วิปัสสนาภูมิ ตอนที่ 9 ญาณ 16

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 5:38 pm

ขันธ์ จอมลวงโลก

ขันธ์ 5 ยังเข้าใจไม่ถูก
เรื่องสัญญา ก็ยังไม่เข้าใจ
แสดงว่าคุณยังไม่รู้ชัดเรื่องขันธ์ 5
แล้วจะรู้เรื่องอุทัพยญาณได้อย่างไร

พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ
พูดธรรมก็มีแค่ปรัชญาอุปมาอุปมัย
แต่วิธีปฏิบัติไม่มี

ปัสสัทธิจะไปดับปีติได้อย่างไร
ปีติดับไปเองปัสสัทธิจึงเกิด
เพราะปีติเป็นปัจจัยให้เกิดปัสสัทธิ
รู้ไม่จริงทำมาพูด

แล้วถามหน่อยถ้าปฏิบัติได้จริง
แล้วปีติดับได้ยังไง

เอ้า..ตอบมา
ทั้งเรื่องสมาธิ
และคุณไปติดวิปัสสนูกิเลสอะไรที่ไหน

ถ้าตอบได้ค่อยมาคุยเรื่องอุทัพยญาณ

คุมประเด็นหน่อย

อย่ามาทำเป็นมั่ว

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 6:04 pm

คุณ guest ครับ

เราพร้อมใจกันยกมือยอมรับว่าไม่รู้เถอะ ทำตามที่ท่านต้องการ

หากบิดพลิ้วอีก คุณขันธ์ก็เสียผู้ใหญ่ในพรรค เอ้ยผู้ใหญ่เฉยๆ เอง

ยอมรับว่าเราไม่รู้ แล้วจะรู้สิ่งที่เราต้องการรู้ จากผู้ที่คิดว่าตนเองรู้ ยิ้ม

เพราะเราก็อยากรู้ว่าท่านรู้อะไร

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 6:06 pm

คุณกัดกาย ถ้าอยากจะฟัง ก็ถามอีกสองคนว่าตอบได้ไหม ถ้าไม่ได้ ผมก็จะพูด แต่ให้ตอบมาก่อน

คุณกรัชกรายยอมรับแล้วหนึ่งยังเหลืออีกสอง ผมไม่นับ คามึนก็ได้ เพราะถือว่าบัวใต้ตมอน่างไรก็ตอบไม่ได้

สำหรับ guest ถ้าปุถุชนนั้นใช่ ที่guest พูดมาแต่สำหรับพระอริยะ จิตไม่ใช่ธรรมดา จิตจะหมุนแต่ทางธรรมดังนั้นไม่มีที่จะดับไปเอง เพราะจิตหมุนตลอด

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 6:08 pm

นะครับคุณ guest และคุณ mes

กรัชกายอยากรู้ว่าคุณขันธ์รู้อะไร เล่ามาตั้งแต่ต้นอย่างที่บอกนะคุณขันธ์ ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 6:14 pm

คุณกัดกาย ผมบอกอยู่ทนโท่ว่าผมไม่นับคามึน แล้วจะบอกว่าผมไปลากมาทำไม คุณอย่าชง ผมบอกว่ารออีกสองคนบอกว่าตอบไม่ได้ก่อน

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 6:22 pm

คุณจะต้องรอคนนั้นคนนี้ทำไมคุณขันธ์ครับ

เอาแต่กรัชกายคนเดียวพอ คุณ mes ท่านก็บอกอยู่แล้วว่า ท่านยังอ่อนในทาง

ธรรม

ตอบมาก็หมดเรื่อง อยากรู้เหมือนกันว่าคุณรู้อะไรนอกเหนือจากที่พรรณนามา

แล้วบ้าง อายหน้าแดง

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 6:30 pm

เท่าที่คุณโดดข้ามปัญหานี้มาก็บ่งบอกถึงอะไรได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังอยากเห็นคุณ

แจงการปฏิบัติของคุณตั้งแต่ต้น ยิ้มเห็นฟัน

กรัชกาย พิมพ์ว่า:

ถามคุณขันธ์ คุณเข้าใจอารมณ์ของผู้ปฏิบัตินั้นหรือไม่อย่างไร ไหนๆ คุณลอง

อธิบายข้อความที่เน้นสีแดงให้คนอื่นๆ เข้าใจทีดิคับ

เก่งภาวนามยปัญญานักก็ อยากรู้เหมือนกันว่าจะได้คดีความอะ

ป่าว ยิ้ม

ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ สามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน

แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดู ผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นแบบอัปปมัญญา

กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย รู้สึกว่ากายขยายไปทุกทิศ จนรู้สึกว่ากายหายไป คือไม่มีกาย เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด

จากนั้นก็คิดขึ้นมาว่า "มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลก ที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ... ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก- (ส่วนใหญ่) มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คน -(ส่วนใหญ่) ในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่า ลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่า คือ ลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้มันเหมือนจุ่มค้างอยู่ปีติ คือปีติเกิดค้างอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้นเลยนะครับ แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 7:16 pm

พี่ กรัชกาย ครับ

คุณขันธ์ แกใหญ่มาจากไหนไม่สำคัญ
แต่พฤติกรรมของแกเหมือนเด็กอนุบาล
แล้วจะใหญ่ไปได้อย่างไร

คนเราจะใหญ่ก็ต้องใหญ่ด้วยการสั่งสมบุญบารมี
อย่างเช่น ใหญ่ด้วยการทำทาน
สั่งสมทานบารมี
มีจิตใจกว้างขวาง
มีเท่าไหร่ก็ให้ทานหมดแม้กระทั่งชีวิตร่างกายของตนเอง
เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
นี่ต้องใหญ่แบบนี้ใหญ่เพื่อโลกเพื่อคนทั้งหลาย

แต่คุณขันธ์แกอยากใหญ่ด้วยการ
กดหัวคนอื่นลง เหยียบหัวคนอื่นลง
เพื่อตัวเองจะได้สูงขี้น
มีอำนาจใหญ่โต
หลอกลวงคนอื่น
ใหญ่แบบคุณขันธ์
มันใหญ่แบบเทวทัต

ขันธ์ คุณรู้มั้ยว่าจิตพระอริยะไม่หมุนอยู่อย่างเดียวหรอก
ผมรู้ว่ามีอะไรอยู่
ถ้ารู้จริงเห็นจริงตอบได้เลย
ผมบอกเลยจิตพระอริยะไม่หมุนตลอดหรอก
เอ้าตอบมา

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 8:04 pm

นี่คุณ guest คุณนี่ตลกนะ ผมก็บอกไปตลอดว่า คุณตั้งคำถามไปเรื่อย พูดอะไรไป คุณก็ไม่รู้ตัว ผมจะตอบก็ต่อเมื่อคุณตอบของผมมาก่อน หรือไม่ก็บอกว่าไม่รู้มา ผมจึงจะแสดงต่อ ทั้งนี้ก็เพราะว่าคุณยังไม่รู้เรื่องง่าย เท่าผม คุณจะมารู้ได้อย่างไรว่าผมพูดถูกหรือผิด เพราะมาจนป่านนี้คุณก็คิดเอาเองทุกอย่างมาตลอด

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 8:08 pm

คุณกรัชกรายที่คุณพูดสภาวะธรรมมาถือว่าคุณโชคดีแล้วที่มาเจอผม เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะติดไปอีกนาน แล้วเดี๋ยวผมจะพูด ให้ฟัง รอคนไม่รู้มาตอบก่อนว่าตอบได้หรือไม่

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 8:18 pm

คุณขุนธ์ทำตามที่ท่านกรัชกายบอกเกิด

คุณguestท่านผมก็คิดว่าไม่มีปัญหาหรอก

นะครับท่านguest

ตอบมาอย่าลีลามากคุณขันธ์

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 8:25 pm

ไม่มีปัญหาก็พูดมาสิ ถ้าไม่พูดผมจะถือว่ายอมจำนนทางอ้อมนะและถ้ายอมจำนนแล้วผมก็จะอธิบายให้ฟัง
อีกสองชั่วโมง หรือพรุ่งนี้ เพราะผมจะไปดูความลับซุปเปอรสตาร์ก่อน

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 8:30 pm

ผมไม่รู้

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 8:32 pm

อ้างอิงจาก:

คุณกรัชกรายที่คุณพูดสภาวะธรรมมาถือว่าคุณโชคดีแล้วที่มาเจอผม เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะติดไปอีกนาน แล้วเดี๋ยวผมจะพูด ให้ฟัง รอคนไม่รู้มาตอบก่อนว่าตอบได้หรือไม่

คุณขันธ์นี่ก็แป-ลก เศร้า

จับกรัชกายเป็นตัวประกัน ร้องไห้

โดยยื่นเงื่อนไขให้ผู้อื่นยอมทำตามข้อเรียก

ร้องของตน ตกใจ

เกิดเค้าไม่ยอมขึ้นมา กรัชกายคง... เศร้า

เล่ามาเถอะ บอกมาว่าคุณใช้กรรมฐานอะไร ปฏิบัติในระเอียดอย่างไร

แบบไหน

ไม่ใช่พูดตัดตอนเอาสภาวะสภากาแฟ ไม่เอา เอาตามนั้น

ส่วนคนอื่นก็ปล่อยให้เป็นประเด็นของเค้ากันไป ไม่เกี่ยวกันสะ

หน่อย

อ้าว...คุณ mes มาแล้ว ร้องบอกแล้วว่า ผมไม่รู้ เจ๋ง

คุณขันธ์เล่าเลย จะรออ่าน ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 8:48 pm

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

ไม่มีปัญหาก็พูดมาสิ ถ้าไม่พูดผมจะถือว่ายอมจำนนทางอ้อมนะและถ้ายอมจำนนแล้วผมก็จะอธิบายให้ฟัง

อีกสองชั่วโมง หรือพรุ่งนี้ เพราะผมจะไปดูความลับซุปเปอรสตาร์ก่อน

อ้าว เพิ่งเห็นคห.นี้ อายหน้าแดง

อีกสอง ชั่วโมง หรือ พรุ่งนี้ เล่นงี้หรอคุณขันธ์ ยิ้ม

ไม่รอแล้วงั้น นอนอ่านพุทธธรรมดีกว่า ยิ้มเห็นฟัน

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 9:29 pm

ขันธ์ คุณนี่เหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จริง ๆ
ที่ผมถามมาทั้งหมดไม่ยอมตอบ
เพราะตัวเองตอบไม่ได้
แล้วมาทำเป็นโบ้ยว่าผมไม่รู้เรื่องเท่าคุณ

คุณน่ะควรตอบผมให้ได้เถอะ

เรื่องปีติ ที่คุณว่าปีติในสมาธิ ต่างกับปีติในวิปัสสนา คุณก็มั่ว
ปีติก็ปีติ สิ จะไปปีตินั้นปีตินี้อะไรอีก
เพียงแต่เหตุแห่งปีติต่างกัน
แต่ปีติก็ปีติอันเดียวกัน

เรื่องสมาธิที่ผมยกธรรมของหลวงตามหาบัวมา
คุณก็แก้ไม่ได้ ว่าเป็นวิปัสสนูกิเลสที่ไม่ได้อยู่ในโคตรภู

เรื่องสติก็แพ้ผมอย่างหมดรูป

เรื่องสัญญา ที่คุณกล่าวว่าองค์หลวงตาท่านหลงลืม
เพราะท่านขาดสติ
แต่ผมบอกว่าท่านไม่ได้ขาดสติ
สัญญาท่านไม่สืบต่อเท่านั้นเอง
เพราะท่านอายุมากก็หลงลืมไป
เนื่องจากสัญญาเป็นอนิจจัง

คุณก็ตอบผมไม่ได้ซักเรื่อง

ต่อไปนี้ผมจะถือว่าคุณไม่รู้เรื่อง
ในเรื่องที่ผมถามคุณ
คุณก็จอมลวงโลกเท่านั้นเอง

ความรู้แค่เรื่องขันธ์ ๕ ยังไม่รู้ชัดเจน
แต่ดันไปรู้เรื่องอุทัพยญาณ
ใครเค้าจะเชื่อ

คุณก็แค่เด็ก ๆ เท่านั้นเองในทางธรรม
น่าอายนะทำเป็นประกาศตั้งแต่วันแรก
ว่าใครอยากพิสูจน์เชิญพิสูจน์ได้

สุดท้ายก็ของปลอม
น่าตลกสิ้นดี

เอ้าคุณอยากประกาศธรรมลวงโลก
ของคุณก็ประกาศไปเถอะ
ผมไม่สนใจหรอก

เพราะคุณในสายตาผม
ก็คือเด็กอ่อนหัดในธรรมเท่านั้นเอง

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 9:39 pm

อ้างอิงจาก:

ขันธ์ คุณนี่เหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จริง ๆ

อย่างน้ต้องเรียก

เจ้าขี้เรื้อน

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 9:48 pm

คุณ mes ครับ

อย่าไปสนใจคุณขันธ์เลยครับ

ฟังไปก็มีแต่ของปลอม
เพราะแค่ธรรมขั้นเริ่มต้น
อย่างสติยังไม่เข้าใจเลย
ธรรมทุกขั้นทุกตอนต้องผ่านสติก่อน

อย่าไปฟังเลยครับ
คนพรรค์นี้

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 10:18 pm

บอกให้รอหน่อยทนกันไม่ได้ ออกอาการแบบนี้ผมก็ยังไม่ตอบ เพราะมันมีคนไม่ยอมพูด แถมmesมาด่าผมว่าขี้เรื้อน แล้วมันจะคุยกันรู้เรื่องไหม

ตัวเองตอบไม่ได้ขุดเรื่องมาด่า ส่วนคนโง่ๆอย่างguest น่าตลกนะ ปากดีไม่มีธรรมสักอย่าง เอาปีติธรรมมาพูดซำ้ไปมา ทั้งที่ตอบไปแล้ว จะยั่วผมหรือ มันเปล่าประโยชน ดังเอาไม้จิ้มฟันไปจิ้มก้อนหินนะ

ไอ้ที่ตัวเองเต้นไทม่รู้กี่รอบ โง่แล้วโง่อีก ให้เขาด่าไม่รู้กี่ครั้งก็ทำเกมือนเดิม 555

ถ้าอยากฟังก็ข้อตกลงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คนอย่างผมพูดอย่างไรก็อย่างนั้น ดูสิบอกว่าจะบ้ากันแล้วมันจริงไหม
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ตอบมาแล้วจะอธิบายให้ฟังจริงๆ

ตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2008, 10:30 pm

เชิญโง่ เชิญบ้า ไปเถอะขันธ์ เอ๊ย

จอมลวงโลก