Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 กระแทรกอารมณ์ คือสีลพรตปรามาส อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 12:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ได้ต้องการพาดพิงใคร

แต่ต้องการแสดงธรรม

คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าคือ

ละการทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้แจ่มใส

นี่คือหลักปฏิบัติในพระพุทธศาสนา

ผิดกับบางลัทธิที่เน้นเรื่องทุกรกิริยา ในแนวอัตตกิรถานุโยค

ที่ต้องการทรมานตนเองให้เกิดทุกข์เพื่อหวังว่าเมื่อเกิดความทุกข์แล้วจะเห็นสัจจธรรม

ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงทดลองแล้วว่าผิด

ที่ถูกคือ

วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกคตา

การกระแทรกอารมณ์มีแต่จะทำให้อรมณ์ขุ่นมัว

เหมือนน้ำโคลน

หรือน้ำที่มีจอกแหน่อยู่เต็ม

แล้วใหนจะมองเห็นก้นบึ้งได้

เมือไม่มีเอกัคคตา ปัญญาย่อมไม่เกิด

เพราะไม่มีสมาธิ

ตามสุภาษิตที่ว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า แล้วจะเอาอะไรไปพิจารณาธรรม

พระพุทธเจ้าจึงให้ตั้งสติด้วย สติปัฏฐาน4 ตัดสังโยชงหลายก่อนจึงจะพิจารณาธรรมได้

จากกระแทรกอารมณ์เอาไว้ทดสอบผู้ที่บรรลุแล้วก็คงได้ไม่มีปัญหา

แต่ถ้าจะวิ่งไล่กระแทรกกันคงไม่ดี

เป็นการขัดขวางการปฏิบัติเสียมากกว่า



อารมณ์ที่ขุ่นมัวพิจารณาธรรมไม่ได้ ไม่เกิดปัญญาหรอกครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เมธี
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 02 มี.ค. 2008
ตอบ: 222

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 1:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ mes กล่าวไว้ดีแล้ว สาธุ

ขอเสริมนะครับ

เหตุเกิดที่ใด ต้องดับที่นั่น

อารมณ์ขุ่นมัวเกิดที่ใจ ต้องดับที่ใจตนเท่านั้น

ดับข้างนอกไม่ได้

รู้ให้เท่าทันจิตตนเอง แล้วดับเสีย

สำคัญที่สุดคือต้องดับที่ใจตนเอง ส่วนเหตุภายนอก ดับได้ก็ดับ ดับไม่ได้ก็ไม่ต้องดับ

เพราะเมื่อดับที่ใจตนแล้ว ภายนอกก็เป็นสิ่งไม่ส่งผลต่อใจตนแล้ว

สาธุครับ
สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 2:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 2:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมอ่านประวัติพระสุปฏิปันโนหลายรูปที่ท่านสอนศิษย์
แล้วใช้วิธีแรงๆ กระแทกๆ นั้น
ท่านใช้อย่างมีปัญญา
ผมสังเกตุมาดังนี้

1. ท่านรู้จักศิษย์อย่างถ่องแท้ ว่าเขามีจริตอย่างไร เขามีปัญญาอย่างไร
ท่านจึงสอนธรรมให้เหมาะกับผู้รับ
ท่านรู้เสียด้วยซ้ำว่าศิษย์ คิดอะไร อ่านใจศิษย์ได้

2. การกระแทกกิเลส ท่านใช้กับการแก้ไขกิเลสละเอียด ชนิดที่แน่นแฟ้นมาก ไม่ฟูเฟื่องขึ้นมาง่ายๆ

เช่นผู้ปฏิบัติธรรมชั้นสุงที่ไม่ค่อยจะไหวติงง่าย ไม่มีโลภะ โทสะ โมหะ ง่ายๆ
จำต้องทำการกระแทกให้โกรธ

เช่นกรณีหลวงตาพวงคิดว่าคนสำเร็จอรหันต์ จะมาสั่งสอนหลวงปู่ดุลย์
หลวงปุ่ก็หาทางแก้อยู่สองวัน จนหมดทางแล้ว ท่านจึงใช้วิธีกระแทกกิเลส
ด่าให้โกรธ
หรือหลวงพ่อชา ถีบ-อก-พระอาจารย์สุเมโธ

3. ผู้ที่ได้รับการกระแทกกิเลส กับผู้ที่กระแทก
ล้วนแล้วแต่ปาวารณาตน ยอมรับฐานะกันและกัน


ฝ่ายคนสอน ก็ได้ทดสอบลองใจคนที่อยากจะเรียนแล้ว
ทดสอบความอดทน ทดสอบน้ำใจ ทดสอบคุณธรรม
จนอาจารย์ก็แน่ใจว่า คนแบบนี้จะสามารถรับการสั่งสอนในแบบของท่านได้ จะไม่เกิดอาการน้อยใจแล้วไปฆ่าตัวตาย หรือโมโหโทโสจนบ้าคลั่งทำร้ายใคร
แล้วท่านจึงรับเขาเป็นศิษย์ แล้วถึงสอนอย่างจริงจัง

ฝ่ายคนจะเรียน ก็ยอมรับฐานะอาจารย์ เชื่อถือเลื่อมใสอาจารย์ จนปราศจากความคิดระแวงแคลงใจ
ยอมเปิดใจรับการสอน อาจารย์ด่าก็โกรธอยู่ตามปกติธรรมดาของปุถุชน
แต่ไม่เคยมความคิดอาฆาตมาดร้ายอาจารย์ ไม่ลุแก่โทสะจนทำร้ายอาจารย์
เรียกว่า ลูกศิษย์นั้นยอมปาวารณาทั้งสิ้นทั้งปวงให้อาจารย์

คนกระแทกก็ยินดีจะสอน เพราะเห็นว่าสอนได้
คนถูกกระแทก ก็ยอมรับการสอน โดยไม่อาฆาตมาดร้าย

4. การกระแทกกิเลส พระอริยาจารย์เหล่านั้น ใช้น้อยมากๆ
นับครั้งได้
ไม่ได้ใช่กับทุกคน ทุกเวลา ทุกสถานที่
ท่านใช้ใน extreme case ทั้งนั้น

5. หลังจากการกระแทกแล้ว คนเหล่านั้นล้วนเจริญขึ้น งอกงามขึ้น
มีปัญญาเกิด

เหมือนยาขมที่กินแล้วดี กินแล้วหาย

ไม่ใช่ยาพิษที่ยิ่งกินยิ่งเลวลง แย่ลง เสื่อมลง
คนจับป้อนก็เข้าใจว่านั่นเป้นยารักษา แต่คนกินนั้น ตายลงๆ ทุกวัน

=================================

ละแวกบ้านผม มีบ้านคนค้าขายคนนึง
ร้องแหกปากด่าหลานทุกเช้าเย็น เสียงลั่นซอย
เดี๋ยววี๊ด เดี๋ยวโวย เดี๋ยวร้องโหวกเหวก
จนคนแถวนี้เอือมระอามากๆ

ที่เอือมระอามากเพราะหลานเพิ่งหัดตั้งไข่
...เพิ่ง..หัด..ตั้ง...ไข่...
กำลังนั่งรถวงกลมที่สอดขา ที่เขาไว้ให้เด็กหัดเดินน่ะคับ

นานๆ ผมจะเดินผ่านไปที แต่เดินผ่านไปทีไร เห็นเกือบทุกที
ลองคิดดูเถิดว่าวันหนึ่งๆ เขาตะคอกหลานกี่ครั้ง

อย่างนี้ผมไม่เรียกว่ากระแทกกิเลส
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 3:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 5:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก็เห็นมีแต่ สามสี่คนวนเวียนอยู่แต่กับเรื่อง กระแทกกิเลส เตือนกันเองว่า ทำเฉยเถอะ หรือไม่ก็ อย่าไปยุ่งกับหมาบ้าเลย
คุณ mes เตือนคุณ คามิน คุณ คามินเตือนคุณ mes natdanai มาเตือน mes mes ให้กำลังใจ guest สรุป มันบ้ากันอยู่ไหมเนี่ย

มีแต่ร้อน ไฟรนก้น สับสนสงสัย ไม่มีอรรถมีธรรม

พวกชอบเอานิทานเรื่องเก่าๆ มาเล่า ก็น่าเบื่อ เรื่องเหล่านี้ คนเขาอ่านมาไม่รู้กี่ร้อยหนแล้ว

เรื่องหลักธณรม ที่คนพูดทำไม่ได้ 555 เที่ยวหาทางจะเหน็บชาวบ้านเขาอยู่วันยังค่ำ เรื่องเดิม แก้ต่างไม่ได้ก็ตั้งเรื่องใหม่ พอเถียงไม่ออกก็ เตือนกันเอง ปลอบใจกันเอง 555 ด่าเขาแล้วปลอบใจกันเอง

ชีวิตมัน ขาดหลักยึดก็แบบนี้แหละ มันไม่มีหลักเกณฑ์ อ่านธรรมะก็เป็นพวกหนอนแทะตำรา ความฉลาดทางธรรม นี่ไม่มีซึมเข้าไปในใจ มีแต่หมั่นไส้ อย่างนั้นอย่างนี้

กระแทกกิเลส ต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ตัวเองยังไม่รู้จักศีลเลย จะไปวิจารณ์เรื่อง สีลพตรปรามาส อันเป็นธรรมสังโยชน์ของ พระโสดาบัน

สีลพตรปรามาส คือ การเดินไปในทิศทางที่ผิด เพราะเชื่อว่า เป็นอย่างนั้นโดยไม่รู้จักดับที่เหตุ ที่แท้จริง เช่นว่า พอร้อนรน ก็ข่มไว้ แบบนี้ไม่ได้ดับที่เหตุ นี่ล้วนแต่เป็น สีลพตรปรามาส หรือ พอด่าเสร็จแล้วทำลืม แล้วก็ไปนั่งบริกรรมให้หายโกรธ แบบนี้ สีลพตรปรามาสหมด

มันต้องรู้จักที่เหตุ คือ หาไปว่า ชื้ออยู่ตรงไหน ก็อยู่ตรง ผูกโกรธ พยาบาท พอไปอ่านข้อความก็ไม่พอใจ ความไม่พอใจเกิดขึ้นมาเองอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก็เรียกว่า ตามอวิชชา

นี่ยังไม่ได้รู้จักอะไรกันเลย ถ้าพูดระดับธรรมก็ชั้นอนุบาลกัน ยังจะอวดตัวเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาสอนคนอื่น
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 5:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 5:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

natdanai พิมพ์ว่า:
สาธุ สาธุ สาธุ



คุณ natdanai ไม่พูดอะไรบ้างครับ เห็นยกมือ สาธุ แบบนี้ แปลว่าไงครับน่า ยิ้ม เห็นด้วยกับข้อเขียนคุณขันธ์หรือไงครับ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 6:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรัชกาย พิมพ์ว่า:
natdanai พิมพ์ว่า:
สาธุ สาธุ สาธุ



คุณ natdanai ไม่พูดอะไรบ้างครับ เห็นยกมือ สาธุ แบบนี้ แปลว่าไงครับน่า ยิ้ม เห็นด้วยกับข้อเขียนคุณขันธ์หรือไงครับ ยิ้มเห็นฟัน


ฮั่นแน่.....ท่านกรัชกาย

กระผมยกมือ สาธุ แบบนี้เห็นด้วยกับทุกข้อความล่ะครับ แต่มองไม่เห็นข้อเขียนของท่านขันธ์หรอกครับ... ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 6:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
ฯลฯ
แต่มองไม่เห็นข้อเขียนของท่านขันธ์หรอกครับ...



ข้อความของคนอื่น คุณ atdanai มองเห็นหมด ตกใจ แต่มองไม่เห็นข้อความของคุณขันธ์ที่ว่า


ก็เห็นมีแต่ สามสี่คนวนเวียนอยู่แต่กับเรื่อง กระแทกกิเลส เตือนกันเองว่า ทำเฉยเถอะ หรือไม่ก็ อย่าไปยุ่งกับหมาบ้าเลย
คุณ mes เตือนคุณ คามิน คุณ คามินเตือนคุณ mes ื atdanai มาเตือน mes mes ให้กำลังใจ guest สรุป มันบ้ากันอยู่ไหมเนี่ย

มีแต่ร้อน ไฟรนก้น สับสนสงสัย ไม่มีอรรถมีธรรม


นี้ได้อย่างไร เศร้า

พูดเหมือนกับว่า คุณไม่เห็นคุณขันธ์อยู่ในสายตา ยิ้ม
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ขันธ์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 ก.ค. 2008
ตอบ: 520

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 7:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ กรัชกราย ครับ คุณอย่าชง เรื่องสิครับ

คุณนี่ชอบยุให้รำตำให้รั่ว คนเขาไม่สนของผมก็เรื่องของเขา เพราะว่า ตาเขาไม่ถึง

แล้ว คุณก็อย่า ชงเรื่อง บ่อยเกินไป เดี๋ยวมันจะออกนอกหน้าเกินไป
 

_________________
เพราะเอาใจเข้าไปวิพากษ์ จึงมีบาปและบุญ
สรรพสิ่งมันอยู่อย่างนั้นเอง เราเองคือผู้หลงเข้าไปเอาทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 7:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

555555555555555

555555555555555

555555555555555

แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น

อายหน้าแดง อายหน้าแดง อายหน้าแดง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 8:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แปลกใจว่าทำไมมองไม่เห็นเลยลองตำๆกระแทกๆดูว่าจะมีใครรำไหม เพื่อเพิ่มสีสัน ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ratchadapa
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 05 ม.ค. 2008
ตอบ: 84
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพมหานคร

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 9:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สวัสดีทุกท่าน

ลาจากลานธรรมจักรไปแรมเดือน นึกว่าจะมีอะไรเปลี่ยนบ้าง

เลยกลับมาเยี่ยมชม ปรากฏว่ายังวิวาทกันอยู่ ไม่เบื่อกันบ้างหรือคะ

แต่ละท่านก็ดูมีความรู้ มีภูมิธรรมสูงกันทั้งนั้น อธิบายอภิธรรมกันได้

อย่างยืดยาว ละเอียดลออ แต่ไฉนยังเป็นเพียงใบลานเปล่า

เอ๊ หรือว่า ลึกๆ แล้ว พวกคุณๆ นี้รักใคร่กลมเกลียวกัน แต่แสร้งทำเป็น

ทะเลาะกันไปยังงั้นเอง ยิ้มเห็นฟัน แบบพวกชายโสดวัยเกษียณ คุยกันดีๆ

เดี๋ยวจะหาว่าหน่อมแน้ม ต้องมีการสร้างประเด็น สร้างสีสรรค์ คนนั้นชง

คนนี้เตะ (เหมือนตะกร้อ)

เหอ เหอ เหอ อย่าซีเรียสนะคะ มาหยอกเย้าเล่น เผื่อจะหายเครียด
ปรบมือ
 

_________________
พวกเธอจงยินดีในความไม่ประมาท
จงระมัดระวังจิตของตน
จงถอนตนออกจากหล่มกิเลส
เหมือนพญาช้างติดหล่ม
พยายามช่วยตัวเอง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 10:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


เรากำลังศึกษาค้นคว้าทดลองปฏิจจสมุปบาทฝ่ายสมุทัยวารกันอยู่นะครับคุณ ratchadapa
เป็นธรรมดาปฏิจจสมุปบาทฝ่ายสมุทัยวารมีลักษณะอย่างนี้ ต่อเมื่อถึงฝ่ายนิโรธวารก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เป็นธรรมะชั้นสูงนะครับเนี่ย ยิ้ม ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mes
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 09 มิ.ย. 2007
ตอบ: 643
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 20 ก.ย. 2008, 10:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กำลังดูจิดกันอยู่ครับ

อย่าเอ็ดไป

คุณขันธ์กำลังหลับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
คามินธรรม
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2008
ตอบ: 860
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 6:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ ratchadapa งับ
ผมรู้สึกเหมือนถูกด่ายังไงไม่รู้อะ
หน้าออกชาๆ แบบกินชูรสเยอะๆ ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน

ี่ละครตบๆ กันหลังข่าว ตบกันเป็นสิบๆ ตอน
ตบไปตบมา ลงท้ายตบลงเตียงเลยได้เสียกันมีถมไปนะคับคู๊นน

55555555555
 

_________________
ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล ตฺว ฺจ ติฏฺฐ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 10:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรัชกาย พิมพ์ว่า:
พูดเหมือนกับว่า คุณไม่เห็นคุณขันธ์อยู่ในสายตา ยิ้ม


ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ratchadapa
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 05 ม.ค. 2008
ตอบ: 84
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพมหานคร

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.ย. 2008, 8:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใครว่าผู้หญิงเข้าใจยาก ?? ตกใจ

ผู้ชายเดี๋ยวนี้ก็เข้าใจยากเหมือนกัน (ชายแท้ บ่ใจ้ ตะรุด ตุ๊ด ตุ๊ด) ยิ้มเห็นฟัน

ขออภัยคุณคามินที่ทำให้รู้สึกเหมือนกินชูรส ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าคุณๆ

กำลังหาวิธีสร้างผัสสะใหม่ๆกันอยู่ สำหรับใช้ดูจิต พอดีว่าดิฉันยังพัฒนา

ไปไม่ถึงขั้น ที่มีผัสสะแล้วไม่เกิดเวทนา - สังขาร

อ้อ..ตกลงคุณคามินตบคุณขันธ์ลงเตียงไปหรือยัง เห็นคุณ mes

ว่าคุณขันธ์กำลังหลับ ฮิฮิฮิ เจ๋ง
 

_________________
พวกเธอจงยินดีในความไม่ประมาท
จงระมัดระวังจิตของตน
จงถอนตนออกจากหล่มกิเลส
เหมือนพญาช้างติดหล่ม
พยายามช่วยตัวเอง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
บุญชัย
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 29 ก.ค. 2008
ตอบ: 568
ที่อยู่ (จังหวัด): สงขลา

ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.ย. 2008, 3:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครรนอดเนะ
ครับ ผมจะไปกระแทก ลูกศิษยดูว่าเขาไปถึงไหน
เป็นวิถีเยี่ยมๆๆ
 

_________________
ทำดีทุกทุกวัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง