความอวดโง่ของคุณมากนะ และสงสารด้วย เพราะ ตั้งคำถามแบบนี้มา ผมเห็นทะลุอะไรหลายๆ อย่างในตัวคุณชัดเลย
ผมจะบอกให้ว่า ถ้าคุณจะเอาให้ได้ดี วาง ความรู้ลงไปก่อน ส่วนเรื่องปฏิจสมุบาท อย่าเพิ่งไปมอง ถ้าไม่เห็นการเกิดดับ ของปัจจุบันธรรม ก็จะไม่ทันที่จะย้อนไปดูต้นสาย
และอย่าโง่อีก เก่งตอนที่เขาเฉลย เขาเรียกว่า คนโง่ และ อย่านึกว่า การกระทำแบบนี้ คนที่เขาผ่านน้ำร้อนมาก่อนเขาจะไม่รู้ เขารู้ แต่เขา สมเพช เขาก็ปล่อยนะ guest จำเอาไว้ |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 12:02 am |
  |
ก็ของคุณมันแปลกนี่
ต้องตะโกนแล้วฟังเสียตัวเอง
ของผมก็อายตนะภายนอกมากระแล้วเกิดดับอยู่รอบตัว
ไม่เห็นต้องตะโกนเลย
ผมต้องค้นหาเหตุของนามรูปด้วย
แต่นี่คุณไม่เห็นมี
ที่คุณพูดมามันน่าสงสัย
ไหนมีอะไรพูดมาอีก
ถ้าของจริงผมก็ยอมรับ
แค่นี้ยังไม่พอหรอก |
|
|
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 12:05 am |
  |
และ ผมจะไม่ชอบมาก กับ เด็กที่ทะลึ่ง ที่ไม่เคารพพระธรรม เวลาผมเชิญพระธรรมมา อย่าทะลึ่ง ดูถูกธรรม อีก
ถ้าสงสัยก็ให้ซักถาม แต่อย่าพูดว่า ธรรมแค่นี้ผมได้มาหมดแล้ว นี่แหละคนอวดดี จำเอาไว้ นี่ถ้าเจอ หลวงตามหาบัว ไม่ใช่แค่นี้หรอก อวดดีแบบนี้ ไล่ออกวัดหมด อวดดีอวดเก่ง โง่มากี่ครั้ง พอเขาเฉลย ทะลึ่งอวดเก่งขึ้นมาทันที
เอาหละ ผมจะไปพักผ่อนแล้ว เหม็นขี้หน้าจริงๆ ไอ้คนอวดดีเนี่ย |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
guest
บัวบาน

เข้าร่วม: 09 ก.ค. 2008
ตอบ: 254
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 12:17 am |
  |
อวิชชา ปัจจยา สังขารา
แล้วคุณเห็นสังขารเกิดดับยังไง
ช่วยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังหน่อย
ขอรายละเอียดด้วย
อย่าเอาแต่เกิดดับแค่นี้
อย่างนี้ใครก็พูดได้
ถ้าคุณเป็นของจริงผมก็ยอมรับ
เอ๊.....แต่ทำไมสติของคุณ
มันไม่มีกำลัง |
|
|
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 7:43 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
ผมจะแสดง อรรถาธิบายโดยมีนัยยะ ของคำว่า อุทัพยญาณ อันมาจากการ ปฏิบัติ |
คิดว่าเลิกตั้งแต่หัวค่ำแระ รบกันถึงดึกดื่นเที่ยงคืนนะครับ
กรัชกายต้องการให้คุณขันธ์เล่าวิธีปฏิบัติกรรมฐานของตนเองว่าใช้
กรรมฐานอะไร อยากรู้ตรงนี้
อ้อ เห็นกล่าวถึงหลวงตามหาบัวบ่อย ๆ หรือว่า ใช้พุทโธ
อะคับ |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 7:56 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
ผมเมตตาคุณกรัชกราย ขอให้คุณกรัชกรายเชื่อในคำพูดของผมแล้วพิจารณาทวนสิ่งที่ผมพูดให้มาก แล้วทำให้มาก |
ขอบคุณครับที่เมตตา แล้วยังมีวิริยะอุตสาหะพิมพ์เล่าอะไรต่อ
อะไรให้ได้อ่านมากมาย
ขออะไรอย่างนะครับคุณขันธ์ หากเมตตากรัชกายจริงๆ ช่วยพิมพ์ชื่อให้ถูกให้
ถูกนะครับ กรัชกายครับ ไม่ใช่ กรัชกราย หรือเพี้ยนเป็น กัดกาย
อีกศัพท์หนึ่ง คือ อุทยัพพยญาณ ไม่ใช่ อุทัพยญาณ ครับ  |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 8:17 am |
  |
ถามคุณขันธ์ประดับความรู้หน่อยครับ
ถามว่า ขันธ์ 5 มีอะไรบ้างครับ
และในขันธ์ 5 นี้ อะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
mes
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 8:27 am |
  |
คุณขันธ์พระพุทธเจ้าท่านสั่งสอนโปรดสัตว์ พระองค์ไม่ทรงเลือกว่าเป็น
อรหันต์หรือไม่
ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้วก็ไม่ต้องสอนแล้ว
ที่ต้องสอนก็คือสอนให้คนที่ยังไม่บรรลุให้บรรลุอรหันต์
ฉนั้นที่คุณบอกว่าถ้าไม่ใช่อริยะบุคคลไม่สามารถฟังคุณเข้าใจ
คุณเองก็ไม่ใช่อริยะบุคคล
๑๘มงกุฎชัดๆ
ผมจะคุยเรื่องวิปัสสนูกิเลสให้ฟัง
ผิดถูกอย่างไรท่านกรัชกายท่านguestกรุณาคนความรู้ทางธรรมะน้อยอย่าง
ผมด้วยครับ
ผมจะเขียนจากปัญญาตนเองไม่ยึดเอาตามตำราในสภาวะ แต่ยึดตามตำรา
ตามหลักการ และเป็นแนวทางที่สอบกับประสพการณ์
วิปัสสนูกิเลสสำหรับผมนั้นถื่อว่าเป็นสัญญาณที่บอกให้เจ้าของญาณรับรู้ว่า
ตนนั้นได้กำลังจะเข้าสู่แห่งกระแสนิพพานคือโสดาบันนั่นแหละ
ในญาณนั้นไม่ได้ชัดเจนถึงกับเรียกว่าโสดาบัน
แต่เมื่อกำหนดรู้ในญาณแล้วก็เข้าใจได้
ประกอบกับความรู้ที่สุตะมาด้วยช่วยให้เข้าใจได้ดี
เหมือนการมองเห็นภาพที่ชัดเจนมาก
ญาณนี้จะค่อยๆเกิดและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเหมือนความฝันซ้ำๆกันหลายๆคืน
จนจำได้แม่นยำ
และจำได้มากขึ้นชัดเจนขึ้ทุกทีๆ
แน่นอนความตื่นเต้น ปิติยินดี ลิงโลดใจ พรุพร่าน ถึงกับทุรนทุราย
ก็เกิดขึ้นตามมา
เพราะอยู่ดีๆสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างถูกต้องแม่นยำบ่อยมาก
รู้เรื่องต่างๆมากมาย แม้แต่เรื่องในประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครรู้มาก่อนและ
รวมไปถึงวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ที่จะมีจะเกิดในอนาคต เรื่องเศษฐศาสตร์
การเมือง ยังรู้เลย
เมื่อเกิดขึ้นแล้ว อารมณ์ดังกล่าวจะจุ่มแช่อยู่เช่นนั้นนานมากจนเจ้าตัว
ค่อยๆชิน ค่อยๆคุ้นเคย
ไม่ใช่วิปัสสนกรรมฐานครั้งหนึ่งก็เกิดขึ้นทีหนึ่งอย่างที่นายขันธ์กล่าวมา
อย่างนั้นเป็นการอนุมานจากการอ่านหนังสือแล้วมาหลอกคนอื่น
อันนี้เป็นประสพการณ์ที่ผมรับรู้รับทราบมา
ซึ้งอาจจะแตกต่างกันไปตามปัจเจกบุคคล
ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กัน
และที่ต้องนำมาเผยแพร่
เพราะไม่อยากให้ใครหลอกลวงคนอื่นทางเวป |
|
|
|
   |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 9:08 am |
  |
อ่าน แล้ว ตลกสิ้นดี แต่ละคน
กัดกาย นี่ เขาเรียกว่า คนแบบนี้เลี้ยงไม่เชื่อง ก็ดี จะได้รบกันต่อ
1 จับผิดแม้กระทั่งเขียนผิด เขียนถูก เดี๋ยวผมจะยกสิ่งที่คุณเขียนผิด คนอื่นเขียนผิดมาให้ดู คุณจะบ้าหรือเปล่า นี่มันกระทู้คุณ จะเอาเป็น สอนหนังสือ ภาษาไทยเลยหรือ อย่ามาจับผิดอะไรไร้สาระแบบนี้เลย
2 เรื่องของขันธ์ 5 มีอะไรบ้าง นี่ ทำไมถามโง่ๆ แบบนี้ แล้วจะให้ผมตอบอะไร รูป เวทนา สัญญา วิญญาณ สังขาร แค่นี้หรือ คุมประเด็นไม่อยู่
ตัวเองตอบไม่ได้กันในเรื่องที่ผมถาม ไม่รู้จักอ่านแล้วถามในประเด็น เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ
นี่คือ เหตุผล ที่ทำไมผมจึงถามว่า ขอให้พวกคุณพูดมาว่า ตอบไม่ได้ หรือ ถ้าตอบได้ ก็พูดมา ก็รู้ว่าสันดานคนพาลนี่มันจะเป็นแบบนี้ คือ
1 เมื่อ ตอบแล้ว ไม่คุยในเรื่องที่ตอบหรือถาม เปลี่ยนประเด็นไปเป็นเรื่องอื่น
2 เมื่อตอบแล้ว อวดดีว่าตนรู้แล้ว
3 เมื่อตอบแล้วทำเฉยไป เหมือนไม่มีอะไรเกิด
นี่ ถ้าจะให้อยู่ในประเด็น กรุณาระลึกด้วย ส่วนที่ว่า จะมาจับผิด เดี๋ยวผมจะพูดอะไรให้ฟัง
นาย guest นี่โง่มากจริงๆ แสดงความไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยดังนี้
1
อ้างอิงจาก: |
อวิชชา ปัจจยา สังขารา
แล้วคุณเห็นสังขารเกิดดับยังไง
ช่วยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังหน่อย
ขอรายละเอียดด้วย
|
เอาแค่ นามตัวขันธ์ ยังมองไม่เห็นเกิดดับ จะย้อนกลับไปดูถึงต้นสาย นี่ถ้าบรรดาลูกศิษย์ผมมาอ่าน เขาคงจะตลกผมที่ ทำไม อาจารย์ถึงโง่มาตอบคำถามให้เด็กปัญญาอ่อนฟัง
2 เรื่องสติ ที่ว่า ผมไม่มีสติ นี่ต้อง ย้อนถามกลับไปว่า ใครเป็นคนคุมประเด็นตลอด
3 จิตนาย guest ไม่เคยพิจารณาอะไร อ่านเข้าใจแล้วผ่้าน ผ่านไป เสมือน คนเมาบอกว่า รุ้ตัว มีสติ แต่แท้ที่จริง ยังโง่จริงๆ แถม สับปลับอีกต่างหาก พูดจา เอาแต่ความรุ้สึก ขาดสุจริตในมโน ไม่จ่อลงที่ข้อธรรมจริงๆ คือ อ่านข้อธรรมอันนั้น อย่างเป็นกลาง แล้วพิจารณา
แต่ พวกคุณหามีเช่นนั้นไม่ จิตที่เต็มไปด้วยอกุศล ที่ดองอยู่เต็ม มองเห็นในปัจจุบันไหม แต่ทำไมยังปล่อยให้มันลอย ป้วนเปี้ยน แถมออกมาค้านอย่างคนเมา
นี่แหละ เขาถึงเรียกว่า พูดให้ตายมันก็ไม่เห็นธรรม |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
ขันธ์
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 9:21 am |
  |
อ้างอิงจาก: |
คุณขันธ์พระพุทธเจ้าท่านสั่งสอนโปรดสัตว์ พระองค์ไม่ทรงเลือกว่าเป็น
อรหันต์หรือไม่
ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้วก็ไม่ต้องสอนแล้ว
ที่ต้องสอนก็คือสอนให้คนที่ยังไม่บรรลุให้บรรลุอรหันต์
ฉนั้นที่คุณบอกว่าถ้าไม่ใช่อริยะบุคคลไม่สามารถฟังคุณเข้าใจ
คุณเองก็ไม่ใช่อริยะบุคคล
๑๘มงกุฎชัดๆ
|
นี่ ตลกไหม มันกระโดดอะไรไปพระอรหันต์ แล้วผมจะถามคุณดังนี้คือ
1 ผมยัดเยียดความเชื่อ ให้คุณ หรือ บังคับให้คุณเชื่อว่า ผมเป็นอริยะบุคคลหรือ
2 การสอนให้เข้าใจ คนละเรื่องกับ การตัดสินว่า ถูกหรือผิด คุณนี่แยกอะไรไม่ออกจริงๆ
3 ที่ว่า ผมเป็น 18 มงกุฎนี่ ช่วยเอาหลักฐานมายืนยันหน่อยว่า ผมไปหลอกใคร มีแต่พวกคุณมา ถามผม แล้ว ด่าผมจริงหรือไม่ ถามให้ผมตอบแล้วด่า นี่กระทู้ที่ ผมตั้งที่นี่ แทบจะไม่มี ใครมีปัญหาผมก็ไปตอบ
ตลกไหม
นี่ผมบอกอะไรให้ฟัง ผมเข้าเว็บมามาก สรุปว่า ตั้งแต่ผมเล่นเว็บธรรมะมา 4 คนนี่ โง่ที่สุด เถียงไม่ออกไม่รู้กี่ครั้งกี่หน ไม่มีธรรมหลุดออกจากปาก โง่แล้ว โง่อีก สอนให้ไป เข้าหูซ้่ายทะลุหูขวา
เอาแบบนี้ เรื่องที่จะมาถามผม ผมจะสอนให้ว่า คุณ ควรจะเอาสิ่งที่คุณคิดว่า หากคุณธรรมไม่มี จะตอบไม่ได้ นั่นแหละ ให้เอามาถาม จะได้พิสูจน์ได้ ดังว่า ผมจะถาม เรียงตัวดังนี้ให้ไป ตอบมา แล้วจะได้พูดให้มันรู้เรื่อง
1 สำหรับ กัดกาย คุณนี่บ้าตำรา บ้าศัพท์แสง ผมจะให้คุณ อธิบาย เรื่อง ฌาณ 4 ว่า คุณได้หรือไม่ ด้วยประสบการณ์ และ องค์ ฌาณทั้งหมดเป็นอย่างไร
2 สำหรับ mes นี่บ้า อ่าน หนังสือท่านพระพุทธทาส แต่ไม่มีอะไรในหัวเลย อธิบายมาว่า น้ำล้นถ้วยเป็นอย่างไร และ ผมจะถามอีกอย่างหนึ่งคือ
คนโง่ กับ คนฉลาด เอาอะไรมาวัด
3 สำหรับ guest ที่ว่า อวดตัวว่ารู้แล้ว อวดตัวว่าเหนือกว่า อย่างนั้นอย่างนี้ ผมถามคุณว่า ฌาณ 1 เป็นอย่างไร เอาง่ายๆ ที่สุด ยังไม่ต้องไปถึง วิปัสสนาญาณ หรือ วิปัสสนูกิเลส หรือ ปฏิจสมุบาท
3 คนอธิบายด้วยความเข้าใจของตนเองมา ถ้าตอบได้ดี แล้วค่อยถามปัญหาผมต่อ หรือ มาจับผิด เพราะหากว่า แค่นี้ยังตอบดีไม่ได้ แล้วจะมาพิสูจน์ คุณธรรมผมได้อย่างไร
เปรียบเหมือน ปุถุชน จะมาทดสอบพระอรหันต์ ก็ถามพระอรหันต์ ว่า หากพระอรหันต์เป็นของจริง ก็ต้องตอบได้ว่า พระนิพพานเป็นอย่างไร
ผมก็นึกตลกว่า ไอ้ฟาย |
|
_________________ เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์ |
|
  |
 |
กรัชกาย
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348
|
ตอบเมื่อ:
01 ต.ค.2008, 10:04 am |
  |
คิดอยู่ว่าคุณขันธ์น่าดื้อ แต่ก็อยากทดลองเพื่อความมั่นใจ
ก็ในเมื่อรู้ว่าผิดมีผู้ท้วงทำไมไม่แก้เสียให้ถูกเล่าครับ โดยเฉพาะศัพท์ธรรมดัง
กล่าว เกิดมีผู้อื่นจดจำไปจะได้จำจำจดจดสิ่งถูกต้องไป ก็เท่านี้
ส่วนกรัชกาย สำหรับคุณขันธ์จะเขียน กรัชกราย หรือ กัดกาย ข้อนี้เรื่องส่วนตัว
ไม่ได้ให้ความสำคัญไม่อยู่ในสมอง แต่อยากลองใจคุณว่าจะเปลี่ยนจากผิด
ให้เป็นถูกไหม แค่นี้เอง
อ้างอิงจาก: |
กัดกาย นี่ เขาเรียกว่า คนแบบนี้เลี้ยงไม่เชื่อง ก็ดี จะได้รบกันต่อ |
ไม่อ้าว...กรัชกายไม่รบกับคุณแล้วน๊า เปลื้องงบประมาณ (สมอง)
เปล่าๆ
รบกับคุณ guest และคุณ mes เถอะ
แต่อาจส่งเสบียงธรรมร่วมแจมด้วย
หรือคุณว่าไงครับ  |
|
_________________ สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา |
|
  |
 |
|