ถามเรื่องสภาวะ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 1:03 am

ทุกท่านครับ

กรุณาอย่าหลงไปตามที่ คุณขันธ์บอก นะครับ

การตั้งสติไม่ต้องไปกำหนดครับ

ให้ปฏิบัติตามหลักของ
สติปัฏฐาน ๔ เลยครับ
ตั้งสติตรง กาย เวทนา จิต ธรรม เลยครับ
ุ
ถ้าใช้คำว่า "กำหนดสติ" จะมั่วไปหมด
คุณขันธ์แกพามั่วไปหมดแล้ว

เอาสติไปตั้งที่กายก็รู้ที่กาย
ไม่เห็นต้องกำหนดเลยครับ

เอาสติไปตั้งที่เวทนาก็รู้ที่เวทนา

เอาสติไปตั้งที่จิตก็รู้ที่จิต

เอาสติไปตั้งที่ธรรมก็รู้ที่ธรรม

ไม่ต้องกำหนดครับ
ให้ตั้งสติที่สติปัฏฐานเลยครับ

หลังจากนั้นก็ให้ใช้ "อาตาปี"(ความเพียรเพ่ง)
พิจารณา
กายในกาย
เวทนาในเวทนา
จิตในจิต
ธรรมในธรรม
ได้เลยครับเมื่อสติตั้งอยู่ที่ใด

ไม่ได้กำหนดอะไรเลยครับ

คุณขันธ์แกใช้คำว่า"กำหนดสติ"
ทำให้เข้าใจผิดกันหมด

คุณขันธ์แกมั่วน่ะครับ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 7:45 am

ขันธ์ พิมพ์ว่า:

คุณ คามิน คุณนี่มันเด็กเกินบรรยาย ที่มาถามคำถามแบบนี้

ถ้าคุณถามด้วยการลองภูมิผมจะไม่ตอบ แต่ถ้าอยากจะรู้จริงๆ ต้องไหว้ผมผมทีหนึ่ง แล้วก็บอกว่า กระผมจะไม่ปากเสียครับ และกระผมจะบอกเพื่อนๆ ให้หยุดส่งเสียงน่ารำคาญ ก่อนแล้วผมจะตอบให้

ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ผมจะไม่ตอบคำถามลองภูมิของคุณ มันไร้สาระ

หาเรื่องนั้นเรื่องนี้ถามไปเรื่อยๆ ผมถามหน่อยว่า คุณรู้จักคำว่า เป้าหมายไหม ถ้ารู้ ก็ให้ตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย ไม่ใช่ ถามเป็นนกแก้วนกขุนทอง

ที่แท้ก็ปาหี่ เร่หลอกขายตลกไปเรื่อย
พอเวลาด่ามัน มันก้บอกว่าให้พูดธรรม

พอเวลาถามธรรมดีๆ มันก้บอกว่าลองภูมิ อ้างนู่น อ้างนี่ เพื่อจะเลี่ยงไม่ตอบ
กลัวทำไมล่ะ กลัวมันผิดกับที่เคยพูดไว้หรือยังไง

สถุลมากๆ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 8:15 am

guest พิมพ์ว่า:

เอาสติไปตั้งที่กายก็รู้ที่กาย
ไม่เห็นต้องกำหนดเลยครับ

เอาสติไปตั้งที่เวทนาก็รู้ที่เวทนา

เอาสติไปตั้งที่จิตก็รู้ที่จิต

เอาสติไปตั้งที่ธรรมก็รู้ที่ธรรม

ไม่ต้องกำหนดครับ
ให้ตั้งสติที่สติปัฏฐานเลยครับ

หลังจากนั้นก็ให้ใช้ "อาตาปี"(ความเพียรเพ่ง)
พิจารณา
กายในกาย
เวทนาในเวทนา
จิตในจิต
ธรรมในธรรม
ได้เลยครับเมื่อสติตั้งอยู่ที่ใด

ไม่ได้กำหนดอะไรเลยครับ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 11:14 am

ทุกท่านครับ
กรุณาอย่าหลงไปตามที่ คุณขันธ์บอก นะครับ
การตั้งสติไม่ต้องไปกำหนดครับ

ให้ปฏิบัติตามหลักของ
สติปัฏฐาน ๔ เลยครับ
ตั้งสติตรง กาย เวทนา จิต ธรรม เลยครับ
ุ
ถ้าใช้คำว่า "กำหนดสติ" จะมั่วไปหมด
คุณขันธ์แกพามั่วไปหมดแล้ว

เอาสติไปตั้งที่กายก็รู้ที่กาย
ไม่เห็นต้องกำหนดเลยครับ

เอาสติไปตั้งที่เวทนาก็รู้ที่เวทนา

เอาสติไปตั้งที่จิตก็รู้ที่จิต

เอาสติไปตั้งที่ธรรมก็รู้ที่ธรรม

ไม่ต้องกำหนดครับ
ให้ตั้งสติที่สติปัฏฐานเลยครับ

หลังจากนั้นก็ให้ใช้ "อาตาปี"(ความเพียรเพ่ง)
พิจารณา
กายในกาย
เวทนาในเวทนา
จิตในจิต
ธรรมในธรรม
ได้เลยครับเมื่อสติตั้งอยู่ที่ใด

ไม่ได้กำหนดอะไรเลยครับ

คุณขันธ์แกใช้คำว่า"กำหนดสติ"
ทำให้เข้าใจผิดกันหมด

คุณขันธ์แกมั่วน่ะครับ

สรุปว่า จะให้ตั้ง ไว้ที่กาย และ จะใช้คำว่าอะไรดี แบบที่ไม่ต้องใช้คำว่ากำหนด แล้ว สรุปคำว่า กำหนด นี่ มันเลวร้ายมาก มันผิดแปลกมาก มันมั่วมาก ให้ใช้คำว่า ตั้งสติไว้ตรงนั้นตรงนี้เฉยๆ

คุณ guest จะบอกอย่างนี้ใช่ไหม

สำหรับ คุณ คามึน

อ้างอิงจาก:

ที่แท้ก็ปาหี่ เร่หลอกขายตลกไปเรื่อย
พอเวลาด่ามัน มันก้บอกว่าให้พูดธรรม

พอเวลาถามธรรมดีๆ มันก้บอกว่าลองภูมิ อ้างนู่น อ้างนี่ เพื่อจะเลี่ยงไม่ตอบ
กลัวทำไมล่ะ กลัวมันผิดกับที่เคยพูดไว้หรือยังไง

สถุลมากๆ

นี่ ผมไปหากูเกิ้ลมาให้คุณ ดีไหม นี่มันปัญหาธรรมะ ไม่ใช่ท่องสูตรคูณ
จะได้มานั่งดูว่า สองหนึ่งสอง สองสองสี่ เก้าแปดเป็นเท่าไร เออ เก้าแปดเป็น เจ็ดสิบสอง นี่ผมบอกว่า คุณกำลังถามผมเชิงท่องสูตรคูณ และ การลองภูมิของคุณมันเด็กเกินไปไง ไม่แยบยลทั้งวิธีการและคำถาม
มันไม่ต่างอะไรกับ ถามการท่องสูตรคูณ

แล้วพอผมบอกว่า ถามแบบนี้มันไม่ได้อะไร กลับโมโหโกรธามาด่า ผมว่า สถุล 555

นี่แหละครับ คอยดูต่อไป แล้วถ้ามันบ้าอย่างนี้ 3 คนนี้จะต้อง หนักขึ้นอีก

ก็ ดูสิครับ ว่า ใครมันโดนสะท้อนอยู่ บังเอิญว่า ชาติแต่ปางก่อน ผมผูกพันกับ พญายม ยมบาล เห็นกรรมและคนที่ลองดีอวดดีมาเยอะ แล้วก็เห็นว่า กรรมนั้นคน ทำบาปก็ต้องรับไป ผมก็เลยมองอย่างชาชินว่า นี่คือกรรมของสัตว์โลก ถามว่าผมเมตตาไหม ตอบว่า นี่แหละ เมตตา เพราะถ้าไม่ให้มันบ้าตอนนี้ มันจะลงนรก วันข้างหน้าแน่นอน

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 11:57 am

คุณ ขันธ์

คุณดูคำพูดคุณนะ

***********************************************
"นี่แหละครับ คอยดูต่อไป แล้วถ้ามันบ้าอย่างนี้ 3 คนนี้จะต้อง หนักขึ้นอีก

ก็ ดูสิครับ ว่า ใครมันโดนสะท้อนอยู่ บังเอิญว่า ชาติแต่ปางก่อน ผมผูกพันกับ พญายม ยมบาล เห็นกรรมและคนที่ลองดีอวดดีมาเยอะ แล้วก็เห็นว่า กรรมนั้นคน ทำบาปก็ต้องรับไป ผมก็เลยมองอย่างชาชินว่า นี่คือกรรมของสัตว์โลก ถามว่าผมเมตตาไหม ตอบว่า นี่แหละ เมตตา เพราะถ้าไม่ให้มันบ้าตอนนี้ มันจะดิวลงนรก วันข้างหน้าแน่นอน"
***********************************************

ผมอ่านดูแล้วสลดสังเวชใจ
คิดว่าจะโต้ตอบธรรมะกับคุณหน่อย
เลยไม่รู้จะตอบยังไง
สะเทือนใจผมมาก
คุณเป็นถึงขนาดนี้เลยหรือ
ใจโหดใจเหี้ยมขนาดนี้เลยหรือ

เห็นคุณโหดร้ายขนาดนี้ตอบไม่ออกเลยผม

เอ้างั้นตอบซะหน่อยแล้วกัน

ที่ผมว่ากำหนดนั้นมันไม่ถูก
เพราะสติไม่ต้องกำหนดบ่อย

พอตั้งสติได้แล้ว
ก็ให้เจริญต่อไป
อย่าให้สติล้มได้
ให้สติเป็นพื้นฐาน ปัญญาคอยสอดแทรกตลอด

ถ้าใช้คำว่ากำหนด
ก็คือ อยากให้มีสติทีนึง ก็กำหนดทีนึง
อย่างนี้มันไม่ถูก

ผู้ที่เจริญสติแล้วได้มรรคได้ผลต้องทำอย่างนี้

"สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยา"
สติจำต้องปรารถนาในที่ทั้งปวง
ไม่มีคำว่ายกเว้นที่สติจะไม่ติดแนบกับตัว

ไม่ใช่ต้องมาคอยกำหนดเรื่อย ๆ

ผมสะเทือนใจมาก
ผมไม่คิดว่าคุณจะเป็นขนาดนี้

หมดอารมณ์จะโต้ตอบธรรมะเลย ผม

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 12:05 pm

แน่นอนครับ คุณ guest คุณต้องหมดอารมณ์ ที่จะโต้แน่นอน เพราะ ว่าคุณ ไร้สาระมาแต่ต้น เอาอคติมาปน จนไม่ลืมหูลืมตา

ขนาดคามิน ยังเถียงไม่ออก ไม่เข้าข้างคุณ ในกรณีที่ คุณยกคำพูดว่า ตั้งสติ มันไม่ถูกต้อง มันต้อง ใช้คำว่า กำหนดรู้ แบบที่ผมใช้
ไม่เห็นมีใครเขาเห็นตามคุณ สักคนในกรณีที่ ใช้คำว่า ตั้งสติ
รวมถึง ทุกคนที่ แย้งมา ก็เด่าสุ่ม

คุณ ไม่เห็นความวุ่นวายในตัวคุณหรือ หาว่า ผมสาบแช่ง หาว่าถ้าผมฆ่าคุณได้คงฆ่าไปแล้ว ด่าผมต่างๆ นาๆ แล้วขนาดนี้ คุณยังไม่มองกลับไปที่ตัวเองอีกหรือ

คุณ ไปตามใครไม่ตาม ไปตามคามึนกับ mes มาพยาบาทผม ผมก็เตือนไปกี่ครั้งว่า มาปรามาสผมมันจะมีกรรม ตัวคุณเองไม่ฟัง เอง พอผมย้ำไป หาว่า ผมโกรธแค้น

นี่คุณสับสนขนาดนี้ คุณยังจะ ก่อกรรมไปอีก ผมก็ยินดีให้คุณ เล่นกับกรรมไปเรื่อยๆ ไงหละ นี่จะบอกอะไรให้นะ ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลย แต่กรรมทำตัวคุณเอง

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 12:11 pm

คุณ ขันธ์

ผมสลดสังเวชกับ "วิบากกรรม"
ของคุณในกาลข้างหน้าน่ะสิ

คุณลดความอาฆาตพยาบาทในใจของคุณเถอะ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 12:21 pm

คุณ guest ผมไม่รู้นะว่า อะไรมันบังตาคุณ

ผมว่า คุณ ไปนอนพัก แล้วก็หยุดเล่นเน็ตสักพักจะดีกว่า

ส่วนผม คุณไม่ต้องมาห่วงวิบากอะไรของผมหรอก เพราะมาถึงจนป่านนี้ ผมโดนคุณ สามคน ด่ามาเท่าไร พลังจิตที่พยาบาทส่งมาถึงผมเท่าไร
ผมก็ตอบปัญหาของผมตามปกติ แต่ใครหละเคลื่อนไหว ด่าผมต่างๆ นาๆ
ว่า ไอ้สถุลบ้าง ด่าว่า ใจผมอำมหิตโหดร้ายบ้าง
ด่าว่า ผมเจ้าเล่ห์ ต่างๆ นาๆ ทั้งๆที่ผมก็ตอบคำถามคุณ ตามปกติ

แก้ต่าง ตามปกติ
ส่วนเรื่อง กำหนดรู้ ผมก็บอกว่า คุณ มาจับผิดผมแม้กระทั่งคำว่า กำหนดรู้ ซึ่งคุณต่างหากที่ใช้คำพูดไม่ถูกต้อง แล้วก็มาด่าว่า ผม มั่ว

คุณ เถียงด้วยเหตุผลอะไรไม่ออก คุณก็หาว่าผมสาบแช่ง
หาว่า ผมโกรธอาฆาตมาตรร้าย ต่างๆ นาๆ
ผมว่า จิตคุณมัน แย่แล้ว ก็ออกมาเตือนว่า นี่กรรมส่งผลให้เห็นทันทีว่า มีทัสนะที่ผิดไปมากแล้ว ถ้าไม่หยุดจะบ้าหนักกว่านี้ ก็ไม่ฟัง หาว่า ผมใจคอมาตรร้าย

ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร ส่วน คามึนด่าผม ว่า สถุล แค่ผมไม่ตอบว่า สิ่งที่เขาถามมา คืออะไร นี่พวกคุณ เป็นอะไรไปหนักหรือเปล่า

นี่ก็กรรมเห็นๆ ผมก็บอกว่า ผมก็ให้ทดสอบอยู่นี่แหละ ถ้าจะเอาธรรมก็ได้ธรรม ถ้าจะเอากรรมก็ได้กรรม เพราะผมวางอุเบกขาได้ เนื่องจากมันเห็นมาจนชิน

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 1:01 pm

พล่ามไปเถอะ

คุณไม่มีค่าอะไร
เลิกเอาขาหน้ามาตะกุยตะกายผมซะ

เอาอีกสิ ตะกุยอีก
ชอบโดนด่า จะด่าให้

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 1:24 pm

สรุป ตั้งคำถามไร้สาระ พอไม่ตอบก็ด่าสถุล
ครั้นแก้ต่างก็หาว่า จะเอาชนะ
ครั้นหยุดก็กล่าวว่า หมดทาง
ครั้น บอกว่า จะมีภัย ก็กล่าวว่า แช่ง
ครั้น ด่าว่าโง่ ก็กล่าวว่าผมว่า เอาแต่ด่า
ครั้น พอพูดจนเถียงไม่ออก บอกว่า พล่ามไปเถอะ
ครั้น เมื่อรุมด่าผม บอกว่า สมควรแล้ว เพราะผมควรโดนตำหนิ
ครั้น เมื่อคนเข้าข้างผม บอกว่า จะย้ายไปอยู่บ้านเลขที่ไหน
ครั้น เมื่อบอกให้ผมพูดดีๆ ครั้นพอผมพูดให้เหตุผล กลับด่าว่า จิ้งจอกเจ้าเล่ห์
ครั้นพอผม บอกว่า มีเหตุผลตรงกับผม บอกว่า อย่าเอาขามาตะกุย

มีหลักมีเกณฑ์อะไรบ้างในชีวิต

น่าสังเวชนะ จริงๆ แล้ว คนที่นิสัยแย่ที่สุด คือ ทั้งสามคนนี่ ที่เป็นคนใช้ไม่ได้เลย จิตใจแคบเท่ามด พอไม่พอใจใครตามอาฆาต ตามล้าง

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 1:26 pm

คุณขันธ์

ผมพอจับความเข้าใจจากคำพูดคุณได้อย่างนี้

คุณคิดว่าตัวเองเป็นอริยะบุคคลที่พระศาสดาทั้งหลายต่างทำนายมาเกิด

อริยะบุคคลท่านนั้นมีพรวิเศษคือว่า

ผู้ใดอวยพรท่านผู้นั้นจะได้รับพร

ผู้ใดสาปแช่งท่าน ผู้นั้นจะได้รับการสาปแช่ง

เมือคุณสำคัญตนเองว่าเป็นท่านอริยบุคคลจะด้วยสิ่งใดๆที่เข้ามาในจิตคุณก็แล้วแต่

ส่งผลให้คุณเกิดอหังการย่ามใจด่าคนไม่เลือก

คิดว่าตนเป็นคนเดียวที่บรรลุธรรมวิเศษเหนือผู้อื่นในขนาดนี้

ผู้ที่มีอาการเดียวกันนี้มีอยู่หลายคนหาได้ไม่ยาก

แต่กรณีคุณมันแฝงอยู่ลึก

ดูยากกว่าอีกหลายคน

คุณก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเองคือพระศรีอริยเมตไตรย์ใช่ไหม

ถามตรงๆอย่างนี้แหละ

ผมจะบอกให้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ ในจิตคุณ

มันเป็นอาการของจิตหลอน

ผมพบ เจอมามากแล้ว

ประกอบกับนิสัยอวดเก่งชอบข่มคนของคุณ

เลยทำให้เตลิดกันไปใหญ่

คนเราเห็นหน้าไม่รู้ใจ

ยิ่งไม่เห็นหน้ายิ่งไม่รู้ว่าใครเป็นใคร

คนเก่งคนกล้าเขาไม่โอ้อวดหรอก

ยิ่งก้าวร้าวอย่างคุณเป็นเรื่องของไพร่

ไม่ใช่อริยะบุคคล

ไม่มีใครรับไพร่เป็นอาจารย์แน่นอน

และคนที่นอบน้อมถ่อมตนในเวปนี้อาจมีหลายคนเป็นอริยะบุคคลก็เป็นไปได้

ผมขอพูดไว้ตรงนี้เลยครับว่า

โสดาบันไม่ใช่เรื่องไกลตัว

เป็นคนอย่างเราๆท่านๆ

โดยส่วนตัวผมเชื่อว่ามีหลายท่านในเวปนี้

เป็นโครตภูก็มี

บางท่านก็อาจเป็นโสดาบัน

ส่วนผม

ยังโง่อยู่

แต่คุณขันธ์ไม่ต้องซ้ำเติม

เพราะอย่าน้อยผมไม่ไพร่

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 1:59 pm

ตลกไหม นี่ผมชี้แจงเหตุผลไหม

แล้วมาด่า ว่าไพร่บ้าง สถุลบ้าง
เลยหนักไปถึงว่า นายขันธ์ คิดว่าตัวเองเป็นพระศรีอริยเมไตร นี่ผมไม่เคยพูดสักคำ

อ้างอิงจาก:

ไม่อยากโดนไล่ออกจากเว็บ
เลิกสะเหร่อกับผมซะ
ไม่งั้นผมจะเอาคุณออกจากเว็บพร้อมๆกัน

ลองดูสิว่า ผมจะแรงกว่านี้ได้ไหม

นี่ ไม่ทราบว่า จะเอาผมออกเรื่องอะไร
ผมก็บอกให้ยกมา ไม่เห็นมีใครยกมาได้สักเรื่อง
พอ เอาชนะด้วยเหตุผลไม่ได้ ออกอาการ เป็นอันธพาลทันที

ตัวเอง มาถามผม มาโต้แย้งกับผม ผมก็พูดเหตุผลให้ฟัง ครั้นเถียงไม่ออก ก็ด่า นี่มันอะไรกัน 555

นี่หรือ ชาวพุทธ 555

นี่ คุณช่วยไปทบทวนหน่อยซิ แล้ว เอาข้อกล่าวหา ที่ว่าผมเลวอย่างนั้นเลวอย่างนี้ระบุมาเป็นข้อๆ หน่อย ว่า ผมเลวอย่างไร ทำไมมันถึงเกลียดชังได้ขนาดนี้

กลายไปเป็นว่า ผมอวดตัว ผมจะเป็นพระศรีอารย์ ผมเป็นโรคประสาท

นี่ผมตอบปัญหาของผมเฉยๆ เลย ทำไมกลายไปเป็นอะไรขนาดนั้นได้อย่างไร

ที่ว่าอวดตัว ผมก็พูดอะไรตามธรรมแทบทุกอย่าง อะไรมันบิดเบือนไปได้ขนาดนั้นหนอ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 2:25 pm

พออะไร คุณต้องบอกตัวคุณเอง คุณมาด่าผมปาวๆ แล้วบอกว่า คุณขันธ์ พอหรือยัง 555 ตลก
นี่ คุณพอ คุณก็หยุดไปสิ แล้วมาด่าผม แล้วให้ผมยอม ผมก็ยอม แล้วผมไม่มีสิทธิชี้แจงหรือ ก็เล่นด่ามาตลอด แล้วมาบอกให้ผมพอ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 2:36 pm

คุณ ขันธ์

ผมผิดเองล่ะ
ทีแรกก็อยากเล่นสนุกเฉย
เลยท้าคุณประลอง
ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้

ผมขอร้องขอคุณอย่าโต้ตอบ
อะไรรุนแรงกันเลย
เอาแค่เสนอความคิดเห็นก็พอ

ตอนโต้ตอบกับคุณ
ผมก็ตอบมั่ว ๆ ไปเรื่อย ล่ะ
ถูกบ้างผิดบ้างตามเรื่อง

เซตที่ 2 นี่ผมยอมแพ้

ตกลงเสมอกันแล้วกันครับ
1 : 1

หยุดโต้ตอบด้วยถ้อยคำรุนแรงเถอะครับ
ผมว่ามันรุนแรงเกินไปแล้ว

ผมขอประกาศว่า
ผมกับคุณขันธ์

"เสมอ" กันครับ

ตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2008, 2:57 pm

กระทู้ปิดแล้วครับ